แนวทางลดขยะพลาสติก กับ ‘เศรษฐกิจหมุนเวียน’

จากกระแสตื่นตัวต่อสถานการณ์วิกฤติขยะพลาสติกจำนวนมหาศาลที่เป็นปัญหาระดับโลกที่กำลังส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม เป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน ในขณะที่สถานการณ์ในประเทศไทยก็น่ากังวลไม่แพ้กัน มีอัตราการทิ้งขยะลงสู่ทะเลมากติดอันดับต้นๆของโลก ดังนั้นความร่วมมือกันของรัฐ เอกชนและประชาชนที่ลดและเลิกใช้พลาสติกแบบที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง (single-use plastic) นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน กำลังเป็นเทรนด์ของโลกที่จะมาช่วยแก้ปัญหาขยะพลาสติกที่ยั่งยืน

 

 

ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน เป็นระบบที่ให้ความสำคัญกับการจัดการพลาสติกที่ครบวงจร ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรให้เกิดคุณค่าสูงสุด และการจัดการให้พลาสติกหรือทรัพยากรถูกหมุนเวียนอยู่ในระบบเศรษฐกิจให้นานที่สุด ลดปริมาณของเสียที่ปล่อยออกสู่ธรรมชาติให้มากที่สุด ทั่วโลกต่างให้ความสนใจนำระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนมาใช้ต่อสู้กับวิกฤติขยะพลาสติก อย่างเช่น สหภาพยุโรปที่กำหนด ยุทธศาสตร์การจัดการพลาสติกของยุโรป (A Europeanstrategy for plastic) ขึ้นโดยมีเป้าหมายปกป้องสิ่งแวดล้อมจากมลภาวะพลาสติก กำหนดให้พลาสติกที่ใช้ในตลาดทั้งหมดต้องสามารถใช้ซ้ำหรือนำไปรีไซเคิลได้ เช่นเดียวกับ จีนที่ประกาศนโยบายลดใช้พลาสติกใช้แล้วทิ้ง และสนับสนุนการใช้พลาสติกชีวภาพที่สามารถย่อยสลายได้แทน

 

 

 

เมื่อพูดถึงขยะพลาสติกในประเทศไทยธุรกิจค้าปลีก ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภคและอุตสาหกรรมอาหาร ก็มักจะตกเป็นจำเลยสังคมเสมอ ว่าเป็นผู้ผลิตสร้างขยะพลาสติกมากที่สุดดังนั้นผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหารของไทยได้จึงเร่งนำแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียนมาใช้แก้ไขปัญหาขยะพลาสติกที่บริโภค ทั้งนี้เพราะว่าพลาสติกยังมีความสำคัญต่อภาคการผลิตอาหาร ใช้เป็นบรรจุภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติช่วยป้องกัน ช่วยปกป้องคุณภาพ และความปลอดภัยของอาหาร ป้องกันปนเปื้อนเชื้อโรคจากภายนอก ช่วยยืดอายุในการเก็บรักษา และแน่นอนว่าอีกมุมหนึ่งคำทำให้ขยะพลาสติกตกค้างอยู่ในสิ่งแวดล้อมเป็นเวลานาน และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในสิ่งแวดล้อม

 

 

ปัจจุบัน ภาคการผลิตอาหารของไทย จึงเป็นอีกอุตสาหกรรมหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญในลดปริมาณขยะพลาสติกในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการยกเลิกใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ตั้งแต่โรงงานผลิตจนถึงร้านอาหาร การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำมาใช้ซ้ำ หรือนำมาใช้ใหม่ได้ รวมถึงส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการจัดการขยะพลาสติกอย่างถูกต้อง

 

 

เมื่อพูดถึงอุตสาหกรรมอาหารของไทย แน่นอนสังคมก็ต้องนึกถึง บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เป็นชื่อแรกซึ่ง “โลกการค้า” อยากจะบอกอย่างนี้ครับว่า...ซีพีเอฟ...ไม่ใช่เป็นแต่ผู้สร้างขยะพลาสติกเพียงอย่างเดียวในอีกด้าน ซีพีเอฟ ก็รู้ตัวดีว่าต้องช่วยลดขยะพลาสติกด้วย ในเมื่อยังไงยังไงหลีกเลี่ยงการใช้พลาสติกในอุตสาหกรรมอาหารไม่ได้ ดังนั้นก็ต้องใช้โดยไม่ก่อให้เกิดปัญหากับสิ่งแวดล้อม และลดจำนวนขยะให้ได้มากที่สุด

 

 

...คุณกิตติ หวังวิวัฒน์ศิลป์ ในฐานะประธานคณะทำงานบรรจุภัณฑ์ยั่งยืน บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่าซีพีเอฟ มีนโยบายและแนวทางปฏิบัติด้านบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน เพื่อที่จะร่วมขับเคลื่อนการลดปริมาณขยะพลาสติกจากกระบวนการผลิตและบริโภคอาหาร บนพื้นฐานแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนตลอดห่วงโซ่ ยึดหลัก Reduce-Reuse-Recycle มาใช้ตั้งแต่เริ่มออกแบบและพัฒนาบรรจุภัณฑ์ พยายามลดการใช้พลาสติกในแต่ละบรรจุภัณฑ์มากที่สุด ควบคู่กับการคำนึงถึงคุณภาพและความปลอดภัยของอาหาร หรือ เลือกใช้พลาสติกที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติที่สามารถย่อยสลายได้ และวัสดุที่เอื้อต่อการนำกลับมาใช้ใหม่ โดยมีเป้าหมายที่ให้มีวัสดุเหลือทิ้งหลังการบริโภคให้น้อยที่สุด

 

 

 

ปัจจุบัน บรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารของซีพีเอฟส่วนใหญ่เป็นพลาสติกที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ (Recyclable plastic) ส่วนที่เหลือ เป็นพลาสติกนำกลับมาใช้ซ้ำได้ (Reusable plastic) และพลาสติกที่ย่อยสลายได้ รวมแล้วคิดเป็นคิดเป็น 99.99% ของปริมาณวัสดุที่ใช้สำหรับบรรจุภัณฑ์ทั้งหมด ขณะเดียวกัน ซีพีเอฟ ยังเดินหน้าศึกษาและออกแบบบรรจุภัณฑ์อาหารที่ใช้วัสดุชนิดเดียว (mono material) ตลอดทั้งชิ้น เพื่อให้สามารถนำบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้สะดวกขึ้น โดยไม่ปล่อยให้เป็นของเหลือทิ้งสู่สิ่งแวดล้อม

 

 

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษที่ผ่านมา ขยะพลาสติกที่เกิดขึ้นภายหลังจากการบริโภคถูกนำกลับเข้ามาใช้ประโยชน์ใหม่เพียง 20% เท่านั้น ส่วนใหญ่ถูกทิ้งปนอยู่กับขยะทั่วไป สะท้อนให้เห็นว่า แม้ว่า บรรจุภัณฑ์เป็นพลาสติกที่สามารถรีไซเคิลได้ แต่การนำกลับมาใช้ใหม่ไม่ว่าจะเป็นrecycle และ reuse จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุดต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนรวมทั้งผู้บริโภค ในการลดการใช้พลาสติก และคัดแยกประเภทขยะพลาสติกให้ถูกวิธีก่อนทิ้ง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดวงจรการจัดการขยะที่สมบูรณ์ และเกิดการใช้ทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด

 

 

โครงการหนึ่งที่ซีพีเอฟได้ดำเนินการเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมให้ประชาชนคัดแยกขยะก่อนทิ้ง โดย ร้าน ซีพี เฟรชมาร์ท ได้ร่วมกับ GEPP ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพไทยที่เชี่ยวชาญในการทำระบบจัดการขยะ ดำเนินโครงการ “CP Fresh Mart มาเก็บ” ในเดือนตุลาคม ปี 2562 ที่ผ่านมา มีเป้าหมายสร้างชุมชนต้นแบบในการรีไซเคิลขยะ โดยส่งเสริมให้ประชาชนที่อยู่รอบๆ ร้านซีพี เฟรชมาร์ทเข้ามีส่วนร่วมในการคัดแยกขยะให้ถูกต้อง โดยให้ผู้บริโภคนำขยะพลาสติก 50 ชิ้น มาแสดงต่อพนักงานเพื่อรับไข่ไก่สด 10 ฟอง โดยนำร่องกับร้านซีพี เฟรชมาร์ท ในกรุงเทพมหานครจำนวน 8 สาขา จากการดำเนินโครงการในระยะเวลาร่วม 6 เดือน สามารถรวบรวมขยะพลาสติกนำกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้ประมาณ 180,000 ชิ้น เป็นความพยายามที่ช่วยกันลดปริมาณขยะในชุมชน และนำไปสู่การจัดการขยะพลาสติกที่สอดคล้องกับแนวทางของระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนต่อไป

 

 

การจัดการพลาสติกที่มุ่งสู่แนวทาง “เศรษฐกิจหมุนเวียน”ไม่เพียงเป็นหนทางที่จะช่วยสนับสนุนการใช้พลาสติกหมุนเวียนแล้ว ยังนับเป็นโอกาสทางธุรกิจในการเปลี่ยนไปสู่ทิศทางการค้าแบบยั่งยืน ส่งเสริมการปกป้องสิ่งแวดล้อม และช่วยสร้างความยั่งยืนให้กับห่วงโซ่อาหารของมนุษยชาติควบคู่กัน

 

 

------------- 

ที่มา: แนวหน้า  




Create Date : 03 กรกฎาคม 2563
Last Update : 3 กรกฎาคม 2563 12:00:57 น.
Counter : 1374 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 3761838
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



All Blog