Group Blog |
แชร์ประสบการณ์.เหนื่อยแต่ยังสู้อยู่..และสักวันเราจะโต เริ่มอย่างมั่วๆ ไปอย่างเมาๆ... การเริ่มต้นเป็นอะไรที่ยากแค้นแสนสาหัญสำหรับสามัญชนคนเงินน้อย..อย่างคนทั่วไปที่มีฝันแต่ทุนทรัพย์น้อย...ผมเองก็เช่นกัน...อยากมี อยากเป็น อยากสร้างฝันของตัวเองที่จะมีธุรกิจเล็กที่ไม่ต้องไป วุ่นวายกับคำสั่งคนอื่นที่มีอีโก้เยอะจนทำให้มองไม่เห็นความเป็นคน....ในแวดวงที่ผมเคยทำงานนั้นเป็นแบบนี้จริง...เบื่อมาก เบื่อคน แม้กระทั่งเบื่อจริตของตัวเองที่นับวันเจอคนที่มีอีโก้มาก..จนทำให้เราบ่อยครั้งเป็นแบบเขา...ทั้งๆที่่าเขาแต่เราก็เป็นเหมือนเขา...พอเถอะ...ผมบอกกับตัวเองหลายครั้งกับงานที่ชอบ ที่ผมทำและเลี้ยงตัวและครอบครัวมาหลายปี....จบพอเลิก!!! นั่นคือฟางเส้นสุดท้าย....... ผมออกจากงานประจำบ่อย เพราะสันด-อา-นอ ผมเป็นคนที่ไมค่อยอยากจะทนกับงานที่ไม่ค่อยพร้อมในหลายๆด้าน แต่จนแล้วจนรอดผมก็มักจะถูกชวนให้ไปทำงานที่ต้องเริ่มก่อตั้ง หลายต่อหลายครั้ง หลายสถานี...เหนื่อย ท้าทาย แต่ไม่ไหวเครียดจัดประสาท นอแรดมาก...ออกครั้งสุดท้ายและบอกกับตัวเองว่า กรูพอแล้ว ทำมาทุกตำแหน่งแล้ว...เดินตามความฝันได้แล้ว...ตอนนี้อยากหาความมั่นคงที่เราไม่ต้องเครียดจัดและอยู่ใกล้กันทั้งครอบครัว.... ก่อนที่จะออกจากที่สุดท้ายผมเริ่มทำเสื้อขายในเฟสบุ๊ค มาสามสี่ครั้งการตอบรับถามว่าดีมั๊ย....ดี!!ครับ ผมพอใจกับแบบนั้น แต่จะให้มาเลี้ยงคนทั้งบ้านคงไม่พอ....ก็เลยต้องคิดและปรับกระบวนการคิดใหม่เพื่อที่จะสร้างงานให้กับตัวเอง..คิดอยากมาก เริ่มยากที่สุด หาทำเล ยากกว่า ผมคิดแค่ว่าจะทำอะไรก็ได้ที่มีเงินเข้าบ้านทุกวัน เริ่มจากคิดที่จะไปขับรถ ซูบารุ ขายกาแฟสด ทำเสื้อขายตลาดนัด ขายก๋วยเตี๋ยว โอ๊ยยยย!!เยอะ ถามว่าทุนตอนนั้นมีมั๊ยไม่มีครับ...แต่มีกำลังใจที่จะต้องทำอะไรสักอย่างที่มันเป็นของเราให้ได้ เราสองคนปรึกาากันตลอดว่าจะเอาไง ทำไร จนในที่สุดเราตัดสินใจว่าเราจะขายกาแฟสด เปิดบู๊ตเล็กๆขายแถวบ้านติดกับร้านข้าวแกง เราเอาเรื่องนี้ไปคุยกับเจ้าของร้านข้างแกง ปรากฏว่าเขาไม่ให้...เราก็เลยอึ้ง........แต่ช่างมัน สู้ๆเอาไว้ก่อน.... หลังจากนั้นไม่นาน ผมได้เงินจากทางบ้านผม พ่อกับแม่ให้มาเป็นเหมือนมรดก...โชคดีเงินหนึ่งแสนบาทกับความฝัน ดูเหมือนจะเป็นจริงขึ้นมาแล้ว...แต่มันก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะระหว่างนั้นเราก็ต้องเอาเงินบางส่วนมาทำบ้านด้วย.....ทุนก็ลดลงไปอีก เท่านั้นไม่พอในระหว่างนั้นเราสองสามีภรรยาไม่มีงานทำก็ต้องใช้จ่ายค่าโน้นนี้สารพัด ก็ต้องใช้เงินก้อนนั้น...ทุนก็ลดลงอีก.....แต่เราก็เก็บเงินบางส่วนเอาไว้เพื่อสานฝันต่อ....ซึ่งเงินตรงนี้มีแค่สองหมื่นเท่านั้นที่เราจะเก็บเอาไว้ทำทุน จนแล้วจนรอดการเดินหาทำเลมันช่างเหนื่อยแสนสาหัญจริงๆเดินเป็นเดิน ไม่ได้สักที ที่ว่างก็แพงเกินไป ที่ถูกและดีก็ไปไม่ทันเขา ตอนนั้นกาแฟสดยังอยู่ในสมองเราทั้งสองคน...ทำไมทำกาแฟสด เพราะมันไม่ยุ่งยากมากนัก ไม่เหนื่อยมากนัก และเรายังมีเวลาครอบครัวร่วมกันได้อีก... ผมกับภรรยาไปเรียนชงกาแฟกับร้านพี่ชายซึ่งขายอยู่แล้ว เขาใจดีสอนให้ฟรีและสารพัดที่จะแนะนำ นั่นคือโชคดีของเรา....ผมก้ยังคงเดินหาที่ขายของอย่างมุ่งมั่น สารพัดก็แห้วเหมือนเดิม..... มาให้กำลังใจค่ะ ^^
โดย: ขนมหวานสร้างไขมัน IP: 124.122.61.193 วันที่: 30 มิถุนายน 2555 เวลา:12:32:47 น.
ก้าวแรกสู่สังเวียน.... เช้าวันรุ่งขึ้นผมเอาของทั้งหมดมากองแล้วเริ่มตั้งเตาลองทอดดู.....ครั้งแรกมันทุลักทุเลมาก..แต่ก้เรียบร้อยดี...กลิ่นหอมไปทั่วจนทำให้ผมมีลูกค้าคนแรกคือคนข้างบ้าน....แล้ววันนั้นผมก็ลองโทรไปขอวางขายที่้รานลาบส้มตำแถวบ้าน ปรากฏว่าเขาใจดีให้เอาไปวางขายโดยไม่คิดค่าวางอะไรเลย แถมเก็บเงินให้อีก....ใจดีแท้เหลา ก่อนขายจริงสองวัน เรามานั่งคิดกันว่าจะใช้ชื่ออะไรดี คิดไปมาก็เลยเอาชื่อ "แคปหมูลุงเริญ" ซึ่งเป็นชื่อพ่อผมเอง...ซึ่งผมว่าดีดูขลัง ไปทำป้ายทำอะไรเสร็จ ดูดีที่เดียว ขายวันแรกเกรงมากกกกก....ไม่รู้ว่ายังไง การทอดแคปหมุดูไม่ยาก แต่พอเอาจริงๆ สุดยอดยาก เพราะเชื่อได้ว่าลูกค้าคนแรกๆที่สวนหมาก คงต้องกินของแข็งและของเหนียวไปบ้าง วันแรกผ่านไปเราขายได้ พันห้าร้อยบาท.....พระเจ้า!!!! เจ๋งอ่ะ วันต่อๆมาเริ่มลดลงที่ละนิดๆๆๆๆ จนมานิ่งๆตรงราคา พันนิดๆกับเก้าร้อย แปดร้อย อิอิอิ...เอาก็เอาวะ ผ่านไปลูกค้าเดินมาบ่นว่า มันแข็งบ้างมันเหนียวบ้างสารพัด ผมได้แต่ก้มหน้าก้มตาขอโทษและพยายามทำให้ดีขึ้นๆๆ ยอมรับเลยว่ามันยากตรงคุมไฟนี่แหละ....และที่สำคัญหนังหมุที่ได้มามันไม่เหมือนกัน หนังแต่ละส่วนมีความหนาบางไม่เท่ากัน ไฟที่จะใช้ทอดและระยะเวลาก็ต่างกัน ที่สำคัญ หนังทั้งหมดมันมาพร้อมกันและปนกันมา......ประสบการณ์ใหม่ที่ต้องแก้ไข โดย: daxter IP: 14.207.160.218 วันที่: 2 กรกฎาคม 2555 เวลา:0:19:58 น.
การเปลี่ยนแปลง.....ที่ต้องเรียรู้
ขายมาสัปดาห์กว่าๆการทอดเริ่มดีขึ้น คุมไฟได้ดีขึ้นแต่ก็ยังมีหนังบางส่วนที่แข็งอยู่ ก็แก้กันไปคัดทิ้งบ้างไรบ้าง ลูกค้าเริ่มมีหน้าเก่าๆแวะเวียมมาซื้อ...แต่รายได้เท่าเดิมไม่ขยับ บางวันมีบ้างที่ได้สี่ร้อย สามร้อย..เครียดและงง.... ลูกค้าบางคนถามมาว่าไม่มีน้ำพริกหนุ่มหรอ.....เราก็ตอบไปว่าไม่ได้ทำครับ...แต่พอมากขึ้นๆๆ เริ่มรังเรว่าเอาไงดี เราไปหามาขายมั๊ย ไม่ต้องทำเอง แต่ก็อีกนั่นแหละเราควบคุมอะไรไม่ได้อีก ถ้าเอาของไม่ดีมาเราก็ต้องแก้ปัญหาอีก.... ลองโทรไปหาคุณแม่ผม ได้เรื่องทันทีแกมีพรรคพวกที่ทำขายอยู่ เราก็เลยดีใจ แต่ที่สำคัญแกไม่ทำขายอยากได้ต้องมาเรียนกับแกเท่านั้น....นั่นไง เริ่มเห็นความหนักหน่วงแล้ว วันแรกกับการทำน้ำพริกหนุ่ม บอกได้เลยว่าทำไม ป้าแกไม่ทำขาย เพราะขั้นตอนยุ่งและใช้เวลามาก... ครั้งแรกปวดไปทั้งตัว แต่เราก็ได้น้ำพริกกับมา.... และแล้ววันรุ่งขึ้นเราก็ขายนำ้พริกหนุ่มกับแคปหมูตามที่ทุกเรียกร้อง.....ขายดีกว่าเดิม..แต่เรื่องประหลาดใจของเรายังไม่หมดยังมีต่อ..เอาไว้มาต่อให้นะครับ... โดย: daxter IP: 14.207.160.218 วันที่: 2 กรกฎาคม 2555 เวลา:0:20:58 น.
|
Link |