|
|
 |
 |
 |
 |
| |
|
คำนวณหา Subnet
หลักการพื้นฐานของการทำ Subnet
หลักการทำงานมีอยู่ว่า เราจะต้องยืม bitในตำแหน่งที่แต่เดิมเคยเป็น Host Address มาใช้เป็น Sub-network Address ด้วยการแก้ไขค่า Subnet mask ให้เป็นค่าใหม่ที่เหมาะสม
สูตรการคำนวณ 2 ยกกำลัง n - 2 = ??ู
การวางแผน คำนวณ Subnet
1. หาจำนวน Segment ทั้งหมดที่ต้องการ Subnet address จำนวนใน Segment ในที่นี้ นับจำนวน network ที่อยุ่ในแต่ล่ะฝั่งอขง Router หรือของ switch Layer 3 หรือ หากมีการ implement VLAN จะนับจำนวนของ VLANก็ได้ 2. จำนวนเครื่อง computer ทั้งหมดในแต่ล่ะ Segment (ในที่นี้เราสมมุติ ว่าจำนวนเครืื่อง มีจำนวนใกล้เคียงกัน)
3. หาจำนวน bit ที่จะต้องยืมมาใช้เป็น Subnet Address โดยพิจารณาจาก ข้อ.1 และ ข้อ.2 โดยอาศัยสูตรง่าย ๆ ถ้ายืมมาจำนวน x bit แล้ว ถ้านำเอา 2 มายกกำลังด้วย x แล้ว หักลบออกอีก 2 แล้วได้ค่ามากกว่า หรือ เท่ากับจำนวน Subnet address ที่เราต้องการ ขั้นต่อมา ก้ต้องนำ bit ที่เหลือจากการยืมมา
เข้าสูตรเดิมคือ 2 ยกกำลัง n -2 = ??
4. นำ subnet mask ที่ได้มาคำนวณร่วมกับหมายเลข Network Address เดิมเพื่อหา Subnet Address ทั้งหมดที่เป็นไปได้ เพื่อที่จะนำไปกำหนดให้กับ Network แต่ล่ะ Segment 5. คำนวณหมายเลข IP Address ที่เป็นไปได้ทั้งหมดในแต่ล่ะ Subnet แล้วนำไป กำหนดให้กับเครื่อง computer เครื่อง server และแต่ล่ะ interface ของ router จนครบ ตัวอย่างการคำนวณ นะค่ะ Network Address 192.168.100.0 Subnetmask 255.255.255.192 (/26)
| Create Date : 08 กรกฎาคม 2552 | | |
| Last Update : 8 กรกฎาคม 2552 13:45:12 น. |
| Counter : 1020 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
|
Subnet Mask คืออะไร
Subnet mask เป็น Parameter อีกตัวหนึ่งที่ต้องระบุควบคู่กับหมายเลข IP Address หน้าทีของ Subnet mask ก้คืิอ การช่วยในการแยกแยะว่าส่วนใดภายในหมายเลข IP Address เป็น Network Address และส่วนใดเป็นหมายเลข Host Address ดังนั้น ท่านจะสังเกตได้ว่า เมื่อเราระบุ IP Address ให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์์ เราจำเป็นต้องระบุ Subnet mask ลงไปด้วยทุกครั้ง
| Create Date : 08 กรกฎาคม 2552 | | |
| Last Update : 8 กรกฎาคม 2552 13:46:05 น. |
| Counter : 2107 Pageviews. |
| |
|
| |
|
|
|
วิธีสังเกต ว่า IP Address อยู่ Class อะไร
ถ้า Byte แรก ซ้ายสุดเป็น ตัวเลข 1-126 แสดงว่าเป็นหมายเลข IP Address ที่อยุ่ใน Class A (IP address 127 นั่น จะเป็น Loopback Address ของ Class นี้น่ะครับหรือ ของคอมท่านเอง )
ถ้า Byte แรก ซ้ายสุดเป็น ตัวเลข 128-191 แสดงว่าเป็นหมายเลข IP Address ที่อยุ่ใน Class B
ถ้า Byte แรก ซ้ายสุดเป็น ตัวเลข 192-223 แสดงว่าเป็นหมายเลข IP Address ที่อยุ่ใน Class C
ส่วน 224 ขึ้นไปจะเป็น Multicast Address ที่กล่าวไว้ข้างต้น ส่วน IPv6. สามารถตามมาดูข้อมูลได้ที่นี่ค่ะ
//www.uploadtoday.com/download/?395b64c3aacb11c2cd009afb07faa9de

| Create Date : 08 กรกฎาคม 2552 | | |
| Last Update : 8 กรกฎาคม 2552 13:21:37 น. |
| Counter : 686 Pageviews. |
| |
|
| |
|
|
|
Class ของ IP Address
< center>
Class IP Address Network Address Host Address A w.x.y.z w x.y.z B w.x.y.z w.x y.z C w.x.y.z w.x.y z
คำถาม: ทำไมต้องแบ่งเป็น Classต่าง ๆ เพื่ออะไร เพื่อความเป็นระเบียบไงครับ ทางองค์กรกลางที่ดูแลเรื่องของ IP Address จึงได้มีการจัด Class หรือ หมวดหมู่ของ IP Address ไว้ทั้งหมด 5 Class โดย Class ของ Address จะเป็นตัวกำหนดว่า Bit ใดบ้างใน หมายเลข IP Addressที่ต้องถูกใช้เพื่อ เป็น Network Address และ Bit ใดบ้าง ที่ต้องถูกใช้เป็น Host Address นอกจากนั้น Class ยังเป็นตัวกำหนดด้วยว่า จำนวนของ Network Segment ที่มีได้ใน Class นั้น ๆ มีเท่าไร และจำนวนของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถมีได้ ภายใน Network Segment นั้น ๆ มีเท่าไร Class D Class นี้จะไม่ถูกนำมาใช้กำหนดให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ทั่วไป แต่จะถูกใช้สำหรับการส่งข้อมูลแบบ Multicast ของบาง Application
Multicast คือ เป็นการส่งจากเครื่องต้นทางหนึ่งไปยัง กลุ่ม ของเครื่องปลายทางอีกกลุ่มหนึ่ง แต่ไม่ใช่ ทุกเครืองใน Network Segment นั่น ๆ
Class E Class นี้เป็น Address ที่ถูกสงวนไว้ก่อน ยังไม่ถูกใช้งานจริง ๆ
 
| Create Date : 08 กรกฎาคม 2552 | | |
| Last Update : 8 กรกฎาคม 2552 13:18:57 น. |
| Counter : 706 Pageviews. |
| |
|
| |
|
|
|
|
| |
|
 |
 |
 |
 |
|
|