@ Kira Look @ = Hotnew
Group Blog
 
All blogs
 
45 วิธีสร้างสุขภาพดีด้วยอาหาร และ 45 วิธีสร้างสุภาพดีด้วยลักษณะนิสัย



45 วิธีสร้างสุขภาพดีด้วยอาหาร

1. ถั่วเหลือง การบริโภคเมล็ดถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองทุกๆวัน ช่วยชะลอความแก่ เพราะอุดมด้วยโปรตีน เส้นใย วิตามินบี 1 บี 2 บี 6 บี 12 กรดโฟลิกคลอไรด์ แคลเซียม ฟอสฟอรัส ไขมันไม่อิ่มตัวและฮอร์โมนเอสโตรเจนซึ่งช่วยลดคอเลสตรอรอล ต้านมะเร็งเต้านม รักษามวลกระดูก

2. มะเขือ กินมะเขือเป็นประจำ ช่วยป้องกันโรคหัวใจ และป้องกันผนังเส้นเลือดแข็งตัว ทั้งนี้เพราะในมะเขือ มีวิตามินพี หรือที่เรียกว่า “ไบโอฟลาโวนอยด์”

3. ขิง กินขิงสดๆหรือกินจากอาหารช่วยให้เลือดหมุนเวียนดี บำรุงเส้นผมที่เกิดใหม่ บรรเทาปัญหาการย่อยอาหาร ท้องร่วง หรือเป็นหวัด ไข้หวัดใหญ่ เพียงฝานขิงเป็นแว่นแล้วต้มใส่น้ำตาลกรวด ดื่มร้อนๆก่อนเข้านอน แล้วห่มผ้าหนาๆให้เหงื่อออก รุ่งเช้าอาการหวัดจะหายไปเป็นปลิดทิ้ง

4. มะเขือเทศ กินประจำช่วยบรรเทาอาการตับอักเสบ แผลเปื่อย โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และเส้นเลือดในสมองแตก รักษาแผลไฟไหม้ ท้องร่วง โรคหืดหอบ และโรคภูมิแพ้ตามผิวหนัง มะเขือเทศมีโพแทสเซียมทำให้หัวใจและความดันโลหิตทำงานเป็นปกติ ดื่มน้ำมะเขือเทศเป็นประจำช่วยชำระล้างมลพิษในปอด

5. กระเทียม กินเป็นประจำทำให้ระบบการสร้างภูมิคุมกันแข็งแรงยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอกต่อต้านแบคทีเรียและพยาธิต่างๆ กินสดป้องกันการเกิดสิว ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานเป็นปกติ บรรเทาอาการโรคบิดและไทฟอยด์ป้องกันและรักษาไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ แก้อาการปวดท้องและท้องร่วง

6. แครอท ดื่มน้ำแครอท 5 แก้วทุกวัน ช่วยป้องกันและรักษาโรคมะเร็งที่ปอด ท้อง มดลูก ลำคอ ต่อมลูกหมาก เต้านมและที่อื่นๆ ส่วนคนที่มีปัญหาด้านสายตา เกิดอาการเพลียตา ให้กินแครอทเป็นประจำจะช่วยบำรุงสายตาและยังมีผลดีต่อตับอีกด้วย

7. หัวแรดิช และ หัวไชเท้า ดื่มน้ำคั้นจากหัวแรดิชและหัวไชเท้าหรือกินอาหารที่ทำจากหัวแรดิชและหัวไชเท้าเป็นประจำ นอกจากจะป้องกันและรักษาโรคมะเร็งแล้ว ยังอาจฆ่าเซลล์มะเร็งได้โดยตรง

8. มะม่วง เป็นอาหารช่วยรักษาโรคความจำเสื่อม เพราะมีวิตามินเอสูง นอกจากนั้นวิตามินเอยังมีในตับ ไข่แดง น้ำมันตับปลา มะเขือเทศ และมันพื้นบ้าน

9. แตงกวา เป็นหนึ่งในอาหารช่วยรักษาสิวบนใบหน้าและลำตัวได้ ด้วยการกินแตงกวาสด การดื่มน้ำผึ้งชงกับน้ำเย็น ดื่มชาเขียวทุกๆเช้า สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆวันละ 2 ครั้ง เพื่อช่วยให้เกิดภาวะการนอนหลับสนิท ทำจิตให้ปลอดโปร่ง ปลดปล่อยความกดดันออกไป ก็ช่วยรักษาสิวด้วยเช่นกัน

10. อ้อย สามารถใช้รักษาอาการคลื่นเหียนอาเจียน ท้องผูก อาหารเป็นพิษ ชะลอความแก่ ชาวจีนผู้มีอายุยืน กล่าวว่า พวกเขาดื่มน้ำอ้อยวันละ 1 แก้วทุกวัน โดยเฉพาะอ้อยที่คั้นสดๆจากลำต้นยิ่งดี

11. ปวยเล้ง ในทางโภชนาการและทางการแพทย์ กล่าวว่า ผักปวยเล้งบรรเทาอาการโรคเบาหวาน โลหิตจาง ท้องผูก โรคตับ ต้อกระจก เพลียตา ตาบอดกลางคืน ความดันโลหิตสูง มะเร็ง เลือดออกตามไรฟัน เลือดกำเดาไหล ได้เป็นอย่างดีพอๆกับช่วยรักษาบาดแผล

12. สับปะรด ชาวจีนโบราณค้นพบว่าสับปะรดสามารถรักษาอาการหวัดและโรคไซนัสอักเสบ เพราะสับปะรดจะช่วยเปิดช่องในจมูก นอกจากนี้ยังดีต่อการรักษาแผลไฟไหม้และบาดแผลต่างๆอีกด้วย

13. พริกไทย ในหมู่คนจีนเชื่อว่าพริกไทยจะช่วยเจริญอาหาร ช่วยระบบการย่อยและระบบการไหลเวียนต่างๆในร่างกาย ทั้งเพิ่มความต้องการและความสามารถทางเพศด้วย มีสรรพคุณลดอาการบวม รัษาไข้หวัดใหญ่ อาการปวดศีรษะและโรคภัยไข้เจ็บที่มีสาเหตุมาจากความชื้นและหนาวเย็นของอากาศ

14. ลูกแพร์ ชาวจีนใช้บำบัดโรคหืด ไอ เสียงแหบ ท้องผูก โรคปอด เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ปัสสาวะลำบาก อาหารไม่ย่อย และหัวใจวาย ลูกแพร์เป็นอาหารประเภทหยินที่ช่วยให้ความร้อนในร่างกายเกิดความสมดุล

15. ส้ม อุดมไปด้วยวิตามินซี โพแทสเซียมและกรดโฟลิก บรรเทาอาการหวัด ไข้หวัดใหญ่ ปวดศีรษะ อาหารไม่ย่อย โรคหืด ไอ โรคเกี่ยวกับตาเช่น ต้อกระจก ตาบอดกลางคืน โรคมะเร็งและโรคฟัน สร้างระบบภูมิคุ้มกันและช่วยให้บาดแผลหายเร็วขึ้น ดื่มน้ำส้มเป็นประจำจะช่วยให้ปัสสาวะได้สะดวก

16. หอมใหญ่ หอมใหญ่ช่วยลดความดันโลหิตสูงและระดับคอเลสเตอรอล บรรเทาอาการหวัดและไข้หวัดใหญ่ ทำลายแบคทีเรียในร่างกาย ช่วยเจริญอาหาร ลดภาวะอาหารไม่ย่อย อีกทั้งยังสามารถใช้เป็นยาทาภายนอก บรรเทาอาการปวดแสบ ระคายเคือง ยุงกัด และแผลไฟไหม้

17. มะกอก มะกอกและน้ำมันมะกอกช่วยลดคอเลสเตอรอลและควบคุมความดันโลหิต ช่วยป้องกันการเกิดโรคเบาหวานและโรคหัวใจ นอกจากนี้น้ำมันมะกอกยังใช้ทารักษาแผลไฟไหม้ ฟกช้ำดำเขียว เคล็ดขัดยอกได้ด้วย

18. เห็ด กินเห็ดเป็นประจำ ช่วยลดความดันโลหิตสูงและระดับคอเลสเตอรอลในขณะเดียวกันก็ช่วยป้องกันเลือดเกาะตัวเป็นก้อนและปัญหาทางด้านหัวใจเสริมสร้างระบบย่อยอาหาร เพิ่มความแข็งแรงให้ระบบภูมิคุ้มกัน บำบัดโรคผิวหนัง ป้องกันและทำลายเซลล์มะเร็งหลายชนิด

19. รากบัว รากบัวใช้บรรเทาอาการคลื่นเหียนอาเจียน สะอึก ท้องร่วง เบื่ออาหาร โรคเส้นเลือดอุดตันในสมองและอาหารเป็นพิษ ในทางโภชนาการ รากบัวประกอบไปด้วยโปรตีน แป้ง วิตามินชนิดต่างๆ เอนไซม์ช่วยย่อย และแร่ธาตุต่างๆ

20. องุ่น คนจีนใช้รักษาโรคหวัด ไข้หวัดใหญ่ ท้องผูก ข้อต่ออักเสบ กระเพาะอาหารอักเสบ ระบบย่อยอาหารผิดปกติ นอนไม่หลับ โลหิตจาง หมดแรง โรคตับ การดื่มไวน์แดงซึ่งอุดมไปด้วยสารโพลิฟีนอล วันละ 1 แก้ว ช่วยบำรุงหัวใจลดการสะสมของคอเลสเตอรอลและยับยั้งการจับตัวเป็นลิ่มของเลือด

21. กล้วย อุดมไปด้วยโพแทสเซียม ช่วยลดความเสี่ยงโรคเส้นเลือดอุดตันในสมองโดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาเรื่องความดันโลหิตสูง บรรเทาอาการท้องผูก ท้องร่วง อาหารไม่ย่อย โรคเกี่ยวกับต่อมลูกหมาก กามตายด้าน โรคหัวใจและโควูบ ใช้ผิวเปลือกด้านในถูตามบริเวณที่เป็นสิว ทำให้สิวเบาบางลงได้

22. บรอกโคลี การกินบรอกโคลีมีส่วนช่วยป้องกันและการต่อต้านการเกิดโรคมะเร็งทั้งนี้เพราะในบรอกโคลีมีสารต้านมะเร็งเป็นองค์ประกอบ

23. ต้นหอม คือหอมต้นที่ใช้ทั้งใบและหัวในการแต่งกลิ่น ประดับ และเป็นผัก มีสรรพคุณสารพัด ตั้งแต่ช่วยแก้หวัดและอาการติดเชื้อต่างๆ ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด ควบคุมความดันโลหิตสูง และป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน

24. ผักกาดขาว การวิเคราะห์พบว่าเป็นผักซุปเปอร์แคลเซียม อีกทั้งยังมีโฟเลทหรือกระโฟลิกสูง สำคัญต่อสุขภาพของแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ โฟเลทมีบทบาทสำคัญคือทำให้กระบวนการสร้างสารพันธุกรรมหรือ DNAเป็นปกติ และช่วยให้เม็ดเลือดแดงสมบูรณ์ตลอดจนมีเส้นใยอาหารมาก ช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ได้

25. ขึ้นฉ่าย มีโพแทสเซียมสูงมาก ทำให้หลอดเลือดขยายตัว ช่วยลดความดันโลหิตสูง ช่วยขับปัสสาวะ รักษาโรคปวดข้อ เช่น รูมาติกและโรคเกาต์ มีโซเดียมอินทรีย์ช่วยปรับกรดและด่างในเลือดให้สมดุลเกิดผลดีต่อระบบประสาทน้ำขึ้นฉ่ายคั้นมีสรรพคุณเป็นยากล่อมประสาท ทำให้รู้สึกสบาย นอนหลับได้ดี

26. ผักบุ้งจีน มีเบต้าแคโรทีน แคลเซียมและเหล็กสูง ช่วยแก้โรคตาบอดกลางคืนได้ดี ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง ผลการวิจัยพบว่าผักบุ้งมีสารชนิดหนึ่งที่มีโครงสร้างคล้ายอินซูลิน สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ที่เป็นโรคเบาหวานได้

27. ฟักทอง เป็นผักสุขภาพแนวหน้าชนิดหนึ่งเพราะมีเบต้าแคโรทีนสูง ผลของการวิจัยพบว่าช่วยป้องกันโรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งในกระเพาะปัสสาวะของผู้สูงอายุ นอกจากนั้นยังมีธาตุเหล็ก วิตามินซี ไนอะซิน วิตามินบี 1และวิตามินบี 2 เหมาะเป็นอาหารลดน้ำหนัก เพราะมีเส้นใยมาก ไขมันน้อย แคลอรี่ต่ำ

28. ฟักเขียว มีสารอาหารและแร่ธาตุอยู่หลายชนิด มีวิตามินซีอยู่ในปริมาณพอสมควร คนโบราณเชื่อว่าฟักเป็นยาเย็น ในหน้าร้อนหากตัวรุมๆ มีไข้ และกระหายน้ำ ให้นำฟักมาปรุงเป็นอาหาร หรือจะต้มเป็นน้ำฟักกินก็ได้ เชื่อว่า ฟักจะช่วยระบายความร้อนออกจากร่างกาย

29. มะระขี้นก มีแร่ธาตุต่างๆ ทั้งเบต้าแคโรทีน วิตามินเอ แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก มีสรรพคุณช่วยเจริญอาหาร และเป็นยาระบายอ่อนๆ ตลอดจนรักษาโรคเบาหวาน เพราะสามารถช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้

30. ถั่วลันเตา อุดมด้วยสารอาหารทำให้อิ่มท้อง ให้พลังงานต่ำเป็นใยอาหารที่ละลายในน้ำได้ ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ฝักถั่วลันเตามีเบต้าแคโรทีนที่ร่างกายเปลี่ยนเป็นวิตามินเอได้ ยังมีเหล็ก ไนอะซิน และวิตามินซี ตลอดจนให้แคลเซียม ฟอสฟอรัส เป็นผักที่รักษากระดูกและฟันให้แข็งแรง

31. กระเจี๊ยบมอญ มีแคลเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม กรดโฟลิก เหล็ก วิตามินเอ วิตามินบี3 และวิตามินซี สารในฝักช่วยขับพยาธิตัวจ๊ด รักษาความดันโลหิตให้เป็นปกติ บำรุงสมองและเป็นยาระบายอย่างดี เมือกกระเจี๊ยบช่วยเคลือบกระเพาะอาหาร จึงเหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคกระเพาะและโรคลำไส้

32. คะน้าจีน มีเบต้าแคโรทีน และวิตามินซีสูงมาก ป้องกันโรคมะเร็งที่กระเพาะอาหาร ลำไส้ ลำคอ ปอด และกระเพาะปัสสาวะได้ ช่วยให้สายตาดี ช่วยให้เนื้อเยื่อชุ่มชื้น ทำให้ผิวงาม เสริมระบบภูมิคุ้มกันโรค วิตามินซียังเป็นแอนติออกซิเดนท์ป้องกันเกล็ดเลือดไม่ให้แข็งตัว ช่วยให้หลอดเลือดมีความยืดหยุ่น

33.ผักกวางตุ้ง อุดมด้วยเบต้าแคโรทีนสูง มีวิตามินซี ใช้บำรุงดวงตา เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน แก้ปวดข้อ และช่วยลดการอักเสบ อาการบวมต่างๆได้

34. ผักกาดหอม เป็นผักสุขภาพแนวหน้า เพราะมีแคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก และวิตามินสูง ยังให้ฮีโมโกลบิน จึงมีประโยชน์สำหรับผู้ที่มีปัญหาโลหิตจาง โดยเฉพาะในสตรีมีครรภ์จะช่วยป้องกันโรคโลหิตจางได้อย่างดี ผักกาดหอมมีแคลอรี่ต่ำมาก ขณะเดียวกันก็มีเลซิตินสูงซึ่งช่วยบรรเทาอาการท้องผูกได้ด้วย

35. กะหล่ำปลี มีวิตามินซี แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามินเอ วิตามินบี1 วิตามินบี2 กะหล่ำปลีคั้นสดช่วยรักษาโรคกระเพาะ เพราะมีสารกลูตามีนช่วยเคลือบกระเพาะ กระตุ้นการทำงานของลำไส้ให้ขับถ่ายได้ดี ต้านสารก่อมะเร็งและช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ระงับประสาท ทำให้นอนหลับสนิท

36. กะหล่ำดอก มีสรรพคุณยับยั้งการก่อตัวของเซลล์มะเร็งในปอดและลำไส้ใหญ่ นอกจากนั้นยังอุดมไปด้วยวิตามินซี โฟเลท แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม และธาตุทองแดง มีไขมันและแคลอรี่ต่ำ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการนำไปประกอบอาหารเพื่อสุขภาพ

37. ผักโขม ผักสุขภาพชั้นยอดซึ่งมีโปรตีนสูงใกล้เคียงกับเนื้อหมู แถมยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุแคลเซียมที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกสูงกว่านมสด มีฟอสฟอรัสปริมาณใกล้เคียงกับนมสด อีกทั้งยังมีวิตามินซีสูงมากกว่าส้มเขียวหวาน มีเบต้าแคโรทีนและสารซาโปนิน มีสรรพคุณช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดได้

38. ตังโอ๋ มีเบต้าแคโรทีนที่สูงมากถึง 2722 ไมโครกรัม นอกจากนั้นยังมีวิตามินเอ แคลเซียม ฟอสฟอรัส และเหล็กอีกด้วย ซึ่งช่วยต้านมะเร็งได้

39. พริกหวาน ถือเป็นผักผล ที่มีน้ำมาก มีรสหวาน อุดมด้วยวิตามินซี เป็นแหล่งเบต้าแคโรทีน สารไบโอฟลาโวนอยด์ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งสิ้น ทำให้สุขภาพผิว เอ็น และกระดูกแข็งแรงดี ช่วยในการขับถ่ายได้ดีเช่นกัน

40. พริกสวน เป็นพริกชนิดเผ็ดทั้งหลาย ถือเป็นผักสมุนไพรและเครื่องเทศแต่งรส ในพริกมีสารแคปเซซินสูงมาก ช่วยขับเสมหะทำให้จมูกโล่ง ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้หลายชนิด โดยเฉพาะอีโคไลที่ทำให้ท้องร่วง และยังมีวิตามินซี เบต้าแคโรทีนสูงอีกด้วย ใช้สกัดทำยานวด บรรเทาอาการปวดเมื่อยเคล็ดขัดยอก

41. มะนาว อุดมไปด้วยวิตามินซี ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน ตลอดจนมีไบโอฟลาโวนอยด์สูง สารอาหารนี้มีคุณสมบัติเป็นสารต้านออกซิเดชั่น ช่วยป้องกันร่างกายมิให้ได้รับอันตรายจากอนุมูลอิสระซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหัวใจและมะเร็งได้ และยังช่วยป้องกันการเป็นหวัด ขับเสมหะ แก้ไอละเจ็บคอได้

42. หน่อไม้ฝรั่ง มีฤทธิ์กระตุ้นปัสสาวะ รักษาอาการธาตุพิการอาหารไม่ย่อย โรครูมาติก และลดกรดในลำไส้ แต่คนเป็นโรคเกาต์ไม่ควรกิน เพราะหน่อไม้ฝรั่งไปเพิ่มกรดยูริกในกระแสเลือด หน่อไม้ฝรั่งมีฟอสฟอรัสและวิตามินเอสูง ยังมีวิตามินซี แคลเซียม ธาตุเหล็ก และวิตามินบีคอมเพล็กซ์

43. โหระพา กินโหระพาทำให้ห่างจากโรคหัวใจขาดเลือด และมะเร็งที่มากับไขมันอิ่มตัว เพรคาะโหระพามีเบต้าแคโรทีนสูงถึง452.16ไมโครกรัม มีน้ำมันหอมระเหยที่ช่วยแก้จุกเสียดแน่นท้อง เจริญอาหาร ช่วยให้กินผักอื่นได้มากขึ้น และข้อสำคัญยังช่วยย่อยอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ที่ทำให้ท้องอืดได้ดีอีกด้วย

44. โตวเหมี่ยว เพาะมาจากเมล็ดถั่วลันเตา รสหวานและกรอบ รสเหมือนถั่วลันเตา โตวเหมี่ยวมีวิตามินบีและวิตามินซีสูง จัดว่าเป็นแหล่งสารโปรตีนชั้นดี นอกจากนี้ยังมีวิตามินบี12สูง และมีสารเลซิติน ซึ่งช่วยการทำงานของประสาทและสมอง

45. เป็ด เป็นอาหารจานโปรดของชาวจีน และยังใช้บำบัดโรคไต บวมน้ำ อ่อนเพลีย โรคหืด อาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ และช่วยเพิ่มพลังให้กับผู้ที่เพิ่งฟื้นไข้


45 วิธีสร้างสุขภาพดีด้วยลักษณะนิสัย


1. เปิดใจสู่อารมณ์ขัน สังคม และความรัก ผลแห่งพฤติกรรมได้รับการพิสูจน์แล้วว่า การใช้ชีวิตอย่างนี้ทำให้ดูอ่อนเยาว์

2. ดื่มน้ำซุปสัก 3 ช้อนโต๊ะ ก่อนกินอาหารแต่ละมื้อ ลดภาวะโรคชราได้เป็นอย่างดี คนจีนโบราณเชื่อว่า การกระทำดัวกล่าวช่วยให้เจริญอาหารและช่วยย่อย เป็นการป้องกันโรคระบบทางเดินอาหาร

3. หมั่นนำข้าวของเครื่องใช้ออกผึ่งแดด โดยเฉพาะหมอน มุ้ง เสื้อผ้า หนังสือ เพราะแสงแดดมีประสิทธิภาพ ในหารฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรียฉมังนัก

4. ออกกำลังกายช่วยชะลอความแก่ นอกเหนือจากประโยชน์ที่มักกล่าวถึงกัน คือช่วยการไหลเวียนของโลหิต สร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยให้หัวใจทำงานได้ดีขึ้น ช่วยให้ผิวหนังยืดหยุ่นอย่างมาก จึงเป็นการป้องกันรอยตีนกาบนใบหน้าเนื่องจากการแก่ชรา

5. คนเป็นโรคอ้วน ควรปฏิบัติดังคำกล่าวที่ว่า “กินอาหารเช้าราวกับพระราชา กินอาหารเย็นอย่างกับยาจก” ถ้าเรากินหนักแต่เช้า ก็เผาผลาญแคลอรีได้เร็ว และมีเวลาทั้งวันในการเผาผลาญไขมันที่เรากินเข้าไป

6. สำหรับคนเป็นโรคหัวใจ ต้องหมั่นเช็กน้ำหนักและลดน้ำหนักถ้าจำเป็น สิ่งนี้สำคัญยิ่งกว่าการลดระดับคอเลสเตอรอลในกระแสเลือด

7. สำหรับผู้มีอาการจุกเสียดแน่นหน้าอก ให้กินแต่น้อย กินบ่อยๆ เมื่อรู้สึกอิ่ม 70-80เปอร์เซนต์ ให้หยุดกิน ระลึกถึงสุภาษิตจีนที่ว่า “กินอิ่มเพียง 80 เปอร์เซ็นต์ ให้สุขภาพดีเต็มร้อย”

8. สำหรับผู้มีอาการปวดศีรษะ ให้กินไข่ทุกวัน ในไข่แดงประกอบด้วยเลซิติน และคอเลสเตอรอลดีแบบอินทรีย์ ซึ่งเป็นสารอาหารบำรุงสมองและสร้างพลังงาน ถ้าการบำบัดนี้เหมาะสมกับคุณ ก็ควรปฏิบัติจนกว่าอาการปวศรีษะจะหาย

9. ดื่มน้ำอุ่น 1 แก้วในตอนเช้าตรู่ และขับถ่ายของเสียให้เรียบร้อยก่อนออกกำลังกาย การดื่มน้ำอุ่นและการขับถ่ายต้องใช้เวลา ดังนั้นจึงเป็นการดีที่จะตื่นนอนแต่เช้า ถ้าเราจริงจังกับการออกกำลังกายตอนเช้า

10. เดินหรือออกกำลังกายในที่แจ้ง อย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์ ในบริเวณริมน้ำหรือสวนสาธารณะ

11. ถ้ามีอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง นั่งลงดื่มน้ำอุ่น 1 แก้ว หรือนอนราบลง หลับตาผ่อนคลาย หายใจลึกๆ

12. สำหรับผู้มีกลิ่นปาก เมื่อตื่นนอนให้ดื่มน้ำเกลืออ่อนๆ 1 แก้วในทันที ดื่มน้ำสะอาดบ่อยๆทั้งวัน ออกกำลังกายสม่ำเสมอ หยุดสูบบุหรี่ และอยู่ในที่โล่งแจ้งอากาศสดชื่น

13. สำหรับผู้มีอาการตาอ่อนล้า ถ้าไม่มีเวลานวดตา ให้กระพริบตาบ่อยๆอันที่จริงแล้วภายใต้จิตสำนึกเราจะกะพริบตาทุกๆ5 วินาทีอยู่แล้ว แต่ถ้าเราใจจดจ่ออยู่กับงานตรงหน้า เราอาจจะลืมกะพริบตาและอาจกะพริบตาได้ไม่เพียงพอ

14. สำหรับผู้ที่เป็นโรคความจำเสื่อม ให้สะบัดหัวจากข้างหนึ่งไปยังอีกข้างหนึ่งวันละหลายๆครั้ง ช่วยเพิ่มพลังและการไหลเวียนของโลหิตไปเลี้ยงสมองได้ดี

15. สำหรับผู้เป็นโรคความจำเสื่อม เมื่อทำงานใช้สมองนานๆให้พักสมองช่วงสั้นๆ ด้วยการหลับตาให้สนิท หายใจลึกๆในที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ รวมศูนย์จิตใจไปอยู่ที่ท้องน้อย

16. สำหรับคนเป็นโรคริดสีดวงทวาร อย่านั่งนานเกินกว่า 30 นาที ในแต่ละครั้ง การนั่งเป็นเวลานานเกินไปจะทำให้เลือดไหลเวียนบริเวณทวารหนักไม่สะดวก

17. สำหรับผู้เป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง ให้ดื่มน้ำชาแก่ๆ เพื่อลดอาการเป็นพิษ ดื่มน้ำคั้นหัวผักกาดแดง(แรดิช)เพื่อขับสารพิษ กินผลไม้มากๆ ดื่มน้ำส้มสายชูหรือน้ำคั้นจากขิง กินมะกอก(ฝรั่ง)มากๆใช้ผ้าเย็นโปะหน้าผาก

18. สำหรับผู้มีอาการซึมเศร้า ให้หัวเราะหรือร้องไห้เสียงดังๆระเบิดออกมาช่วยระบายความกดดันอย่างได้ผลและมีประสิทธิภาพ การหัวเราะก็เหมือนกับการออกกำลังกาย ช่วยทำให้ระบบภายในร่างกายสมดุล.

19. ดื่มน้ำสะอาดมากๆ ทุกวัน ช่วยทำให้ผิวหนังชุ่มชื้น ข้อต่อยือหยุ่น ชำระล้างร่างกายภายใน ช่วยย่อยอาหาร ช่วยให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติช่วยให้ระบบภายในต่างๆกระฉับกระเฉง

20. กลอกลูกตาหลายๆครั้ง 7 ครั้งตามเข็มนาฬิกา อีก 7 ครั้งทวนเข็มนาฬิกา ขณะที่กลอกลูกตาให้หายใจลึกๆ รวมศูนย์จิตใจไปที่ท้องน้อย การบริหารดวงตาเช่นนี้ ใสห้ทำสองครั้งต่อวัน คือช่วงเช้ากับช่วงก่อนนอน

21. ท้องผูก ให้กินอาหารที่มีเส้นใยสูง ปรุงจากเมล็ดธัญพืชและข้าวโอต ข้าวกล้อง ผักและผลไม้สดทั้งหลาย เส้นใยจะไม่ถูกย่อยเคลื่อนตัวไปตามลำไส้ไปรวมกับกากอาหารอื่นๆ เส้นใยจะทำหน้าที่ดูดน้ำมาสู่มวลอุจจาระ ทำให้มวลอุจจาระเพิ่มขึ้นและนุ่มขึ้น

22. สำหรับผู้มีอาการหวัด ใช้แช่เท้าลงในน้ำอุ่นจัดสัก 15 นาที แล้วดื่มน้ำขิงก่อนเข้านอน

23. ชา โดยเฉพาะชาเขียว ชาวจีนถือว่ารักษาได้ทุกโรค ถ้าอาหารไม่ย่อยหรือธาตุพิการ เขาจะดื่มน้ำชา ถ้าปวดหัวหรือเป็นหวัดเขาจะนึกถึงชาถ้าเขามึนเมาได้รับพิษจากอาหาร รู้สึกไม่สดชื่น เมาค้าง เขาก็จะดื่มน้ำชา ชาจึงถือได้ว่าเป็นยาที่เยี่ยมยอด

24. ถ้าเป็นหวัดคัดจมูกน้ำมูกไหล มีอาการไอร่วมด้วย ให้หลีกเลี่ยงอาหารประเภทผลิตภัณฑ์จากนมและแป้งสาลี เพราะเป็นอาหารประเภทก่อให้เกิดเมือก ซึ่งทำให้ติดเชื้อและเกิดเสมหะที่ระบบทางเดินหายใจได้

25. ป้องกันการเกิดต้อกระจกได้ด้วยการปิดเปลือกตาเพื่อพักตาทุกหนึ่งชั่วโมงหลังจากใช้สายตาในการทำงาน เสี่ยงจากการกระทบแสงแดดและแสงฟลูออเรสเซนต์โดยตรงด้วยแว่นกันแดด ป้องกันต้อกระจกและกล้ามเนื้อตาเสื่อม ด้วยการกินอาหารที่มีวิตามินเอและอี และบริหารดวงตาสม่ำเสมอ

26. รักษาใจให้ผ่องใส มองโลกในแง่ดี การมองโลกในแง่ดีคือพลังในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บทั้งปวง โดยเฉพาะโรคมะเร็ง

27. เรียนรู้ที่จะดำเนินชีวิตอย่างนุ่มนวล ไม่แข่งขันกับใครๆ ไม่แสวงหาความมั่งคั่งและความสุขสบายทางโลก ไม่ริษยาผู้ใด อดทน มีชีวิตและความคิดที่เรียบง่าย และกรุณาต่อผู้อื่น นี่เป็นวิถีกล่อมเกลาจิตใจและเป็นหนทางสำคัญอันนำไปสู่ “เต๋า”

28. ขมิบกล้ามเนื้อรอบทวารหนัก และเกร็งหัวแม่เท้าบ่อยๆ ถ้ามีอาการเสื่อมถอยทางเพศ เนื่องมาจากอาการแก่ก่อนวัยอันควร การขมิบทวารหนักและเกร็งหัวแม่เท้าเป็นจังหวะสม่ำเสมอ เป็นหนทางในการชะลอความแก่และป้องกันดังกล่าว

29. ถูฝ่าเท้าหลายๆครั้งต่อวัน เป็นตำนานเล่าขานของครอบครัวคนจีนที่มีอายุยืนนานกว่า 100 ปี รุ่นแล้วรุ่นเล่า เมื่อถามถึงความลับที่ทำให้พวกเขาอายุยืนยาว สมาชิกของครอบครัวก็จะตอบว่า พวกเขาทั้งหมดต่างถูฝ่าเท้ากันทั้งนั้น

30. ขบฟันเบาๆวันละหลายๆครั้ง ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ฟันแข็งแรง ป่องกันการเสื่อมของฟันก่อนเวลาอันควรแล้ว ยังช่วยให้การมีเพศสัมพันธ์และสติทรงพลังอีกด้วย

31. การสางผมด้วยนิ้วมือบ่อยๆ ช่วยการตุ้นการหมุนเวียนของเลือดและลมปราณไปเลี้ยงสมอง ช่วยให้มีสติมั่นคง ทำให้มีความจำดี และรักษาสีสันของเส้นผมให้งดงามตามธรรมชาติ

32. กลืนน้ำลายบ่อยๆ มีพลังอย่างน่าอัศจรรย์ในการสร้างความเป็นหนุ่มเป็นสาว น้ำลายบำรุงสมอง ช่วยย่อยอาหาร ขจัดพิษจากร่างกาย เพิ่มความยืดหยุ่นช่วยให้ผิวหนังและผิวหน้าเนียนเรียบเป็นเงางาม เพิ่มพลังทางเพศ และสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยเสริมทุกระบบที่มีหน้าที่ต่อต้านความแก่

33. สาเหตุของร่างกายเสื่อมถอยในผู้สูงอายุไม่ใช่เนื่องจากการมีอายุมาก แต่เป็นเพราะใช้จิตใจและร่างกายอย่างผิดๆ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ คือหนทางที่ดีที่สุดในการป้องกันและรักษาโรคภัยไข้เจ็บทั้งปวง

34. เมื่อหยุดสูบบุหรี่ ความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งปอดและโรคหัวใจจะลดลงอย่างน่าทึ่ง จากหลักฐานชี้ว่า หลังจากงดสูบบุหร่เป็นเวลานานสิบปีแล้วเนื้อเยื่อของปอดและหัวใจของผู้ที่เคยสูบบุหรี่จะฟื้นฟูกลับสู่สภาพเดิมได้ ลดความเสี่ยงจากการตายด้วยโรคหัวใจและโรคมะเร็งปอดได้ด้วย

35. ใช้น้ำส้มสายชูชโลมบาดแผลตามร่างกายโดยตรง เช่น ข้อต่ออักเสบ ข้อเท้าแพลง และบาดเจ็บในที่อื่นๆ เชื่อว่าน้ำส้มสายชูสามารถทำให้กรดบนผิวหนังและใบหน้าสมดุล ทำให้ผิวเรียบแลดูอ่อนเยาว์

36. ต้มน้ำส้มสายชูให้ระเหยในห้อง ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และเป็นวิธีการต่อต้านหวัด ไข้หวัดใหญ่ และเชื้อนิวมอเนีย

37. ระบายอากาศในบ้านทุกวัน โดยเฉพาะห้องนอน ด้วยการเปิดหน้าต่างทิ้งไว้อย่างน้อยสองชั่วโมง หลังจากตื่นนอนตอนเช้าแล้ว ดูให้แน่ใจว่าสถานที่ทำงานและสถานที่อยู่อาศัยนั้นมีอากาศหมุนเวียนเป็นอย่างดีและอยู่ท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์

38. ดื่มน้ำมากๆ ช่วยลดอาการไข้ได้เป็นอย่างดี ชะลออาการแก่ก่อนวัย เพราะช่วยทำให้ผิวหนังแล้วผิวหน้าชุ่มชื่น ควรดื่นน้ำอย่างน้อย 6-8 แก้วต่อวัน

39. หลีกเลี่ยงรังสีจากผ้าห่มไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ จอโทรทัศน์ นาฬิกาปลุกดิจิตอล โดยไม่วางอุปกรณ์เหล่านี้ใกล้หมอนในห้องนอน

40. สวมใส่เสื้อผ้าและเครื่องกันแสงแดดเพื่อป้องกันตนเองจากรังสีอัลตราไวโอเลต ล้างผักผลไม้สดเพื่อขจัดยาฆ่าแมลงที่ตกค้าง

41. อยู่ให้ห่างจากผู้สูบบุหรี่ พยายามทำงานในสิ่งแวดล้อมที่ห้ามสูบบุหรี่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆให้ออกจากที่ทำงานชั่วคราวเมื่อมีผู้จุดบุหรี่สุบ

42. ป้องกันบ้าน โดยเฉพาะในห้องนอน ให้ปลอดเสียงรบกวนจากภายนอก ถ้าทำไม่ได้และรู้สึกรำคาญเสียงรบกวน ให้เปิดเพลงเบาๆ เพื่อลดความน่ารำคาญของเสียงนั้นลง

43. น้ำมันปลา ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจได้อย่างสำคัญ ด้วยการละลายการจับตัวเป็นก้อนของเลือด ลดความดันโลหิตสูง ลดไตรกลีเซอไรด์ให้อยู่ในระดับต่ำ ดังนั้นการกินน้ำมันปลาจึงเป็นการรับประกันความเสี่ยงต่อโรคหัวใจที่มีราคาต่ำมาก

44. สำหรับเรื่องโรคกระดูกบาง กระดูกพรุน การออกกำลังกายช่วยให้กระดูกแข็งแรง การรำมวยจีนเป็นการออกกำลังกายที่นิ่มนวล เหมาะอย่างยิ่งกับผู้มีปัญหากระดูกบาง

45. อาหารที่มีเส้นใยสูง มีน้ำตาลต่ำ เป็นอาหารที่ช่วยป้องกันและบรรเทาโรคริดสีดวงทวาร เส้นใยมีความจำเป็นต่อระบบการย่อย ทำให้เกิดมวลมากสำหรับการขับถ่าย





Create Date : 10 มิถุนายน 2550
Last Update : 10 มิถุนายน 2550 23:54:42 น. 0 comments
Counter : 294 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

killhack
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add killhack's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.