|
เบี้ยแก้
เมื่อประมาณกลางปี 38 ตอนนั้นการขอให้ท่านทำเบี้ยแก้นั้นต้องไปซื้อเครื่องทำเบื้ยที่ร้านทองในตลาดท่านาซึ่งใกล้กับวัด เครื่องทำเบี้ยประกอบด้วย 1 หอยเบี้ย 2 ปรอท 3 ตะกั่วอ่อนเอาไว้หุ้มเบี้ย ซึ่งชุดหนึ่งในราคา 80 -100 บาท (ราคาในสมัยนั้น) เมื่อซื้อเครื่องทำเบี้ยเสร็จแล้ว ก็นำไปให้อาจารย์เจือ พร้อมแจ้งความประสงค์ ลงชื่อไว้ ซึ่งท่านจะจัดทำให้ และนัดมารับในเวลา ประมาณเดือน สองเดือน ส่วนเรื่องค่าทำนี้แล้วแต่ให้แล้วแต่ทำบุญ แต่นาทีนี้ไม่ทราบว่าจารย์เจือทำไหวหรือเปล่า?
วิธีการสร้างเบี้ยแก้เอาแบบย่อๆนะครับ ก่อนอื่นเอาปรอทกรอกลงในหอยเบี้ยเสร็จแล้ว(จะให้ท่านเรียกปรอทจากอากาศมาลงเบี้ยเหมือนแต่ก่อนคงไม่ไหว)นำชันโรง มาปิดที่ปากหอย แล้วนำตะกั่วมาหุ้มทั้งตัวหอยเบี้ยและลงเหล็กจาร เสร็จแล้วก็ถักด้ายหุ้มใส่ห่วงใส่หูไว้ร้อยเอวหรือสร้อย นำมาจุ่มรักอีกที่ สมัยก่อนการถักด้ายหุ้มเบี้ย พระกับเณรจะช่วยกัน แต่เห็นว่าเดี้ยวนี้ต้องจ้างคนมาทักให้ทันกับความต้องการ ปัญหามันอยู่ตรงนี้ครับ ถ้าจะทำให้พี่ๆใช้ทั้งที่ผมอยากให้มันมีความพิเศษในตัวเองเป็นการง่ายที่ผมไปที่วัดแล้วไปเช่าของมา (เมื่อปี 38 ออกจากวัดตัวละ 300 500 บาท ) หรือถ้าใจร้อนกว่าไปที่ศูนย์พระเครื่องในกรุงเทพเลยเดี่ยวนี้ถามเอาเบี้ยจารย์เจือวัดกลางบางแก้ว ผมว่าไม่เกินตัวละ 600 บาท ใครอยากได้แบบแรกบอกเลยนะครับจะไปเช่าเอามาให้จากวัดเลย โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายในการเดินทางหรือค่าอะไรทั้งสิ้น เพราะว่าต่อไปคงต้องผ่านวัดแทบทุกๆวันและอย่างไรต้องไปทำบุญอยู่แล้ว ในส่วนที่ผมจะจัดทำให้พี่ที่ผมเคารพในนี้ ผมอยากให้เป็นไปตามตำราเก่าเลยอยากขอความกรุณาดังนี้ครับ 1.ตัวหอยเบี้ยอยากได้ที่มีฟัน 32 ซี่ (ครบอาการ 32 ) อันนี้จริงๆผมหาเองได้ 2.ปรอทอยากได้ที่เป็นปรอทดักจากธรรมชาติ (ปรอทในเครื่องทำเบี้ยเป็นปรอทวิทยาศาสตร์) ว่าแต่เดี้ยวนี้ใครจะมานั่งดักนั่งเรียกจากอากาศนี้ แต่เค้าว่าปรอทธรรมชาติดีกว่า ลองดูในตู้ยาไทยเก่าๆหรือตามหิ้งพระดูครับ 3. อันนี้สำคัญ อยากได้มากๆ อยากได้ชันโรงใต้ดินเพื่อมาอุดเบี้ยครับ เห็นว่าเดี้ยวนี้ถ้าไม่มีชันโรงก็ใช้ชันเรือ ซึ่งปิดเบี้ยแล้วปรอทไม่หนี้เหมือนกัน ชันโรงจริงๆแล้วเป็นปริศนาธรรมอย่างหนึ่ง 4. รักแดง เวลาใช้ไปจะดูสวยกว่าผิวอย่างอื่น อันนี้เชื่อว่าคุณบัญชามีแน่นอน อิอิอิ ซึ่งปกติถ้าไม่มีรักแดง รักดำ ทางวัดอาจจะใช้อย่างอื่นทาให้เพื่อให้ด้ายที่ถักไว้คงทน
ถอนใจยาวๆๆหนึ่งครั้ง วันศุกร์ที่ผ่านมาผมกับมารดามีโอกาสได้ไปที่ วัดกลางบางแก้ว เนื่องจากไปดูสถานที่ทำงาน ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปตามโลก ร้านทองที่เคยขายเครื่องทำเบี้ยก็เลิกไปขายไปแล้วพร้อมได้รับคำแนะนำว่าเดี้ยวนี้ทำบุญที่กุฎีจารย์เจือได้เลย ตัวละ400 บาท แต่ผมโชคดีผมได้เจอร้านขายยาโบราณในตลาดท่านา ที่ยังขายอุปการณ์ทีเบี้ยอยู่ชื่อร้าน เอี้ยแซ (จำผิดหรือเปล่า?นี้) ราคาอยู่ที่ ชุดละ 49 บาท ในชุดประกอบด้วย เบี้ย (แต่ฟันไม่ครบสามสิบสอง) ปรอท และตะกั่วแผ่นเอาไว้หุ้มเบี้ย แล้วก็ได้รับคำแนะนำอีกว่าถ้าจะเช่าเบี้ยให้ไปที่กุฎีอาจารย์เจือโดยตรงถ้าจารย์เจือไม่อยู่ให้ระวังหน้าม้า (อะไรนี้ในวัดแท้ๆนะ) เสร็จจากตลาดท่านาผมก็เดินทางไปที่วัด แล้วก็ตรงไปที่กุฎีอาจารย์เจือเลย ในตอนแรกผมแค่จะเอานมไปถวายท่าน แล้วก็ลากลับ อาจารย์เจือก็ท่านดูแก่ลงคงเพราะอาจจะตรากตำงานหนัก ดูจากกระดานนัดงานเห็นว่ามีงานแทบทุกทุกวันและเดินทางออกต่างจังหวัดไกลๆบ่อยๆ แต่ความเมตตาของท่านก็เหมือนเดิมคือใครขอให้ทำอะไรท่านก็ทำให้แต่ด้วยแขกที่เยอะทำให้ไม่มีเวลาพูดคุยเหมือนเดิม ขณะที่เข้าไปกราบท่านมีคนขอยาจินดามณีจากท่านๆก็ไม่ว่าอะไรก็เดินไปหยิบมาให้ ผมก็ได้รับมาถุงหนึ่ง กลับมาถึงเรื่องเบี้ยบ้าง เดี้ยวนี้มีฆราวาสนั่งอยู่ตรงหน้ากุฎี ตอนผมเดินเข้าไปนั่งรอก็ส่งเสียงถามผมว่ามาเอาเบี้ยหรอ ผมก็ไม่ตอบอะไร (รอดูเหตุการณ์) ระหว่างรอผมก็อ่าน บทสัมภาษณ์ ของอาจารย์เจือทางคมชัดลึกที่ติดไว้ที่ข้างฝา เลยพอทราบข้อมูลว่าเดี้ยวนี้นำชันโรงใต้ดินมาจากฝั่งลาว แล้วท่านก็ยังกรอกปรอทลงเบื้ยด้วยมือเหมือนปู่เพิ่ม และก็จ้างชาวบ้านถักเบี้ย ตัวละ 50 บาท เป็นการสร้างอาชีพให้กับชาวบ้านไปด้วย
ระหว่างนั้นผมเห็นฆราวาสเดินเข้าไปในห้องของจารย์เจือ แล้วหยิบเบี้ยออกมาแล้วใส่ถุงแล้วใส่กล่องคุกกี้เอาไว้จำหน่ายเพราะมีคนมาขอเช่ากันไปขาดสาย นะขอดูหน่อยก็แล้วกันผมไปดูที่กล่องเห็นเบี้ยเปลือยอยู่ตัว เห็นรอยจารเป็นของอาจารย์เจือ เบี้ยที่เอามาใส่ถุงรักก็ยังไม่แห้งเลย นะเอามาให้พี่ๆThailades ดูหน่อยแล้วกันเลยหยิมมาตัว แต่น่าแปลกเท่าที่สังเกตบ้างคนเช่าตัวละ 400 แต่มีอยู่คนให้ 200 เลยไม่ทราบว่าจริงๆ เป็นอย่างไรกันแน่ พอถึงคิวก็เลยเอามาให้ท่านเสกอีกที่พร้อมถวายนมและทำบุญไปตามสมควร หลังจากออกมาจากกุฎีกภาพที่ไม่น่าเห็นในวัดตนครับคนแย่งกับเช่าเบี้ยบางคนเช่าที่สี่ห้าตัวพอไม่มีของก็โวยวาย ในวัดแท้ๆ อาจารย์เจือก็นั่งอยู่ตรงนั้น (ท่านคงว่างอุเบกขา) เท่าที่สอบถามใครจะไปกราบท่านไปหาท่านถ้าท่านอยู่วัดจะอยู่ไม่ช่วงเช้าก่อนเพล และหลังประมาณ 4 โมงเย็นเป็นต้นไป ท่านจะทำเบี้ยเวลากลางคืน และรับแขกเวลากลางวัน (เอาเวลาที่ไหนพักผ่อนนี้)
เสร็จจากกุฎีอาจารย์เจือ แล้วผมก็พาแม่ไปกราบรูปหล่อหลวงปู่บุญ หลวงปู่เพิ่ม เสร็จแล้วก็เข้าไปที่ให้บูชาวัตถุมงคลของวัดเพื่อไปขอตำรับวัดกลางบางแก้วเนื่องจากเล่มก่อนมีปลัดอาวุโสหยิบไปอ่านแล้วเอาไปไว้ที่ไหนไม่ทราบ ซึ่งแต่ก่อนผมเคยมาขอซื้อแต่คนดูแลตู้เค้าไม่ขายแต่กลับให้ฟรี ครั้งนี้แปลกผู้ดูแลตู้เป็นพระ ผมถามถึงตำรับวัดกลางบางแก้ว พระท่านว่า พร้อมยาที่นี้ไม่มีแจก แปลกนะครับเป็นพระแต่กลับไม่มีปิยะวาจา (ยาจินดามณีของวัดเม็ดละ 25 บาท แต่อาจารย์เจือท่านแจกฟรี)
ด้วยความเคารพครับ วันนี้คัดมาแค่นี้ก่อนนะครับ ขอแสดงความนับถือ Gearmour
Create Date : 06 มีนาคม 2549 |
Last Update : 6 มีนาคม 2549 20:07:09 น. |
|
3 comments
|
Counter : 1806 Pageviews. |
|
|
|
โดย: jingsija วันที่: 15 มีนาคม 2549 เวลา:5:30:07 น. |
|
|
|
โดย: thaiput IP: 125.25.5.243 วันที่: 13 มีนาคม 2550 เวลา:20:25:52 น. |
|
|
|
| |
|
|