Happy Morning : ยิ้มกว้างรับยามเช้า
space
space
space
space

China ณ. วันที่หนาวยิ่งกว่าจุดเยือกแข็ง #3 : กู้กง สวนจิ่งซาน เทียนถาน ตลาดรัสเซีย

#ขออภัย รูปไม่ชัด


9 Jan 2016 , 06:20 AM ,-7 °c


พอหกโมงเราก็ตื่น เข้าห้องน้ำ และต้มมาม่ารองท้องกินไปก่อนเผื่อฉุกเฉินหาอะไรกินไม่ได้ เมื่อกินเสร็จ เจ็ดโมง พร้อมออกไปตะลุยตลาดแล้วหล่ะ

เจ็ดโมงเช้ายังมืดอยู่เลย จุดหมายวันนี้ไปตลาดหัวมุมถนน เราออกมาหน้าปากซอย เจอเฮียคนเดิมที่เดินตามเราเมื่อวานด้วย วันนี้ไม่วิ่งแล้ว 55 ถึงห้าปากซอยก็เจอร้านอาหารจี๊น จีน ที่คนจีนเค้ากินกัน เห็นหน้าร้านมีคนเข้าไปนั่งกิน เราก็เลยลองซะหน่อย (ได้ข่าวว่ากินมาม่ามาแล้วนะแก..) ของที่มีส่วนใหญ่เป็นแป้งทั้งนั้น จากที่อยู่มาสองสามวัน สังเกตได้อย่างนึงว่า คนที่นี่ชอบกินแป้ง เช่น ขนมปัง หมานโถว เบเกอรี่เป็นอย่างมาก ซื้อกันทีเป็นถุงใหญ่ เราก็เลยลองเป็นคนที่นี่ซะหน่อย หลังจากสั่งมั่วๆ ชี้ๆเอา ก็ได้มาละ จานนึงเหมือนโรตีผสมเครปผสมไข่เจียว สรุปคล้ายๆ ไข่เจียวแหละแต่รสเป็นแป้งๆ ทอดอมน้ำมัน มีซอสให้ตักเอง เป็นเต้าเจี้ยวกับจิ๊กโฉ่ และมีกระเทียมบดให้ตักด้วย อีกจานเป็นเหมือนเผือกทอด อีกด้านเห็นคนจีนเค้าสั่งกินกับข้าวต้มไม่งั้นก็โจ๊กที่เป็นเหมือนแป้งกวนเหลวๆ แต่เรากินแค่นี้ก็พอแล้ว เดี๋ยวอิ่มเกิน





ไม่ค่อยถูกปาก แต่ก็หมด

หลังจากกินเสร็จก็เดินต่อ จากที่คิดว่าที่ปักกิ่งนี้ไม่ค่อยมีร้านสะดวกซื้อให้เดินเลือกของ เราก็มากระจ่างว่าเราดันเดินไปไม่ถูกแหล่วเองนี่ เพราะถนนนี้ร้านสะดวกซื้อเยอะจริงๆ แล้วก็เจอ 7-11 ด้วย แต่ไม่แพร่หลายเท่าไร ส่วนใหญ่เป็นร้านสะดวกซื้อสัญชาติจีนยี่ห้อ Q ไคว่เค่อ และอีกยี่ห้อขึ้นต้นด้วย Wan อะไรเนี่ยหละเห็นเยอะเลย





พอเดินมาจนสุดถนนจะเจอตี้เถียะอีกสถานีนึง คือ สถานีตงซื่อ DongSi ก็เห็น คนเดินเลี้ยวขวาเข้าไปในซอยถนนฝั่งตรงข้ามกันเยอะเลยเดินตามเข้าไป เป็นซอยเข้าวัดหลงฝู (Long Fu Si st.) จะเห็นซุ้มประตูเข้าวัด พอเดินเข้าไปก็ถึงแล้ว ตลาดที่เราใฝ่หา..


เห็นซุ้มประตูนี้ เลี้ยวเข้าไปเลย

ตลาดที่นื่เป็นตลาดที่คึกคักทีเดียว มีคนเดินจับจ่ายพลุกพล่านพอสมควร ทางเข้าตลาดเริ่มด้วยร้านขายถุงเท้า ถุงมือและอุปกรณ์ให้ความอบอุ่นที่ราคาถูกอย่างไม่น่าเชื่อ ถัดมาเป็นเสื้อผ้าและบุหรี่ ถั่วเมล็ดแห้งที่มีราคาแสดงไว้อย่างชัดเจน และในทางแยกก็จะมีสินค้ามือสองมาวางขายเหมือนคลองถมเลย พอผ่านแยกไปก็จะเริ่มพบกับร้านขายของกินเช่นร้านขายขนมปัง ซาลาเปา หมั่นโถวที่ทำเป็นแบบต่างๆ ร้านขายอาหารทะเล ร้านขายเนื้อที่ไม่ต้องแช่แข็งเพราะที่เอามาวางขายเป็นน้ำแข็งอยู่แล้ว เมื่อผ่านไปอีกแยกก็เป็นโซนผักและผลไม้ ที่นี่เราได้เห็นสตรอเบอรีลูกโตมากๆ ยาวประมาณ 3 นิ้ว ขายในราคาแค่จิ้นละ 13 หยวน แม่เจ้า!ถูกแสนถูกอย่างนี้ก็เสร็จเราและเราก็วางแผนไว้ว่าพรุ่งนี้จะมาสอยอีก




















พอหมดโซนนี้แล้วก็เป็นอันสุดตลาด พอดีแปดโมง แล้วก็ได้เวลาไปเที่ยวต่อแล้ว จุดหมายต่อไปกู้กง พระราชวังต้องห้าม แล้วก็มารู้ทีหลังว่าเดินไปอีกนิดก็เป็นหวังฝูจิ่งแล้ว แต่ก็คงจะไม่มีอะไรเพราะเป็นตอนเช้า

เราไปกู้กงโดยขึ้นตี้เถียะสถานีตงซื่อ แล้วไปเปลี่ยนสายป็นสาย 1 เพื่อไปลงที่สถานี เทียนอันเหมินตะวันออก TianAnMen East ตามที่อ่านมาในรีวิว(นี่เป็นครั้งแรกที่ออกมาแล้วตรงตามรีวิวที่เค้าบอกเป๊ะ) จริงๆ เราสามารถออกได้ทั้งที่สถานีเทียนอันเหมินตะวันออกและเทียนอันเหมินตะวันตก แล้วแต่จะเลย พอออกมาจากสถานี งงกันซักแป๊บก็เดินไปทางที่คนเค้าไปๆ กัน

ข้างหน้าเห็นจัตุรัสเทียนอันเหมินแล้ว มีอนุสาวรีย์และอาคารที่ให้เข้าไปเคารพท่านประธานด้วย แต่เราไม่ไป เชอะ เพราะที่นั่นไม่ใช่ประเด็นของวันนี้ เราเดินตามเค้าไปเรื่อยๆ ก็เจอแถวยาวแสนยาวเพื่อสแกนคนและกระเป๋า ก่อนเข้ากู้กง หลุดจากแถวตรงนั้นมาได้ สิ่งแรกที่เราได้เจอและเป็นสิ่งที่ใฝ่หาเลยก็คือ ห้องน้ำ ห้องน้ำที่นี่เข้าไปเป็นห้องน้ำแบบนั่งยองๆ แต่โถเป็นพื้นระดับเดียวกับพื้นเลย เสี่ยงตกมากถ้าดูไม่ดีและเดินไม่มอง ไม่มีไฟและที่สำคัญ ไม่มีกลอนประตูอ่ะ ก่อนจะเข้าต้องเคาะดูก่อนว่ามีใครอยู่รึเปล่า เข้าแล้วก็ตุ้มๆ ต่อมๆ จะมีใครเปิดมั๊ย ห้องน้ำที่นี่ตื่นเต้นเร้าใจดีวุ้ย คนจีนมีกำลังภายในแกร่งกล้าเพราะได้ฝึกกำลังภายในท่านั่งยอง และอีกมือจับประตูได้ในชีวิตประจำวัน





เมื่อเสร็จธุระกันแล้วก็ไปถ่ายรูปกะสิงห์หน้าประตูซักนิด หนีห่าวท่านประธานหน้าประตูหน่อย แล้วก็เดินไปซื้อตั๋วกันเลย



ได้ตั๋วมาแล้ว สำหรับ 2 คน ถ้าใครเก็บตั๋วให้แยกกันซื้อนะจ๊ะ




ขอซักรูปเหอะ..


เมื่อได้ตั๋วแล้วเราก็เดินเข้าไปข้างใน ก่อนจะผ่านเข้าไปที่ตำหนัก จะต้องข้ามสะพานข้ามคลองประดิษฐ์ที่ตอนนี้ เป็นน้ำแข็งไปหมดแล้ว เมื่อข้ามสะพานมาแล้วก็เจอบันไดทางขึ้นที่มีที่กั้นไม่ให้ขึ้น (อ้าว) เพราะทางนี้สำหรับฮ่องเต้เท่านั้น เราก็เลยไปขึ้นบันไดข้างๆ เพื่อเที่ยวชมกู้กง ที่เป็นตำหนักต่างๆ มีพระที่นั่งที่เป็นแท่นตั้งอยู่ พื้นที่กว้างมากเลยทีเดียว




























กี่โมงแล้ว ดูเลย






ช้างนี่มาจากเมืองไทยนะจ๊ะ

เดินมาเรื่อยๆ จะทะลุสวนด้านหลัง ที่ชื่อ อวี้ฮัวหยวน สวนดอกไม้ในวัง ที่มีต้นไม้กลายเป็นหิน และต้นไม้ใหญ่ต่างๆ เหมือนสวนจีนในหนังจีน เมื่อทะลุสวนนี้ไปเราก็จะมาออกประตูด้านทิศตะวันตกของกู้กง ด้านหน้าสวนจิงซาน เห็นศาลาอยู่บนเขา ก็ไม่รอช้า จ่ายตังค่าเข้าแล้วเราไปเลย จุดหมายคือศาลาบนเขาเพื่อไปดูวิวรอบๆ และจะแอบมองลงไปในกู้กงว่าเห็นอะไรมั่งตามประสาพวกใฝ่สูง 55







พอขึ้นไปถึงก็จะเจอศาลา นี้และศาลาที่มีพระพุทธรูปอยู่ หันหน้าไปทางกู้กง แล้วเราก็จะสามารถเห็น กู้กงจากมุมสูง และ เจดีย์ขาวที่สวนเป่ยไห่ด้วย









เห็นเจดีย์ขาวอยู่ลิบๆ



เราขึ้นมาเพื่อสิ่งนี้..


ออกมาด้านนอกสวนจิงซานเราจะสวนเป่ยไห่เป็นจุดหมายต่อไปแต่ไม่รู้ว่าไปทางไหนก็เดินไปมั่วๆ ก่อนละกัน ตอนนี้บ่ายแล้ว เริ่มหิวก็เลยหาอะไรกินแถวหูถง บริเวณนั้นมีร้านอาหารเยอะ ขายของที่ระลึกก็เยอะ พอกินเสร็จแล้ว ก็ตกลงกันว่าจะไม่ไปเป่ยไห่แล้ว เดี๋ยวไม่ทันเวลาปิดเทียนถาน พอเดินออกมากำลังหาทางไปตี้เถียะก็เจอเลยคร้าบ ทางไปเป่ยไห่ (โอ้ย จะมาเจออะไรตอนนี้ฟระ ไม่ไปแล้ว) แต่ก็ไม่ได้ไป ไปหาตี้เถียะไปเทียนถานดีกว่า เราเดินตามทางมาซักพักจนถึงหัวมุมถนนใหญ่ ก็ถามคนที่ยืนคุยๆ แถวนั้นว่าแถวๆ นี้มีตี้เถียะมั๊ย เค้าบอกว่าไม่มี ตี้เถียะที่ใกล้ที่สุดเดินไปอีกไกล ให้นั่งรถเมล์ฝั่งตรงข้ามไปต่อ อั๊ยย่ะเอาแล้วไง เราเลยขอบคุณเค้าแล้วเดินจากมา เดินมาได้ซักพัก พี่เค้าขี่รถตามมาแล้วบอกว่าจะไปส่ง โอ้วว ซึ้งจนน้ำตาจิไหล แต่เกรงใจ บอกเค้าไปว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวเดินเที่ยวก่อน (จริงๆ บอกไม่ถูกว่าจะไปไหน อิอิ) แล้วเราก็เดินจากมา สุดท้ายตกลงกันว่าไปขึ้นตี้เถียะที่หน้ากู้กงกันดีกว่าอย่างน้อยมีตี้เถียะชัวร์ ไม่ต้องเดินมั่วๆไปอย่างงี้ ปัญหาต่อไปคือ จะไปยังไง เดินไปมีขาลากแน่ๆ เราเลยเสนอให้ขึ้นรถเมล์ไป อยากขึ้นมานานแล้ว ก็ไปป้ายรถเมล์ฝั่งตรงข้ามแล้วรอรถ


มีระเบียบจริงๆ


ระบบการเดินรถในปักกิ่งนี่ดีมากเลย ที่ป้ายรถเมล์จะมีบอกว่ามีรถสายไหนผ่าน แม้ว่าจะสายรถไม่มากเท่าที่กรุงเทพแต่มีบอกหมดเลยว่ารถสายนี้ผ่านจุดจอดที่ไหนบ้าง เราเริ่มหาดูและได้พบว่ารถเมล์สายที่ผ่านตรงนี้ส่วนใหญ่ผ่านกู้กง เราก็ใจชื้นขึ้นมาแล้ว เอาละเลือกมันซักสายแล้วขึ้นเลย ตรงป้ายรถเมล์จะมีช่องๆ ไว้ให้รอรถ มีสายรถเขียนไว้เพื่อว่าสายไหนๆ จะได้รอให้ตรงช่อง รถเมล์จะจอดได้พอดีมาก รถเมล์เมืองจีน เราต้องขึ้นประตูหน้าและลงที่ประตูหลัง ตรงทางขึ้นจะมีกล่องให้หยอดเงิน แต่เราไม่ใส่เพราะเราใช้บัตรอี้ข่าท่ง ซึ่งจะมีที่ติ๊ดบัตรทั้งข้างหน้าข้างหลัง ตอนแรกไม่รู้รีบติ๊ดซะตั้งแต่แรก แต่เหลือบไปเห็นคนลงเค้าติ๊ดตอนจะลง เราได้ขึ้นรถเมล์ก็วางแผนไว้ล่วงหน้าแล้วว่าไปเทียนถานจะไปยังไง แล้วก็ฉุกคิดได้ว่า ที่ว่าผ่านกู้กงน่ะ ผ่านส่วนไหน ไม่ใช่ผ่านไอ้ที่เราเดินผ่านมาแล้วนะ ตรงหน้าสวนจิงซานน่ะ ถ้าเป็นตรงนั้นก็เหมือนย้อนกลับไปที่เดิม งานก็เข้าน่ะสิ และฝันก็เป็นจริง ผ่านหลังกู้กง กลับไปที่เดิมจริงๆ ด้วย เอาแล้วไงจะไปยังไงล่ะทีนี้ แล้วเราก็เหลือบไปเห็นสัญลักษณ์ ตี้เถียะบนป้ายบอกจุดจอดในรถเมล์ ถ้าเราลงตรงสถานีตามป้ายก็จะเจอตี้เถียะ นับแล้วก็อีก 2 สถานี รอดแล้ว เตรียมลง เมื่อใกล้จะถึงจุดจอดรถต่างๆ จะมีประกาศในรถว่าสถานีต่อไปเป็นสถานีอะไร ก่อนลงเราติ๊ดบัตรอี้ข่าท่งเพื่อเป็นการจ่ายค่ารถ (เราต้องลงทางประตูหลังนะจ๊ะ ประตูหน้ามีไว้สำหรับคนขึ้น) และพยายามเบียดคนออกมาทางประตูหลังอย่างรีบด่วน เอาละลงได้แล้ว แต่ไหงไม่เห็นมีตี้เถียะเลย อยู่ตรงส่วนไหนของปักกิ่งก็ไม่รู้ ก็เลยไปดูป้ายที่บอกสายรถอีกที รู้แล้วทำไมไม่มีตี้เถียะ ก็ลงรถผิดไงครับท่านยังไม่ถึงเลย ต้องลงสถานีหน้า รู้อย่างนี้ก็ฮากันใหญ่ เอาหละถือว่าฝึกขึ้นรถเมล์ แล้วเราก็ขึ้นอีกคันไปลงสถานีต่อไป

หลังจากลงรถเมล์ สิ่งแรกที่มองหากันคือตี้เถียะ เห็นละๆ คราวนี้ไม่พลาด แต่ทำไมมันดูคุ้นๆ นี่มันสถานีตงซื่อที่ขึ้นเมื่อเช้านี่ งั้นกลับบ้านกันเลยละกัน เอ้ยไม่ใช่ ไปเทียนถานกันเลย การไปเทียนถานจากที่นี่ง่ายมากเพราะไม่ต้องเปลี่ยนสายรถเพียงแค่ไปลงสถานีเทียนถานตงเหมิน TianTanDongMen จากรีวิวเค้าก็บอกว่าถึงแล้ว
เมื่อออกมาจากตี้เถียะ กลับหลังหันไปก็จะเห็นกำแพงสูงๆ ด้านในมีต้นไม้เยอะแยะ เราก็รู้ได้ทันทีว่า มาถึงแล้ว เทียนถาน เราเลือกจะเดินไปทางซ้ายตามแนวกำแพงโค้งๆ เป็นวงกลม เพราะคิดว่าประตูทางเข้าอยู่ทางนั้นแน่ๆเลย เราเดินไปเรื่อยๆ ซักพักจะเจอสะพานลอยและเห็นฝั่งตรงข้ามเป็นห้างใหญ่ๆ เขียนว่า Perl Market อ๋อออ นี่คือแหล่งช๊อปอีกแหล่งที่ทัวร์ชอบพาคนมานี่เอง เราเดินขึ้นไปบนสะพานลอยเพื่อดูวิวมุมสูงเผื่อจะเห็นประตูทางเข้า ปรากฏว่า ไม่เห็นอะไรเลย เอาละ ลองเดินไปก่อนเจอคนแล้วค่อยถามเค้า พอเดินไปอีกประมาณ 5 นาทีก็เจออาอี๊คนนึงเดินผ่านมาก็เลยถามเค้าว่าเทียนถานไปทางไหน เค้าก็ทำเราใจหายใจคว่ำโดยการชี้ย้อนกลับไปทางที่เราเดินมา เอาละเหวย มาผิดทางอีกละ แต่เธอก็บอกว่าไปตามทางข้างหน้าที่เราเดินมาก็ได้ (โอย โล่งอก)

จะมีใครซึ้งถึงความใหญ่ของเทียนถานเหมือนเราอีกมั๊ย..



ในที่สุด ก็มาถึง

เดินตามทางไปเดี๋ยวถึง(คิดว่าแกบอกประมาณนี้ละมั๊ง) เอาละงั้นเราก็เดินต่อ เดินมาอีกครึ่งชั่วโมง ทำไมยังไม่ถึงซะที แต่เอ๊ะเห็นลิบๆ คนยืนทำไรกัน เราก็เดินไปดู อุแม่เจ้า ถึงซักที เทียนถาน เราก็ซื้อตั๋วเข้าไปเลย 10 หยวน เข้าประตู แล้วถ้าจะดูนิทรรศการและตึกทั้งหมด 28 หยวน ในรีวิวบอกเอา 10 หยวนพอ เราก็ตามนั้น เพราะจะหมดเวลาแล้วด้วย กว่าจะมาถึง สี่โมงเย็น ที่นี่ปิดหกโมง สงสัยจะดูไม่ทัน พอเดินเข้าไปบรรกาศร่มรื่นมาก มีอาม่าอากงกำลังออกกำลังกาย กึ่งแอโรบิกกึ่งท่าเต้นทางวัฒนธรรม สนุกมากจนนักท่องเที่ยวต้องเต้นตามกันเลยที่เดียว เดินไปซักพักก็เจอแล้ว หอเทียนถาน กำลังจะเดินขึ้นไป อ้าวเจอด่านอ่ะ พอถามเจ้าหน้าที่ คุณเธอก็บอกว่าต้องซื้อตั๋วอีก อ้าว ไอ้ที่จ่ายตังเข้ามานี่คือค่าเข้าเฉยๆ เพื่อมาสวนสาธารณะรอบๆ เนี่ยหรอกเหรอ หูยคนจีนนี่ก็รวยเกิ๊นน ยอมจ่าย 10 หยวน เพื่อเข้ามาเต้นแอโรบิกเนี่ยนะ เอาฟระ ไหนๆ ก็ไหนๆ เลยยอมจ่ายอีก 20 หยวนเพื่อเข้าไปดู เมื่อเข้าไปถึงหอเทียนถาน ใหญ่โตมากเลย แต่ไม่ให้เข้าเราก็เลยได้แต่ถ่ายวิวรอบๆ





วิวนี้เป็นอภิสิทธิ์ของคนที่เข้าด้านหลัง



คุ้มกับความเหนื่อยยาก



ช่างใหญ่โตเสียนี่กระไร


ข้างในมีแท่นบูชา



มีสัตว์บูชายัญด้วย





เดินไปอีกหน่อยเป็นลานโล่งๆ มีแท่นหินกลมๆ ที่เค้าบอกว่าฮ่องเต้จะมาขอพรที่นี่ โดยการยืนบนหินกลมๆ





ยืนบนแท่นหินนี้แหละ



ที่ระบายน้ำรูปหัวสัตว์ พอจะใช้ สัตว์ก็พ่นน้ำออกมา



คนอื่นเห็นป้ายนี้ก่อน แต่เราเห็นทีหลัง


จริงๆ ต้องได้เข้าไปในตำหนักที่มีกำแพงสะท้อนเสียงด้วย ถ้าไปยืนพูดตรงนั้นเบาๆ จะได้ยินเสียงดัง เพราะฮ่องเต้มีรับสั่งประชาชนจะต้องได้ยินกันทั่ว แต่เราหาไม่เจอแถมเราไปเย็นไป ตำหนักต่างๆ เริ่มปิดแล้วด้วย เมื่อเดินตามทางก็เจอสวนสาธารณะอีกพอดีหกโมงเย็น กลับกันเถอะเดินออกมาประตูหน้าพอดี (ฮา) งั้นเราออกประตูนี้ไปตี้เถียะเลยละกัน เราก็ตัดสินใจเดินไปตี้เถียะ คราวนี้มั่นใจไปถูกทางแน่เพราะหลงมาก่อนแล้ว แต่ขุ่นพระ ทำไมมันไกลงี้ฟระ ไกลกว่าเดินเข้าประตูหลังอีก ไกลกว่ามากด้วย(ใครรีวิวให้ลงตี้เถียะแล้วเดินมาทางประตูหน้าเนี่ย เค้าเดินจริงหรือป่าว มาคิดได้ทีหลังว่าหรือต้องเลี้ยวไปอีกทางหว่า..) เดินๆไป เจออู่รถเมล์ ทำให้เรารู้แล้วว่าคราวหน้าถ้ามาให้นั่งรถเมล์มาดีกว่า เดินใกล้กว่า ไม่งั้นก็ลงรถเมล์ที่ข้างหน้าเลย แต่สายอะไรต้องไปหาอีกทีนะ

การไปตลาดรัสเซียเราต้องขึ้นตี้เถียะมาลงที่สถานี ยงอันหลี่ YongAnLi สาย 1 ออกใต้ห้างเลย พอออกมาแล้วก็เดินตามทางออกมา มีป้ายบอกทางตลอด เอาละ เงินในกระเป๋ามันร้อน ดิ้นพราดๆ อยากจะออกเหลือเกินแล้ว พอมาถึงก็เดินไปในห้าง เห็นเค้าขายของกัน จัดร้านแบบร้านแถวๆ สยาม เอาวะสงสัยเค้าขายกันอย่างนี้แต่ทำไมมีป้ายเขียนว่า “ของอ่ะราคาถูกแล้ว ห้ามต่อ” หรือไม่ก็ “ร้านนี้รับแต่ลูกค้าประจำ” ไหงงั้นอ่ะ เราก็สงสัยกันว่ามาถูกที่หรือเปล่า พยายามเดินหาและได้คำตอบ เมื่อเจอป้ายนี้ “ที่นี่ Silk Street” อ้าวก็ถูกนี่หว่าไม่เห็นเหมือนที่เค้าว่าเลย ไอ้ที่ต้องต่อเยอะๆอ่ะทำม๊ายยยไม่เจอ ยังหาคนถามไม่ได้ ใครรู้ตอบหน่อย



หลังจากผิดหวังเพราะตังยังเหลือเยอะ เราก็เลยตัดสินใจไปลงสถานีตงซื่อละกัน ไหนๆ วันนี้ก็เจอแต่ตงซื่อแล้วนี่ แล้วเดินกลับไปบ้านเรา เดินดูวิวข้างทางไปด้วย พอออกจากตงซื่อ เดินกลับ วิวสองข้างทางไม่เหมือนเมื่อเช้าเลย เพราะร้านต่างๆ เปิดแล้ว เจอร้านสะดวกซื้อหลายร้านจนเลือกไม่ถูก (จากที่วันแรกหาไม่ได้) ร้านขายยา ขายชาเยอะแยะเลย ไม่รู้ซื้อง่ายแบบบ้านเรารึเปล่า ไม่ได้เข้าไปซื้อ ร้านเบเกอรีเพียบ หอมมาก คนมุงเยอะด้วยแต่ดูๆ แล้วไม่น่าจะอร่อยเท่าไหร่ เก็บพุงไว้กินอย่างอื่นดีกว่า แล้วก็เดินมาถึงซุปเปอร์เล็กๆ ขายผลไม้ข้างหน้า และขายขนมโบราณ เช่น ขนมเปี๊ยะ ขนมไข่ แต่ก็มีพวกเบเกอรีด้วย เราก็เลยลองเข้าไปซื้อขนมเปี๊ยะ ไส้ชาเขียว รสชาติใช้ได้แต่ที่ซานไห่กวนอร่อยกว่า ขนมนี่ก็ชั่งเอาเหมือนกันและเราก็ได้เหรียญ 1 เจี่ยว(ภาษาพูด จะมีค่าเท่ากับ 1เหมา) ทอนมาให้สะสม เดินสุดถนนพอดีถึงซอยที่พัก ก็พักแล้วเตรียมตัวไปวังฤดูร้อนในวันพรุ่งนี้




Create Date : 14 กุมภาพันธ์ 2560
Last Update : 16 กุมภาพันธ์ 2560 9:30:47 น. 0 comments
Counter : 958 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
space

HappyMorning
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
[Add HappyMorning's blog to your web]
space
space
space
space
space