คำถาม-เกล็ดเลือดต่ำ
ข้อความ : อยากถามว่าลูกชายเป็นเกล็ดเลือดต่ำ ทานยาสเตรอยล์อยู่ ตอนแรก
เกล็ดเลือดก็เพิ่ม พอคุณหมอนัดไปเช็ดผลเลือด ปรากฎว่าเกล็ดเลือกลดลงมาสี่หมื่นกว่า ทั้งที่ตอนเกล็ดเลือดขึ้นมาแปดหมื่นกว่า อยากทราบว่าสาเหตุว่าเพราะอะไรค่ะ รบกวนให้ความรู้ด้วยนะคะ
จาก : มลิวัลย์ - - pig@thaimail.com
ข้อความ : สาเหตุของเรื่องเกล็ดเลือดต่ำ มักพบได้อยู่เป็นระยะๆ เช่นกัน สำหรับสาเหตุที่ทำให้มีเกล็ดเลือดต่ำนั้น มีหลายสาเหตุ เช่น การติดเชื้อไวรัส การทำงานของไขกระดูกผิดปกติ หรือ โรคเลือดบางชนิดหรือ โรคทางระบบภูมิคุ้มกัน เป็นต้น สำหรับการรักษา ก็คือการใช้ยา ต้านภูมิคุ้มกัน เพื่อป้องกันการทำลายของเกล็ดเลือด ซึ่งจะมีผลทำให้จำนวนเกล็ดเลือดมากขึ้น โดยปกติการรักษาใช้เวลาประมาณ 4-8 สัปดาห์ การตรวจไขกระดูก ว่ามีความผิดปกติที่ระดับไหน และติดตามผลเลือดเป็นระยะๆ ว่าได้ผลดีหรือไม่หลังการให้การรักษา ในผู้ป่วยบางกลุ่มจะเป็นกลุ่มที่ต่อต้านยาเสตรียรอยด์ หรือจำเป็นต้องได้รับยาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็จะทำให้การรักษาต้องการใช้เวลาในการรักษานานขึ้น แนะนำว่าคุณแม่ลองปรึกษากับคุณหมอที่ให้การรักษาว่าเด็กเป็นโรคอะไร และมีอันตรายหรือไม่อย่างไรครับ..จะได้ไม่ต้องกังวลมากครับ
จาก :บางคน
ต้องขออภัยครับที่ไม่ได้แสดงความคิดเห็น แต่จะรบกวนสอบถามข้อมูลครับ เพราะตอนนี้ คุณป้าของผมมีอาการเกล็ดเลือดต่ำ แล้วแพทย์แนะนำในการตัดม้าม อยากทราบว่าพอจะมีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้มั๊ยครับ เพราะท่านอายุค่อนข้างมาก จะมีปัญหาเกี่ยวกับการผ่าตัดครับ ขอบพระคุณมากครับ
จาก : โอภาส วงษ์ชนะชัย - - Oh_Opas@Yahoo.ie
ข้อความ : ตอนนี้เป็นเกล็ดเลือดต่ำและเป็นมานานแล้ว ผ่าตัดม้มามแล้ว แต่ทำไมเกล็ดเลือดยังต่ำอยู่ล่ะค๊ะ และอยากทราบว่ามีสิทธิ์หายมั๊ยค๊ะ
จาก : หลิน - - //www.hlin_jum@sanook.com
ข้อความ : กินยามา ประมาณ เกือบ 1 ปี ครึง ตรวจได้ 23, 000 แล้วยังไม่หายเลย ก่อนหน้านี้กินยา เกลือดขึ้น ถึง 160,000-140,000 แล้วลดลง เพียงยุดยา แค 1 เดือน ตอนนี้เหลือ 35,000 วึ่งก่อนหน้านี้ ก็ดีอยู่ เวลา ประมาณ 3 สัปดาห์
เดินตากแดดบ่อยมาก และ มีอาการ ปวด หลังอยู่บ่อย ๆ สังเกตุตัวเอง
ก็เห็น จุดเลือดอีกแล้ว ตกใจมากเลย เลยไป หามอ ตรวจได้ 35,000 ไม่อยากตัดม้ามเลย
จาก : ตาล - - Krongthong.Nookhao@hotmail.com
ข้อความ : เราก้เคยเป็นนะค่ะ เป็นจนถึงขนาดเลือดออกไม่ยอมหยุด จนขึ้นเป็นจุดเหลือด เป็นประจำเดือน และเลือดกำเดาไหลไม่ยอมหยุดทั้งวันทั้งคืน จนตัวซีดหมด เราต้องนอนห้อง ICU แต่พอหมอตรวจเจอหมอก็เอายา อะไรไม่รู้นะน่าจะเป็นสเตอรอย เรากินตอนแรก 7 เม็ด ต้องเช็คเกล็ดเลือดทุกๆอาทิตย์ อยู่ในความดูแลอย่างใกล้ชิด จนแขนเราเป็นลอยเข็มไปหมด เราท้อมากที่ต้องกินยา และผลข้างเคียงของยาก็ไม่ใช่ดีเลย ทำให้เราอ้วนขึ้น เป็นสิวด้วย และตัวบวม อย่างบอกไม่ถูกเลยค่ะ ตอนนั้นเราเพิ่งอย่างที่จะเป็นสาว เรารู้สึกไม่ดีเลย เราเลยตัดสินใจทิ้งยาทั้งหมดไม่กิน ไม่บอกคุณพ่อ คุณแม่ เราได้แต่ร้องให้ ***แต่ไม่รู้ซินะ ว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจิงหรือเปล่า เราได้แต่ไหว้ และขอร้องวิงว้อน เจ้าแม่กวนอิม เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สุดที่เรานับถือ เราพยายามออกกำลังกาย และกินผลไม้ กับอาหารที่เป็นเครื่องไนให้มากที่สุด หลังจากนั้นเราก็ไปตรวจเลือดตามปกติเพื่อให้คุณพ่อ คุณแม่สบายใจ และได้ยามากินแต่ก็ไม่กินตัดสินใจทิ้งตั้งแต่อยู่โรงพยาบาล ...แปลกใจมากทำใจเกล็อดเลือดเราเพิ่มขึ้นมาได้โดยไม่ต้องกินยา จากเป็นแค่หลักหมื่น ตอนนี้เราเป็นเหมือนคนปรกติ และเราไม่ต้องรักษา ไม่ต้องกินยาอีกจนมาประมาณเกือบ 10 ปี แล้ว ..แต่เราก็ยังห่วงร่างกาย เราจะไปตรวจเลือดเพื่อดูเกล็ดเลือดเหมือนการประมาณ 6-7 เดือนครั้ง***คืออยากบอกคุณว่ามันสามารถหายได้นะค่ะ 1.คุณมีกำลังใจที่ดี ทำใจให้สบาย ออกกำลังกาย หาสิ่งที่ดีๆทาน มีสิ่งที่คุณรักและหวังว่าจะอยู่กับเขาไปตลอดชีวิต ...เราหายได้ทั้งๆที่หมอเป็นคนบอกกับเราเองว่ายานี้ต้องกินไปตลอดชีวิต และจะไม่มีนหายเองต้องอาศัยยาตลอด...เรายังหายได้เลย เป็นเพราะเราสู้และเราหวังเสมอว่าเราต้องอยู่ได้เหมือนคนปรกติ โดยไม่ต้องกินยาค่ะ ***คุณทานยาอารายอยู่ค่ะเหมือนเรามั้ย หรือ คุณรักษาอย่างไร
จาก : ฝ้าย - - aunso_pee@hotmail.com
ข้อความ : เป็นโรคเกล็ดเลือดต่ำประมาณ 8 ปีแล้วทานยามาตลอดก็ยังไม่หายตอนนี้แต่งงานแล้ว 3 ปียังไม่มีบุตรอีก เราต้องปฏิบัติตัวอย่างไรบ้างค่ะอยากมีลูกค่ะ
จาก : ยามีละห์ - - yameelah.09@thaimail.com
ข้อความ : อยากทราบใครอยู่จังหวัดขอนแก่น มีหมออะไรที่ตรวจเกล็ดเลือดต่ำได้คะ จะไปหาที่คลีนิคค่ะ เพราะพ่อตอนนี้เกล็ดเลือดอยู่ที่ 40,000และเม็ดเลือดขาว5,000 ขอความกรุณาบอกหน่อยนะค่ะหมอไหนเก่งค่ะ
จาก : นก - - lit_j001@hotmail.com
ข้อความ : น้องชายอายุ7 ขวบ เคยเป็นไข้เลือดออกตอน3ขอบ ตอนนี้ไม่สบายเป็นไข้ได้ประมาณ 1 อาทิตย์แล้วไปหาหมอมาหมอบบอกว่าเกล็ดเลือดต่ำอยากถามว่าเป็นสาเหตุมาจากการเกิดไข้เลือดออกไหมค่ะขอบคุณคะ
จาก : แหม่ม - - mam_0405@hotmail.com
ข้อความ : แม่เป็นโรคเกล็ดเลือดตำ เคยต่ำเพียง 10000 แต่รักษามาเรื่อยๆ นาน 4 เดือน เกล็ดเลือดขึ้น 200000 แต่มาอาทิตย์นี้เป็น 4 เดือนครึ่ง ตรวจเกล็ดเลือดเหลือ 70000 เองจะรักษายังไง จะทำยังไงดี เครียดมากเลยค่ะ รักษาที่โรงพยาบาลไหนดี
จาก : อรวรรณ - - Orawan@hotmail.com
ข้อความ : ดิฉันเป็นโรคนีค่ะหมอบอกว่าต้องตัดม้ามเกล็ดเลือดเหลือเพียง11000เองค่ะอยากทราบว่าหลังจากผ่าตัดแล้วต้องทำตัวอย่างไรบ้างอาการจะดีขึ้นมั้ยแล้วโรคอื่นแทรกซ้อนง่ายมั้ยคะ
จาก : ไผ่ - - noophai@hotmail.com
ข้อความ : ถ้าตรวจเลือดแล้วเจอเกร็ดเลือดต่ำ คุณหมอก็จะแนะนำให้ทานธาตุเหล็กเสริมเข้าไป เช่น เครื่องใน ตับ ยอดผักคะน้า หรือคุณหมอจะให้ยาบำรุงเลือดมาทาน เดือนม.ค.ที่ผ่านมาเก๋ก็ตรวจเลือดเจอเกร็ดเลือดต่ำเหมือนกัน
จาก : kae3510
ข้อความ : สวัสดีค่ะ ดิฉันเป็นคนนึงที่เป็นเกร็ดเลือดต่ำค่ะ คือระดับเกร็ดเลือดตอนนี้อยู่ที่ 25000 ซึ่งคุณหมอบอกว่ามันจะต้องอยู่ที่ 100000 กว่าขึ้นไป อาการคือมีเลือดออกตามไรฟันไม่หยุด เป็นแผลแล้วเลือดหยุดไหลช้า มีจ้ำเลอดตามตัว โดนอะไรกระแทกแล้วจะเขียวทันทีแล้วหายช้ามาก สาเหตุก็มาจากภูมิคุ้มกันทำลายเกร็ดเลือดตัวเอง ตอนนี้คุณหมอให้ยากดภูมิอยู่ค่ะ ไปตรวจล่าสุดระดับเกร็ดเลือดตอนนี้อยู่ที่ 33000 แล้ว อันนี้เป็นข้อมูลของอาการค่ะ แต่อยากทราบว่าจะต้องดูแลเรื่องอาหารอย่างไรบ้าง ถ้าใครทราบช่วยบอกด้วยนะคะ
จาก : Pook
ข้อความ : คุณลุงมีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ เหลือ 4,000 เซลล์ต่อลูกบาศก์มิลิเมตร คุณหมอที่โรงพยาบาลอื่นให้คำแนะนำว่าควรผ่าตัดเอาม้ามออก จะเป็นทางเลือกที่ดีหรือปล่าวคะ และมีกรณีไหนหรือปล่าวที่ต้องผ่าตัดม้ามออกอ่ะค่ะ เพราะสงสารคุณลุง จำเป็นต้องผ่าออกในบางกรณีจริงๆหรอค่ะ ไม่สบายใจเลย แค่เกร็ดเลือดต่ำเท่านั้นเอง (ตอนนี้คุณลุงใช้ยาสเตอรอยด์อยู่ค่ะ) ขอบพระคุณคุณหมอมากๆค่ะ
จาก : เบลล์
ข้อความ : ม้ามเป็นอวัยวะหนึ่งที่ทำลายเกร็ดเลือด ถ้ามีภาวะเกร็ดเลือดต่ำเรื้อรังอยู่เป็นเวลานาน แพทย์อาจแนะนำให้ตัดม้ามออก จะช่วยให้ลดการให้ยาได้และปริมาณเกร็ดเลือดจะไม่น้อยลง ความจำเป็นต้องผ่าตัดมากน้อยแค่ไหน ควรอยู่ภายใต้ดุลยพินิจของแพทย์ผู้ให้การรักษาค่ะ
จาก : ร.พ.สินแพทย์
ข้อความ : ตอนนี้ดิฉันเป็นโรคเกร็ดเลือดต่ำ ดิฉันอยากรู้ว่าโรคสาเหตุนี้มันเกิดจากอะไรค่ะ และมีวิธีรักษายังไง ...........ช่วยตอนด้วยนะค่ะ
จาก : to_bee2@hotmail.com
ข้อความ : ไม่ทราบว่าต่ำเฉพาะเกร็ดเลือด หรือมีอย่างอื่นต่ำด้วย เช่น เม็ดเลือดแดง, เม็ดเลือดขาวต่ำด้วย
สาเหตุใหญ่ก็จะมี
1. ไขกระดูกสร้างไม่ได้หรือสร้างน้อย
2. ถูกทำลายมากกว่าปกติ
คิดว่าน้องคงรักษาอยู่แล้ว น้องควรถามแพทย์ที่รักษาอยู่ท่านน่าจะรู้ดีที่สุดครับ ท่านมีรายละเอียดในตัวน้องมากสุดครับ
จาก: อ.นพ.สุวชาติ อนุมานไพศาล (icq: ศูนย์เวชศาสตร์ครอบครัว)
ข้อความ : คุณหมอคะ ไม่ทราบว่าเป็นไปได้หรือเปล่าที่ผู้ป่วยด้วยโรคเกร็ดเลือดต่ำจะกลายเป็นผู้ป่วยโรค SLE
และผู้ป่วยโรคเกร็ดเลือดต่ำมีความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ใช่หรือไม่ หากตั้งครรภ์แล้วควรจะทำอย่างไรคะ ขอคำแนะนำด้วยค่ะ
จาก: บุคคลทั่วไป
1. เป็นไปได้ครับ ที่ผู้ป่วย SLE บางรายมีอาการนำตอนเริ่มต้น ด้วยภาวะเกร็ดเลือดต่ำ แล้วภายหลังจึงมีอาการผิดปรกติอื่นๆ ของ SLE ค่อยๆปรากฏออกมา และก็เป็นไปได้ครับที่ผู้ป่วยเกร็ดเลือดต่ำ ITP บางราย เมื่อติดตามไป จะมีอาการผิดปรกติของระบบอื่นๆ เพิ่มเติมจนเข้าข่ายที่จะได้รับการวินิจฉัยเป็นโรค SLE ดังนั้น ไม่ใช่ทุกรายของผู้ที่มีเกร็ดเลือดต่ำ ที่จะเปลี่ยนไปเป็นโรค SLE ผู้ป่วย ITP หลายรายเคยเป็น แต่หายขาดได้
2. สตรีที่เป็นโรค ITP แล้วตั้งครรภ์ ก็ย่อมมีโอกาสเสี่ยงต่อการตกเลือดขณะคลอดบุตร สูงกว่าสตรีปรกติ
3. ถ้ามีโรคเกร็ดเลือดต่ำแล้วตั้งครรภ์ ควรจะปรึกษาสูติแพทย์ และอายุรแพทย์โรคเลือด ถึงวิธีปฏิบัติตน
รศ.นพ.ปรีดา วาณิชยเศรษฐกุล
กุมารแพทย์โรคเลือด
คำถาม
ผู้ป่วยเด็กอายุ 10 ขวบ ไป รพ.สุราษฎร์ฯ แพทย์บอกว่าเกร็ดเลือดต่ำ ขณะนี้ผู้ป่วยได้รับยา Methylphenidate (10) 1x1, Haloperidol 2 mg, Benzhexol 2 mg ยามีโอกาสทำให้เกิดเกล็ดเลือดต่ำได้หรือไม่
คำตอบ
Methylphenidate มีรายงานการเกิดอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาเกี่ยวกับระบบเลือด ได้แก่ ระดับ eosinophil ในเลือดสูง และ thrombocytopenia (ส่วนใหญ่ไม่มีอาการ)
มี Case report ผู้ป่วยอายุ 10 ขวบ ได้รับยา methylphenidate ในการรักษาโรคสมาธิสั้น ผู้ป่วยได้รับยานาน 10 เดือน เมื่อทำ blood count พบ thrombocytopenia (เกล็ดเลือดต่ำกว่า 100,000 mm3) และเมื่อหยุดใช้ยานาน 2 สัปดาห์ ผล blood count กลับมาปกติ
สำหรับยา Haloperidol และ Trihexyphenidyl ไม่พบรายงานการเกิดอาการไม่พึงประสงค์เกี่ยวกับระบบเลือด
ผู้ตอบ ภญ.ปิยพร ชูชีพ
เอกสารอ้างอิง
1. Hutchison TA, Shahan DR, Anderson ML.eds. Methylphenidate. DRUGDEX system. MICROMEDEX, Inc.,Greenwood Village, Colorado (Edition expires [12/2005]).
2. Peterson CW. Drug-induced blood disorders. In: Young LY, Koda-Kimble MA. Eds. Applied Therapeutics: The clinical use of drugs. 6 th ed. Vancouver (WA): Applied Therapeutics, 1995. p.89-6.
ข้อความ: ตอนเข้าโรงพยาบาลเพราะปวดหัวมากกว่า 1 อาทิตย์โดยไม่รู้สาเหตุ ปวดในลำคอ ทานอาหารไม่ได้ ไปตรวจเลือดหมอบอกว่าเกร็ดเลือดต่ำ หลังจากนั้น ตรวจอีกครั้งรู้ว่าติดเชื้อ ตอนนี้ยังไม่รับยาต้านเพราะ ซีดีโฟร์ ยังสูงอยู่ แต่อยากทราบว่าถ้าเกร็ดเลือดต่ำ มีผลอะไรต่อสุขภาพบ้างควรดูแลตัวเองอย่างไร ให้เลือดได้ไหม หรือมียาอะไรพอที่จะทำให้เกร็ดเลือดปกติเหมือนคนอื่นได้บ้าง อาการตอนนี้หน้าดำลงทุกวันมากๆๆ ทั้งๆ ที่เพิ่งรับเชื้อได้ไม่ถึงปี ผิดปกติจนคนสังเกตุได้ และเหนื่อยง่ายมากๆ ช่วยตอบด้วยนะคะกลุ้มใจมาก เพราะก่อนจะติดเชื้อเป็นคนรักสุขภาพมากๆๆ แต่เพราะไว้ใจคนรักถึงเป็นแบบนี้ เศร้ามากค่ะ
จากคุณ :- alone (202.143.162.93)
สวัสดีครับ
เกล็ดเลือดต่ำ - เป็นเพียงอาการประกอบของโรคหลักครับ ในกรณีของคุณ ถ้าคุณหมอวินิจฉัยว่าเป็นเพราะสาเหตุมาจาก เชื้อไวรัส คงรักษาโรคหลักมากกว่าครับ อันที่จริง ถ้าเกล็ดเลือดต่ำ จะทำให้ซีด หากเป็นแผลแล้ว เลือด จะจับตัวเป็นก้อนปิดแผลยาก
แต่ถ้า เพิ่งได้รับเชื้อมา แล้ว เกล็ดเลือดต่ำมากกว่า ปกติ (ของผู้ได้รับเชื้อ) คุณหมอก็อาจจะเจาะดูไขกระดูก หนะครับ ว่า ไขกระดูกสร้างเม็ดเลือดได้ ปกติดี อยู่หรือไม่
โดยเฉพาะผู้หญิง จะมีประจำเดือน ถ้าจะแนะนำเรื่องการบำรุง ก็อาหาร พวกธาตุเหล็ก หนะครับ การขาดธาตุเหล็กเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ก็คือ การที่ร่างกายของเรามีการสูญเสียเลือด เช่น ประจำเดือน โดยเฉพาะคนที่มีประจำเดือนเยอะ ถ้าเกิดมีการสูญเสียเลือดไปทุกเดือนๆ ถ้าทานทดแทนไม่เพียงพอ
อาจจะต้องทานเนื้อสัตว์ที่เป็นเนื้อสีแดงด้วย เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว แล้ว ก็ ตับ หนะครับ
ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องถามคุหมอหละครับว่า สาเหตุ ที่ทำให้ เรามีเกล้ดเลือดต่ำ เพราะ HIV หรือ เพราะอะไร แล้ว รักษาที่ สาเหตุหลักครับ ถ้า เป็นเพราะ HIV แล้วหละก็ เริ่มทานยาต้าน ได้เลยครับ ไม่ต้องรอให้ CD ต่ำ ลงมาที่ 200 เพราะการที่คนไทย เขารอให้ต่ำลงมาที่ 200 ได้ เพราะคิดจากสมมุติฐานที่คนไข้ ไม่มีปัญหา สุขภาพด้านอื่น ๆ หนะครับ
ถามหมอนะครับ เค้นออกมาให้ได้ สิทธิ์ของเราครับ
จาก : ใบไม้ในกำมือ
ข้อความ: รอฟังผู้รู้ท่านอื่นๆ นะคะ แต่เท่าที่เล่ามา สาเหตุที่เหนื่อยง่าย และอื่นๆ เป็นเพราะความเข้มข้นเลือด (เกล็ดเลือด) ต่ำ ทำให้นำออกซิเจนเข้าไปเลี้ยงร่างกายไม่เพียงพอ
ทางแก้ไข
(1) ตรวจดูนะคะ ว่ามีใช้สารเคมี ประเภทยาฆ่าแมลง หรือ สารระเหยต่างๆ ในบ้าน หรือที่ทำงานไหม พวกนี้เป็นสาเหตุหลักของปัจจัยภายนอกที่ทำให้เม็ดเลือด-เกล็ดเลือดมีความผิดปกติ
(2) ทีนี้ต้องบำรุงด้วยการปรับอาหารการกิน เน้นพวกที่มีสังกะสี ปวยเล้ง สปิแนช เมล็ดพืชแห้งนานาตระกูล ลูกเกด ลูกพรุน ฯลฯ ทานเซนตรัมด้วย บำรุงแร่ธาตุที่ขาด
(3) มีปรับวิธีการหายใจ ก็เม็ดเลือดที่ทำหน้าที่พาออกซิเจนเรามีน้อย ต้องหายใจให้ลึก-ยาวขึ้น เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนอากาศดี-เสียที่บริเวณปอดให้มากขึ้น หายใจเข้า นับ 1-2-3 และผ่อนลมหายใจ ทำไปนานๆ กลายเป็นฝึกสมาธิขั้นพื้นฐานน้านะ (ของแถมที่ดี)
(4) อย่าออกกำลังกายแบบหักโหมน้า แอโรบิค ว่ายน้ำ พักไปก่อน ใช้เป็นเดิน ยกแขน ยกขา อย่าให้เหนื่อยจนเกินไป ก็ใช้ได้แล้ว (แนะนำท่าแกว่งแขน ทำเป็นแบบตุ้มนาฬิกานะคะ ยกแขนขึ้นสูงระดับหัวไหล่ ผลักไปข้างหลังมากที่สุด แกว่งกลับมาที่ระดับหัวไหล่ แบบนี้ซ้ำ ให้ได้ 200 ครั้งต่อวัน ไม่เหนื่อยมาก และลดสารพัดโรคได้ด้วย)
แล้วรอคำแนะนำจากท่านอื่นๆ ต่อไปนะ
คำแนะนำการดูแลตนเองอื่นๆ โปรดอ่านกระทู้ 30436 มั้ง ถ้าเราจำไม่ผิดนะ
ไม่ยากหรอก ค่อยๆ ปรับ ค่อยๆ นำ แก้ไขได้
จากคุณ :- mm_122006@hotmail.com
ข้อความ: ฉันเป็นเกล็ดเลือดต่ำตั้งแต่ปี43(ปัจจุบันอายุ 43 ปี)มีอาการซีดหมอสั่งให้เลือดหลังจากนั้นแล้วเลือดออกทางรูขุมขน ไรฟัน และช่องคลอด จึงไปหาหมอจังหวัดหมอเจาะไขสันหลังพบว่าเกล็ดเลือดต่ำ ให้กินยาPrednisoloneขนาด 5 mg จำนวน 12 เม็ดต่อวันเกล็ดเลือดดีขึ้นแต่มีอาการบวมค่อยๆลดยาทีละเม็ดจนหยุดยาไปประมาณ 4-5 เดือนเกล็ดเลือดลดเหลือ 7หมื่นหมอให้ยาอีกโดยเริ่ม 12 เม็ด หมอแนะนำให้ตัดม้ามทิ้งทำไมหมอแนะนำอย่างนี้และม้ามเกี่ยวอะไรกับอาการที่ฉันเป็นมีวิธีอื่นไหมที่ไม่ต้องตัดม้ามกลัวมีผลข้างเคียงมาก
จาก: ลัดดา
เข้าใจว่าคุณเป็ฯโรคเกร็ดเลือดต่ำไม่ทราบสาเหตุ (ITP) ซึ่งแนวทางการักษาคือเริ่มต้นด้วยprednisolone ดังที่ได้รับมา ซึ่งผุ้ป่วยส่วยใหญ่จะหายหลังจากอาการดีขึ้น มีส่วนน้อยที่อาการจะเป็นอีกเมื่อลดยา เช่นเดียวกับกรณีนี้ ในขณะนี้การักษาลำดับต่อไปคือ การตัดม้าม เพราะการม้ามเป็นตัวกินเกร็ดเลือด พบว่าผลการักษาในโรคนี้ได้ผลที่ดี มีข้อพึงระวังคือประมาณ 2ปีหลังตัดม้าม ต้องระวังการติดเชื้อแบคทีเรียบางตัวครับ ถ้ากลัวการผ่าตัด แพทย์อาจพิจารณายาเคมีบำบัดบางตัวชนิดกิน ซึ่งสามารถนำมาใช้รักษาโรคนี้ได้เช่นกัน คูรลัดดาอาจลองปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาข้อดี ข้อเสีย ของการักษาแต่ละวิธีก่อนตัดสินใจได้ครับ
จาก: แพทย์ 082 ร.พ.ศิริราช
| Create Date : 19 มกราคม 2551 |
| Last Update : 19 มกราคม 2551 18:30:42 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 19889 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [
