หลายครั้งที่เราซื้อหุ้นแล้วปล่อยหุ้นไปถึงราคาเป้าหมาย 

ขายทำกำไร เราไม่ได้ตามต่อ ทำให้เราพลาดโอกาสดีๆสำหรับการทำกำไรจากการ"วิจัย"หุ้นนั้น มาเป็นระยะเวลานาน

หรืออาจจะพลาดขาขึ้นในรอบต่อไปของหุ้นที่เราขายไปแล้ว

 เปิดมาเจออีกที ราคาขึ้นไปไกลมาก

หุ้นตัวใหม่ที่เราซื้อกลับนิ่งๆเนิบๆ ไม่ไปไหน ต้องใช้เวลาศึกษาตัวนั้นต่อ

รอกรอบเวลาใหม่ หุ้นตัวเก่าฟอร์มตัวกราฟ ทำให้เราเสียโอกาส

โอกาสจากฐานความรู้กราฟเดิมที่มีต่อตัวที่ขายไปแล้ว

โดยใช้เวลามานานเมื่ออยู่กับมัน จนขายออกไป

จนเกิดคำพูดติดปากบ่อยๆว่า

"เฮ้ย..มันจะเอาจริงหรอ"

"มาได้ไงฟะ"

แล้วทางจิตวิทยาคือ ถ้าราคาหุ้นขึ้นมากกว่าที่เราขายไปแล้ว

เราจะไม่ได้ตามนิสัยหุ้นมันต่อ

1.เพราะเราไม่มีหุ้นแล้ว

2.มันแพงเกินไป เคยเล่นที่ราคาต่ำกว่านี้

แนะนำว่า เมื่อขายหุ้นไปแล้ว ควรติดตามราคาหุ้น การตรวจดูแนวรับแนวต้านเป็นระยะ เมื่อกราฟสวยก็กลับมาเล่นอีกครั้งได้ เพราะเราเข้าใจนิสัยหุ้นตัวนั้นแล้ว

 "อย่าทิ้งฐานความรู้ตรงนี้ไป"

แล้วกำไรของเราจะเทียบเคียงกับผลตอบแทนได้ใกล้เคียงกับหุ้นตัวนั้นๆ

หรือถ้าเก่งหน่อยสามารถเอาชนะผลตอบแทนหุ้นตัวนั้นได้ จากการทำกำไรระยะสั้น สวิงเทรดได้อีก

การเทรดเราจะเข้ามือเรามากในหุ้นที่เราคุ้นเคย ไม่คร่อมจังหวะ

 ซื้อแล้วขึ้น ขายแล้วลง

ตั้งคำถามดังนี้

1.ราคาหุ้นตอบรับมานานหรือยัง

หุ้นหลายๆตัว ช่วงที่มีโครงการจะทำอะไรบางอย่างเพื่อทำให้กำไรบริษัทเพิ่มขึ้น

ราคาหุ้นจะMoveไปในทางที่ดี คือค่อยๆขึ้นแล้วตลาดลงแรงไม่ค่อยจะลงนัก

กว่าจะรู้ตัวอีกที ขึ้นมาแล้ว30%

ข่าวประกาศผลประกอบการ ราคาขึ้นอีกครั้งตามการคาดการณ์นักวิเคราะห์

เรียกได้ว่า ข่าวดีรับรู้ไปแล้ว

วันใดที่ประกาศผลประกอบการโตมหาศาล วันนั้น อาจจะเป็นวันที่ควรขายหุ้นออก

หรือที่เรียกว่า Sell on fact

ในทางกลับกัน เมื่อราคาหุ้นลงแรงมากแบบเปิดกระโดดแรงลง แล้วก็ซึมลงเรื่อยๆ

ข่าวสารยังไม่ถึงเรา แต่กว่าจะรู้ Portก็ลบไปแล้ว 30%+

บางท่านอาจรองบการเงินออก

สายกราฟทางเทคนิคคงAction First,ask later ขายไปก่อน หาข่าวทีหลัง

การมาขายตอนประกาศงบขาดทุนมหาศาลและราคาลงไปมากแล้วในระดับ30%

ถือว่าไม่ควรจะขาย กรณีเชื่อว่าพื้นฐานไม่เปลี่ยน

เราควรที่จะสวนทาง คือ ข่าวโหมมากจนคนไม่อยากจะถือมัน เรียกว่าได้รับรู้ไปแล้วกับราคา

นั่นคือ Buy on fact, hope the foward eps---can possible eps

2.ข่าวดีที่หวือหวา กำไรมหาศาลแค่ครั้งเดียว แบบนี้เมื่อราคาเปิดโดดมา เราก็จำเป็นที่จะขายออก

เพราะสุดท้ายมันเป็นกำไรแค่ครั้งเดียว หรือโครงการใหญ่ที่สุดที่เคยทำมา แต่ไม่ได้บอกว่าครั้งต่อไปกำไรจะมหาศาลขนาดนี้

โดยส่วนใหญ่บริษัทน่ากลัวคือ กำไรแต่ละปีไม่เท่ากัน เพิ่มทุนบ่อยครั้ง และช่วงเศรษฐกิจแย่ บริษัทลงหนักกว่าบริษัทอื่น

3.ข่าวดีแบบSentiment -เฟด,ธปท,Boj,จีน,EU

มีได้สองกรณี

- เปิดบวกโดด จากซึมมานาน แบบนี้ควรตามซื้อ

-เปิดบวกโดด จากขึ้นมาเยอะ แบบนี้ควรซ้ำขาย

4.ข่าวร้าย

-ข่าวร้ายที่กระทบSentiment แต่ไม่กระทบผลประกอบการ---น่าเข้าซื้อ

-ข่าวร้ายที่กระทบโครงสร้าง---น่าขาย

โชคดีครับ

 หุ้นที่เน้นรับเงินปันผลล้วนๆ

 ราคาหุ้นที่ลากขึ้นมาเพื่อวิ่งรับข่าวการจ่ายปันผลสูง จะตกลงหลังจ่ายเงินปันผลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

สไตล์การลงทุนคือ รอซื้อแถวๆช่วงสิ้นปีหรือต้นปี แล้วรอขายช่วงประกาศจ่ายเงินปันผล

หุ้นที่มีStoryและGrowthของกำไรบริษัท Storyที่รองรับ

ราคาหุ้นที่ลากขึ้นมา จะตกลงพร้อมเงินที่จ่ายปันผล แต่ตกลงไม่นาน เพราะมีGrowthบริษัทรองรับ

แล้วราคาหุ้นอาจจะกลับไปที่เดิมหรือทำราคาHighต่อไป เรียกว่าเราได้เงินปันผลฟรี พร้อมกับส่วนต่างที่เพิ่มขึ้นมา

หุ้นจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล

จากการขายกิจการ/ขายบริษัท/ที่ดิน แล้วนำเงินมาปันผล

ราคาหุ้นอาจจะขึ้นมากกว่าเงินปันผลที่จ่าย การเข้าซื้อหุ้นควรระมัดระวังเพราะเป็นการเก็งกำไรล้วนๆ

เพราะพอหมดการจ่ายปันผลแล้ว ราคาก็ลงสู่สามัญคือพื้นฐานบริษัท

SET ตอนนี้น่าหวั่นใจดีนะ การย่อทุกครั้งทำให้ทั้งคนLongและShortหวั่นใจ

จะโดนMargin CALLเมื่อตลาดเปิดอีกวัน

หรือจะเล่นยากสำหรับขาLong ในวันที่เปิดโดดตอนเช้า

เราทำได้เพียงManage Riskดีๆ

Bearish reversal candlesticks and patterns suggest that buying pressure was suddenly overturned and selling pressure prevailed. Such a quick reversal of fortune indicates overhead supply and a resistance level may form.

The hanging man, long black candlestick and black marubozu signify increased selling pressure rather than an actual reversal. After an advance, the hanging man's long lower shadow indicates intra-session selling pressure that was overcome by the end of the session. Even though the security finished above its low, the ability of sellers to drive prices lower raises a yellow flag. The long black candlestick and black marubozu signify sustained selling pressure that moved prices significantly lower from beginning to end. Such intense selling pressure signals weakness among buyers and a resistance level may be established.

The doji and spinning top show indecision and are generally considered neutral. These non-reversal patterns indicate decreased buying pressure, but no noticeable increase in selling pressure. For an advance to continue, new buyers must be willing to pay higher prices. As noted by the spinning top and doji, a standoff shows lack of conviction among buyers and a possible resistance level.

Note: All of the above patterns will be covered in this candlestick series in the next week or two.

In late May, Veritas (VRTS) advanced from 90 to 140 in about two weeks. The final jump came with a gap up and two doji. These doji marked a sudden stalemate between buyers and sellers, and a resistance level subsequently formed. After a resistance test in mid June, another doji formed to indicate that buyers lacked conviction. This led to a decline and subsequent reaction rally in early July. The advance carried the stock from 105 to 140, where another doji formed to confirm resistance set in early June.

Lucent (LU) traded in a range bound by 53 and 42 for about 4 months. Resistance was first established in late April with a shooting star and dark cloud cover. Both of these bearish reversals were confirmed with a gap down two days later and a test of resistance at 52. As the stock neared support at 42, candlesticks with long lower shadow started to form and a reversal occurred at the end of May. After a sharp advance, resistance was met at and another dark cloud cover formed at resistance in early June. Buyers clearly lacked conviction near 53 and sellers were all too eager to unload their stock. A final resistance test occurred in mid July. After a breakout above 53, the stock reversed course and closed back below 52. The rest is history.

After a spring advance, Delta Air Lines (DAL) first established resistance at 57 in early April with the high of a shooting star. The stock declined sharply, but rebounded to test resistance at 57 again in May. While at resistance in May, a whole slew of shooting stars formed as well as the odd spinning top and long legged doji. The decline that broke below 56 confirmed these as bearish and the stock tested support around 50. After another advance to 57, the stock appeared to be on the verge of a breakout. However, a small white candlestick formed in mid July (black circle). The gap up may have been a positive, but the lack of follow through signaled by the small white candlestick raised the yellow flag. The subsequent gap down formed a bearish evening star and the stock fell back to support again.