BlogGang.com : : หนังสือของกระเต็น

The Kite Runner:Review

Free TextEditor

จะเชยเกินไปไหม ท่ีกระเต็นเพิ่งมาเขียนถึงเรื่อง The Kite Runner ทั้งๆที่หนังสือเองก็ถูกพิมพ์ทั้งแต่ปี 2003 และได้รับรางวัลและคำวิจารณ์มากมาย แถมยังถูกนำไปทำเป็นหนังออกฉายทั่วโลกไปแล้วเสียอีก แต่เนื่องด้วยหนังสือเล่มนี้มันจุดประกายความคิดให้ฉลาดขึ้นอีกหลายขุม ก็ขอพูดถึงหน่อยแล้วกัน

จนถึงเวลานี้The Kite Runner ทำยอดขายได้กว่าสิบล้านเล่ม และเป็นนิยายขายดีประจะปี 2005 ในสหรัฐอเมริกา ในปี2006 ก็ได้รับคัดเลือกให้เป็นหนังสือที่ดีที่สุดสำหรับกลุ่มนักอ่าน ส่งผลให้หนังสือเล็กๆเล่มนี้มีคนรักและหวงมากมาย หนังสืออะไรก็ตามที่ได้รับรางวัลนี้แสดงว่าเป็นหนังสือที่มีประเด็นให้ผู้อ่านวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างออกรส มีประเด็นที่ทำให้คนอ่านได้เปิดใจ และที่สำคัญก็ต้องสามารถทำให้ผู้อ่านที่จิตอ่่อนต่อมนำ้ตาแตกพล่านได้

ตัวของผู้เขียน คุณหมอ Khaled Hosseini กลายเป็นคนดังชั่วข้้ามปี และก็เลิกอาชีพหมอที่ต้องงานหนักประจำอยู่ในโรงพยาบาล มาทำอาชีพนักเขียนที่ใจรัก แต่ก็ช่วยเยียวยาจิตใจและสังคมมนุษย์ได้อีกวิธีหนึ่งเช่นกัน

พูดเกริ่นมาก็แล้วมาทำความรู้จักกับเนื้อเรื่องสักหน่อยก็แล้วกัน ตัวplotเรื่องไม่ได้เป็นสิ่งที่แปลกไหม่ ประเด็นหลักคือการต่อสู้กับจิตใจของตนเอง แต่สิ่งที่ทำให้ผู้อ่านนิยายส่วนใหญ่เกิดความอยากรู้อยากเห็น ก็เพราะ ตัว scene ที่สำคัญตั้งอยู่ในเมืองคาบุล ประเทศอัฟกานิสถาน สถานที่อันเป็นที่ลึกลับ ต้องห้ามสำหรับชาวอเมริกันทั่วๆไป ลองดูสิว่าคุณคาเลด จะทำให้สัมฝัสกับหัวใจของดินแดนแห่งประวัติศาสตร์และความขัดแย้งนี้อย่างไร

นิยายเรื่องนี้ถูกถ่ายทอดจากมุมมองของตัวละครหลัก มีนามว่าอาเมียร์ ตัวเรื่องจะอยู่ในกรอบเวลานั้นแต่ปี 1975 -2001 ซึ่งปี1975 ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการสิ้นสุดความศิวิไล แห่งนครคาบุล มาเป็นซากเมืองที่กลุ่มตาลีบันยึดครอง2 ทศวรรษ ซึ่งเป็นภาพของอัฟกานิสถานที่เราๆท่านๆ คุ้นเคยกันดี

เริ่มต้นของเรื่องนี้อาเมียร์มีอายุ สิบสองขวบและยังอยู่ในคาบุลอันเป็นเมืองหลวงที่ทันสมัยไม่แพ้เมืองอื่นๆในภูมิภาค ครอบครัวของอาเมียร์ก็มีอันจะกินอย่างดี มีคนนับน่าถือตามากมาย เราได้ติดตามวิถีชีวิตในคาบุลจนเห็นภาพคาบุลแห่งความภูมิใจของอาเมียร์แล้วก็จะถูกแนะนำให้รู้จักกับวัฒนธรรมทางเชื้อชาติที่ซับซ้อนของชาวอัฟกัน
เพราะประวัติศาสตร์การรบราฆ่าฟันของชนเผ่าทะเลทรายในเอเซียกลางนั้นมีมาเป็นพันปีแล้ว ต่างเผ่าพันธุ์ก็สลับกันเป็นผู้แพ้ผู้ชนะ กาลเวลาผ่านไปการรักษาขนบของเผ่ายังดีเยี่ยม แม้วิถีชีวิตจะเปลี่ยนไปจึงทำให้มีความบาดหมางระหว่างกลุ่มคนที่หน้าตาไม่เหมือนกัน แนวคิดนี้ก็กระทบกับชีวิตของอาเมียร์เข้าอย่างจัง เมื่อเพื่อนสนิทของเขาฮัสซัน เป็นคนในเผ่าที่ถูกรังเกียจจากชนชั้นปกครอง ในความเป็นจริง เด็กผู้ชายทั้งสองคลานตามกันมาตั้งแต่ยังแบเบาะ จนเรียกว่าเป็นพี่เป็นน้องกันได้ แต่ในทางปฏิบัติทั้งสองต้องละทิ้งความรู้สึกของส่วนตน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่น

มาเกือบครึ่งเล่มแล้ว มีเหตุการณ์ที่ทำให้อาเมียร์ต้องจากประเทศจากบ้านเกิดไป ด้วยความเจ็ดปวดในใจ และเจ็บนั้นก็ฝังเป็นปมอยู่ตลอดจนเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ อาเมียร์ได้มีโอกาสเริ่มต้นชีวิตใหญ่ กับอาชีพที่ใฝ่ฝัน มีคนรักที่เข้าใจ แต่โชคชะตาก็เล่นตลกอีก เมื่อมีประตูแห่งโอกาสเปิดให้อาเมียร์กลับไปแก้ไขในสิ่งผิดที่อัฟกานิสถาน อาเมียร์จะต้องเลือกระหว่างการลืมอดีต ลืมว่าตัวเองเป็นใคร หรือเลือกที่จะไปเผชิญความจริง ในบ้านเกิดที่กลายเป็นดินแดนอันโหดเหี้ยม เอาเป็นว่า ครึ่งหลังของเรื่องนี้ อ่านสนุก วางไม่ลงเลยจริงๆ

จุดสำคัญอีกอย่างที่นำให้นิยายเรื่องนี้สื่อสารถึงคนได้มากเหลือเกิน ก็เพราะวิธีเล่าเรื่องที่ทำได้ดีเยี่ยม คุณคาเล็ดบรรยายฉากได้ชัดเจน และกระฉับ ช่วงแรกของหนังสือจะย้อนรำลึกความหลัง ด้วยความโหยหาถึงอดีตที่กลับมาไม่ได้แล้ว แต่พอบทโหดก็โหดสุดๆ บทจะซึ้งก็กระชากนำ้ตาได้ ฉากที่ดีที่สุดก็คงเป็นฉากที่มาจากชื่อเรื่องนั่นเอง ฉากของประเพณีการแข่งว่าว ที่ทำให้รู้สึกตื่นเต้นไปตามตัวเอกของเรื่องได้ แต่อีกฉากที่กระเต็นชอบคือ ตอนที่อาเมียร์กลับมาเหยียบบ้านเกิดอีกครั้ง และต้องเศร้าใจกับการเปลี่ยนแปลง ไม่มีอะไรเหมือนเดิม กฏดกณฑ์ที่ใช้บังคับคนก็เป็นกฏหมู่ของตาลีบัน ทุกทิศที่ก้าวเดินก็อาจเกิดอันตรายถึงชีวิตได้ อ่านจบแล้วก็ได้แต่โล่งใจที่เราไม่ได้เจออย่างนั้น ไม่นั้นคงอยู่ไม่ได้แน่นอน อีกอย่างตอนอ่านจบก็เกิดความสงสัยเรื่องอัฟกานิสถานต่อ ตามไป google และกด wikipedia ดูว่าตอนนี้ที่นั่นเป็นอย่างไรบ้าง ดูเรื่องธรรมเนียน ประเพณีของชาวอัฟกัน ของพวกนี้กระเต็นคนหนึ่งละไม่เคยนึกถึงมาก่อน แต่คุณคาเล็ดก็ทำให้สัมผัสกับวิถีชีวิตอย่างนั้นได้ เราก็ ได้ความรู้รอบตัวเพิ่มมาเพิ่มเพียบเลย

Create Date : 15 กันยายน 2551

Last Update : 23 กันยายน 2551 16:49:40 น.

5 comments

Counter : 344 Pageviews.

ยกให้เป็นหนังสือสุดประทับใจแห่งปีเล่มหนึ่งทีเดียวค่ะเล่มนี้ (เพิ่งได้อ่านเมื่อไม่นานมานี้เหมือนกันค่ะ)

ชอบวิธีเล่าเรื่องของคนเขียนมาก

โดย: แม่ไก่

วันที่: 15 กันยายน 2551 เวลา:13:11:50 น.

ให้ 10 คะแนนเต็ม เลยค่ะเล่มนี้

โดย: January Friend

วันที่: 15 กันยายน 2551 เวลา:15:25:00 น.

มีเล่มนี้อยู่ในมือ

แต่ยังไม่มีเวลาอ่านเลยค่ะ

โดย: >>> (แม่เจ้าปัน

) วันที่: 15 กันยายน 2551 เวลา:22:13:44 น.

ชอบมากๆ เช่นกันค่ะ

กำลังจะรีวิวเร็วๆ นี้ ขอจัดระบบตัวเองก่อน

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ

วันที่: 17 กันยายน 2551 เวลา:13:27:42 น.

เพิ่งอ่านจบไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานี่เองครับ
เชยกว่าเจ้าของ blog นี้อีก
เรื่องนี้ ให้ 4.5/5
อันเนื่องจาก มึนกับศัพท์อัฟกานิสถานไปอยู่หลายตลบ
ส่วนอื่นๆ โอเค ยอดเยี่ยมไปหมดครับ

โดย: takky_sc

วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:22:23:25 น.