กรรมวิธีการทำน้ำสกัดชีวภาพและการนำไปใช้
ก่อนอื่นก็มาทำควรรู้จักกับน้ำสกัดชีวภาพกันก่อน ซึ่งก็คือน้ำที่ได้จากการหมักพืชผัก ผลไม้ ประเภทอวบน้ำทั้งหลาย (เช่นผักตบชวา, ต้นกล้วย, ผักกาด, สับปะรด, มะละกอ ฯลฯ) กับน้ำตาล โดยหมักไว้ในสภาพไร้อากาศ จะได้น้ำหมัก ที่ประกอบด้วยจุลินทรีย์ และสารอินทรีย์หลายชนิด ส่วนใหญ่เป็นยีสต์, แบคทีเรียที่สร้างกรดเลกติก และรา แบคทีเรียสังเคราะห์แสงก็เคยพบบ้างในน้ำสกัดชีวภาพนี้
การหมัก ต้องใช้ภาชนะที่มีฝาปิดสนิท เพื่อให้วัสดุหมักอยู่ในสภาพไร้อากาศ อย่างที่บอกตอนแรก เพราะถ้ามีอากาศเข้าไปได้ ก็จะมีจุลินทรีย์ที่ไม่ได้รับเชิญ แอบแฝงเข้ามาในกระบวนการหมักของเรา ก็จะทำให้เกิดหนอน และมีกลิ่นเหม็นได้ แต่ก็ไม่เป็นโทษ
ท่านที่เลี้ยงนก เลี้ยงไก่ หรือเลี้ยงปลา ก็สามารถช้อนหนอน ในน้ำหมักนี้ไปให้นก ให้ไก่ ให้ปลากิน ได้มีวิตามินดีเสียอีก ส่วนน้ำหมักก็นำมาใช้ได้ตามขั้นตอนปกติ แต่จะไม่หอมน่าใช้ เท่ากับน้ำหมักที่ได้จากการหมักในสภาพไร้อากาศจริง ๆ
วิธีการ ก็เริ่มด้วยการ นำ พืชผัก ผลไม้ ประเภทอวบน้ำ ที่หาได้ (ถ้าบ้านอยู่ใกล้ตลาดอาจไปขอเศษผัก หรือเปลือกสับปะรด, หรือเศษผลไม้ที่มีน้ำมากจากแม่ค้า เอามาคัดที่เน่า ๆ ออกทิ้งก่อน) ควรใช้ของสด ๆ จึงจะได้น้ำมาก
นำมาใส่ในถัง (หรือถุงพลาสติกแบบไม่รั่ว)ผสมกับน้ำตาล ในอัตราส่วน น้ำตาล 1 ส่วน ต่อ พืช 3 ส่วน โดยน้ำหนัก คลุกให้เข้ากันดี (ถ้าใช้กากน้ำตาลใหม่ ๆ จะดีมากถ้าหาไม่ได้ ใช้น้ำตาลอะไรก็ได้) เมื่อคลุกจนทั่วแล้ว หาของหนัก ๆ วางทับข้างบนจะได้ไล่อากาศ (วางทับไว้สัก 1 คืน ก็เอาออกได้) เสร็จแล้วต้องปิดภาชนะหมักให้สนิท ถ้าเป็นถุงพลาสติก ต้องแน่ใจว่าจะไม่รั่ว มัดปากถุงให้แน่น เพื่อไม่ให้อากาศเข้าได้ เป็นการสร้างสภาพที่เหมาะสมให้จุลินทรีย์ได้ทำงาน อย่างมีประสิทธิภาพ ควรวางถังหรือภาชนะหมักไว้ในที่ร่ม อย่าให้ถูกแดดถูกฝน หรืออุณหภูมิเปลี่ยนแปลงมากเกินไป ก็เป็นอันเสร็จกรรมวิธีการหมัก
จากนั้นก็ทิ้งไว้ ให้จุลินทรีย์เขาทำงานแบ่งตัวเอง เพิ่มปริมาณขึ้นอย่างมากมาย ผลิตสารอินทรีย์หลากหลายชนิด รวมทั้งเอนไซม์ ฮอร์โมนและไวตามินบางชนิด ด้วย
ประมาณ 10-14 วัน ก็เปิดภาชนะ, ถ่ายน้ำสกัดชีวภาพออกใส่ภาชนะพลาสติกไว้ น้ำหมักที่ได้ใหม่ ๆ จะยังเกิด ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ เนื่องจากกระบวนการหมักยังไม่สมบูรณ์ต้องคอยขยับเปิดฝาภาชนะบรรจุ ทุกวัน จนกว่าจะหมดก๊าซ (ถ้าใส่ขวดพลาสติกไว้ ก็คอยคลายเกลียวฝาขวดจนได้ยินเสียงลมออกมาจึงหมุนเกลียวปิดตามเดิม ทำทุกวัน จนไม่มีเสียงลม) จากนี้ก็นำไปใช้ได้เลย
น้ำหมักที่มีคุณภาพดี จะมีกลิ่นและรสเปรี้ยวเหมือนน้ำผักดอง มีกลิ่นแอลกอฮอล์บ้าง ถ้าใช้ผลไม้ที่สะอาด และใช้น้ำตาลทรายแดงหรือน้ำตาลทรายขาว เมื่อหมักได้ที่แล้ว นำมากรอง ดื่มอร่อยเหมือนไวน์ และมีประโยชน์ มากด้วยเพราะประกอบด้วยจุลินทรีย์, เอนไซม์, ฮอร์โมนและวิตามินหลายชนิด ซึ่งล้วนมีประโยชน์ต่อร่างกายมาก ดีกว่าไปซื้อเหล้านอก, ไวน์นอกราคาแพง มากินให้เสียดุลย์การค้า
ประโยชน์ของน้ำสกัดชีวภาพหรือ EM 1. ล้างฉี่หมา อึหมาหายเหม็นดีมาก โดยเอาน้ำสกัดชีวภาพผสมน้ำสัก 1:50 ถึง1:100 (ใช้น้ำสกัดชีวภาพมากน้อย ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของกลิ่น) ล้างพื้นด้วยน้ำธรรมดาสะอาดแล้ว ก็เทน้ำสกัดชีวภาพที่ผสมไว้ ราดลงไปให้ทั่วบริเวณ ทิ้งไว้สักพักกลิ่นก็จะหายไป 2. ราดห้องน้ำเเล้วขัดแทนน้ำยาล้างห้องน้ำ 3. เทลงท่อน้ำที่เหม็น ท่อน้ำสาธาราณะ 4. อาบน้ำหมา เเมว ผสมน้ำรดน้ำต้นไม้ 5. อาบน้ำหมา นำ EM 1 เเก้วผสมน้ำ 1ถังเพื่อให้เจือจางลง ราดตัวหมาทิ้งไว้ รอจนตัวแห้ง ตรงไหนมีสะเก็ดแผล, ขี้เรื้อนก็เน้นตรงนั้นให้มากหน่อย ราดให้ถูกผิวหนังให้ทั่วแล้วล้างออก ด้วยน้ำสะอาด 6. สำหรับหมาที่เป็นโรคผิวหนัง เป็นแผลสะเก็ดหนองทั่วตัว ขนร่วง ใช้ EM อาบน้ำให้บ่อย ๆ ก็ได้ผลดีทีเดียวค่ะ 7. คนก็อาบได้นะคะ แผลเล็กแผลน้อย, ผื่นคันต่าง ๆ แห้งสนิทได้เองอย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องทายา 8. ถ้าใช้น้ำสกัดชีวภาพแบบเข้มข้น ไม่ต้องผสมอะไรเลย เอามาราดเป็นแนวรอบตัวบ้านปรากฏว่า แมลงคลานต่าง ๆ โดยเฉพาะที่น่ารำคาญที่สุดสำหรับคน คือมด กับ แมลงสาปนั้น ไม่มากล้ำกรายอีกเลย 9. ใช้สำหรับแช่เมล็ดพืชก่อนนำไปหว่านเพาะ ช่วยเร่งการงอก 10. ใช้ฉีดพ่นดอกป้องกันการร่วงก่อนตัดผลและฉีดพ่นผลที่สุกได้ที่แล้วเพื่อป้องกันการร่วงเร็ว 11. ใช้ใส่ในบ่อปลา และปรับสภาพน้ำในบ่อพักน้ำต่าง ๆ เพื่อให้น้ำมีสภาพสมดุลย์ จนสามารถนำกลับไปใช้ได้อีก
หมายเหตุ 1. สามารถใช้น้ำตาลทรายแดงแทนกากน้ำตาลได้ 2. เนื่องจาก EM มีสภาพเป็นจุลินทรีย์ ซึ่งจะทำงานโดยการย่อยสลายอินทรีย์สาร และสารพิษต่าง ๆ ให้เกิดสารอินทรีย์ และเอนไซม์ที่มีประโยชน์ ดังนั้น ไม่ควรใช้ร่วมกับสารเคมีที่มีฤทธิ์ ในการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ เช่น ผงซักฟอก หรือน้ำยาล้างพื้น ล้างห้องน้ำที่มีกรดเข้มข้น ซึ่งจะทำลายจุลินทรีย์ธรรมชาติ ในน้ำสกัดชีวภาพ ทำให้ใช้ไม่ได้ผล
**เอกสารอ้างอิง : คู่มือโครงการห้องเรียนเกษตรกรรมธรรมชาติ จัดทำโดย สหกรณ์เลมอนฟาร์มพัฒนา จำกัด ร่วมกับ ชมรมเกษตรธรรมชาติ แห่งประเทศไทย ** //home-of-gsdlovers.pantown.com/
Create Date : 02 เมษายน 2550 | | |
Last Update : 2 เมษายน 2550 10:24:14 น. |
Counter : 2177 Pageviews. |
| |
|
|
|