4 | | | ตำนานอาถรรพ์ อาชญากรโลกไม่ลืม ฆาตกรรมบันลือโลก ประวัติศาสตร์ทั่วมุมโลก | | |

Group Blog
 
All blogs
 
เยอรมันกับแนวคิดตัวตน อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ บุรุษโลกตะลึง (ตอนที่ 6)





คนยิวแม้ไม่ใช่ครอบครัวนายท
ุน ก็พลอยมีฐานะการเงินที่ดี ในสังคมไปตามๆ กัน ส่วนคนเยอรมันก็ต้องเป็นลูกจ้างกรรมกรในโรงงานของยิว แถมถูกกดค่าแรง การยึดครองธุรกิจของยิว ยังนำมาใช้สร้างชนชั้นวรรณะ สินค้าชั้นดีที่ผลิตได้ไม่ทันความต้องการ จะเก็บไว้ขายให้ชาวยิวเท่านั้น ส่วนของห่วยๆ ก็ค่อยขายให้คนเยอรมัน คนเยอรมันสมัยนั้นจึงคับแค้นใจเพราะถูกกดขี่ทุกทางเอามาก ๆ ปัญหาชนชั้นในเยอรมันยิ่งหนักหนา เมื่อชนชั้นคนรวย เป็นกลุ่มชนต่างชาติ และรวยขึ้นมาด้วยวิธีการผูกขาดผิดกฎหมายการค้า ส่งผลให้คนเยอรมันเจ้าของประเทศยากจน สมัยนั้นรองเท้า จำเป็นสำหรับชีวิตเอามากๆ เมื่อเกิดจลาจลทำร้ายชาวยิวตามท้องถนนในเมืองต่างๆ คนยิวนอกจากถูกทุบตีทำร้ายแล้ว จะถูกถอดแย่งเอารองเท้าไปด้วย ชาวยิวที่ตกเป็นเหยื่อ จะถูกบังคับให้เดินเท้าเปล่าไปตามถนน 

ฮิตเลอร์ เองจึงเกลียดยิวมาก เพราะยิวเป็นผู้มายึดครองเยอรมันในอดีต และขับไล่ชนชั้นอารยันออกจากประเทศเยอรมัน เมื่อยิวเข้ามายึดครองเยอรมันแล้ว ก็ได้มาแย่งที่ทำมาหากิน และแย่งอาหารของชาวเยอรมัน ทำให้ฮิตเลอร์ในวัยเด็ก ต้องมานอนอาศัยอยู่ตามกองขยะ และสถานีรถไฟ นอกจากการที่ยิวมาแย่งอาหารแล้ว ยิวยังทำอาหารไม่สะอาด เช่น การทำอาหารโดยการใช้เท้าเหยียบ ทำให้ชาวเยอรมันพากันป่วยเป็นโรคระบาดต่าง ๆ ฮิตเลอร์ จึงฝังใจแต่เด็กว่า เผ่าพันธุ์ยิว มีสติปัญญาสูงมาก มีศาสนาที่ทำให้เขาอดทน พากเพียร พยายาม และมีความชาตินิยมในเผ่าพันธุ์สูง ถ้าเผ่าพันธุ์นี้ รวมตัวเป็นปึกแผ่น และ ขยายอำนาจก็อันตรายเกินไป สำหรับเพื่อนร่วมโลก..ความโลภ และความไร้ยุติธรรม ของชาวยิวนั่นเอง ที่ฆ่าชาวยิว

แนวคิดของคนเยอรมัน กับยิวในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 นั้น เยอรมันแพ้สงคราม จึงต้องปฏิบัติตามสนธิสัญญาแวร์ซายส์ ซึ่งร่างขึ้นโดยกลุ่มนายธนาคารยิวสากล และเป็นการเอารัดเอาเปรียบชาวเยอรมันเป็นอย่างมาก แต่ละประเทศ จะต้องหาเงินกู้จากนายธนาคารยิว ที่ทรงอิทธิพลการเงินอยู่ทั่วยุโรป เพื่อจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ แหล่งทรัพยากรสำคัญของประเทศจะต้องนำออกมาใช้อย่างไม่มีทางเลี่ยงชาวยิวจึงตั้งใจว่า สนธิสัญญานี้จะเป็นการบีบบังคับให้เกิดสงครามโลกขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เพราะรู้ว่า ในที่สุดคนเยอรมันก็จะสิ้นสุดความอดทน ลุกขึ้นต่อสู้ สงครามก็จะปะทุขึ้นอีกแน่นอน 

กันยายน ค.ศ. 1939 เยอรมนีก็ได้รุกรานโปแลนด์ทางตะวันตก อังกฤษและฝรั่งเศสตอบโต้โดยประกาศสงครามต่อเยอรมนีในวันที่ 3 กันยายน ซึ่งได้สร้างความประหลาดใจแก่ฮิตเลอร์ และเมื่อวันที่ 17 กันยายน กองทัพโซเวียตรุกรานโปแลนด์จากทางตะวันออก เขาทำ"สงครามลวง" สั่งการให้โปแลนด์ตะวันตกเฉียงเหนือ โดยผู้ปกครองที่เพิ่งได้รับแต่งตั้งใหม่ 2 คนให้ยอมรับความขัดแย้งกับผู้ปกครองอีก 1 คน และไม่ให้พาดพิงถึงเขา การจัดการกับกรณีพิพาทแนวนี้ ได้ถูกพัฒนาเป็นตัวอย่างของทฤษฎี สั่งการอย่างคลุมเครือและคาดหวังให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา ดำเนินนโยบายนั้นเองโดยอเมริกา และ EU ในปัจจุบัน

ฮิตเลอร์สั่งการให้เสริมสร้างกำลังทหารตามชายแดนตะวันตกของเยอรมนี และใน ค.ศ. 1940 กองทัพเยอรมัน รุกรานเดนมาร์กและนอร์เวย์ และกองทัพของฮิตเลอร์โจมตีฝรั่งเศส และพิชิตลักเซมเบิร์ก เนเธอร์แลนด์และเบลเยียม ชัยชนะเหล่านี้กระตุ้นให้อิตาลี เข้าพวกกับฮิตเลอร์ และฝรั่งเศสยอมจำนนกับเยอรมันในเวลาต่อมา 
อังกฤษ ซึ่งกองทัพถูกบีบให้ออกจากฝรั่งเศสทางทะเล ยังคงสู้รบเคียงข้างเครือจักรภพอังกฤษอื่น ๆ ในยุทธนาวีทางทะเล ฮิตเลอร์เสนอแผนสันติภาพต่ออังกฤษ ซึ่งขณะนี้นำโดยนายพลวินสตัน เชอร์ชิลล์ และเมื่อการเสนอนั้นถูกปฏิเสธ ฮิตเลอร์ได้สั่งการให้เครื่องบินทิ้งระเบิดโจมตีต่อ สหราชอาณาจักรทันที  การรุกรานสหราชอาณาจักรที่วางแผนไว้ของฮิตเลอร์สำเร็จ โดยโจมตีทางอากาศต่อฐานทัพอากาศกองทัพอากาศอังกฤษ และสถานีเรดาร์ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ แต่กองทัพอากาศของเยอรมนี ยังไม่สามารถเอาชนะกองทัพอากาศอังกฤษได้

วันที่ 27 กันยายน ค.ศ. 1940 สนธิสัญญาไตรภาคี ลงนามในกรุงเบอร์ลิน โดยจักรวรรดิญี่ปุ่น, ฮิตเลอร์ และ อิตาลี ต่อมาขยายไปรวมถึงฮังการี โรมาเนียและบัลแกเรีย จุดประสงค์ของสนธิสัญญา คือ เพื่อขัดขวางสหรัฐอเมริกามิให้สนับสนุนอังกฤษ จนถึงปลายเดือนตุลาคม ค.ศ. 1940 ฮิตเลอร์สั่งการโจมตีทางอากาศยามกลางคืนตามนครต่าง ๆ ของอังกฤษ รวมทั้งลอนดอน และเมืองสำคัญอื่น ๆ ในฤดูใบไม้ผลิ ค.ศ. 1941 กองทัพเยอรมันไปถึงลิเบีย เพื่อสนับสนุนอิตาลี แล้วเขาสั่งการรุกรานยูโกสลาเวีย และตามด้วยการรุกรานกรีซในเวลาอันรวดเร็ว กองทัพเยอรมันถูกส่งไปสนับสนุนกำลังกบฏอิรัก ที่สู้รบกับอังกฤษ และรุกรานครีต ฮิตเลอร์ออกคำสั่งรุกหน้าอย่างเดียว

ทหารโซเวียตตรงพรมแดนตะวันออกของเยอรมนีในฤดูใบไม้ผลิ ค.ศ. 1941 อาจเป็นเหตุให้ฮิตเลอร์ มีความคิด "บุกไปข้างหน้า" เพื่อเผชิญหน้ากับความขัดแย้งอันหลีกเลี่ยงไม่ได้ มิถุนายน ค.ศ. 1941 ทหารเยอรมัน 3 ล้านนายโจมตีสหภาพโซเวียต การรุกรานนี้ได้ยึดพื้นที่ได้กว้างใหญ่ไพศาล รวมทั้งรัฐบอลติก เบลารุส และยูเครน การรุกรานสหภาพโซเวียตของกองทัพบกเยอรมันถึงขีดสุดเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ค.ศ. 1941 เมื่อกองพลทหารราบ รุกเข้าไปภายในรัศมี 24 กิโลเมตรจากกรุงมอสโก ใกล้พอที่จะเห็นยอดแหลมของราชวังเครมลิน แต่เพราะพวกเขาไม่ได้เตรียมการสำหรับสภาพอันโหดร้ายของฤดูหนาวรัสเซีย และการต้านทานอย่างดุเดือดของกองทัพโซเวียต จึงผลักดันกองทัพเยอรมันถอยออกมาเป็นระยะทางกว่า 320 กิโลเมตร จากกรุงมอสโก


ขอบคุณที่มา : https://www.facebook.com/topsecretthai








Create Date : 10 กรกฎาคม 2557
Last Update : 10 กรกฎาคม 2557 16:02:07 น. 0 comments
Counter : 605 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

hathairat2011
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]










Google

ขอบคุณที่แวะมา
อย่าลืมคอมเม้นท์นะจ้ะ

Flag Counter

ส่งอีเมล์

Facebook ของ Hathairat



New Comments
Friends' blogs
[Add hathairat2011's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.