Am L'Amour
 
เชียงคาน เมืองเก่า แสนโรแมนติก ตอนที่ 2 (ตอนจบ)


เชียงคาน เมืองเก่า แสนโรแมนติก ตอนที่ 2





เชียงคาน เป็นเมืองเก่าแก่หลายร้อยปีมาแล้ว แม้ปัจจุบันจะเปลี่ยนแปลงไปบ้างตามกาลเวลา แต่เชียงคานก็ยังคงวัฒนธรรมความเป็นอยู่แบบเก่าหลายอย่างเอาไว้ ด้วยความเป็นอำเภอเก่าจึงยังคงมีบ้านไม้ 2 ชั้นที่ต้องเรียงรายอยู่ริมน้ำโขงเป็นจำนวนมาก ถ้าลองนึกถึงหนังสมัยเก่าหรือแฟนฉัน น่าจะพอเห็นภาพของเชียงคานได้เป็นอย่างดี นอกเหนือจากแก่งคุดคู้และภูทอก ยังคงมีวัดเก่าแก่อยู่ด้วยกันหลายวัดซึ่งวัดที่ถือว่ามีสถาปัตยกรรมที่สวยงามมากวัดหนึ่งคือ วัดศรีคุณเมืองตั้งอยู่บนถนนชายโขง ซอย 7 เป็นสถาปัตยกรรมแบบผสมผสานของล้านช้างและล้านนาเข้าด้วยกัน ตอนเช้าถ้าตื่นกันตั้งแต่ตี 5 หรือ 6 โมงเช้าก็จะเห็นบรรยากาศอีกแบบที่ไม่สามารถเห็นได้ในกรุงเทพคือ ผู้เฒ่าผู้แก่ของที่นี่จะนำเก้าอี้ตัวเล็กมานั่งเรียงรายเป็นแถวเพื่อคอยใส่บาตร เราจะเห็นว่าบ้านใกล้เรือนเคียงกันจะพูดคุยกันอย่างสนุก ที่นี่จะเป็นการตักบาตรข้าวเหนียวโดยจะปั้นเป็นก้อนกลมๆ ใส่ลงในบาตร สำหรับกับข้าวคนใส่บาตรจะตามไปส่งให้ที่วัด เราจะเห็นพระเดินเป็นสายเพื่อบิณฑบาตร

บนถนนชายโขงจะเป็นถนนที่มีโรงแรมและเกสเฮ้าส์ตั้งอยู่หลายแห่งราคาก็ตั้งแต่ไม่กี่ร้อยจนถึงราคาเป็นพัน (ราคานี้มีไม่กี่แห่งค่ะส่วนใหญ่ราคาจะเป็นหลักร้อย) แบ็กแพ็กเกอร์ก็สามารถหาที่พักราคาถูกอยู่ได้ค่ะมองเห็นแม่น้ำโขงเหมือนกัน ซึ่งเกสเฮ้าส์ส่วนใหญ่ของที่นี่ถูกดัดแปลงจากบ้านพัก บ้านเก่า บ้านไม้สองชั้นที่เจ้าของบ้านจะเปิดเป็นเกสเฮ้าส์เพราะลูกหลานส่วนใหญ่ก็ทำงานที่กรุงเทพไม่ค่อยได้กลับบ้าน ซึ่งเจ้าของแต่ละรายก็ใจดีค่ะ อย่าง lamour เองพักที่เชียงคานเกสเฮ้าส์ มีพี่พิมเป็นเจ้าของ บรรยากาศแบบสบายๆ เป็นกันเอง ที่มีพักผ่อนให้นั่งเล่นนอนเล่นมองแม่น้ำโขงหรือมองฝั่งลาว ห้องน้ำรวมแต่สะอาดสะอ้านใช้ได้ทั้งที่นอนและผ้าห่มก็หอมสะอาดดีค่ะ เหมือนอยู่บ้าน มีน้ำอุ่นค่ะแต่ไม่มีแอร์ นอกจากจะมีที่พักตั้งอยู่บนนถนนสายนี้แล้วยังมีร้านขายของที่ระลึกตั้งอยู่ด้วยจะเป็นถนนที่เหมาะกับการขี่จักรยานร้านอาหารอร่อยหรือร้านกาแฟบรรยากาศน่ารักๆ ก็ตั้งอยู่บนถนนสายนี้เช่นกัน ส่วนด้านอาหารการกินใครที่ไม่ค่อยเรื่องมากนักก็สามารถหาอาหารพื้นเมืองอร่อยๆ กินได้ในราคาที่ไม่แพง แต่ถ้าใครต้องการนั่งร้านอาหารก็มีอยู่ด้วยกันหลายร้านค่ะ แต่ lamour เองชอบเสาะหาอาหารการกินใหม่ๆ ราคาไม่แพง ตอนเช้าเข้าตลาดที่อยู่ที่ซอย 9 ซึ่งที่นี่เองก็เป็นที่จอดรถโดยสารเข้ากรุงเทพด้วย อาหารพื้นบ้านตอนเช้าที่นี่จะมีข้าวปุ้นน้ำแจ่วค่ะ เป็นเส้นขนมจีนใส่ต้มเครื่องในหมู มองไปมองมาเหมือนก๋วยเตี๋ยวแต่เปลี่ยนเส้นแค่นั้นเอง ผักผลไม้ก็ถูกใช้ได้ ถ้าใครชอบกินน้ำเต้าหู้ปลาท่องโก๋รับรองไม่ผิดหวังค่ะ ก็มีให้เลือกหลายร้านหรือจะต้องการสภากาแฟก็มีค่ะ ที่ตลาดมีผักแปลกๆ ที่ไม่ค่อยเคยเห็นที่กรุงเทพอยู่มากทีเดียว ส่วนกินกลางวันจะเลือกกินส้มตำก็มีนะค่ะอร่อยมากมีอยู่ด้วยกันหลายร้านทีเดียว แต่ที่เด็ดมาก lamour ชอบกินเส้นเปียกค่ะอร่อยดีมันก็คือก๋วยจั๊บญวณน่ะค่ะ ร้อนๆ ใส่พริกผัดลงไป อื้ม! หอมอร่อยรับรองความสะอาดร้านตั้งอยู่บนถนนศรีเชียงคาน อยากกินอีกจัง และถ้าใครชอบปลาจะมีร้านที่ขายปลาน้ำโขงอยู่ด้วยกันหลายร้านต้มยำรสเด็ดมาก หรือใครอยากกินปลาเผามองบรรยากาศริมโขงสีขุ่นละก้อคงต้องแนะนำที่แก่งคุดคู้ค่ะ ของฝากของเชียงคานที่ขึ้นชื่อเลยก็มะพร้าวแก้วทำกันเป็นล่ำเป็นสันขายอยู่ที่แก่งคุดคู้เยอะมากทั้งหวานทั้งหอม ขอเตือนใครที่เป็นเบาหวานคงต้องงดค่ะ และอีกอย่างที่เป็นของฝากได้อย่างดีก็คือผ้าห่มนวมค่ะเขาผลิตขายกันเองมีหลายร้าน มีหมอนสามเหลี่ยมด้วยเขาใช้ผ้าทอพื้นเมืองในการทำราคาก็พอประมาณ

ที่เชียงคานไม่มี 7 eleven นะคะอย่าถามหาเลย มีแต่ร้านโชห่วยอยู่หลายร้าน เจ้าของร้านก็อัธยาศัยดีทั้งนั้น lamour ไปนั่งกินไอติมโคนแบบตักที่ร้านโชห่วยร้านหนึ่งคุณป้าใจดียังบริการน้ำเปล่าให้กินล้างปากอีกด้วย ได้นั่งคุยกับคุณยายซึ่งเป็นแม่ของคุณป้าเจ้าของร้านก็สนุกดีได้ความรู้เรื่องเก่าๆ อีกเยอะเลยค่ะ ที่นี่สมัยก่อนจะมีการร่อนทองที่ริมน้ำโขงด้วย บ้านเรือนที่นี่ปลูกกันหลังใหญ่มากปลูกกันเต็มเนื้อที่บ้านเลยแล้วเป็นบ้านไม้ทั้งนั้น แต่ตอนนี้ก็เริ่มมีบ้านปูนขึ้นมาแซมแล้วค่ะ เชียงคานเป็นเมืองสงบใครที่ชอบความสงบเรียบง่ายรับรองไม่ผิดหวังแน่ๆ เวลาที่นี่เดินอย่างเชื่องช้า ไม่เร่งรีบเหมือนเมืองหลวงทำให้มีเวลาที่จะพักผ่อนอย่างสบายๆ เติมพลังให้กับชีวิตก่อนกลับมาเริ่มงานใหม่ที่กรุงเทพ สำหรับสภาพอากาศในหน้าร้อนกลางวันร้อนนนนนนนมาก แต่กลางคืนอากาศสบายค่ะ หน้าหนาวก็ได้บรรยากาศที่หนาวดีทีเดียวไม่ต้องไปหาความหนาวกันที่เชียงใหม่ เชียงรายกันเลย

lamour อยากให้เชียงคานคงความเป็นธรรมชาติ วัฒนธรรมที่เป็นอยู่ให้มากที่สุด และตลอดไป ไม่อยากให้สิ่งใหม่ๆ เข้ามาเปลี่ยนวิถีชีวิตที่เรียบง่าย รวมถึงนายทุนเข้ามาทำให้เชียงคานเปลี่ยนไป จำไว้นะเชียงคาน แล้วเราจะได้เจอกันอีก รักนะ จุ๊บุ จุ๊บุ




การเดินทางสู่เชียงคานสามารถเดินทางได้หลายวิธี

1. การเดินทางโดยเครื่องบิน
ซึ่งสามารถเลือกสายการบินได้ 3 สายการบิร คือ นกแอร์ การบินไทย แอร์เอเชีย ซึ่งทั้ง 3 สายการบินจะต้องขึ้นที่สุวรรณภูมิ และปลายทางคือสนามบินอุดรธานี แล้วจึงเดินทางต่อด้วยรถโดยสารมายังอำเภอเชียงคาน
2. รถโดยสาร จากขนส่งหมอชิตใหม่
สามารถใช้บริการได้โดยมีรถขนส่งจากรุงเทพฯ ตรงถึงอำเภอเชียงคานได้เลย ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง
3. รถยนต์ส่วนตัวสามารถมาได้ถึง 3 เส้นทาง
1. กรุงเทพฯ - เพชรบูรณ์ (ประมาณ 350 กม.) เพชรบูรณ์ - เขาค้อ - หล่มสัก - อ.ด่านซ้าย - ภูเรือ - เลย (ประมาณ 240 กม.) รวมระยะทางประมาณ 550 กม.
2. กรุงเทพฯ - นครราชสีมา (ประมาณ 250 กม.) นครราชสีมา - ชัยภูมิ - อำเภอชุมแพ (ประมาณ 220 กม.) อำเภอชุมแพ - ผานกเค้า - ภูกระดึง - อ.วังสะพุง - เลย (ประมาณ 160 กม.) รวมระยะทางประมาณ 590 กม.
3. กรุงเทพฯ - ขอนแก่น (ประมาณ 450 กม.) ขอนแก่น - อำเภอชุมแพ (ประมาณ 90 กม.) อำเภอชุมแพ - ผานกเค้า - ภูกระดึง - อ.วังสะพุง - เลย (ประมาณ 160 กม.) รวมระยะทางประมาณ 660 กม.



สถานที่พัก
เชียงคานฮิลล์รีสอร์ท (อยู่ที่แก่งคุดคู้ มีห้องแอร์ ลักษณะเป็นรีสอร์ทเลยค่ะ)
โรงแรมสุขสมบูรณ์ (อยู่ที่ถนนชายโขง มีทั้งห้องแอร์และพัดลมให้เลือก เป็นโรงแรมไม้เก่า)
แซมเกสเฮ้าส์
บ้านต้นโขง (อยู่บนถนนชายโขง)
เชียงคานเกสเฮ้าส์ (lamour พักที่นี่ สะอาดสะอ้านดี เป็นโรงแรมไม้เก่า ห้องน้ำรวม ไม่มีแอร์เป็นห้องพัดลม อยู่บนถนนชายโขง)
เชียงคานริเวอร์วิว
เฮือนหลวงพระบาง (เป็นบ้านที่เจ้าของปรับปรุงเป็นเกสเฮ้าส์มีทั้งแอร์และพัดลม ห้องน้ำรวม และมีซาลาเปาอร่อยๆ อยู่บนถนนชายโขง)
เฮือนพักพูลสวัสดิ์
เรือนแรมลูกไม้ (เป็นบ้านเก่าของคฤหัสที่นี่และเป็นบ้านปูนหลังแรกของเชียงคาน ห้องพักกว้างขวางดี อยู่บนถนนชายโขง)
ศรีพรรณโฮมสเตย์ (คุณป้าศรีพรรณเป็นเจ้าของนำบ้านตนเองมาปรับปรุง มีอาหารขายให้บริการ อยู่ที่ซอยชายโขง 13 )



































Create Date : 09 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 20 ธันวาคม 2552 22:14:56 น. 4 comments
Counter : 1532 Pageviews.

 
กำลังจะไป ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่า : )


โดย: yui IP: 58.9.150.198 วันที่: 20 กรกฎาคม 2553 เวลา:20:21:17 น.  

 
กำลังจะไปเหมือนกันครับ


โดย: ลุงช้าง เมืองปาย IP: 125.27.74.74 วันที่: 26 กรกฎาคม 2553 เวลา:9:34:37 น.  

 
ไปมา 2 ครั้งแล้ว ล่าสุดไปหลังปีใหม่ คนเยอะมากๆๆๆๆๆๆๆ ความสงบที่เคยมีก็ไม่มีแล้ว แต่ที่เหมือนเดิมคือ คากิ ที่ร้านเฮือนหลวงพระบาง อร่อยเหมือนเดิม


โดย: น้ำฝน IP: 125.26.209.97 วันที่: 6 มีนาคม 2554 เวลา:13:22:54 น.  

 
ขณะนี้ทางเฮือนฯ ได้หยุดให้บริการที่พักเป็นการถาวรแล้ว
คงเหลือแต่ร้านอาหารเท่านั้นที่ยังเปิดให้บริการ

ขอบพระคุณอย่างสูง


โดย: เฮือนหลวงพระบาง IP: 125.26.211.77 วันที่: 3 พฤษภาคม 2554 เวลา:11:45:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 
 

Am_lamour
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add Am_lamour's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com