|
![](../template/theme/6/images/02diary_14.gif) |
![](../template/theme/6/images/02diary_16.jpg) |
![](../template/theme/6/images/02diary_18.gif) |
![](../template/theme/6/images/02diary_45.jpg) |
|
ประโยชน์ของอินเตอร์เน็ต
1. ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์(Electronic mail=E-mail) เป็นการส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตโดยผู้ส่งจะต้องส่งข้อความไปยังที่อยู่ของผู้รับ และแนบไฟล์ไปได้
2. เทลเน็ต(Telnet) การใช้งานคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่งที่อยู่ไกล ๆ ได้ด้วยตนเอง เช่น สามารถเรียกข้อมูลจากโรงเรียนมาทำที่บ้านได้
3. การโอนถ่ายข้อมูล(File Transfer Protocol ) ค้นหาและเรียกข้อมูลจากแหล่งต่างๆมาเก็บไว้ในเครื่องของเราได้ ทั้งข้อมูลประเภทตัวหนังสือ รูปภาพและเสียง
4. การสืบค้นข้อมูล (Gopher,Archie,World wide Web) การใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ตในการค้นหาข่าวสารที่มีอยู่มากมาย ใช้สืบค้นข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ทั่วโลกได้
5. การแลกเปลี่ยนข่าวสารและความคิดเห็น(Usenet) เป็นการบริการแลกเปลี่ยนข่าวสารและแสดงความคิดเห็นที่ผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตทั่วโลก แสดงความคิดเห็นของตน โดยกลุ่มข่าวหรือนิวกรุ๊ป(Newgroup)แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน
6. การสื่อสารด้วยข้อความ (Chat,IRC-Internet Relay chat) เป็นการพูดคุย โดยพิมพ์ข้อความตอบกัน ซึ่งเป็นวิธีการสื่อสารที่ได้รับความนิยมมากอีกวิธีหนึ่ง การสนทนากันผ่านอินเทอร์เน็ตเปรียบเสมือนเรานั่งอยู่ในห้องสนทนาเดียวกัน แม้จะอยู่คนละประเทศหรือคนละซีกโลกก็ตาม
7. การซื้อขายสินค้าและบริการ(E-Commerce = Electronic Commerce) เป็นการซื้อ - สินค้าและบริการ ผ่านอินเทอร์เน็ต
8. การให้ความบันเทิง (Entertain) บนอินเทอร์เน็ตมีบริการด้านความบันเทิงหลายรูปแบบต่างๆ เช่น รายการโทรทัศน์ เกม เพลง รายการวิทยุ เป็นต้น เราสามารถเลือกใช้บริการเพื่อความบันเทิงได้ตลอด 24 ชั่วโมง
![](//www.bloggang.com/emo/emo35.gif) ![](//www.bloggang.com/emo/emo35.gif)
Create Date : 09 กรกฎาคม 2552 | | |
Last Update : 9 กรกฎาคม 2552 10:57:01 น. |
Counter : 4104 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
อินเตอร์เน็ต หมายถึง
อินเทอร์เน็ต (Internet) หมายถึง เครือข่ายคอมพิวเตอร์นานาชาติ ที่มีสายตรงเชื่อมต่อไปยังสถาบันหรือหน่วยงานต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้ทั่วโลก. ผู้ใช้เครือข่ายนี้สามารถสื่อสารถึงกันได้ทางอีเมล์ สามารถสืบค้นข้อมูลและสารสนเทศ รวมทั้งคัดลอกแฟ้มข้อมูลและโปรแกรมมาใช้ได้. อย่างไรก็ตาม มีผู้เปรียบเทียบว่า อินเทอร์เน็ตเป็นเหมือนทางหลวงระหว่างประเทศ แต่ละประเทศจะต้องมีถนนเข้ามาเชื่อมต่อเข้าไปในประเทศ กล่าวคือ จะต้องมีเครือข่ายภายในรับช่วงต่ออีกทอดหนึ่ง (เช่น เครือข่ายภายในมหาวิทยาลัย, องค์กร หรือเครือข่ายของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต) มิฉะนั้นก็จะใช้ไม่ได้ผล
![](//www.bloggang.com/emo/emo9.gif) ![](//www.bloggang.com/emo/emo9.gif)
Create Date : 09 กรกฎาคม 2552 | | |
Last Update : 9 กรกฎาคม 2552 10:56:12 น. |
Counter : 85171 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
Private IP Address
สำหรับ Network ภายในทไมไ่ด้เชื่อมต่อกับ internet โดยตรง เราสามารถใช้ Address ที่ขึ้นต้นด้วย IP Address เหล่านี้ Address ดังกล่าวจะถูกสงวน (reserved) ไว้สำหรับใช้ใน Network ภายในเท่านั้น
ช่วงของ IP Address Class ของ Network จำนวนของ Network ที่เป็นไปได้ 10.0.0.0 - 10.255.255.255 A 1 Class A 172.16.0.0 - 172.31.255.255 B 16 Class B 192.168.0.0 - 192.168.255.255 C 256 Class C
Create Date : 08 กรกฎาคม 2552 | | |
Last Update : 8 กรกฎาคม 2552 14:04:15 น. |
Counter : 1273 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
Net ID คืออะไร
network id เป็นเบอร์ประจำเครื่อง คอมพิวเตอร์ ในวงเน็ตเวิร์ก ซึ่งสามารถแบ่งเป็น class การนำไปใช้ได้ เช่น Network ID 210.68.206.220
เวลาเราจะดูว่า ip ของเรานั้นอยู่ class อะไร ให้ดูตามนี้
class A 1. บิตแรกเป็น 0 เสมอ 2. บิตที่เหลือจะเป็น 0 หรือ 1 เหมือนกันทั้งหมดไม่ได้ 3. 8 บิตแรกจะเป็น network id 4. default net mask = 255.0.0.0 5. ใช้ในระดับประเทศ หรือองค์กรระหว่างประเทศ
class B 1. สองบิตแรกเป็น 10 เสมอ 2. บิตที่เหลือจะเป็น 0 หรือ 1 เหมือนกันทั้งหมดไม่ได้ 3. 16 บิตแรกจะเป็น network id 4. default net mask = 255.255.0.0 5. ใช้ในองค์กรหรือบริษัทใหญ่ๆ
class C 1. สามบิตแรกเป็น 110 เสมอ 2. บิตที่เหลือจะเป็น 0 หรือ 1 เหมือนกันทั้งหมดไม่ได้ 3. 24 บิตแรกจะเป็น network id 4. default net mask = 255.255.255.0 5. ใช้ในบริษัทเอกชนทั่วไป
class D 1. สี่บิตแรกเป็น 1110 เสมอ 2. บิตที่เหลือจะเป็น 0 หรือ 1 เหมือนกันทั้งหมดไม่ได้ 3. ทุกบิตจะเป็น multicast address 4. ไม่มี net mask 5. สงวนไว้ใช้กับ IP เวอร์ชั่น 6
![](//www.bloggang.com/emo/emo6.gif) ![](//www.bloggang.com/emo/emo7.gif)
Create Date : 08 กรกฎาคม 2552 | | |
Last Update : 8 กรกฎาคม 2552 14:01:01 น. |
Counter : 2071 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
การแบ่ง Subnet
ปกติมาตรฐานเรื่อง IP Address มีอยู่ 5 ระดับ 1. Classes A 2. Classes B 3. Classes C 4. Classes D 5. Classes E โดยที่เรารู้ ทั่วไป 3 ระดับ คือ Classes A , Classes B , Classes C ส่วนระดับ 4 และ 5 ไม่กล่าวในที่นี้ ลักษณะของ IP number จะประกอบด้วยตัวเลขทั้งหมด 4 ชุด แต่ละชุด จะมีค่าระหว่าง 0- 255 เป็นเลขฐาน 2 จำนวน 8 หลัก รวมตัวเลขทั้ง 4 ชุด คือ 32 หลัก 31 23 15 7 0 1100001 11100001 1000001 10011000 ----> เลขฐาน 2 193 225 129 152 ----> เลขฐาน 10 โครงสร้างของ IP Address ตามรูปข้างล่าง 31 0 Network Number Host Number IP Address Classes A มีข้อกำหนดคือ Classes A Networks Number มี 8 บิต โดย บิตที่ 31 เป็น 0 เสมอ สำหรับ Host Number มี 24 บิต ตามรูปข้างล่าง 31 23 15 7 0 Networks Number Host Number 0 0000001 00000000 00000000 00000000 01111111 11111111 11111111 11111111 1. 0.0.0 127. 255.255.255 Classes A จะมี Host Number ได้เท่ากับ 2 ยกกำลัง 24 คือ 16,777,216 Number โดย IP Address 0.0.0.0 กับ 127.0.0.0 ถูกสงวนไว้ใช้ในกรณีพิเศษ Classes A จะมี Subnet Mask คือ 255 .0 .0 .0 IP Address Classes B มีข้อกำหนดคือ Classes B Networks Number มี 16 บิต โดย บิตที่ 31 เป็น 1 บิตที่ 30 เป็น 0 เสมอ สำหรับ Host Number มี 16 บิต ตามรูปข้างล่าง 31 23 15 7 0 Networks Number Host Number 1 0 000000 00000000 00000000 00000000 10 111111 11111111 11111111 11111111 128.0 0 . 0 191.255 255 .255 Classes B จะมี Host Number ได้เท่ากับ 2 ยกกำลัง 16 คือ 65536 Number Classes B จะมี Subnet Mask คือ 255 .255 .0 .0 IP Address Classes C มีข้อกำหนดคือ Classes C Networks Number มี 24 บิต โดย บิตที่ 31 เป็น 1 บิตที่ 30 เป็น 1 บิตที่ 29 เป็น 0 เสมอ สำหรับ Host Number มี 8 บิต ตามรูปข้างล่าง 31 23 15 7 0 Networks Number Host Number 1 1 0 00000 00000000 00000000 00000000 110 11111 11111111 11111111 11111111 1. 0.0.0 127. 255.255.255 Classes C จะมี Host Number ได้เท่ากับ 2 ยกกำลัง 8 คือ 256 Number Classes C จะมี Subnet Mask คือ 255 .255 .255 .0 จากรายละเอียดที่กล่าวมาทุกเท่ารู้เรื่องเกี่ยวกับ IP Address พอสมควรแต่ถ้าเราเจอโจทย์ว่า มีคอมพิวเตอร์ 2 เครื่องโดยมีค่า IP address ตามรูปล่างข้าง ![](//www.bloggang.com/data/kawaiicas/picture/1247035826.gif) จากรูปเราสามารถนำค่า IP Address มาแทนค่าในสูตร สูตรการคำนวณ Network ID + Subnet ID = IP Address ( and ) Subnet Mask HOST = IP Address And ( not ( Subnet Mask ) ) ก่อนที่เราจะแทนค่าตัวเลขในสูตรเราจะต้องแปลงเลข IP Address จากเลขฐาน 10 เป็นเลขฐาน 2 โดยนำกำลังของเลขฐานสองที่เป็น 1 มาบวกกันจะได้เลขฐานสิบ จากตัวอย่างข้างล่าง 128 64 32 16 8 4 2 1 <---- กำลังเลขฐาน 2 เลขฐาน 2 ----> 1 0 1 0 0 0 0 0 เลขฐาน 2 ที่เป็น 1 มี 2ค่าคือ 128 กับ 32 นำมาบวกจะได้ 160 เป็นเลขฐานสิบ IP =160.223.1.8 เลขฐานสิบ 10100000 . 11011111 . 00000001 . 00000100 Subnet Mask = 255.255.0.0 เลขฐานสิบ 111111111 . 111111111 . 00000000 . 00000000 Network ID_ Sunnet ID = 10100000 11011111 00000001 00000100 AND 11111111 11111111 00000000 00000000 10100000 11011111 00000000 00000000 ----> ผลลัพธ์ 160 . 223 . ----> Network Number หมายเหตุในการ AND ของเลขฐานสอง ถ้ามีเลข 0 ผลลัพธ์จะได้ 0 , ต้องเป็นเลข 1 ทั้ง 2 เลขผลลัพธ์จะได้ 1 IP = 160.223.200.3 เลขฐานสิบ 10100000 . 11011111 . 11001000 . 00000011 Subnet Mask 255.255.0.0 เลขฐานสิบ 111111111 . 111111111 . 00000000 . 00000000 Network ID_ Sunnet ID = 10100000 11011111 11001000 00000011 AND 11111111 11111111 00000000 00000000 10100000 11011111 00000000 00000000 ----> ผลลัพธ์ 160 . 223 . ----> Network Number จากการคำนวณทราบว่าค่า Networks Number 160 . 223 . อยู่ใน Networks เดียวกัน แสดงว่า IP =160.223.1.8 Subnet mask = 255.255.0.0 กับ IP = 160.223.200.3 Subnet mask = 255.255.0.0 รู้จักกัน
![](//www.bloggang.com/emo/emo3.gif) ![](//www.bloggang.com/emo/emo3.gif)
Create Date : 08 กรกฎาคม 2552 | | |
Last Update : 8 กรกฎาคม 2552 13:51:31 น. |
Counter : 2107 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
|
|
|
|
![](../template/theme/6/images/02diary_46.jpg) |
![](../template/theme/6/images/02diary_56.gif) |
![](../template/theme/6/images/02diary_57.jpg) |
![](../template/theme/6/images/02diary_58.gif) |
|
|