Group Blog All Blog |
แคนาดา Canada 101 มั้งงงง ~~~
สวัสดีค่ะ ไม่ได้เขียนบล็อคไปนานนนนนน มั่ก ๆ
ตอนแรกกะว่า จะเริ่มเขียนบล็อคเมื่อมาถึงแคนาดา แต่ปรากฎว่า หลง แสง สี เสียง ที่นี่ไปนานเลย กว่าจะกู่กลับมาได้ นี่ก็ปาเข้าไปปีกว่าแระคะ คิคิ หลงนานเลยเนอะ ^^ (ความจริงคือ ขี้เกียจมากกว่า 5 5 5) ความคิดแรกที่ทำให้มีความคิดที่อยากจะเขียนบล็อคเกี่ยวกับ ที่นี่คือ หาข้อมูลยากมากกกกก ก่อนมาแทบจะไม่รู้อะไรเลย รู้แค่ว่า แคนาดามันอยู่ใกล้เมกานะ แถมนะ ก่อนหน้านี้ นึกว่า แคนาดาเป็นรัฐ ๆ หนึ่งของ เมกา อีกต่างหาก 5 5 5 เริ่มมาฉลาดก็ตอนที่หาข้อมูลของที่นี่ นี่แหละคะ ขอเกริ่นเรื่องตัวเองก่อนนิดหน่อยนะคะ จขบ. ชื่อ แอม นะคะ มาที่ประเทศแคนาดา เมือง แวนคูเวอร์ ค่ะ ด้วยหวังจะค้นพบตัวเอง (ฟังดูดีป่ะ คิคิ) เริ่มแรกมาเรียนภาษาอังกฤษก่อนค่ะ เพราะว่าง่อยมาก โดยลงโปรแกรม Business Internship คือ เรียนภาษา + ทำงานได้ถูกต้องตามกฎหมายค่ะ โปรแกรมนี้มีข้อกำหนดที่ว่า เราจะต้องเรียนก่อน แล้วหลังจากนั้น ถึงจะทำงานได้ โดยระยะเวลาเรียนกับทำงานต้องเท่ากัน เช่น แอมลงโปรแกรมนี้ไว้ที่ 18 เดือน แอมจะต้องเรียนภาษาก่อน 9 เดือน แล้วหลังจากนั้นก็สามารถทำงานที่นี่ได้อีก 9 เดือนค่ะ แต่เงื่อนไขปลีกย่อยจะแตกต่างไปในแต่ละโรงเรียนที่เราเลือกนะคะ ตอนนี้เหลือเวลาอยู่ที่นี่อีกประมาณ 3 เดือนก็จะกลับไทยแล้วค่ะ เอาเป็นว่าบล็อคนี้ก็เริ่มด้วยความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประเทศแคนาดา แล้วกันเนอะ เริ่มกันที่ 1. ประเทศแคนาดาอยู่ติดกับประเทศอเมริกาค่ะ คนที่ถือสัญชาติแคนาดา เราเรียกเค้าว่าเป็น คนแคนาเดี้ยน ค่ะ โดยพื้นเพเดิมส่วนใหญ่จะเป็นคนที่อพยพมาจากยุโรป เวลาคนแคนาเดี้ยนไปเที่ยวเมกา ง่ายนิดเดียว แค่มีใบขับขี่ก็ ไปได้แล้วคะ ส่วนคนไทยอย่างเรา ๆ ก็ต้องมีวีซ่าอเมริกาให้ เรียบร้อยนะคะ ถึงจะไปได้คะ 2. ภาษาราชการประจำประเทศแคนาดาคือ ภาษาอังกฤษ กับ ภาษาฝรั่งเศสค่ะ ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหนในแคนาดาจะเห็น 2 ภาษา นี้คู่กันเสมอ ส่วนคนในพื้นที่จะพูดภาษาอะไรนั้น ก็ขึ้นกับว่า เราไปส่วนไหนของประเทศค่ะ ถ้าเราเที่ยวฝั่งตะวันตก คนส่วนใหญ่ จะพูดภาษาอังกฤษ ใช้ภาษาอังกฤษเป็นส่วนใหญ่ แต่ถ้าเราไปฝั่ง ตะวันออก อันนี้ขึ้นกับว่าเราไปเมืองไหน แต่ฝั่งตะวันออกจะเน้น ภาษาฝรั่งเศสมากกว่า อย่างที่เมือง ควิแบค เมืองนี้คนพูดภาษา ฝรั่งเศสค่ะ เคยไปสั่ง KFC (อ้อ แล้ว KFC ที่นี่ก็ไม่ได้ชื่อนี้นะคะ แต่ใช้อีกชื่อ จำไม่ได้แล้ว เดี๋ยวถ้าหาเจอแล้วจะมาบอก >,,<) พนักงานพูดอังกฤษไม่ได้ค่ะ คือ ปกติในร้านก็จะมีเมนูเป็นภาพเซ็ท อาหารต่าง ๆ ใช่มั๊ยคะ นี่เลยค่ะ พนักงานยกไม้ขึ้นมา แล้วชี้ไปที่รูป ว่าเธอจะเอาชุดไหน ชุดนี่รึเปล่า หรือว่า ชุดนั้น ขอให้นึกภาพเวลา เราเรียนที่โรงเรียนตอนประถม แล้วอาจารย์เอาไม้ชี้ที่คำศัพท์ แล้วให้ เราอ่าน แบบนั้นเลยค่ะ น่ารักมาก ๆ 3. ภูมิอากาศ ประเทศแคนาดามี 4 ฤดูนะคะ คือ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง ฤดูหนาว แล้วก็ ฤดูใบไม้ผลิ ค่ะ แอมขอเน้น ที่เมืองแวนคูเวอร์นะคะ เพราะว่าแอมอยู่ที่นี่ค่ะ ฟังจากที่เค้าเล่า ๆ มา บอกว่า เมืองแวนคูเวอร์เป็นเมืองที่อากาศดีที่นี่สุดในแคนาดาค่ะ โดยใน ฤดูร้อนก็จะไม่ร้อนเกินไป อุณหภูมิสูงสุดที่เคยเจอคือ ประมาณ 22 C ค่ะ ส่วนในฤดูหนาว เคยเจอต่ำสุดที่ -10 C ค่ะ แต่ก็เป็นตอนกลางคืนนะคะ เพราะฉะนั้นเมืองนี้จึงมีฝรั่งมากมาย มาซื้อบ้านพักเอาไว้หลบร้อน หลบหนาวค่ะ 4. การคมนาคม ที่นี่มี รถเมล์ รถไฟฟ้า แล้วก็ Sea bus ค่ะ 4.1 รถเมล์ที่นี่ส่วนใหญ่แล้วมีความตรงต่อเวลามากค่ะ แต่บางครั้งก็ อาจมีเร็วไปบ้าง ช้าไปบ้าง ขอแนะนำให้ออกมารอรถเมล์ก่อนเวลา อย่างน้อย 5 นาที นะคะ 4.2 รถไฟฟ้า ช่วงเวลาเร่งด่วนมีมาถี่มากค่ะ บางครั้งมาจ่อขบวนต่อ ขบวนก็มี แต่ถ้าพ้นช่วงเวลานั้นไปแล้วจะต้องรอประมาณ 2-3 นาที เหมือน BTS ค่ะ 4.3 Sea bus อันนี้เป็นเรือโดยสาร นั่งจากฝั่ง แวนคูเวอร์ ไปฝั่ง นอร์ทแวนคูเวอร์ ค่ะ โดยเรือจะมาทุก 15 นาทีค่ะ แต่เราก็สามารถไป ฝั่งนอร์ทแวนคูเวอร์โดยรถเมล์ก็ได้นะคะ 4.4 อ้อ อันสุดท้าย รถยนต์ส่วนตัว อันนี้ไปที่ไหนก็ได้ ไม่มีตารางเวลาค่ะ คิคิ เราสามารถเช็คตารางเวลารถเมล์, Sea bus แล้วก็ รถไฟฟ้าเที่ยวแรก-เที่ยวสุดท้าย ได้ที่เวบไซด์ //www.translink.ca นะคะ 5. ตั่วรถ ตั่วรถแบ่งออกเป็น 5.1 หยอดตู้ ทุกสถานีจะมีตู้ซื้อตั๋ว อยู่ทุกสถานีค และบนรถบัสทุกคันค่ะ ราคาตั๋วขึ้นกับว่าเราจะไปโซนไหน โดยมีทั้งหมด 3 โซน ราคาก็จะแตกต่าง กันไป เอาไว้เดี๋ยวจะมาอธิบายเกี่ยวกับการแบ่งโซนของที่นี่อีกครั้งนะคะ โดยตั๋วแต่ล่ะครั้งที่เราซื้อนั้น จะสามารถใช้ได้นาน 1 ชั่วโมง 30 นาทีค่ะ โดยจะขึ้นลงรถบัส รถไฟฟ้า หรือว่า Sea bus กี่ครั้งก็ได้ภายในเวลาที่ กำหนด ถ้าเกินเวลาก็ต้องซื้อใหม่ โดยถ้าซื้อตั๋วกับตู้ขายตั๋วไม่จำเป็นต้อง เตรียมเงินพอดีก็ได้นะคะ ถ้าไม่มีเหรียญก็สามารถจ่ายเป็นแบงค์ได้ แต่ก็จะได้เหรียญทอนกลับมาทั้งหมด เพราะฉะนั้นอย่าจ่ายแบงค์ใหญ่ไป อย่าง $20 CAD แบบนี้ พอตู้ทอนมาเราก็ต้องเก็บเหรียญให้หนักกระเป๋าอีก แต่ถ้าเราซื้อตั๋วบนรถบัส อันนี้เราต้องเตรียมเงินให้พอดีค่ะ เพราะว่าจะ ไม่มีการทอนเงินให้ แอมเคยเจอคนขึ้นรถบัส แต่ว่ามีเหรียญไม่พอหรือว่าไม่มี ต้องมาขอหรือไม่ก็แลกกับคนบนรถค่ะ ไม่มีการหยอดเกินไปก่อนแล้วครั้งหน้า มาหยอดต่อจากวันนี้นะคะ 5 5 5 5.2 ตั๋วรายวัน ตั๋วนี้คิดว่าต้องซื้อได้ที่ตู้ขายตั๋วตามสถานีอย่างเดียวนะคะ เพราะว่าจากการสังเกตุไม่มีคนซื้อตั๋วรายวันบนรถบัสเลยค่ะ โดยตั๋วนี้จะมีอายุ 1 วัน โดยเราสามารถเดินทางข้ามโซนไปมาได้ทั้ง 3 โซน โดยไม่ต้องกังวลค่ะ นั่งรถบัส รถไฟฟ้า หรือว่าSea bus ก็ได้ ไม่มีปัญหา ไม่ต้องห่วงเรื่องเวลาค่ะ 5.3 ตั๋วฉีก ตั๋วแบบนี้ซื้อได้ตาม London drug, 7-11, พวก drug store ได้ค่ะ โดยแบ่งเป็นโซน จะเป็นแบบสมุดฉีก 1 เล่ม มีตั๋ว 10 ใบ โดยถ้าเราเดินทางข้ามโซน ก็ต้องจ่ายเงินเพิ่ม โดยตั๋วฉีกนี้ไม่หมดอายุนะคะ ซื้อ 1 เล่ม ใช้ได้นานเท่าไหร่ก็ได้ แต่ระยะเวลาในการเดินทางก็เหมือนกับตั๋วที่เราได้จากการหยอดตู้ค่ะ คือ 1 ชม. 30 นาที โดยจะขึ้นลงรถบัส รถไฟฟ้า หรือว่า Sea bus กี่ครั้งก็ได้ภายในเวลาที่ กำหนด ตั่วฉีกมีขายตลอดทั้งเดือนค่ะ จะต่างจากตั๋วเดือน 5.4 ตั๋วรายเดือน ตั๋วรายเดือนนี้จะหมดสำหรับคนที่เดินทางเป็นประจำค่ะ อยู่ที่ว่าเราต้องเดินทางไปยังโซนไหนเป็นประจำ อย่างถ้าเรามีเรียนเฉพาะ ภาษาอังกฤษ โรงเรียนสอนภาษาส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณ Downtown ค่ะ เพราะฉะนั้นเราก็ซื้อตั๋ว 1 Zone สำหรับเดินทาง แต่ถ้าบางคนต้องออก ไปทำงานต่างโซนก็ขึ้นกับว่าเราต้องไปโซนไหน ราคาก็จะต่างกันออกไปค่ะ โดยสามารถซื้อได้ที่ Drug store แล้วก็ 7-11 ค่ะ โดยจะขายในช่วงประมาณ วันที่ 25 ของทุกเดือนไปจนถึงวันที่ 1 หรือ 2 ของเดือนถัดไป ช้าอดต้อง ไปใช้ตั๋วฉีกแทนค่ะ โดยคนที่จะมาแวนคูเวอร์ตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นไปนะคะ เค้าได้มีการ ปรับราคาค่าตั๋วขึ้นค่ะ สามารถเช็คได้ทาง //www.translink.ca ค่ะ กะว่าเริ่มต้นนิดเดียว ปรากฏว่าลากยากเลย >,,< บล็อคนี้ เอาเป็นว่าพอแค่นี้ก่อนแล้วกันนะคะ แล้วพบกันใหม่ค่ะ :) |
..ว่าแล้วก็ม้วนเก็บ..
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Friends Blog
|