ปะป๊าหม่าม๊าทำทุกอย่างเพื่อหนูนะจ๊ะ คนดี

กิจกรรมปิดภาคเรียน (เตรียมอนุบาล) ปี 2553

เมื่อวันเสาร์ที่ 20 มีนาคม 2553 เป็นวันงานโรงเรียน วันปิดภาคเรียน นักเรียนทุก ๆ ห้อง ตั้งแต่ เตรียมอนุบาล จนถึง ป.6 จะมีการแสดงบนเวที ตอนปีใหม่ กังหันก็เคยขึ้นแสดงบนเวที แต่เป็นเวทีเล็ก ตอนนั้นใส่ชุดซานต้า แต่ครั้งนี้ดูเหมือนจะเป็นงานใหญ่กว่า คุณครูซ้อมเด็ก ๆ กันเป็นเดือนก่อนวันแสดงจริง เราเองก็แอบไปดูลูกอยู่บ่อย ๆ ตอนซ้อม ก็เห็นว่าทำได้ดี แต่เด็กวัยนี้ ก็ยังต้องดูตัวอย่างจากครู ยังจำท่าได้ไม่หมด

ต้องทำท่าประกอบเพลง 2 เพลง คือ รักคือฝันไป กับ หนุ่มบาวสาวปาน ชุดที่คุณครูจัดไว้ให้ก็น่ารัก เหมือนคาวบอย เสื้อเชิ๊ตลายสก็อตสีแดงผูกเนคไทสีแดงทีคอ ใส่กางเกงยีนส์ขาสั้น และรองเท้าผ้าใบ ไม่ต้องสวมถุงเท้า

ไปดูรูปกันเลยดีกว่าค่ะ


พร้อมถึงหน้าโรงเรียนแล้ว




มาเร็วเพราะหม่าม๊าตื่นเต้น เป็นปีแรกของหนู มาถึงก่อนใคร ยังไม่มีคนเลย เลยอ้อนหม่าม๊าซื้อของเล่นให้ซะเลย



ในขณะที่รอ กินขนมไปก่อนดีกว่า เดี๋ยวหิวไม่มีแรง ถ่ายกับสาว ๆ ครับ



อะฮ้า! ขึ้นเวทีแล้ว ตื่นเต้นจัง ทำไมคนเยอะอย่างนี้นะ หม่าม๊าอยู่ไหน



เพลงขึ้นแล้ว ทำท่าตามที่คุณครูดีกว่า หม่าม๊าอยู่ไหนเนี่ย (หาหม่าม๊าอย่างเดียวเลย)



เสร็จแล้วครับ ได้ลูกโป่ง กับผ้าขนหนูผืนเล็ก เป็นของขวัญด้วย เหนื่อยมาก ร้อนด้วย ตัวเปียกเหงื่อไปหมดเลยครับ



ถึงบ้านแล้วครับ อ้อนหม่าม๊าซื้อปืนให้อีกกระบอก



ได้เห็นลูกมีความสุขและกระตืนรือร้นกับกิจกรรมที่โรงเรียนก็ทำให้เรามีความสุขค่ะ ที่ได้เห็นพัฒนาการของลูกมากขึ้น ๆ ทุก ๆ วัน เด็กน้อยที่เคยอยู่บ้าน ติดแม่ อยู่กับเราตลอด ตอนนี้เค้ากำลังเติบโตขึ้นไป มีเพื่อน มีคุณครู มีสังคมรอบข้างที่ต้องเรียนรู้

กังหัน...ยังไงหม่าม๊าก็อยู่ตรงนี้ คอยดูการเติบโตของลูกอยู่นะ หม่าม๊ารักลูกนะครับ




 

Create Date : 25 มีนาคม 2553    
Last Update : 25 มีนาคม 2553 2:17:01 น.
Counter : 1059 Pageviews.  

น้องกังหันไปเที่ยวกาญจนบุรีจ้า

ก่อนกลับมาจากกรุงเทพฯ เมื่อเดือนก่อน มีโอกาส ป๊าพาไปเที่ยวกาญจนบุรี ไม่ไกลเลย เพราะบ้านอยู่แถวพุทธมณฑล ขับรถไปไม่เกิน 2 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว สนุกดีค่ะ บรรยากาศดี อาหารอร่อย ค่าที่พักก็ไม่แพงมาก คราวนี้ไปพักที่ Felix ค่ะ ไปดูรูปกันเลยนะ

รูปแรกก็เป็นอนุสาวรีย์ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่พวกเราแวะก่อนที่จะทานอาหารและเข้าโรงแรมค่ะ



นอกจากอนุสาวรีย์ก็ยังมีพิพิธภัณฑ์เล่าประวัติเรื่องราวของสถานที่แห่งนี้ด้วยค่ะ








แล้วก็มีไก่ชนเต็มไปหมดเลยค่ะ เจ้ากังหันชอบใหญ่เลย ไปวิ่งเล่นจับไก่ใหญ่เชียว




หน้าตาของโรงแรมที่ไปพักค่ะ ใช้ได้เลย ครบวงจรค่ะ




กิจกรรมที่ขาดไม่ได้เลย สำหรับเด็กวัยซน ก็คือ ว่ายน้ำนั่นเองค่ะ




โรงแรมมีสวนใหญ่มากค่ะ อยู่ติดแม่น้ำแควด้วย บรรยากาศดีมากเลยค่ะ อากาศช่วงที่ไปก็ไม่ค่อยร้อน พาเจ้ากังหันไปเดินเล่นค่ะ




เดินจนเมื่อย ดูสิคะ งอแงจะให้อุ้มอีกล่ะ



พออุ้มเสร็จดีใจ ก็ทำท่าแบบนี้แหละค่ะ




มัวแต่ยุ่งกับลูกวัยซน จนเหนื่อย เลยไม่ค่อยได้ถ่ายรูปสถานที่ไว้มากเท่าไหร่ค่ะ ใน trip นี้ เลยฝากไว้ได้แค่ภาพเจ้ากังหันจอมซนเท่านั้นเอง ขอลาไปด้วยภาพประทับของครอบครัว ที่มีวิวสะพานข้ามแม่น้ำแควเป็นฉากหลังนะคะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ




 

Create Date : 05 ตุลาคม 2551    
Last Update : 5 ตุลาคม 2551 10:41:49 น.
Counter : 689 Pageviews.  

สำหรับคนที่ต้องการให้ลูกหย่านมแม่ลองอ่านดูค่ะ

*** สำ หรับ คน ที่ ต้อง การ ให้ ลูก หย่า นม แม่ - ลอง อ่าน ดู นะ คะ ***

ตอนนี้เจ้ากังหันก็ได้ขวบกะสามเดือนแล้ว ทานอาหาร 3 มื้อ ได้ดี แต่ทานนมไม่เยอะ ทานแค่ครั้งละ 4 ออนซ์ วันละ 3 ครั้ง เท่านั้น นอกจากนั้นก็ดูดนมแม่ ยังไม่ยอมเลิกค่ะ เวลาที่จะดูดก็คือ ก่อนนอน ทั้งกลางวันและกลางคืน และก็ตอนกลางคืนที่ตื่นขึ้นมาประมาณ 1-2 ครั้งค่ะ

ตอนเจ้ากังหันครบขวบ ก็เคยคิดที่จะหักดิบไม่ให้ดูดแล้ว เพราะเห็นว่าโตแล้ว และไม่อยากให้ตื่นมาตอนกลางคืน ลองไม่ยอมให้ดูดดู แค่วันแรกเท่านั้น ร้องบ้านแตก แถมร้องจนอ้วกแตกด้วย สรุปไม่สำเร็จ แค่วันนั้นวันเดียว ก็เข็ด สงสารลูกมาก เลยไม่ได้คิดเรื่องนี้ไปพักนึง

จนมาตอนนี้เห็นว่า อยากให้เลิกนมแม่ได้ก่อนขวบครึ่ง เลยหันมาคิดเรื่องนี้อีกครั้ง พอไป search หาข้อมูล ก็ได้พบกับกระทู้นึง ขออนุญาตลอกมาให้ได้อ่านกันนะคะ

----------------------------------------------------------------------------------------------
หย่านมแม่อย่างไรดี


คำถาม :

รบกวนขอปรึกษา ว่าจะหยุดนมแม่ด้วยวิธีใดดี เนื่องจากตอนนี้ลูกอายุ 2 ขวบ 4 เดือนแล้ว แต่ยังไม่ยอมเลิกนมแม่ มีคนแนะนำให้ใช้บอระเพ็ดทาหัวนมเพื่อเวลาลูกดูดแล้วขมและจะเลิกไป แต่ตัวดิฉันเองรู้สึกสงสารลูกหากจะทำแบบนั้น อยากให้เขาเลิกด้วยความทรงจำที่ดี อีกไม่กี่เดือนลูกต้องเข้าเรียนเตรียมความพร้อมแล้ว จึงรู้สึกเป็นห่วงเขา อยากจะช่วยให้เขาเลิกนมแม่ได้อย่างมีความสุข รบกวนแนะนำด้วยค่ะ ต้องการคำแนะนำมากค่ะ

คุณแม่ลูกโอ๊ค

คำตอบ :

ที่คุณแม่คิดว่าอยากให้ลูกได้รับความทรงจำที่ดีในการเลิกนมแม่นี่นับว่าเป็นความคิดที่น่ารักมากๆ ค่ะ แต่จะทำยังไงนี่ คงจะแนะนำลำบาก เพราะแต่ละคนก็ต่างความคิด บางคนก็ให้หักดิบ บางคนก็ไม่อยากหักหาญน้ำใจลูก โดยส่วนตัวแล้ว คิดว่าแม่ลูกน่าจะตัดสินใจร่วมกันค่ะ

จะเล่าเรื่องของตัวเองให้ฟังดีกว่านะคะ ตอนที่ตั้งใจจะหย่านมลูกคนโตตอน 1 ขวบ 7 เดือนนั้น เวลานั้นไม่ได้มีข้อมูลมากมายเหมือนเวลานี้ พอมีคนทักว่าลูกโตแล้ว น่าจะเลิกนมแม่ได้แล้ว ก็คล้อยตามได้ไม่ยาก เพราะตอนนั้นก็รู้สึกแทบจะทนไม่ไหวแล้วที่ต้องตื่นทั้งคืนให้ลูกดูดนม แม่อยากจะนอนยาวๆ ทั้งคืนแล้วล่ะลูก พอตกลงว่าจะเลิกแล้ว ก็บอกลูกว่า "ไอโกะ...หม่าม้าเจ็บมากเลยนะ เวลาที่ไอโกะดูดนมหม่าม้าแบบนี้ ไอโกะโตแล้ว พอแล้วนะ คนที่โตๆ แล้ว ไม่มีใครเขาดูดนมแม่แล้วนะ" แล้วก็ยกตัวอย่างเด็กคนอื่นๆ ที่ลูกรู้จักว่าเค้าก็ไม่ดูดนมแม่แล้วเหมือนกัน

ใช้เวลาประมาณ 3 คืน ที่อุ้มลูกเพื่อกล่อมนอน จากที่เคยดูดนมแม่หลับ ก็เปลี่ยนเป็นอุ้มแทน ระหว่างที่อุ้ม ลูกก็จะบอกว่า "ไอโอะไม่ดูด หม่าม้าเจ็บ ไอโอะไม่ดูด หม่าม้าเจ็บ" น่าสงสารมาก เมื่อลองย้อนคิดถึงเวลานั้นแล้ว ก็เป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกเลยว่า ลูกอายุแค่นั้น เริ่มเรียนรู้ที่จะอดทนต่อความต้องการของตัวเอง เพราะรู้ว่าแม่เจ็บ สรุปว่าก็เลิกได้โดยที่ไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องยากเย็นเหมือนที่ใครๆ คอยเตือนตั้งแต่แรกที่รู้ว่าเราตั้งใจจะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ไปนานๆ

แล้วรู้ไหมคะว่า จริงๆ แล้ว พอลูกหย่านมแม่แล้วนั้น คนที่ทำใจลำบากกลับเป็นแม่เสียเองค่ะ เพราะแต่เดิมที่เคยคิดว่าเป็นภาระ ทำให้เราไม่ได้หลับไม่ได้นอนนั้นเป็นความรู้สึกเพียงด้านเดียว อีกด้านหนึ่งที่เราไม่ได้นึกถึง จนกระทั่งมันหายไปแล้วเราถึงจะรู้สึกโหยหา ก็คือ ความรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ ความรู้สึกผูกพัน ในขณะที่เห็นลูกนอนอยู่ในอ้อมอกของเราแล้วก็ดูดนมแม่อย่างมีความสุข ทั้งสายตา ทั้งรอยยิ้มที่ลูกมีให้ มันเป็นความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย จนเผลอบ่นกับพ่อของลูกอีกเป็นเดือนว่า อยากให้ลูกกลับมาดูดนมใหม่จังเลย ไม่น่ารีบหย่านมเลย

ลูกวัยสองขวบกว่าแล้ว น่าจะพอมีความเข้าใจเรื่องต่างๆ พอสมควรแล้ว ลองอธิบายด้วยเหตุผล ลูกน่าจะยอมรับฟังได้ไม่ยาก เว้นเสียแต่ว่าลูกถูกเลี้ยงมาด ้วยการตามใจในทุกๆ เรื่อง แบบนั้น อาจจะลำบากหน่อยค่ะ

การหย่านมแม่ก็เป็นขั้นตอนหนึ่งในชีวิต ที่เด็กแต่ละคนจะต้องเรียนรู้ ในฐานะแม่ เราก็คงต้องพยายามให้ลูกผ่านจังหวะชีวิตช่วงนี้ไปให้ได้ในที่สุด เพราะลูกก็ต้องเติบโตไปสู่ความเป็นอิสระจากเรา และเป็นตัวของตัวเองในที่สุด

ขอให้ประสบความเร็จในการหย่านมลูกด้วยดีนะคะ

//www.breastfeedingthai.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=389490&Ntype=5

------------------------------------------------------------------------------------------------------

เป็นยังไงบ้างคะ หลังจากเราอ่านเสร็จ เราก็คิดว่า เราจะไม่หย่านมแม่โดยวิธีหักดิบล่ะค่ะ ยังไงก็สงสารเค้ามาก และเราก็มีความรู้สึกอย่างที่ว่า คือ อยากให้เค้ามีความทรงจำที่ดีค่ะ แต่ส่วนตัวก็มีเหตุผลอื่นด้วยคือ เพราะเราเป็นแม่บ้านอย่างเดียว มีเวลาให้กับลูกได้เต็มที่ และเวลาช่วงนี้กับลูกก็คงมีอีกไม่นาน เดี๋ยวโตเค้าก็ต้องเข้าโรงเรียน มีความเป็นตัวของตัวเอง บอกตรง ๆ ก็แอบหวงความรู้สึกที่ได้เห็นเค้าดูดนมจากอกเราเหมือนกันค่ะ รวมถึงความรู้สึกที่ลูกค่อนข้างติดเราด้วย เราก็ไม่คิดอะไรมาก คิดว่าเหนื่อยหน่อยตอนนี้ ลูกติดเราน่ารักดีออก เดี๋ยวพอโตขึ้น เค้าก็ต้องมีอิสระ สนใจในอย่างอื่นมากขึ้น เวลาช่วงนี้ก็มีแค่ตอน 2-3 ปีแรกเท่านั้น

อีกเหตุผลก็คือ เท่าที่เราสังเกตุ ตัวเด็กเอง เค้าก็อยากพยายามที่จะนอนหลับให้ได้ด้วยตัวเอง เพราะเวลาเราไม่ได้ให้เค้าดูดนม เห็นเค้าก็พยายามนอนกลิ้งไปมาอยู่หลายรอบ แต่สุดท้ายนอนหลับไม่สำเร็จ ก็หันมาหานมแม่อีก ซึ่งแต่ก่อนไม่เป็น พอจะนอนก็จะเอานมแม่เลย เรามองว่าเป็นพัฒนาการในการนอนอย่างหนึ่งของเค้าเหมือนกัน และบางครั้ง ถ้าเค้าง่วงมาก ๆ หรือเล่นเหนื่อย ๆ ก็เคยสามารถหลับเองได้โดยไม่ต้องพึ่งนมแม่

สุดท้ายก็เลยคิดว่า จะลองรอดูอีกซักพัก ว่าเป็นยังไง แหม บอกตรง ๆ นะคะ ทำใจลำบากจริง ๆ ค่ะ สงสารลูกค่ะ

พ่อ ๆ แม่ ๆ คิดยังไงกันบ้างคะเนี่ย




 

Create Date : 16 สิงหาคม 2551    
Last Update : 16 สิงหาคม 2551 23:49:54 น.
Counter : 3458 Pageviews.  

น้องกังหัน หย่านมแม่ ตอนกลางคืนสำเร็จแล้วค่ะ

*** ดี ใจ จัง ค่ะ ลูก ไม่ ต้อง ดูด นม แม่ ตอน ก่อน นอน และ ระ หว่าง ตื่น กลาง คืน ด้วย ค่ะ ***

มีอยู่คืนหนึ่งเมื่อประมาณสัปดาห์ที่แล้ว ลองตัดสินใจเอาลูกขึ้นนอน โดยไม่ยอมให้เค้าดูดนม กะว่าจะลองดู ปิดไฟ แล้วเค้าก็นอนหันหน้าเข้ามาตัวเราเหมือนเคย (ทำท่าจะดูดนม) แต่เราก็กอดเค้าไว้ แล้วก็ร้องเพลงกล่อม เค้าก็เริ่มงอแง พูดว่า "เน เน" เราก็บอกว่า ไม่ต้องดูดแล้วนะ นู๋โตแล้ว นอนเองได้ พูดซ้ำไปเรื่อย ๆ สลับกับ ร้องเพลงกล่อม เค้าก็เริ่มรุนแรงขึ้น ออกอาการร้องไห้ และเริ่มใช้มือล้วงเข้าไปในเสื้อ ตีเรา ลุกขึ้นมานอนคว่ำกับตัวเรา ทำทุกอย่าง เสียงร้องไห้ เริ่มดังขึ้นทุกที ทั้งน้ำมูก น้ำตาไหล ตัวเราเองบอกตรง ๆ ความรู้สึกตอนนั้นก็สงสารเค้ามาก เพราะถ้าให้เค้าดูดนมเรา เค้าจะหลับได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว เพราะเป็นความเคยชิน แต่อีกใจหนึ่งก็คิดว่า อืม ลองดูอีกหน่อย ก็เลยใจแข็ง ก็นอนอยู่นิ่ง ๆ คอยกอดเค้า และหลบการตีจากเค้าด้วย ส่วนปากก็ร้องเพลงกล่อมไปเรื่อย ๆ ไม่หยุดเลย

เค้าร้องและตีแบบนั้นอยู่ประมาณไม่เกิน 10 นาที พอเริ่มเหนื่อย ก็หยุดบ้าง แล้วก็ร้องต่อ ตลอดเวลานั้น เราก็ไม่สนใจ ร้องเพลงกล่อมไปเรื่อย ๆ สลับกับการพูดจาปลอบเค้า เวลาผ่านไปอีกประมาณไม่เกิน 10 นาที ก็เริ่มเหนื่อย นอนนิ่ง ๆ แต่ยังไม่หลับ เป็นอย่างนี้สลับไปตลอดจนครบ 1 ชั่วโมงเต็ม แล้วเค้าก็หลับไปเพราะความเหนื่อย

ตกกลางคืน ประมาณ ตี 2 ครึ่ง เค้าก็ตื่นขึ้นมา เราก็ไม่ให้ดูดนมแม่ เค้าก็ร้องไห้เหมือนอย่างตอนหัวค่ำ เราก็ทำทุกอย่างเหมือนเดิม ใช้เวลาอีก 1 ชั่วโมง สุดท้ายเค้าก็หลับไปด้วยความเหนื่อย

พอคืนที่ 2 เราก็ทำแบบเดิม เหตุการณ์ก็เป็นแบบเดิมทุกอย่าง แต่เวลาสั้นลง คือ เหลือประมาณไม่เกิน ครึ่งชั่วโมงเค้าก็หลับเองได้ พอตอนประมาณตี 1 ตื่นมา เราก็ไม่ให้ดูดนม ก็มีอาการเล็กน้อย ประมาณ 15 นาทีก็หลับเอง ร้องไม่ค่อยดังมาก

คืนที่ 3 ทำทุกอย่างเหมือนเดิม เค้าเริ่มชิน มือมาไขว่คว้าหานม แต่พอรู้ว่าไม่ได้ ก็ไม่ร้องไห้แล้ว นอนกลิ้งไปกลิ้งมา สักพักก็หลับไป ไม่เกิน 15 นาที ตลอดนั้น เราก็ร้องเพลงกล่อมไปเรื่อย ๆ สลับกับการตบก้นเบา ๆ หรือ ตบหน้าอกเบา ๆ วันนี้ดี แฮะ ไม่มีการตื่นมาตอนกลางคืนเลย มาตื่นเอารวดเดียวตอนเช้า ตี 5 เลย

คืนต่อ ๆ มา เราก็ทำเหมือนเดิม จนตอนนี้ก็ได้เกือบสัปดาห์แล้ว เค้าเริ่มเรียนรู้ที่จะนอนโดยไม่ต้องดูดนมแม่ได้สำเร็จ ยกเว้นบางวันเท่านั้น ที่อาจจะมีร้องไห้บ้าง บางวันก็ไม่ร้องเลย ใช้วิธีปิดไฟ ร้องเพลงกล่อมไปเรื่อย ๆ เค้าก็จะหลับได้เอง สังเกตุว่า การตื่นขึ้นมาตอนกลางคืน ที่เคยเป็น 2-3 ครั้ง ก็เหลือเพียงแค่ครั้งเดียว หรือ ไม่ตื่นเลย เราถือว่าดีขึ้นมาก ที่เค้าสามารถนอนได้เองโดยไม่ต้องดูดนมแม่

และคิดว่าต่อไปน่าจะค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ ส่วนตอนกลางวัน เนื่องจากไม่สามารถปิดไฟได้ ก็เลยนอนยากกว่า ยังให้ดูดนมแม่อยู่ค่ะ ว่าสักอาทิตย์หน้าจะให้หย่านมตอนนอนกลางวันแล้วเหมือนกันค่ะ

พอมาคิด ๆ ดู ก็ไม่ได้ยากมากเท่าที่คิดไว้ตอนแรก แต่ช่วงเวลาที่อยู่กับลูก ตอนเค้าร้องไห้มาก ๆ แล้วมีอารมณ์รุนแรง เราต้องอดทน และใจแข็งค่ะ เคยอ่านหนังสือเจอว่า เด็กทุกคนก็ต้องผ่านขั้นตอนนี้ไปให้ได้ การร้องไห้ไม่ได้มีผลเสียอะไรกับตัวเค้า เป็นการที่เค้าจะเรียนรู้ในการนอนได้เอง เพื่อเป็นประโยชน์ต่อตัวเค้าในอนาคตด้วยค่ะ

ถึงแม้จะคิดถึงความรู้สึกดีดีในขณะที่ลูกนอนดูดนมเรา มันช่างเป็นความรู้สึกที่ดีมากนัก แต่เวลาก็ได้ล่วงเลยมาพอสมควรแล้ว คือขวบกะสี่เดือน ลูกน่าจะได้ลองนอนด้วยตัวเองบ้าง เราก็เลยตัดสินใจลองทำดู ไม่ยากอย่างที่คิดค่ะ

เลยขออนุญาตนำประสบการณ์มาแบ่งปันนะคะ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับคุณแม่บ้างค่ะ





 

Create Date : 16 สิงหาคม 2551    
Last Update : 16 สิงหาคม 2551 23:47:59 น.
Counter : 2429 Pageviews.  

น้องกังหันไปหาหมอฟันครั้งแรก

เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว มีโอกาสได้นัดคุณหมอ พาเจ้าตัวเล็กไปตรวจฟันเป็นครั้งแรกค่ะ ช้าไปหน่อย ขวบกับสามเดือนแล้ว พอดีสะดวกไปที่โรงพยาบาลเซ็นหลุยส์ เพราะวันอาทิตย์ต้องไปวัดเซ็นหลุยส์กับอากงอาม่าอยู่แล้ว ก็เลยนัดเป็นวันเดียวกันซะเลย วันนั้น เป็นนัดคนแรก คือ 9 โมงครึ่ง ไปถึงรอคุณหมอแป๊บเดียวก็ได้เข้าห้อง คุณหมอมีจิตวิทยาที่ดีมาก ๆ คุณหมอให้แม่นั่งที่เก้าอี้คนไข้ แล้วอุ้มลูกไว้ คุณหมอก็ยังไม่ได้ตรวจฟันทันที ชวนคุยก่อน พอคุณหมอทราบว่าเพิ่งพามาตรวจฟันครั้งแรก คุณหมอก็บอกว่า ปกติแล้วมาครั้งแรกไม่ค่อยมีปัญหาอะไร คุณหมอก็จะพูดคุยให้คำแนะนำมากกว่า วันนั้นสิ่งที่คุณหมอแนะนำมาก็มีดังนี้ค่ะ

1. พยายามเลิกนมมื้อดึก ไม่ว่าจะเป็นนมแม่ หรือ นมขวดก็ตาม ถ้ายังทำไม่ได้ ก็พยายามให้ลูกดูดน้ำตาม

2. หลังทานนม หรือ ทานอาหาร ให้ทานน้ำตามทันที ทำให้เป็นนิสัย

3. ทำความสะอาดปากให้ลูกตั้งแต่ยังเล็ก ๆ ด้วยการใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดเหงือก เด็กจะรู้สึกคุ้นเคยกับการมีอะไรเข้าไปในปาก

4. หลังจากเริ่มมีฟันขึ้นแล้ว คุณหมอแนะนำว่า ให้ใช้แปรงสีฟันของเด็กที่มีด้ามจับ (เหมือนแปรงผู้ใหญ่ แต่อันเล็กกว่า) เลือกที่ขนอ่อนนุ่ม

5. ท่าที่จะแปรงให้เด็ก คือ จับเด็กนอนหงาย คุณแม่นั่งบนหัวลูก จับหัวลูกให้มั่น ไม่ให้ส่ายหัวหนีได้ เพราะเวลาแปรงจะกระทุ้งปาก ทำให้ลูกเจ็บ และเข็ดไม่ชอบการแปรงฟันไปเลย คุณหมอว่าถ้ามี 2 คนช่วยกันก็ยิ่งดี แรก ๆ ถ้าลูกร้องก็ต้องปล่อยให้ร้อง ยิ่งดีเพราะเวลาร้องลูกจะอ้าปาก หลังจากหัวลูกขยับไม่ได้แล้ว ก็ให้เอามือข้างซ้ายเผยอปากลูกออก แล้วเอาแปรงสีฟันใส่เข้าไปแปรง วิธีการแปรงก็เหมือนผู้ใหญ่ แปรงนอกใน ให้สะอาดทุกซี่

6. เทคนิค เวลาแปรงถึงแม้เราจะบังคับหัวของลูกไม่ให้ขยับ แต่มือที่ใช้แปรงฟันลูก ต้องแปรงด้วยความนุ่มนวล เบามือ แต่ให้สะอาดทุกซี่ อาจนับ 1-10 ก็ได้ พอครบก็หยุดแปรง ให้ลูกเรียนรู้ว่าพอครบ 10 แล้วเลิก แล้วต่อไป เราก็นับ 1-10 ให้ช้าลงก็ได้

7. อย่าบอกว่าไม่มีเวลา ยังไงก็ต้องแปรงฟันให้ลูกวันละ 2 ครั้ง คือ เช้ากับเย็น สำคัญมาก เพราะถ้าลูกฟันผุแล้วเป็นเรื่องใหญ่

8. ลูกจะร้องยังไงก็ต้องแปรง ถ้าทำถูกวิธี ลูกไม่เจ็บ ทำจนเป็นกิจวัตร ลูกก็จะเรียนรู้ว่า การแปรงฟันไม่มีอะไร ไม่เจ็บอะไร แป๊บเดียวก็เสร็จ

8. การทำความสะอาดฟันจะทำให้ลูกเรียนรู้ว่าฟันและปากที่สะอาดเป็นอย่างไร ให้เค้าได้เข้าใจถึงความรู้สึกของความสะอาด ไม่ใช่ในปากมีแต่นม มีแต่อาหาร ตลอดเวลา ทั้งตอนตื่นและตอนนอน

9. ให้ลูกทานนมรสจืด อย่าให้ลูกทานของหวาน ๆ ลูกอม น้ำหวาน น้ำอัดลม เพราะถ้าแปรงฟันไม่สะอาดแล้วก็มีโอกาสที่จะเกิดฟันผุได้มาก ไม่กินจะดีกว่า โอกาสเกิดน้อยกว่า

10. ช่วงเล็ก ๆ อาจใช้น้ำเกลือในการแปรงฟันให้ลูกก็ได้ ลูกก็จะได้ฝึกการผุยด้วย

11. ให้เลิกขวดนม ถ้าเริ่มทานนมจากกล่องหรือถ้วยได้ จะดีกว่า

12. สี ขนาด และโครงสร้างของฟันถูกฟอร์มมาตั้งแต่เด็กอยู่ในท้องแม่ และเป็นกรรมพันธุ์ด้วย แต่ก็สามารถจะจัดแต่งในภายหลังได้ ตอนเล็ก ๆ ไม่ต้องกังวลอะไร ให้เน้นที่ความสะอาดอย่างเดียวเท่านั้น

13. ฟันน้ำนมที่ชิดกัน มีโอกาสที่ฟันแท้เกิดจะเบียด ส่วนฟันน้ำนมที่ห่างหน่อย พอฟันแท้เกิดแล้วก็จะเรียงสวยพอดี

ที่จำได้ก็ประมาณนี้ค่ะ เลยจำมาแบ่งปันกัน ส่วนเจ้าตัวเล็กของเราโชคดี คุณหมอว่าฟันยังไม่ผุ แต่แปรงฟันไม่ค่อยสะอาด และสีฟันไม่ค่อยสวย ฟันน้ำนมก็เรียงตัวสวย แต่มีโอกาสที่ฟันแท้จะเบียดกัน คุณหมอว่าต่อไปอาจต้องใช้ไหมขัดฟันในการทำความสะอาดฟันร่วมด้วย ช่วงที่คุณหมอดูฟัน เจ้าตัวเล็กก็ร้องเล็กน้อย คุณหมอก็ตรวจอย่างเร็ว แล้วก็น่ารักไม่บังคับอะไร แล้วก็เป่าลูกโป่ง ทำเป็นรูปดาบให้เล่น ให้เค้าไม่รู้สึกกลัวค่ะ

คุณหมอก็ว่าไม่มีอะไร ให้อีก 6 เดือนมาตรวจดูอีกที ที่ให้ลูกอมฟลูออไรด์อยู่ 2-3 วัน อม 1 เม็ด คุณหมอก็ว่าให้ทำต่อไปก็ได้ แต่อย่าให้ทานมากกว่านี้ เพราะฟันจะเป็นตกกระ สีไม่สม่ำเสมอ แต่ของเจ้าตัวเล็กคุณหมอบอกว่า ไม่ใช่ แต่สีฟันเค้าไม่ค่อยสวยมากกว่า เฮ้อ หายห่วง ตอนแรกกังวลแทบตายว่าฟันลูกเราตกกระซะแล้ว

อ้อ แล้วคุณหมอก็ให้กลับบ้าน ไม่เสียตังค์เลยซักบาทด้วย

ก่อนหน้าที่จะพาเจ้าตัวเล็กไปหาหมอฟัน ก็พยายามแปรงฟันเค้านะคะ แต่ไม่ได้ทุกวัน เพราะร้องบ้านแตกเหมือนกัน แต่ตั้งแต่ไปหาคุณหมอก็เริ่มฮึดใหม่ ทำตามที่คุณหมอว่า โชคดีจัง กลับมาวันแรกก็ร้องนิดหน่อย พอหลังจากนั้นวันเดียว เค้าก็ไม่ร้องอีกเลยค่ะ เพียงแต่เราต้องใช้เวลาไม่นานนัก ถ้านานเกินไป ก็ไม่ไหว ร้องเหมือนกัน นอกจากนั้น เราก็ยังให้ลูกถือแปรงบ้าง ให้เค้าหัดแปรงเอง ได้บ้างไม่ได้บ้าง ก็ยังดีค่ะ แต่พอแปรงเสร็จเราก็เก็บแปรงเลย เพราะกลัวเค้าเล่นแรง ๆ แล้วไปกระทุ้งข้างใน เดี๋ยวเจ็บจะพาลไม่ยอมแปรงฟันอีกค่ะ

ดีใจจังหมดเรื่องกลุ้มใจไปอีกเรื่อง ตอนนี้ก็คือ ต้องพยายามงดนมแม่ตอนกลางคืน เพราะพอเค้าตื่นมาก็ยังให้ดูดนมแม่อยู่ แต่ไม่นานนะคะ แป๊บ ๆ ก็หลับ แต่คิดว่าต้องงดดีกว่า แล้วก็ต้องให้เค้าทานน้ำเยอะหน่อย หลังนมและอาหาร ก็เอาน้ำให้เค้าทาน แต่เค้าทานน้ำไม่ค่อยเยอะค่ะ

ฝากรูปเด็กแปรงฟันมาฝากให้ชมกันด้วยนะคะ





 

Create Date : 28 มิถุนายน 2551    
Last Update : 28 มิถุนายน 2551 20:55:06 น.
Counter : 535 Pageviews.  

1  2  

กังหันลู่ลม
Location :
ชุมพร Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add กังหันลู่ลม's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.