แชร์ประสบการณ์.เหนื่อยแต่ยังสู้อยู่..และสักวันเราจะโต
เริ่มอย่างมั่วๆ  ไปอย่างเมาๆ...

การเริ่มต้นเป็นอะไรที่ยากแค้นแสนสาหัญสำหรับสามัญชนคนเงินน้อย..อย่างคนทั่วไปที่มีฝันแต่ทุนทรัพย์น้อย...ผมเองก็เช่นกัน...อยากมี  อยากเป็น อยากสร้างฝันของตัวเองที่จะมีธุรกิจเล็กที่ไม่ต้องไป  วุ่นวายกับคำสั่งคนอื่นที่มีอีโก้เยอะจนทำให้มองไม่เห็นความเป็นคน....ในแวดวงที่ผมเคยทำงานนั้นเป็นแบบนี้จริง...เบื่อมาก  เบื่อคน  แม้กระทั่งเบื่อจริตของตัวเองที่นับวันเจอคนที่มีอีโก้มาก..จนทำให้เราบ่อยครั้งเป็นแบบเขา...ทั้งๆที่่าเขาแต่เราก็เป็นเหมือนเขา...พอเถอะ...ผมบอกกับตัวเองหลายครั้งกับงานที่ชอบ  ที่ผมทำและเลี้ยงตัวและครอบครัวมาหลายปี....จบพอเลิก!!!  นั่นคือฟางเส้นสุดท้าย.......


ผมออกจากงานประจำบ่อย  เพราะสันด-อา-นอ ผมเป็นคนที่ไมค่อยอยากจะทนกับงานที่ไม่ค่อยพร้อมในหลายๆด้าน   แต่จนแล้วจนรอดผมก็มักจะถูกชวนให้ไปทำงานที่ต้องเริ่มก่อตั้ง  หลายต่อหลายครั้ง  หลายสถานี...เหนื่อย  ท้าทาย  แต่ไม่ไหวเครียดจัดประสาท นอแรดมาก...ออกครั้งสุดท้ายและบอกกับตัวเองว่า  กรูพอแล้ว  ทำมาทุกตำแหน่งแล้ว...เดินตามความฝันได้แล้ว...ตอนนี้อยากหาความมั่นคงที่เราไม่ต้องเครียดจัดและอยู่ใกล้กันทั้งครอบครัว....

ก่อนที่จะออกจากที่สุดท้ายผมเริ่มทำเสื้อขายในเฟสบุ๊ค  มาสามสี่ครั้งการตอบรับถามว่าดีมั๊ย....ดี!!ครับ  ผมพอใจกับแบบนั้น  แต่จะให้มาเลี้ยงคนทั้งบ้านคงไม่พอ....ก็เลยต้องคิดและปรับกระบวนการคิดใหม่เพื่อที่จะสร้างงานให้กับตัวเอง..คิดอยากมาก  เริ่มยากที่สุด  หาทำเล ยากกว่า    ผมคิดแค่ว่าจะทำอะไรก็ได้ที่มีเงินเข้าบ้านทุกวัน   เริ่มจากคิดที่จะไปขับรถ ซูบารุ  ขายกาแฟสด ทำเสื้อขายตลาดนัด  ขายก๋วยเตี๋ยว โอ๊ยยยย!!เยอะ

ถามว่าทุนตอนนั้นมีมั๊ยไม่มีครับ...แต่มีกำลังใจที่จะต้องทำอะไรสักอย่างที่มันเป็นของเราให้ได้ เราสองคนปรึกาากันตลอดว่าจะเอาไง  ทำไร  จนในที่สุดเราตัดสินใจว่าเราจะขายกาแฟสด  เปิดบู๊ตเล็กๆขายแถวบ้านติดกับร้านข้าวแกง   เราเอาเรื่องนี้ไปคุยกับเจ้าของร้านข้างแกง  ปรากฏว่าเขาไม่ให้...เราก็เลยอึ้ง........แต่ช่างมัน สู้ๆเอาไว้ก่อน....

หลังจากนั้นไม่นาน  ผมได้เงินจากทางบ้านผม  พ่อกับแม่ให้มาเป็นเหมือนมรดก...โชคดีเงินหนึ่งแสนบาทกับความฝัน  ดูเหมือนจะเป็นจริงขึ้นมาแล้ว...แต่มันก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้น   เพราะระหว่างนั้นเราก็ต้องเอาเงินบางส่วนมาทำบ้านด้วย.....ทุนก็ลดลงไปอีก    เท่านั้นไม่พอในระหว่างนั้นเราสองสามีภรรยาไม่มีงานทำก็ต้องใช้จ่ายค่าโน้นนี้สารพัด  ก็ต้องใช้เงินก้อนนั้น...ทุนก็ลดลงอีก.....แต่เราก็เก็บเงินบางส่วนเอาไว้เพื่อสานฝันต่อ....ซึ่งเงินตรงนี้มีแค่สองหมื่นเท่านั้นที่เราจะเก็บเอาไว้ทำทุน

จนแล้วจนรอดการเดินหาทำเลมันช่างเหนื่อยแสนสาหัญจริงๆเดินเป็นเดิน  ไม่ได้สักที  ที่ว่างก็แพงเกินไป  ที่ถูกและดีก็ไปไม่ทันเขา  ตอนนั้นกาแฟสดยังอยู่ในสมองเราทั้งสองคน...ทำไมทำกาแฟสด  เพราะมันไม่ยุ่งยากมากนัก  ไม่เหนื่อยมากนัก  และเรายังมีเวลาครอบครัวร่วมกันได้อีก...

ผมกับภรรยาไปเรียนชงกาแฟกับร้านพี่ชายซึ่งขายอยู่แล้ว  เขาใจดีสอนให้ฟรีและสารพัดที่จะแนะนำ  นั่นคือโชคดีของเรา....ผมก้ยังคงเดินหาที่ขายของอย่างมุ่งมั่น  สารพัดก็แห้วเหมือนเดิม.....

แรงบันดาลใจ......ก้อนใหม่

ผมเดินสารพัดตลาดที่มีโอกาสที่จะไปไม่ว่าตรงไหนที่ไหน  เขาก็มีกาแฟสดทั่ว...เริ่มท้อแล้ว  แต่ยังเชื่ออยู่ว่าน่าจะมีอะไรที่จะช่วยให้เราสู้ได้อีก....วันนึงได้เดินไปตลาดนัดเพื่อหาทำเลอีกนั่นแหละ....ไปเห็นน้าคนนึงยืนทอดแคปหมู  ผมเป็นคนชอบกินอยู่แล้วก็เลยซื้อมากิน  อร่อยมาก  ประทับใจจนวันต่อมาก้ไปซื้อมากินและได้มีโอกาสยืนคุยกัน...ผมเองก็หาเรื่องถาม ๆๆๆๆๆ   จนได้เรื่อง.......ว่าอะไรยังไง....สุดท้ายผมบอกกับน้าคนนั้นว่าพรุ่งนี้ผมจะมาเรียนด้วยนะ  ช่วยสอนผมที.................

กลับบ้านมาคุยกับภรรยาว่า  เรามาทอดแคปหมูขายเถอะ  มันง่ายดีไม่ต้องยุ่งยากอะไร...ข้าวของก็ไม่แพงนัก  ภรรยาก็ถามว่าแล้วเราจะขายที่ไหน.....นั่นไงลืมคิดเรื่องนี้ไปเสียฉิบ  กรรม  ผมก็บอกไปว่า  เอาน่าเดี๋ยวก็คงมีทางเองแหละมั่วๆเนียนๆไป...เดี๋ยวเราก็จะหาที่ได้เอง

ผมไปเรียนทอด  เรียนกับน้าคนนี้อยู่เกือบสัปดาห์  ร้อนมหาประลัย  ดูแล้วง่ายมากการทอด  ก็แค่ทอด...แต่ไม่ใช่!!!.....หลังจากนั้นสักพัก  น้าก็ถามผมว่าเอาจริงป่าว...ผมบอกว่าจริงลุยแล้ว...ไม่สนแล้ว  ว่างมานานเงินทุนก้ใกล้หมด  ต้องทำอะไรสักอย่าง  ตายเป็นตาย   น้าถามว่าแล้วจะขายที่ไหน.............ผมอึ้ง....ยังหาที่ไม่ได้เลย

หลังจากนั้นไม่นานผมได้พูดคุยกับคนแถวๆบ้าน  คือบ่นแล้วก็ท้อเรื่องหาที่ขายของ  แล้ววันนั้นเอง  เหมือนขี้มูกที่ติดอยู่ปลายจมูกแล้วเราไม่เห็น   พี่ที่ได้ยินเรื่องของเรา  เขาก็ถามว่าจะขายอะไร  ผมก็เริ่มสับสนอีกครั้ง  และตอบกลับไปว่า ถ้ากาแฟสดขายได้ก็จะทำ  แต่ถ้าไม่ไหวก็จะขายแคปหมูครับ  พี่เขาพูดขึ้นมาว่าให้ไปดูที่  แถวๆ"สวนหมาก"  พี่เขาขับรถผ่านทุกวัน....ให้ลองไปดู


เอาก็เอา..ลุยแล้ว.....

ไปถึงสถานที่  ที่ให้เช่ามีขนาดเล็กที่สามารถวางโต๊ะได้ตัวเดียวกับของอีกเล็กน้อย   คุยกับเจ้าของเขาถามว่าจะขายอะไร  พอเราเห็นบรรยกาศร้านรวงแถวนั้นซึ่งมี้รานขายน้ำกว่าสามร้านเราก็เลย  บอกว่าขายแคปหมูทอด....เขาก็ถามว่าขายอย่างเดียวเนี่ยนะ  ผมก็ตอบไปตรงๆว่าเอาแค่นี้ก่อนครับ....พี่เขาก็ใจดีนะบอกเราว่า  แถวนี้เป็นอย่างไร  คนจะมีพฤติกรรมอย่างไร คนส่วนใหญ่เป็นแบบไหนยังไง....และที่สำคัญที่ตรงนี้จะมีสัญญาเพียงแค่หกเดือนนับจากวันนี้...

ผมเข้าใจและรับทราบเงื่อนไข  ค่าใช้จ่ายค่าที่เพียงแค่สองพันห้าร้อยบาท....ผมคิดกันว่าสำหรับการเริ่มต้นเงินแค่นี้น่าจะพอเสี่ยง...คิดไปคิดมาถามว่ามั่นใจแค่ไหนกับการลงทุนและเริ่มครั้งนี้ บอกได้เลยไม่มั่นใจเลย  กังวลสารพัดที่จะคิดได้  โน้นนี่นั่น   แต่ทำไงได้เราจ่ายเงินค่าทีไปแล้ว  และพรุ่งนี้จะไปซื้อของแล้ว  สั่งหนังหมูแล้ว  เตรียมทุกอย่างแล้ว...กังวลไม่เลิก  เครียด....

วันรุ่งขึ้นไปจ่ายของซื้อกระทะ  เตา สารพัด...ถึงตอนนั้นก็ยังคิดอยู่ว่า   คิดดีแล้วเหรอ...คิดถูกแล้วใช่มั๊ย   โอ๊ยสารพัดเยอะกว่าเดิมอีก...เอาอย่าคิดมากสู้ๆเป็นไงเป็นกัน...


มีต่อนะครับ......แล้วจะมาต่อครับ...




Create Date : 29 มิถุนายน 2555
Last Update : 29 มิถุนายน 2555 23:53:04 น.
Counter : 1292 Pageviews.

5 comment
มนุษย์ต้องผ่านแรงกดดัน จึงจะสร้างงานที่ยิ่งใหญ่ได้
บนโลกแห่งความเป็นจริง ทุกสิ่งอย่างไม่อาจเกิดขึ้นได้ตามใจมนุษย์ การไหลไปตามวัฏจักรชีวิตที่ไร้จุดหมาย ไร้อุปสรรคท้าทาย จมอยู่กับความคิดที่เป็นไปไม่ได้ นี่แหล่ะคือความคิดที่อันตรายที่สุด
ความแข็งแกร่งของจิตใจสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับชีวิต ไม่ว่าความกดดันจะหนักหนาเท่าไหร่ ความเชื่อเท่านั้นที่จะนำพาตัวตนของคุณไปสู่จุดหมาย ถ้าหากความอ่อนแออ่อนไหวเข้ามาทาบทามคราใด ความท้อแท้เกาะกุมหัวใจ บีบรัดความรู้สึกจนเกินกว่าจะเปิดรับโอกาสที่ดีเข้ามา
ชีวิตจึงไม่ง่าย ถ้าหากเดินดุ่มไปแบบไร้จุดหมายชีวิตก็แค่นั้น ไม่มีความหมายให้ค้นหา ไม่มีค่าในความรู้สึก ความมีความภาคภูมิใจใดๆ
โลกสร้างแรงกดดันเป็นเส้นทางไปสู้เส้นชัยที่พริ้วไหวไปด้วยความสุข หากแต่ระหว่างทางมีขวากหนามคอยท้าทาย ฝีเท้าที่ก้าวอาจจะหยุดบ้างยั้งบ้าง เปลี่ยนทิศไปบ้าง ถ้าท้ายที่สุดแล้วเดินวกกลับมายังเส้นทางแห่งความฝัน ความสำเร็จก็ไม่ไกลเกินเอื้อม
“กำแพงเมืองจีนไม่ได้สร้างภายในวันเดียว” ความยิ่งใหญ่ที่โดดเด่น ตั้งตระหง่านท่ามกลางสายตาและความรู้สึกนั้นไม่ได้ใช้ระยะเวลาเพียงข้ามวันก็สำเร็จ แต่เบื้องหลังมีร่องรอยประวัติศาสตร์ ระยะเวลาเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ความสำเร็จเดินทางมาถึง แต่ก็ต้องมีกำลังใจและความเข้มแข็งภายในจิตใจเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จนี้อีกเช่นกัน
บริบทของชีวิตไม่ได้ผูกติดไว้กับโชคชะตา แต่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจและการกระทำ ทุกอย่างล้วนมีที่มาที่ไป ความเข้มแข็งจะไม่ก่อตัวขึ้น หากไม่ได้ผ่านการเรียนรู้ และนำมาปรับใช้
ความก้าวหน้าของคนอยู่ที่ผลงาน ไม่ได้อยู่ที่ฐานะ ไม่ได้อยู่ที่โชคชะตา แต่อยู่ที่ความคิด ความเชื่อเท่านั้น คนที่ประสบความสำเร็จบนโลกใบนี้ไม่ได้เกิดอยู่บนความร่ำรวยมาก่อน ทุกคนมีอดีตยากลำบาก เพราะความลำบากจึงสร้างแรงกดดัน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของตนเองให้ดีขึ้น
อุปสรรคไม่ได้มีไว้ให้เราหวาดกลัว แต่มีไว้พิสูจน์หัวใจ เพื่อให้เราได้แข่งขันกับตัวเอง หากเอาชนะความคิดตัวเองไม่ได้ก็อย่าหวังว่าจะไปชนะใครที่ไหนได้อีก
ไม่มีนักการเมือง หรือนักธุรกิจคนใดผงาดยิ่งใหญ่ได้โดยที่ไม่ผ่านแรงกดดัน แต่สิ่งที่พวกเขามีอยู่คือความกล้า เกินกว่าที่คนธรรมดาทั่วไปจะมองเห็น
ทุกสื่งอย่างอยู่ที่การเรียนรู้ และฝึกฝน ถ้าไม่รู้จักเรียนรู้ที่จะเจ็บปวดบ้าง ประสบการณ์ที่ผ่านมาก็เปล่าประโยชน์สิ้นดี...

The ctmpp

**** ตอนนี้ผมเองก็ยังนเวียนอยู่กับเรื่องนี้เลย

ขอบคุณ//www.arayanewspaper.com




Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2555 23:41:13 น.
Counter : 521 Pageviews.

3 comment
ภาพรวมของผม
เก้าเดือนแล้วสิที่ผมเริ่มทำอะไร เป็นของตัวเองสักที ในอายุเริ่มหลักสี่อีกในไม่กี่เดือนข้างหน้า จริงๆรู้ว่าแวดวงแห่งการตลาดเสื้อผ้า เป็นเรื่องที่มีการแข่งขันสูงมาก แต่ก็แปลกมันมีเสน่ห์ที่ทำให้ใครต่อใครแวะเวียนเข้ามาลองของ บางคนที่เข้ามาก่อนหลายคนต้องพับฐานออกไป แต่ก็มีอีกไม่น้อยที่ยังยึดมั่น ตั้งมั่นในวิถีที่ตัวเองทำจนประสบกับชัยชนะ ที่ตนเองพอใจ

ผมเองก็เป็นคนนึงเช่นกัน ยอมรับครับว่าการเป็นหนึ่งในตองอูนั้น มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แต่จะทำไงได้ครับผมเข้ามาแล้วถึงแม้จะเริ่มเข้ามาแบบเอานิ้วแหย่ๆเข้ามาก็เถอะ ใช่ครับผมทำเสื้อขาย!!! แต่ไม่ได้เป็นที่รู้จักมากนักในสังคมข้างนอกเพราะผมเองก็ขายในหมู่เพื่อนฝูง

ยากมากที่จะทำอะไรให้ต่างจากคนอื่น แต่ก็ต้องทำเพราะผมมั่นใจว่าสมองของผมไม่ได้มีเอาไว้เฉยๆ ผมเริ่มต้นง่ายๆจากสิ่งที่ผมและคนอื่นคิดนั่นก้คือ กรูแนวว่างั้น ผมออกแบบเสื้อและขายในเฟสบุ๊คของตัวเองมาประมาณสี่รุ่นสี่แบบ เพราะทำเกือบทุกเดือน ยกเว้นช่วงน้ำท่วม

ตอนแรกทำขายในงานเลี้ยงรุ่นที่มหาลัยรุ่นน้องซื้อกันให้เพียบขายดี จนน้ำตาจะไหลเข้าไปดีใจในส้วมคนเดียว....หลังจากนั้นสิของจริง ผมออกแบบและเรียนรู้จากที่ไม่เคยมีความรู้อะไรเลย เสาะแสวงหาไปเรื่องยว่าที่ไหนเขารับสกรีนบ้าง ผ้าเป็นแบบไหน แนวไหนยังบ้าง ราคาที่ไหนถูกไหนแพง เรียนเองทั้งนั้น

จนวันนี้ก้มีความรู้เพิ่มมากขึ้น และครั้งแรกที่ขายในเฟสบุ๊คตัวเองลุ้นทุกวันว่ามันจะได้เท่าไหร่ เพื่อนฝูงก็มาอุดหนุนกันไป ยอดได้พอดีกับี่ โรงงานเขารับสกรีนให้เลย ห้าหกสิบตัว....เฉียดตาย แต่แบบหลังๆมันไม่ค่อยถึงแล้ว ก็ต้องจ่ายเองในส่วนที่ขาดไป...ยอมรับครับว่าได้เรียนรู้เยอะมากว่า ถ้าเราเอาดีแบบนี้ก็น่าจะรอดนะ

ทุกวันนี้พยายามมากครับที่จะเอาเสื้อของผมเองออกมาสู่โลกภายนอก ออกมาสู่การขายแบบใหญ่ขึ้น แต่มันไม่ได้ง่ายเอาเสียเลย เพราะหนึ่งร้านเราเองไม่มี ทุนไม่ได้ สารพัดปัญหา แต่มีอยู่อย่างเดียวที่มีเต็มเปี่ยมนั่นก็คือ "ความเชื่อ" และมั่นใจว่าสักวันเสื้อของเราจะขายได้แบบไม่ต้องลุ้นว่าจะถึงห้าสิบตัวมั๊ย...

ผมเองตั้งใจว่าอยากให้เสื้อตัวผมเองนี่ออกไปสู่ตลาดแบบขายส่ง พยายามหาช่องทางอยู่ครับ เพราะปัญหานึงของการทำงานที่จำนวนน้อยก็คือ "ต้นทุน"ที่สูงมากเกินไปต่อชิ้น ดังนั้นเสื้อที่ทำมาแต่ละรุ่นของผมไม่สามารถขายถูกได้ แต่ผมก็ได้วางราคาเอาไว้ว่า ราคาประมาณนี้พร้อมส่งถึงบ้านนะ ที่ทำมาลูกค้าก็โอเค...

หลังจากที่ผ่านน้ำท่วมมา ผมตั้งใจกลับมาสู่สิ่งที่ตั้งใจอีกครั้ง ปรากฏว่าขายมาได้หกวันถึงวันนี ได้ประมาณยี่สิบสองตัว ฮ่าๆๆ อีกสองวันผมจะต้องสั่งทำแล้ว ยอดไม่กระดิกอิอิอิ ทำใจแล้วครับว่าเอาวล่ะครั้งนี้คงจะเจ็บบ้างไรบ้างก็ว่ากันไป...ซึ้งๆกันไป ไม่เป็นไร อีกอย่างแบบเสื้อคร้งนี้เป็นแบบเฉพาะกลุ่มไปนิดครับ..และทุนสูงกว่าปรกติอีกด้วย แต่พิเศาตรงที่ผมสกรีนสองด้านเลย ไม่เคนทำเพราะรู้ว่ามันสูง แค่เฉพาะบล๊อคอย่างเดียวก้หกอันแล้ว นี่ขนาดลดสีลงแล้วนะ...

ตอนแรกกะว่าเอาสีน้อยหน่อย แต่ใจมันไม่ได้ไม่ชอบเลยจัดเต็ม....แต่ก็ทำให้เรารู้ได้ว่า คนที่ชอบของเราก็ยังชอบอยู่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ลุกค้าที่เคยซื้อแทบทุกครั้งที่มีอยู่สามสี่คนก็หายไปบ้าง เหลือไม่กี่คนที่ยังซื้ออยู่ แต่ผมว่าแบบนี้น่าจะเป้นแบบที่ผมชอบมากที่สุดเลยตั้งแต่ทำมา เพราะผมใกล้ที่จะเข้าสู่โหมดของความเป็น แนวตัวเองแบบชัดขึ้นเหมือนตอนแรกที่คิด...

ในส่วนของชีวิตที่ผ่านมา ผมทำงานด้านวงการทีวี ไม่ใช่ซ่อมทีวีนะ hahaha รายการทีวีอ่ะ สิบกว่าปีที่ผ่านมา ผมได้เรียนรู้เรื่องของคนอื่นมาเยอะมาก แต่ไม่ค่อยได้เรียนรู้เรื่องของจิตใจตัวเองสักเท่าไหร่ครั้งนึงคิดแล้วว่าเราจะเดินทางเส้นนี้แหละไปตลอดชีวิต แต่เมื่อสองปีก่อนคิดใหมม่ว่าทำงานมาตั้งนาน ชีวิตไม่เปลี่ยนเลย.....อีกทั้งผมเองก็มีโรคประจำตัวที่สามารถทำชีวิตที่เกือบปรกติของผมให้กลายเป็น ให้หานะได้เลย....

ผมตัดสินใจปรับเปลี่ยนทั้งชีวิตหมดแบบไม่สนด้วยว่าคนอื่นจะว่าอย่างไร และที่สำคัญผมเองก็มีลูกเมียที่ต้องดูแล เครียดนะแต่ไม่มาก เหมือนแต่ก่อน เพราะคงมีภูมิเรื่อง แบบนี้มามากพอ ตั้งใจว่า จะออกมาลุยให้มันรู้ไส้กันไปเลยว่า "ผมเองก็สามารถทำเสื้อแล้วอยู่ได้ และจะอยู่ได้ดีกว่าเดิมแน่นอน" ถึงแม้วันนี้ยังไม่สามารถเป็นไปได้อย่างที่ฝัน แต่อย่างน้อยๆผมก็เริ่มแล้ว คงต้องสู้อีกสักพักใหญ่เลย

ใครพอมีแนวทางการต่อสู้ที่พอจะแนะแนวผมได้บ้าง ผมอยากจะเข้าไปคุยเพื่อหาทางออกครับ รบกวนชี้ทางให้ด้วยนะครับเผื่อว่า คำแนะนำของท่านจะกลายเป็นแสงสว่างที่ผมค้นหาอยู่ครับ ได้บุญด้วยอิอิอิ

ปอลอ. จริงแล้วแนวคิดผมที่จะเป้นพ่อค้าขายส่งนี่มันสามารถมั๊ย หรือจะต้องมีร้านยัง หรือมีแนวทางอื่นที่ดีกว่านี้มั๊ยยังไง ผมยินดีรับฟังข้อมูลครับ..ขอบคุณทุกท่านที่เสียสละเวลามาอ่านเรื่องของผม ฝันของผม..ขอบคุณอีกครั้ง



Create Date : 26 มกราคม 2555
Last Update : 26 มกราคม 2555 22:54:35 น.
Counter : 350 Pageviews.

0 comment

DxT72
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]