ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บบอร์ด Thailand Aquatic Pets เว็บบล็อคสำหรับ คนรักสัตว์น้ำ ( และ สัตว์ที่อยู่ในน้ำ ) ประเทศไทยจ้า

นิยาย: เกิดใหม่ทั้งที ทำไมตรูกลายเป็นปลาแซลมอล ? : ตอนที่ 2 : แขกผู้มาเยือนจากอีกฟากฝั่งของพิภพยมโลก




    ชายหนุ่มและหญิงสาวอีก 2 คนต่างก็เดินมาถึงสถานที่  ‘ ดงต้นงิ้ว ‘ เรียบร้อยแล้ว และหลังจากได้สวัสดีทักทายกันตามธรรมเนียมที่ดีกับเหล่าอสูรผู้คุมเรียบร้อยแล้ว ทั้งหมดก็เตรียมตัวเพื่อจะปีนต้นงิ้วหนามเหล็กที่จะว่าไปแล้วหนามเหล็กก็สึกกร่อนลงไปมากๆแล้ว แถมกว่าจะปีนได้วันหนึ่งๆนี่ยังต้องรอคิวกันนานมากๆ เพราะว่าวันหนึ่งๆมีเหล่า ‘ คนบาป ‘ มาปีนกันไม่รู้กี่ล้านคน นี่ขนาดมี ‘ ดงต้นงิ้ว ‘ อยู่ไม่น้อยนะ ก็ยังไม่พอต่อความต้องการเท่าไหร่หรอก แล้วตามสเต็ปแล้วพอเหล่า คนบาป ปีนต้นงิ้วไปซักพัก ก็จะมีพวกอีกาปากเหล็กบินมาจิกตีตามคอนเซ็ตป์ แต่ทุกวันนี้ เหล่าอีกาปากเหล็กหลายตัวก็ออกแนวขี้เกียจ ทีนี้ก็จะบินมาจิกมั่ง ไม่จิกมั่ง จนบางทีเหล่าผู้คนต้องเป่านกหวีดเรียกจนคอเจ็บ เพราะอีกาบางตัวบางตัวก็จิกจนปากสึกปากทู่ไปหมดแล้ว พวกมันก็เหนื่อยก็ท้อกับจำนวนคนเป็นเหมือนกัน  และผู้คุมส่วนใหญ่ก็จิ้มหอกไปเรื่อยเปื่อยเปาะๆแปะๆ ก็นะคนมันเยอะ คิดสภาพคนต้องไปยืนจิ้มหอกยกแทงๆ แค่ชั่วโมงเดียว ก็แขนเป็นเหน็บมือสั่นกันแล้ว แทงมาก เหนื่อยมาก เบี้ยหัวกระโหลกก็ได้เท่าเดิมอยู่ดี ทุกคนก็เลยทำการลงโทษไปพอเป็นพิธีเท่านั้นแหล่ะ ซึ่งที่เป็นแบบนี้เพราะประชากรในโลกมันก็เพิ่มขึ้นทุกวัน เมื่อหลายพันปีก่อนคนมันยังไม่เยอะ เดี๋ยวนี้แค่คนผิดศีลข้อ 3 แค่ประเทศใหญ่ๆ อย่างจีนหรืออีกหลายๆประเทศในย่านที่ยมโลกฝั่งเอเซียต้องรับผิดชอบ ประชากรที่ต้องมาลงนรกขุมนี้ก็แน่นจนไม่รู้จะแน่นยังไงแล้ว แต่พื้นที่ของนรกภูมิฝั่งเอเซียนี่ก็มีที่เท่าๆเดิมแบบสมัยก่อนนี่แหล่ะ เพราะจะขยายขึ้นไปบนพื้นพิภพโลกก็ไม่ได้ ส่วนบริเวณใต้ต้นงิ้วนั้นก็ผู้คนก็แน่นกันมากจนพอปล่อยมือตกลงมา ถ้าเป็นสมัยก่อนก็คือตกมากระแทกพื้นแหลกเหลว แต่เดี๋ยวนี้พอปล่อยมือตกลงมา ก็มีคนมารับๆไว้เพียบเลย ซึ่งพวกอสูรผู้คุมก็ไม่ได้ว่าอะไร กลับรีบเร่งให้ไปต่อคิวทำรอบใหม่เสียด้วยซ้ำ บางทีก็ยังมีบอกให้ปีนๆไป แค่ 2 – 3 เมตร ก็ปล่อยตัวลงมาได้แล้ว เพราะเหล่า ‘ คนบาป ‘ ยังรอคิวให้ปีนอีกเยอะเลยทีเดียว ดังนั้นต้องเร่งทำรอบหน่อย เดี๋ยวเป้าการลงโทษไม่ได้ตามที่ควรจะเป็น เสีย KPI แล้วโบนัสจะไม่ได้อีก ดังนั้นต้องรีบทำรอบให้เยอะๆ เพื่อให้ได้คนบาปไปเข้ารอบการลงโทษให้มากๆ ตามมาตรฐาน จะมารอให้ปีนไปสูงๆ แบบสมัยก่อนที่คนมาลงนรกกันน้อยๆ หรอก คงไม่ทันกินหรอก เวลานับมาตรฐานการทำงานเขานับว่า งานคือ ‘ คนบาป ‘ ขึ้นไปบนต้นงิ้วเท่าไหร่ ไม่ได้วัดว่าใครจะตกมาท่าสวยยังไง เจ็บปวดทรมานแค่ไหนซักหน่อย ไอ้พวกนั้นไม่มีใครมานั่งวัดเอาเป็นผลงาน เพราะมันประเมินค่าเป็นตัวเลขไม่ได้ แล้วที่สำคัญจะว่าไปแล้ว ก็ไม่รู้ว่านรกจะลงโทษไปทำไมก็ไม่รู้ เพราะตอน ‘ คนบาป ‘ จะไปเกิดก็ให้กิน ‘ น้ำลืมอดีตชาติ ‘ อีกต่างหาก สุดท้ายแล้วก็ลืมทุกอย่างกันเกือบทุกคน จะมีแค่คนที่พอจะ ‘ ระลึกชาติ ‘ ได้ก็ไม่กี่คน ที่พอจะจำได้ในว่าเคยตกนรกขุมไหนบ้าง ซึ่งก็นานๆทีจะมีซักคน ซึ่งจริงๆแล้วน้ำนี่น่าจะไม่ต้องกิน เผื่อพวกคนทำชั่วในโลกทั้งหลายจะได้นึกขึ้นได้ว่าเคยตกนรกมาก่อน จะได้ไม่ทำชั่วอีก ซึ่งเรื่องนี้ชายหนุ่มก็ยังคิดสงสัยเหมือนกัน แต่เขาก็ทำแบบนี้ตามๆกันมาเป็นพันๆปีแล้วนี่นะ ก็ไม่รู้จะทำยังไง ตัวเองก็ตกลงมาในนรกไปแล้ว เขาให้ทำอะไรก็ทำแหล่ะ อย่าไปฝืน ทำให้มันจบๆ จะได้รอไปเกิดใหม่อีกที

    ชายหนุ่มเดินไปต้นงิ้วที่สภาพแสนจะสมบุกสมบัน ก่อนจะก้าวขาไปที่หนามแท่งแรก แต่เขาก็เห็นว่าตัวของหนามนั้นก็แสนจะห่อเหี่ยวหมดสภาพเต็มที่แล้ว ก็อย่างว่าแหล่ะ ไม่รู้ว่าวันนี้กว่าจะมาถึงรอบที่เขาได้เหยียบนี่ ก็โดนเหยียบไปกี่เท้าแล้วก็ไม่รู้ โดยที่ชายหนุ่มพอก้าวไปเหยียบหนามต้นงิ้วได้หน่อยหนึ่ง หนามก็หักตามคาด ชายหนุ่มก็เลยลงมาที่พื้นแล้ว บอกให้พวกผู้คุมทราบ แต่ผู้คุมก็โบกให้เขาไปต่อคิวรอบใหม่ได้แล้ว ซึ่งเขาก็ผายมือบอกกับผู้คุมประมาณว่า ‘ เขายังไม่ทันปีนเลย ถึงเป็น ‘ คนบาป ‘ ก็จริง แต่ก็มีสปิริตนะครับ... แต่ผู้คุมก็โบกไม้โบกมือแบบไล่ๆเขาเหยงๆ ให้ไปต่อคิวรอปีนรอบใหม่ไปเลย เพราะทางนั้นนับรอบให้เรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มเมื่อเห็นดังนั้น ก็เลยต้องจำต้องยอมรับสภาพไปตามนั้น แล้วก็เตรียมที่จะเดินกลับไปต่อคิวใหม่ ทันได้นั้นก็ได้ยินเสียงที่เหมือนมีอะไรที่กำลังจะตกลงมา พอเงยหน้าขึ้นไป ก็เห็นร่างๆหนึ่งกำลังหล่นลงมาที่เขา และด้วยความตกใจก็เลยเผลอยื่นมือออกไปรับ แล้วร่างๆหนึ่งก็ตกลงมาในอ้อมกอดของเขาอย่างแรง จนเกือบจะหน้าคะมำไปทั้งคู่ ซึ่งก็ไม่ใช่ใครคนใหนเลย ก็คือสาวเจ้าคนที่เพิ่งมีเรื่องให้โวยวายกับเขาไปก่อนหน้านี้นี่เอง ซึ่งตอนแรกคนทั้งสามคนก็เดินแยกจากกันไปหมดแล้ว ต่างคนก็ไปรับโทษของแต่ละคนกันไป แต่สุดท้ายก็ยังได้กลับมาเจอกันอยู่ดี ชายหนุ่มได้อุ้มหญิงสาวไป พลางมองสบตากับคนที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา ก่อนที่ทั้งสองคนจะมองตากันอยู่แบบนต่างก็นิ่งงันกันไปพักหนึ่ง โดยที่ไม่ได้เอ่ยคำพูดอะไรต่อกัน และในที่สุดจะมีเสียงของใครคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า

    ‘ อย่าได้ใจไปนะยะ...แล้วนี่นายจะอุ้มฉันไปถึงไหน....วาง....วางฉันได้แล้ว !!! พวกผู้ชายนี่ พอใจดีเข้าหน่อย ก็ถือโอกาศถึงเนื้อถึงตัวเลย นี่ฉันไม่ได้ตั้งใจจะหล่นลงมาให้นายช่วยนะยะ...

    ว่าแล้วหญิงสาวก็สะบัดมือปัดใส่หน้าของชายหนุ่มไปเบาๆ ดังเพี๊ยะ!!! พอเป็นการตักเตือน เหมือนกับบอกว่าอย่ามาทำตัวรุ่มร่ามกับฉันนะ แต่จริงๆแล้วก็ไม่ได้ทำรุนแรงอะไร ก่อนที่จะเดินจากไปช้าๆ ได้ไม่กี่ก้าว ก่อนจะหันมาบอกชายหนุ่มว่า

    ‘ อ้าว...ยืนบื้ออยู่ได้....รีบเดินตามมาเร็วๆ ซิ เดี๋ยวกว่าจะครบรอบในวันนี้ ก็ช้าพอดีหรอก โอ้เอ้จริงนายเนี่ย....เป็นผู้ชายก็อย่าชักช้าซิ...รีบๆเดินตามมาไปเข้าคิวใหม่ได้แล้ว !!!

     ชายหนุ่มถึงกับออกลูกมึนๆงงๆ เอ้า ตกลงจะเอายังไงกับเราเนี่ย พอจะอยู่ใกล้ๆกัน ก็ดูเหมือนจะไม่พอใจ แต่พอทำท่าไม่สนใจ ก็ทำท่ามาโวยใส่ แบบนี้จะให้เขาทำยังไงต่อดีล่ะเนี่ย ?

อ่านตอนนี้ต่อ : https://www.readawrite.com/c/cc81c92d0751a5993e69224981e28e48
 


Create Date : 12 พฤศจิกายน 2565
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2565 20:24:22 น. 0 comments
Counter : 258 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

เหมียวกุ่ย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]




ยินดีต้อนรับพี่ๆน้องๆทุกท่านเข้าเยี่ยมชม เว็บบล็อคแห่งนี้ หวังว่าทุกท่านจะมีความสุขในการชมบล็อคของกระผมนะครับ










View My Stats
New Comments
[Add เหมียวกุ่ย's blog to your web]