The Stories of a little me :)
|
|||
Travel | เที่ยวชิลๆ ย่านวังหลัง-ฝั่งธน บันทึกเล็ก ๆ : เรื่องราววันที่ 23กรกฏาคม 2560
ที่จริงแล้วเมื่อวันอาทิตย์สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเรามีนัดกับเพื่อนและรุ่นพี่มหาวิทยาลัยว่าจะไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ตำรวจ วังปารุสกวัน กัน เนื่องจากพิพิธภัณฑ์จะเปิดให้เข้าชมเป็นปกติได้อีกครั้งหลังจากปิดปรับปรุงโดยเริ่มเปิดตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 23 กรกฎาคม เป็นต้นไป เราตื่นเช้าเตรียมตัวเรียบร้อยแต่จู่ ๆ ก็มีไลน์จากรุ่นพี่พร้อมภาพแคปหน้าจอส่งมาในกลุ่มไลน์ใจความคือพิพิธภัณฑ์ยังคงปิดปรับปรุงถึงวันที่ 23 กรกฏาคม เป็นอันว่าทริปของพวกเราเลยล่ม
รุ่นพี่เราก็ไปเที่ยวอยุธยากับเพื่อนสนิทของเขาส่วนเพื่อนเราก็ชวนไปเที่ยววังหลังกัน ไหน ๆ ก็ตื่นแต่เช้า เตรียมตัวเตรียมกล้องพร้อมแล้วก็ไปเที่ยวเถอะ! เป็นอันตกลง... J เราพักอยู่ย่านพระราม4 เราตั้งใจว่าจะนั่งรถเมล์สาย 149 รวดเดียวจาก ถ.พระรามสี่ ไปลงแถวศิริราชแล้วเดินทะลุตลาดวังหลังเข้าไปยังจุดนัดพบกับเพื่อน แต่รอแล้วรอเล่า..สาย 149ก็ยังไม่มาสักที เลยเปลี่ยนใจเป็นนั่งรถเมล์สาย 45 ไป ท่าเรือสี่พระยาเพื่อลงเรือด่วนเจ้าพระยาธงส้มไปขึ้น ท่าวังหลัง แทน การเดินทางด้วยเรือด่วนเจ้าพระยาของเราในครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 2ในชีวิต ก็ตื่นเต้นบ้างเล็กน้อย เพราะ กลัวมีการขึ้นเรือผิดลำเกิดขึ้น 5555 แต่สำคัญกว่านั้นคือเราสนุกเวลานั่งเรือ เพราะ ได้เห็นวิวทิวทัศน์สองฝั่งแม่น้ำที่ไม่ค่อยได้เห็นในการเดินทางปกติประจำวันแถมไม่ต้องปวดหัวกับปัญหารถติดด้วย เราจึงโอเคมาก ๆ ถ้าครั้งนี้จะลองโดยสารเรือด่วนอีกJ
เรานั่งรถเมล์สาย45 มาสุดสายที่ท่าน้ำสี่พระยา(รถเมล์สาย 45 จะจอดพักที่วัดหัวลำโพงครู่หนึ่งเพื่อให้พนักงานรถเมล์ได้ลงทะเบียนบลาๆๆ เขาทำอะไรเราก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่มีบางครั้งก็จะต้องเปลี่ยนไปนั่งรถเมล์อีกคันที่มารับช่วงต่อแทนจึงเดินทางต่อไปถึงสุดสาย) ท่าเรือด่วนสี่พระยาต้องเดินเข้าทางตรอกเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ข้าง ๆ โรงแรม Royal Orchid Sheraton ก็คือลงป้ายสุดท้ายแล้วก็เดินเลี้ยวซ้ายย้อนกลับมานิดหน่อยก็จะเจอตรอกนี้อยู่ข้างโรงแรม วันนี้มีแต่เรือด่วนเจ้าพระยาธงส้มให้บริการซื้อตั๋วกับพนักงานที่ท่าเรือได้เลย ค่าโดยสาร 14 บาทตลอดสาย บางท่าเรือไม่มีโต๊ะเก็บเงินพนักงานก็ต้องไปจ่ายกับกระเป๋าเรือ แต่ซื้อที่ท่าเรือเลยก็สะดวกขึ้นเรือไปก็แค่แสดงตัวให้กระเป๋าเรือดู J
บรรยากาศบนเรือวันนี้คนเยอะพอสมควรแต่ก็ไม่เยอะแน่นเอี๊ยดเท่ากับประสบการณ์การขึ้นเรือด่วนครั้งแรกของเรานะ (ตอนขึ้นเรือครั้งแรกก็เจอระดับAdvance แล้ว ครั้งนี้เลยสบาย ๆ ^^)
(โบสถ์กาลหว่าร์ ย่านตลาดน้อยถ่ายจากบนเรือด่วนเจ้าพระยา) ถ่ายภาพบรรยากาศท้องน้ำเจ้าพระยาช่วงเวลาประมาณ 11นาฬิกา มีชีวิตชีวาสวยงามมากทีเดียว ชอบบรรยากาศสดชื่นแบบนี้ชอบท้องฟ้าสีฟ้าสดใสแบบนี้ ชอบมาก ๆ เลย J
ช็อตนี้ใกล้จะลงเรือที่ท่าวังหลังแล้วมายืนรอท้ายเรือเลยเพิ่งเห็นว่าวัดอรุณฯอยู่ตรงโน้นแน่ะ ฮื่อ..ถ่ายได้ก็ไกลไปหน่อยTT มาถึงท่าวังหลังแล้วเราก็เดินไปหาเพื่อนที่ร้านซูชิวังหลังเจ้าดัง เราไม่เคยกินมาก่อนเลยหลงเดินเข้าไปหาร้านซะลึกเลยปรากฏว่าไปคนละสาขากับเพื่อน ก็ต้องเดินย้อนกลับมาอีกสุดท้าย...ร้านอยู่ใกล้ท่าเรือนิดเดียวเอง 55555
มากินซูชิแต่ไม่มีรูปซูชินะ เพราะ หิวมาก..มาถึงก็รีบกิน ๆๆๆๆๆ ทันที กินเสร็จแล้วก็เดินช็อปเสื้อผ้ากันที่ตลาดวังหลังกันเพลินๆ เข้าร้านโน้น ร้านนี้ ก็มีแต่เสื้อผ้าและสินค้าล่อตาล่อใจ ในราคาที่พวกเราจ่ายไหวเต็มไปหมดนี่นาในจังหวะนี้ก็ช็อปกันอย่างเดียวแล้วค่ะ ถือถุงกันพะรุงพะรังไม่ได้คว้ากล้องมาถ่ายรูปแล้ว ^^
เดินลัดเลาะไปเรื่อยๆ ก็มาถึงโซนที่ติดกับวัดระฆัง เราแวะซื้อก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ร้านอร่อยก่อนจะเดินเที่ยวต่อ ซึ่งเพื่อนเราคนหนึ่งอยากไปวัดอรุณฯ ทุกคนเคยไปแต่ไม่มีใครเจนจัดเส้นทางฝั่งนี้เท่าไหร่ ถามแม่ค้าที่ร้าน..น้าเขาก็แนะนำว่า ถ้าเดินไปก็ได้แต่จะไกลหน่อย ประมาณ 2 ป้ายรถเมล์นะ โอเค...พวกเราไหวอึดค่ะ เดิน!! ตั้งใจว่าจะเดินไปวัดระฆังแล้วก็ทะลุหน้าถนนใหญ่แล้วเดินไปเรื่อย ๆ แต่ตอนนั้นเป็นช่วงบ่ายแล้วแดดแรงพอสมควร ร้อนแฮะ...เจอคุณลุงขายไอติมตัดซื้อกันสักหน่อยละกัน
ยืนกินไอติมกันเสร็จแล้วก็มั่วเส้นทางเพื่อออกไปถนนใหญ่กันต่อ ถึงถนนแล้วก็เลี้ยวซ้ายเดินเลียบฟุตบาทไปเรื่อยๆ โอ้โห...ไกลกว่าที่คิดไว้แฮะ ร้อนด้วยนั่งพักป้ายรถเมล์แป๊บ จนกระทั่งเพื่อนคนหนึ่งบอกว่า เพื่อน : เฮ้ย...กรูไม่ไหวละ รถเมล์เถอะ แล้วก็มีรถเมล์กำลังผ่านมามันก็นั่งกวัก ๆ ในเพิงป้ายรถเมล์ชั่วคราวนั้น เรา กำลังจะบอกว่า เดินอีกนิดก็ได้มั้ง... แต่ลุงคนขับก็ตาดีใจดี จอดให้พวกเรา 3คนแล้วตะโกนถามลงมาว่า ลุงคนขับรถเมล์ : ไปมั้ยคร้าบบบ ? เพื่อน : จอดขนาดนี้ไม่ไปไม่ได้แล้วแหละเมิง! แล้วพวกเราทั้งสามคนก็วิ่งกุลีกุจอขึ้นรถเมล์กันไปนั่งหอบแฮ่ก ๆ หาเหรียญกันวุ่นวาย (ก็เกรงใจลุงด้วยแหละ อุตส่าห์จอดถามพวกเรา ทั้งที่ไม่มีคนลงป้ายนี้สักหน่อย^^) น้ากระเป๋ารถเมล์ก็ใจดีช่วยบอกป้ายที่ต้องลงวัดอรุณฯให้ด้วย เสียดายที่มัวตาลายไม่ได้สังเกตว่ารถเมล์สายอะไร ไม่แน่ใจว่าใช่สาย 57 รึเปล่า J เดินกันมาถึงวัดอรุณฯแล้ว ผ่านมาหลายปีตั้งแต่สมัยมาฝึกงานจนทำงานได้เกือบ2 ปีแล้วก็ยังบูรณะไม่เสร็จ ฮ่าๆ แต่มาวันนี้โชคดีได้เห็นยอดปรางค์แล้วนะช่างเอาโครงเหล็กออกไปบ้างแล้ว
รอบนี้เราไม่ได้ถ่ายรูปวัดอรุณฯมากเท่าไหร่ เพราะยังคงเหนื่อยอยู่ ทั้งที่แสง บรรยากาศดีมาก แต่ที่จริงแล้วเราอยากถ่ายพระปรางค์แบบไม่มีโครงเหล็กมากกว่าเพราะจะได้เห็นความสวยงามอย่างชัดเจน แต่ถึงอย่างไรก็สุขใจทุกครั้งที่ได้มาที่นี่นะคะJ ถ่ายรูปหมู่ก่อนแยกย้ายกันสักครั้ง (บังเอิญใส่ชุดธีมเดียวกันโดยไม่ได้นัดหมายกันเลยนะตลกมาก)
การเดินทางกลับสู่ย่านพระรามสี่... ครั้งนี้เราไม่ได้กลับโดยการโดยสารเรือด่วนเจ้าพระยาเราตั้งใจจะกลับรถเมล์เพราะไม่ต้องเดินทางหลายต่อ เราออกมารอที่ป้ายรถเมล์หน้าปากซอยวัดเพื่อรอรถเมล์สาย 149 เพราะ เราเข้าใจว่า ถ.อรุณอัมรินทร์ตรงนี้เป็นเส้นเดียวกับศิริราช รถเมล์สายนี้ก็น่าจะผ่านเหมือนกัน แต่ที่จริงแล้ว ณจุดนี้มีผ่านแค่สายเดียว คือ สาย 57 ต่างหาก เราจึงต้องนั่งรถเมล์สาย57 ขับเลี้ยวขวาเพื่อไปลงป้ายแรกรอสาย149 ที่ ถ.อิสรภาพ ที่จริงจะเดินไปก็ได้ถ้าไม่เหนื่อย แต่วันนี้มันเหนื่อยก็เลยนั่งรถเมล์ 9 บาทเพื่อไปยังถนนเส้นโน้นละกัน และก็รอไม่นาน...รถเมล์สาย 149 ก็ผ่านมาก็เลยขึ้นรถเมล์แล้วก็นั่งยาว ๆ ไปลงพระรามสี่เลย สิ้นสุดวันนี้ด้วยความ...ความจนฮ่าๆๆๆ เพราะว่าทั้งกิน ทั้งช็อปจนเงินปลิวไปหลายร้อยทั้งที่เกือบจะสิ้นเดือนแล้วเนี่ย (สิ้นเดือนแทบสิ้นใจ) แต่เราก็มีความสุขที่ได้จ่ายได้เห็นบรรยากาศกรุงเทพในแบบที่เงียบสงบ มีชีวิตชีวาในมุมวิถีแห่งสายน้ำ ชอบวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสและพบเห็นแต่อะไรดีๆ ในวันนี้ บันทึกนี้อาจไม่มีสาระอะไรมาก แต่หวังว่าเพื่อน ๆคงได้ประโยชน์เรื่องการเดินทางบ้างไม่มากก็น้อยนะคะ ^^ J Happy Happy J
ป.ล. กลับมาถึงที่พักเพื่อพบว่าประกาศที่รุ่นพี่ส่งมาให้ดูนั้นลวงหลอก! T^T เพื่อนของรุ่นพี่อยากชวนรุ่นพี่คนนี้ไปทำบุญวันเกิดด้วยกันและรู้ว่ารุ่นพี่มีแผนจะไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ เพื่อนพี่จึงหาประกาศเก่าของพิพิธภัณฑ์ส่งมาให้รุ่นพี่แล้วรุ่นพี่ก็ส่งมาให้พวกเราอีกที โดยที่ไม่มีใครสักคนเอะใจหรือค้นหาข้อมูลใดๆ เชื่อกันง่ายมากกกกกก! สุดท้าย...วันนี้ไม่มีใครได้ไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ตำรวจวังปารุสกวัน สักคน 55555 T^T =
=;
ขอบคุณที่แบ่งปัน
โดย: Kavanich96 วันที่: 26 กรกฎาคม 2560 เวลา:4:07:31 น.
|
ณธรา
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Group Blog All Blog
Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |