หนึ่งวันของแมวหลง
Group Blog
 
All blogs
 
เหนื่อยนัก...ก็นับหนึ่ง

เหนื่อยนัก...ก็นับหนึ่ง



ช่วงนี้กระแสการเมืองกำลังแรง
มองไปทางไหนก็เห็นแต่คนโต้เถียงกัน แบ่งเป็นสองฝ่าย
ไล่ หรือ สนับสนุนทักษิณ

ถ้าอยู่ในหมู่เพื่อน หรือที่บ้าน หยิบยกเรื่องนี้มาคุย ถ้าต่างคนต่างความเห็น อยู่กันคนล่ะฝ่าย งานนี้เป็นต้องถกกันรุนแรงกระทั่งขัดแย้งกันวงแตกได้

รู้ว่าไม่ควรเพิกเฉย แต่ไม่อยากเห็นคนไทยทะเลาะกัน แค่ภาคใต้ก็จะแย่อยู่แล้ว
ทุกฝ่ายต่างมีเหตุผล ไม่มีขาว ไม่มีดำ มีแต่เทา กับเทา ยากจะตัดสิน ยากจะชี้ขาด

ยุบสภา เลือกตั้งใหม่อีกทีก็ดี จะได้เริ่มต้นใหม่ นับหนึ่งใหม่


หันกลับมามองตัวเอง...
ชีวิตที่ผ่านมาก็ลุ่ม ๆ ดอน ๆ ตลอด
ถึงจะได้จับอะไรหลายอย่างแต่ก็ยังหาทางไปไม่เจอ

ครั้งหนึ่งเพื่อนเคยเอาปัญหาทายใจมาทายเล่นกัน
เรื่องมีอยู่ว่า...ให้เราจินตนาการว่าเข้าไปในห้องครัว และคิดว่าในห้องนั้นมีมีดกี่เล่ม
เราตอบทันทีเลยว่ามีอยู่เจ็ดเล่ม

ความนัยของปัญหานี้ถือให้มีดเป็นสัญลักษณ์แทนสิ่งที่ใช้ต่อสู้ฝ่าฟันอุปสรรค
ยิ่งจินตนาการว่ามีมากเท่าไรก็เท่ากับว่าเรามีกำลังใจและแรงสู้กับอุปสรรคได้มากน้อยเท่านั้น
เราที่ตอบว่าเจ็ดนั้นนับว่ามากทีเดียว ทั้งยังมากจนน่าแปลกใจ
ตอนนั้นเพียงแต่คิดว่าในครัวก็น่าจะมีมีดทุกประเภทให้ใช้งานทุกอย่างก็เลยตอบไปก่อนว่าเจ็ด
(อ้างอิงจากจำนวนมีดในครัวที่บ้านด้วยแหละ)
พอได้ยินคำเฉลยก็ใจพองโต และจดจำเอาความคิดนี้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวอุ้มชูใจอยู่เสมอ
ทุกครั้งที่ท้อแท้...
เราจะพยายามลุกขึ้นสู้ คิดในใจว่าจะกลัวอะไรในเมื่อเรามีมีดตั้งเจ็ดเล่ม

แต่...ครั้งนี้ดูเหมือนว่ามีดในใจมันคงจะทื่อไปสี่ห้าเล่มเรียบร้อยแล้ว คงเหลือเพียงสองเล่มที่ยังเปะปะเคว้งคว้างอยู่ แต่อย่างน้อยมันก็ยังมีอยู่ล่ะน่า

โชคดี พอรู้สึกว่ากำลังใจมันใกล้มอดก็ได้อ่านหนังสือเล่มนี้

It’s Never too late : เหนื่อยนัก ก็นับหนึ่ง





“ชีวิตต้องเติมกำลังใจตลอด เพราะเส้นทางชีวิตมีบทพิสูจน์ บททดสอบมากมาย” ต้นกล้า นัยนา (ผู้เขียน) เขาว่าอย่างนั้น

เป็นความตั้งใจของคนเขียนที่เริ่มต้นทุกบทว่า “ยังไม่สายเกินไปที่จะ...”
และจบลงด้วย “แม้จะเหนื่อยนัก ก็อย่ากลัวที่จะนับหนึ่งอีกที”
และก็เป็นความไม่ตั้งใจของเราที่มาสะดุดกับพล็อตแบบนี้ จนประทับฝังใจ

ที่ผ่านมาเรามีความคิดฝังหัวว่าการทำอะไรซักอย่าง เมื่อเริ่มแล้วก็ควรดำเนินต่อไปจนถึงที่สุด ไม่ควรเพิกเฉย หรือละทิ้งกลางคัน
แต่ถ้อยคำในหนังสือเล่มนี้เหมือนเป็นน้ำเย็นที่สาดเข้าใส่เรา ให้เห็นมุมมองอีกอย่าง อ่านแล้วฉ่ำใจ เหมือนได้น้ำมาเติมใส่แก้วในใจที่มันเหือด ๆ ไป ถึงจะไม่เต็ม แต่แค่พอหล่อเลี้ยงก็พอไปต่อไหว

บทที่ติดใจ :

“ยังไม่สายเกินไปที่จะทำสิ่งที่ค้างอยู่ให้เสร็จ
จวบจนวันนี้ เมื่อนึกย้อนกลับไป เรายังมีเรื่องที่ทำไม่เสร็จหลากหลายเรื่อง
ยังไม่สายเกินไปหรอกที่จะเรียนรู้เรื่องที่ทำไปแล้ว และเรื่องที่ยังไม่ทำ
...
หนึ่งชีวิตเพียงแค่นี้ แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมมีเรื่องที่จะต้องทำมากมายเสียเหลือเกิน
อย่ามัวยืนงง... ลงมือทำวันละเรื่อง แล้วเรื่องที่ค้างอยู่ในหัวใจก็จะลดลงทุกวัน
...และแม้จะเหนื่อยนัก อย่ากลัวที่จะนับหนึ่งอีกสักที”



ชีวิตก็แค่ช่วงระหว่างตื่นนอนกับเข้านอน
วันนี้เจอเรื่องแย่ เบื่อหน่าย ท้อใจ เช้ามาก็มีเรื่องใหม่ ปัญหาใหม่ให้เราแก้อีก
แต่บางครั้งเราก็ลืมไปว่าระหว่างปัญหาก็มีหนทางแก้ปัญหาปะปนกัน
อยู่ที่เราว่าจะมองเห็นหรือเปล่า

จำไว้เสมอว่า “กำลังใจ” จากใครก็ไม่สำคัญเท่า “กำลังใจ” ที่เราสร้างขึ้นมาเอง

ถ้าเหนื่อยนัก ก็นับหนึ่ง เริ่มต้นใหม่อีกที

จะยากอะไร...







Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2549
Last Update : 28 กุมภาพันธ์ 2549 9:06:39 น. 1 comments
Counter : 305 Pageviews.

 
แค่ชื่อของหนังสือก็รู้แล้วว่าเนื้อหาข้างในต้องดีแน่ แล้วหาซื้อที่ใหน ตามร้านขายหนังสือใหญ่ ๆ ทั่วไปยังมีหรือเปล่า


โดย: จุ๊บแจง IP: 58.64.65.26 วันที่: 7 สิงหาคม 2550 เวลา:11:49:17 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แมวใบตอง
Location :
จันทบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add แมวใบตอง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.