Bloggang.com : joeymydear - น้องลิซ่า สาวตัวน้อย แต่แรงเกินร้อย

แบ่งๆกันอยู่ แล้วโลกเราจะน่าอยู่ขึ้นอีกเยอะ

น้องลิซ่า สาวตัวน้อย แต่แรงเกินร้อย

เรื่องของน้องลิซ่า

นั่งนึกเท้าความถึงความเป็นมาในช่วงแรกของชีวิตของน้องลิ แล้วเศร้านิดๆค่ะ เจ้าของเก่าช่างทำไปได้กับหมาตัวเล็กๆบอบบางสวยน่ารักตัวนี้

เดิมที ตอนที่ตู๋กับแฟนย้ายจากเมืองกาญจน์ อยู่ในระหว่างรองานที่ใหม่ ก็มาขอปลูกกระต๊อบ เอ๊ย มาขออาศัยกับคุณแม่แฟน ตอนนั้น มีพี่โจ กับน้องเจี๊ยบวัยกระเต๊าะ อายุซัก 2-3 เดือน

ลูกคนข้างบ้าน เห็นเราเลี้ยงหมาพูเดิ้ล ก็อยากเลี้ยงมั่ง รบเร้าแม่ตัวเองให้หามาเลี้ยงบ้าง ยัยแม่ก็ตามใจ แต่ตัวเองนั้นเกลียดหมาค่ะ

ไม่นานนัก ก็เห็นว่าเด็กข้างบ้านอุ้มน้องหมาพูเดิ้ลน่าจะมีทอยผสม เพราะตัวเล็ก แต่ไม่เล็กเท่าทอย สีเหลืองจางๆ แรกเห็นน้องลิซ่า ดูน้องลิเป็นหมาร่าเริง แอ๊คถีฝ ไม่อยู่นิ่งเลย วิ่งเล่นตลอด

ส่วนเด็กนั่น อายุประมาณช่วงประถม เล่นกับน้องลิแบบรุนแรง อุ้มแรงๆ คือ เลี้ยงไม่เป็นและผู้ใหญ่ก็ไม่สนใจดูแลว่าเด็กควรจะดูแลหมาของตัวเองแบบไหน

ทุกๆช่วงกลางวัน น้องลิ หมาตัวเล็กๆ จะถูกล่ามโซ่ ความยาวประมาณ 1 เมตร กับรั้วบ้าน ฝนตก แดดออกแค่ไหน ก็ไม่มีใครสนใจ เวลาร้อนจนลิ้นห้อย ฝนสาดจนเปียกปอนหนาวสั่น ก็ไม่มีใครสนใจ

จนเด็กนั่นกลับมาจาก ร.ร. ก็จะมาปลดโซ่เอาน้องลิมาเล่น พอเด็กนั่นเผลอ น้องลิจะวิ่งลอดรั้วออกมาแล้วปรู๊ดเข้าบ้านเราทันที ก็เข้ามาเล่น กินน้ำ กินข้าวของเจี๊ยบอย่างหิวกระหาย ตะกละตะกราม เป็นอย่างนี้จริงๆ พอมอมแมมมาตู๋ก็จับอาบน้ำให้บ้าง เพราะจะให้เล่นกับเจี๊ยบ เราก็อยากให้น้องลิสะอาด และสบายตัว

พอเด็กนึกขึ้นได้ว่าอยากเล่นกับน้องลิ ก็จะมาตามกลับบ้าน

กลางคืน น้องลินอนในกรงข้างๆบ้านอย่างโดดเดี่ยว ในขณะที่เจี๊ยบโจนอนกอดกับแม่พ่อ

ไม่นาน ตู๋กับแฟนก็ได้งานที่ตราด ช่วงที่เราไม่อยู่ น้องลิก็ยังหนีมาบ้านเราตลอด พี่สาว กับน้องสาว รวมถึงแม่แฟนก็ยังเอ็นดูและสงสารน้องลิ บางวัน เห็นแดดร้อนๆ ฝนตก ก็รีบไปปลดโซ่น้องลิ อุ้มมาบ้าน โดยไม่บอกใคร เพราะเค้าไม่สนใจอยู่แล้ว

จนวันหนึ่ง บุญของน้องลิมาถึง หมดเวรกรรมกับบ้านนั้นเสียที ยัยแม่เด็ก มาออกปากยกน้องลิให้ เพราะลูกเค้าไม่เห่อแล้ว และเค้าก็ไม่รู้จะทำยังกับน้องลิ

นอกจากออกปากยกน้องลิให้ ยังใจดียกกรงให้อีก

อาแหมะ พูดตอบไปว่า กรงน่ะ ทิ้งไปเลย หมาจะให้นอนในบ้าน

คืนนั้นที่น้องลิได้อยู่บ้านที่เข้าๆออกๆโดยผิดกม. คิดว่าน้องลิคงมีความสุขที่สุด ได้นอนบนเตียงนุ่มๆกับพี่สาวและน้องสาวแฟนตู๋

ตู๋ได้รับโทร.เล่าเรื่องราวน้องลิ เราก็ตัดสินใจกันว่า น้องลิมาเป็นลูกเรา น้องพี่โจพี่เจี๊ยบเถอะ

กลับกทม.ครั้งต่อมา น้องลิก็ได้อยู่ในอ้อมอกแม่ตู๋เรียบร้อย แล้วเราก็ไม่เคยห่างกันอีกเลย

เรื่องเศร้าๆของน้องลิก็จบไปแล้วนะคะ แต่วัยเด็กที่เจ็บปวดย่อมมีผลต่อชีวิตช่วงต่อมา ไม่ว่าจะกับคน หรือสัตว์

น้องมีนิสัยหวงของ ขี้อิจฉา รักใครก็รักมาก เกลียดใครก็เกลียดมาก เจ้าอารมณ์ จะปรี๊ดง่ายๆ นิสัยเหมือนหญิงเล็กแห่งบ้านทรายทองยังไงยังงั้น

น้องลิจะเดินตามตู๋ทั้งวัน คือต้องให้แม่อยู่ในสายตาตลอด เวลาแม่เล่นกับใคร น้องลิจะมาเลียบๆเคียงๆ ถ้าหมั่นไส้มากๆก็กัดให้ทีหนึ่ง

หมาใหญ่ๆในบ้านกลัวน้องลิค่ะ เธอเอาจริง ไม่เคยกัดเล่นๆ กัดเอาจริงๆเจ็บๆ มียอมบ้างก็กับเจ้าแตงโม ที่น้องลิดูแลเหมือนน้องชาย ตลกดี หมาพูเดิ้ลตัวกระเปี๊ยก ดูแลน้องพูเดิ้ลยักษ์ตัวเท่าหมู

กับเจ้าเบนจี้ นี่ไม่ได้เลย เธอจะชาร์จใส่ตลอด กัดแรงๆ จนเบนจี้เจอพี่ลิปุ๊บ ล้มตัวลงนอนตะแคงให้เลย

น้องลิมีปัญหาเรื่องหัวใจมาจะ 3 ปีแล้ว มีหัวใจโต และเต้นผิดจังหวะ ต้องกินยาควบคุมทุกวัน

ยาโรคหัวใจ พอกินไปนานๆ มันจะมีผลต่อตับ ตอนไปเช็คอัพต้นปี น้องลิมีค่าตับสูงมาก ต้องพาไปให้น้ำเกลือทุกวัน หมอจะแทงเข็มโตๆเข้าใต้ผิวหนังที่ไหล่บ้าง หลังบ้าง ต้นขาบ้าง ให้อยู่ 1 อาทิตย์

ค่าตับน้องลิลงมาเรื่อยๆ น้องลิก็กินยาเก่ง กินยาง่าย ไม่นานน้องลิก็ปกติ ร่าเริง เริงร่ากับชีวิต โดยไม่ต้องเจ็บอีกแล้ว

น้องลิมักจะมีเรื่องตลกในสายตาคนอื่น แต่ตัวน้องลิเองคงจะเครียดพอดู

น้องลิเป็นหมางก วันไหนกับข้าวอร่อยน่ากิน น้องลิจะพยายามกินให้มากที่สุด ถ้ามีเหลือ น้องลิจะนั่งเฝ้า ทำตาขวาง ใครเดินเฉียดชามข้าว หรือ เผลอสบตา น้องลิจะขู่ เห่าไล่ ดูแล้วเหมือนหมาโรคจิต

หรือวันไหน ยังไม่หิว แต่ก็ต้องป้องกันสิทธิ์ จะนั่งเฝ้าชามข้าวอยู่อย่างนั้น

ส่วนใหญ่ ที่น้องลิกินไม่หมด หรือ ยังไม่อยากกิน พักใหญ่ๆน้องลิเผลอ ลุกเดินตามแม่อีกแล้ว ทุกอย่างในชามข้าว จึงตกไปอยู่ในท้องของไอ้แตงโม ดังนั้น ไอ้แตงโม จึงรักและเทอดทูนพี่ลิมาก

น้องลิอายุน้อยกว่าพี่เจี๊ยบ 1 เดือน แต่ไซส์ผิดกันมากๆ อายุ ก็ย่าง 11 ขวบ
อยู่กับแม่มา 9 ปีกว่า