10 ต.ค. 2557,7.00 a.m. เช้านี้ตื่นขึ้นมาเตรียมตัวบุกวังแต่เช้า พอได้เวลาก็ไปตุนพลังงานกันก่อนที่ห้องอาหารโรงแรมหลังจากนั้นเราก็ข้ามแม่น้ำเหืองไปฝั่งวังโบราณที่เป็นวังของพระเจ้าเบ๋าได๋แห่งราชวงศ์เหงียน ราชวงศ์สุดท้ายของเวียดนาม ชื่อวังได่โหน่ย เป็นมรดกโลกด้วย มีกำแพงรอบนอกป้องกันตัวพระราชวังแล้วมีน้ำล้อมรอบอีกชั้น ออกแบบเลียนแบบวังหลวงของจีนในสมัยนั้น ช่วงที่เราไปมีการซ่อมหน้าวังพอดี เลยมีผ้าปิดถ่ายรูปไม่ได้ แต่น่าจะสวยมาก
ก่อนเจอวังต้องเจอป้อมก่อน ขอโดดหน่อย ต้องลอดประตูเมืองนี้เพื่อเข้าวัง เข้ามาเป็นทางเดินกว้าง สุดทางเป็นซุ้มประตูมีพระอาทิตย์อยู่ข้างบน เข้ามาก็เจอตำหนักนี้ก่อนเลย ข้างในไม่มีอะไร ก็เลยไม่ได้แวะ เมื่อก่อนตำหนักเยอะและอลังการมาก แต่ปัจจุบันเหลือน้อยแล้ว ..ดูวิวรัวๆละกัน.. กำแพงแบ่งส่วนหน้ากับส่วนใน ยาวมากกกก โล่ง.. โล๊ง โล่ง ไว้ใส่น้ำเผื่อตอนไฟไหม้ ทางเดินไปตำหนักต่างๆ มีตำหนักเล็กๆ กระจายอยู่ทั่วไป ป้ายตำหนักเป็นภาษาจีนดั้งเดิม ซุ้มประตูหรูมาก พื้นที่กว้างขวาง เดินเหนื่อยเหมือนกันนะเนี่ย พออกจากวังเราก็ไปวัดเทียนมู่ เป็นวัดพุทธแบบจีนนิกายมหายาน มีเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยมและเต่าแบกศิลาบันทึกรายชื่อของจอหงวนไว้แสดงถึงเกียรติยศอย่างสูง ที่วัดนี้มีรถออสตินของอดีตเจ้าอาวาสที่เผาตัวเองที่ไซ่ง่อนประท้วงไม่ยอมเปลี่ยนศาสนาในสมัยสงครามด้วย เป็นสิ่งของสำคัญทางประวัติและการเมืองของประเทศเวียดนามเลยทีเดียว เจดีย์ทรงเก๋ง 8 เหลี่ยม 7 ชั้น มีเจดีย์ต้องมีโพสต์ โพสต์ด้วย "ฉันแบกรายชื่อจอหงวนอยู่จ้ะ" เต่าบอก ทวารบาลโดนถูจนมันแว๊บ พระประธานในศาลา เจ้าอาวาสเผาตัวเองในรถคันนี้ บริเวณรอบๆ หลังจากออกมาจากวัดเราก็นั่งพักเหนื่อยในรถพร้อมๆ กับชมวิวทะเลตามทางไปดานังเพื่อผ่านไปฮอยอัน การไปฮอยอัน เราต้องลอดอุโมงค์ที่เจาะทะลุเขา อุโมงค์นี้ชื่อไหวาน ไกด์บอกว่าคนเวียดนามเรียกอุโมงค์ว่า หำ พอได้ยินอย่างนี้ คนก็ฮากันทั้งรถ นั่งไปอีกแป๊บ ก็พาลงยืดเส้นยืดสายที่ร้านขายหินอ่อน ซึ่งเป็นของขึ้นชื่ออีกอย่างของเมืองดานังที่เป็นเมืองริมทะเลนอกเหนือจากไข่มุกกับซีฟู๊ด หินอ่อนแกะเป็นสาวๆ เหมือนคนมาก แต่ละชิ้น ใหญ่อลังการงานละเอียดมาก ในที่สุดก็มาถึงแล้ว ฮอยอัน เมืองมรดกโลก.. ฮอยอันเป็นเมืองที่มีสถาปัตยกรรมหลายชาติรวมกันเพราะมีคนหลายเชื้อชาติอยู่ด้วยกัน ทั้งคนท้องถิ่น คนจีน คนญี่ปุ่น แล้วยังมีสถาปัตยกรรมที่ได้มาจากการเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศสอีกด้วย ทำให้เมืองนี้ มีบ้านเรือนและการจัดผังเมืองที่รวมความสวยงามของหลายๆ เชื้อชาติไว้ได้อย่างลงตัว
สะพานญี่ปุ่น Landmark ฮอยอัน เชื่อมฝั่งจีนกับฝั่งญี่ปุ่น ข้างบนเป็นศาลเจ้า คนล้านแปด เห็นแค่ป้ายศาลเจ้า ถ่ายข้างในไม่เห็น บนคานก็มีตัวอักษรเขียนไว้ หัวสะพานจะมีรูปปั้นลิงกับหมา แสดงให้เห็นว่าเริ่มสร้างปีลิง สร้างเสร็จปีหมา ข้ามสะพานมาก็เป็นถนนช๊อปปิ้ง ทุกร้านแต่งร้านได้อย่างน่ารักมาก เรามาถึงฮอยอันก็เย็นมากแล้ว เลยต้องรีบๆ เที่ยว เราเดินตามถนนนี้ไปเรื่อย ก็เจอวัดจีนแฝงตัวอยู่ แล้วพอออกมาจากวัดเราก็เดินต่อไปเที่ยวบ้านโบราณที่เปิดให้เข้าไปเที่ยวชม บ้านนี้อายุร้อยกว่าปี สร้างแบบจีนโบราณ มีเปิดหลังคาโล่ง ตรงกลางบ้าน เพื่อรับพลังหยินหยาง หลังจากนั้นเราก็เดินเที่ยวไปเรื่อย พอมืดพี่ไกด์ก็พากลับไปนอนที่ดานัง ทำให้เราอดเสียดายไม่ได้ว่าทำไมไม่ให้นอนที่ฮอยอันจะได้ออกไปท่องราตรี
บ้านสไตล์จีนโบราณ ขายของประเภทงานศิลป์ งานประดิษฐ์ ในวัด มีบูชาพระด้วยธูปที่เป็นวงๆ วนขึ้นไป ตอนเข้าไม่ได้ถ่าย ถ่ายตอนออกก็ได้ ในบ้านตกแต่งด้วยเครื่องเรือนโบราณ และมีคำมงคลเขียนไว้เป็นตัวจีนโบราณ ตกแต่งบ้านด้วยงานปั้น ปราณีตสุดๆ ดานัง ที่นอนคืนนี้..
Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2560 |
Last Update : 6 มีนาคม 2560 10:08:01 น. |
|
17 comments
|
Counter : 913 Pageviews. |
|
|
ข้อดีของการเที่ยวเอง
คือเราสามารถถ่ายรูปเดินดูสิ่งต่างๆได้อย่างเต็มที่เลยนะครับ
ส่วนใหญ่ผมไปกับทัวร์
เวลามีจำกัด
บางทียังดูไม่เสร็จดีเลย
ไกด์เรียกขึ้นรถซะแล้ว 5555