Mygazine : เก็บทุกสิ่งที่สนใจ

เคล็ดลับชีวิตคู่อยู่รอดเป็นสุข

นักวิจัยพัฒนาสูตรรักยืนยง ช่วยหญิง-ชายครองรักยาวนานอย่างมีความสุข ระบุภรรยาต้องฉลาดกว่า และมีอายุน้อยกว่าสามี 5 ปี นอกจากนี้ต้องมีภูมิหลังทางวัฒนธรรมเหมือนกัน

ผู้เชี่ยวชาญจากเจนีวา สกูล ออฟ บิสเนส ในสวิตเซอร์แลนด์ ระบุว่า การปฏิบัติตามสูตรนี้จะเพิ่มโอกาสการมีชีวิตแต่งงานสุขสมหวังและยาวนานสูงขึ้นถึงราว 1 ใน 5

ทั้งนี้ คู่หนึ่งที่มีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ของสูตรนี้คือ ควีนเอลิซาเบธ และดยุกแห่ง เอดินเบอะระ โดยสมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษทรงมีพระชนมายุน้อยกว่าพระสวามี 4 ปี 10 เดือน มีภูมิหลังการเป็นสมาชิกในราชวงศ์ยุโรปเหมือนกัน โดยเจ้าชายฟิลิปทรงเป็นสมาชิกของราชวงศ์กรีกและเดนมาร์ก นอกจากนี้ ยังดูเหมือนว่าเจ้าชายฟิลิปทรงมีความรอบรู้ในบางเรื่องน้อยกว่าควีน

ผู้เชี่ยวชาญ บอกว่า จากข้อมูลการศึกษาสามี-ภรรยาอายุระหว่าง 19-75 ปี จำนวน 1,074 คู่ ได้ข้อสรุปว่า ภรรยาควรฉลาดกว่าสามี 27% และมีระดับการศึกษาสูงกว่า การศึกษานี้ พบด้วยว่า การแต่งงานกับคนที่เคยผ่านการหย่าร้างมาก่อน จะทำให้โอกาสในการมีชีวิตคู่ที่มีความสุขลดน้อยลง

สุขที่สุดหลังแต่ง 3 ปี

ขณะที่การศึกษาอีกฉบับ ชี้ว่า คู่แต่งงานจะมีความสุขที่สุดในช่วงที่การแต่งงานผ่านไป 2 ปี 11 เดือนกับอีก 8 วัน

นักวิจัยขอให้สามี-ภรรยา 4,000 คู่ ระบุถึงความสุขระหว่างชีวิตแต่งงาน และคำนวณระยะเวลาที่การใช้ชีวิตคู่จะทำให้เกิดความสุขดังกล่าว สิ่งที่พบคือ สามี-ภรรยารู้สึกว่ารับได้เต็มร้อยกับพฤติกรรมเลวร้ายของอีกฝ่าย รวมถึงมีแผนการอนาคตที่ชัดเจนร่วมกัน หลังผ่านการแต่งงานไปได้เฉียดๆ 3 ปี

นักวิจัย บอกว่า ในช่วงเวลานี้ สามี-ภรรยาจะมีความสุขอย่างเต็มที่กับเรื่องบนเตียง จัดการสิ่งต่างๆ ในบ้านด้วยตนเอง และยังมีเวลาสำหรับมื้อโรแมนติกด้วยกัน

“หลังแต่งงานกันราวสามปี ดูเหมือนทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทาง ต่างฝ่ายต่างทำให้อีกฝ่ายหัวเราะได้มากที่สุด นอนอิงแอบกันบนโซฟาหน้าทีวี ใช้เวลาอย่างมีค่าและยาวนานที่สุดทุกค่ำคืน ทำอาหารเย็นกินกันและช่วยกันทำงานบ้าน อย่างไรก็ตาม คุณสามารถมีชีวิตแต่งงานที่ยาวนานและยังคงมีความสุขได้ ถ้าคุณทำตามคำแนะนำจากการศึกษาที่เรานำมาเปิดเผย เราพบว่าเคล็ดลับของช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดนั้น ไม่ใช่การปรนเปรอด้วยของขวัญแพงๆ แต่เป็นการใช้ช่วงเวลาพิเศษร่วมกันมากกว่า” แครอล ริชาร์ดสัน จากเว็บไซต์การแต่งงาน //www.confetti.co.uk ที่ทำการวิจัยนี้ กล่าว

การศึกษานี้ ยังพบด้วยว่า สามี-ภรรยามีความสุขที่สุดในเรื่องเซ็กซ์ การกินข้าวด้วยกันในบรรยากาศโรแมนติก การออกไปเที่ยวกลางคืนด้วยกัน หลังแต่งงานได้ 2 ปี 4 เดือน ภรรยามีแนวโน้มได้รับดอกไม้ ช็อกโกแลตและคำชมมากมาย หลังอยู่กินกันสองปีครึ่ง สามีจะช่วยงานบ้านก่อนครบรอบแต่งงานปีที่ 3

ขณะที่การโต้เถียงใหญ่โตจะเกิดขึ้นในอีก 3 เดือนถัดไป ส่วนการไปเที่ยวพักผ่อนสุดสัปดาห์ลดความถี่ลงหลังผ่านไป 3 ปี 4 เดือน และเปลี่ยนมาเป็นนั่งเล่นนอนเล่นบนโซฟาแทน

อย่างไรก็ดี นักวิจัย พบว่า คู่ที่ซื่อสัตย์ต่อกันใช้เวลาวันละ 24 นาทีหยอกเย้ากัน และไม่เคยหนีเข้านอนหลังจากทะเลาะกัน

ที่มา : ผจก.ออนไลน์




 

Create Date : 04 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 19 สิงหาคม 2553 13:24:13 น.
Counter : 438 Pageviews.  

5 ประโยคจากปากหญิงเหล็กที่ผู้ชายไม่ควรใส่ใจ

ผู้ชายควรรับรู้ว่ามีบางประโยคจากปากของผู้หญิงยุคใหม่ที่เธอไม่อยากให้ผู้ชายใส่ใจจริงจัง

ผู้หญิงยุคใหม่ดูแลตัวเองโดยไม่ต้องง้อผู้ชาย ทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเองได้ ร่ำเรียนจบสูงๆพอๆกับผู้ชาย บางคนมีตำแหน่งหน้าที่และรายได้สูงกว่าผู้ชายเสียอีก ดังนั้นการแสดงออกของผู้หญิงอาจจะห้าวหาญแข็งกร้าวไปบ้าง ประมาณว่า ฉันช่วยตัวเองได้ไม่เห็นต้องแคร์ใคร ซึ่งความจริงในส่วนลึกก้นบึ้งของหัวใจก็ยังมีความเป็นผู้หญิงที่ต้องการสุภาพบุรุษมาดูเอาใจใส่บ้างเป็นครั้งคราว ซึ่งผู้ชายอาจงุนงงว่าทำไมไม่บอกออกมาตรงๆว่าต้องการอะไร อ้าว...ถ้าพูดออกมาโต้งๆก็ไม่ใช่ผู้หญิงนะสิ

ฉันถือกระเป๋าเองได้
ผู้หญิงยุคใหม่ส่วนใหญ่เต็มอกเต็มใจที่จะสนองความต้องการหรือดูแลภาระต่างๆของตัวเอง เช่น เงินทอง ที่พักอาศัย หรืองานซ่อมแซมต่างๆภายในบ้าน (เดี๋ยวนี้โทรเรียกช่างประปาในสมุดหน้าเหลืองก็ได้ง่ายจัง) ผู้หญิงสามารถอยู่รอดมาได้ก่อนที่จะมีผู้ชายเข้ามาในชีวิตเสียอีก และเธอก็ดูเหมือนจะทำแบบนั้นต่อไปถ้าผู้ชายปล่อยให้ทำ อย่าเหมาเอาว่าผู้หญิงทำอะไรเองไม่เป็น ควรคิดเสียใหม่ว่าผู้หญิงก็อยากให้ผู้ชายเสนอตัวช่วยทำนั่นนี่เพื่อเธอ คงไม่ตายหรอกค่ะถ้าจะเปิดประตูให้ ช่วยถือกระเป๋าหนักๆ หรือเดินไปส่งบ้านบ้างนานๆครั้ง ฟังดูอาจออกแนวหัวโบราณไปนิด แต่ความจริงแล้วนี่คือความเป็นสุภาพบุรุษค่ะ


อย่ามองฉันแค่รูปกายภายนอก!
สมัยก่อนอาจมีค่านิยมให้ความสำคัญกับรูปร่างหน้าตาของผู้หญิง แต่สมัยนี้ใครๆก็ทำปากแข็งว่ารูปกายภายนอกไม่สำคัญ โดยเฉพาะผู้หญิงสมัยใหม่ที่ทำงานหาเลี้ยงตัวเองได้ ก็อยากให้คนมองที่สติปัญญา ความสามารถในการทำงาน ความมีจิตใจดี และแน่นอนที่ขาดไม่ได้คือรูปร่างหน้าตา หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยแต่ทัศนคตินี้ไม่เปลี่ยนไปเท่าไรนัก ผู้หญิงที่อ้างว่าตัวเองไม่รู้สึกอะไรกับคำชมเรื่องรูปร่างหน้าตานั้นคือพวกปากไม่ตรงกับใจ มิฉะนั้นอุตสาหกรรมแฟชั่นและความงามคงล่มสลายไปแล้วถ้าคิดแบบนั้นจริงๆ ดังนั้นผู้ชายควรแสดงความชื่นชมคุณสมบัติอันเป็นเลิศในด้านอื่นๆของเธอ แต่ถ้าเธอสวยเริ่ดเฉิดฉายด้วยละก็ ควรเอ่ยชมแบบเรียบๆธรรมดาเท่านั้นพอ


ฉันจะจ่ายส่วนของฉันเอง
หากผู้หญิงมีเงินเดือนหลักแสน และค่าอาหารหรูมื้อนั้นในภัตตาคารชั้นเลิศเฉียดหลักหมื่น ถ้าหารครึ่งกันผู้หญิงก็ไม่เดือดร้อนอะไร แต่การที่ผู้ชายเสนอตัวจ่ายค่าอาหารนั้นเป็นความประทับใจที่ประเมินค่ามิได้ ความจริงไม่จำเป็นต้องตามจ่ายทุกสิ่งทุกอย่างทุกบาททุกสตางค์ก็ได้กับผู้หญิงระดับนี้ แค่เสนอตัวนานๆครั้งก็ทำให้เธอสังเกตเห็นและรู้สึกชื่นชมอย่างแน่นอน และผู้หญิงก็ควรตอบแทนผู้ชายในแบบเดียวกัน อย่าให้เขาตราหน้าได้ว่าหวังให้เขาจ่ายเงินตลอดเวลา...เพื่อศักดิ์ศรีลูกผู้หญิงค่ะ


ฉันคิดเองได้!
ผู้หญิงยุคใหม่ส่วนใหญ่ไม่ใช่คนหัวเก่าที่ให้ผู้ชายเป็นคนตัดสินใจเรื่องสำคัญทุกอย่าง เดี๋ยวนี้ผู้หญิงคิดเองได้ซึ่งผู้ชายรู้ดี ถึงแม้ผู้หญิงอยากให้ผู้ชายให้ความสำคัญกับความคิดเห็นของเธอแต่ในขณะเดียวกันก็อยากให้ผู้ชายถือบังเหียนเป็นผู้นำบ้าง แม้แต่ผู้หญิงที่ทรงอิทธิพลระดับโลกก็ยังอยากกลับบ้านมาหาผู้ชายที่วางแผนดินเนอร์เตรียมรอไว้แล้วโดยไม่ต้องมาขอความเห็นของเธอ อาการขี้ลังเลไม่เด็ดเดี่ยวนั้นดูไม่เซ็กซี่เอาซะเลย


ฉันไม่ยึดติดกับการแต่งงาน
กฎย่อมมีข้อยกเว้นเสมอ ซึ่งร้อยทั้งร้อยผู้หญิงอยากแต่งงานทั้งนั้น นี่ไม่ได้หมายความว่าผู้ชายต้องใช้เวลา 3 เดือนเพื่อเสาะหาแหวนแต่งงานโดนใจสักวง แต่มันหมายความว่าตราบใดที่ผู้ชายไม่ได้ต่อต้านการแต่งงานอย่างสุดขั้ว ผู้หญิงก็ไม่ต่อต้านเช่นกัน ผู้หญิงอาจรับได้กับการออกเดทกันนานหลายปี แต่ในที่สุดผู้หญิงก็ยังต้องการการผูกมัด ซึ่งตามประเพณีก็ต้องมีแหวนสักวง ชุดแต่งงานสวยๆและพิธีวิวาห์อันงดงาม


พยายามเข้าใจผู้หญิง

ถึงแม้สมัยนี้โลกกลับตาลปัตร ให้ผู้ชายเลี้ยงลูกอยู่บ้าน ส่วนผู้หญิงออกไปทำงานนอกบ้านเหย็งๆ อย่างไรก็ตามไม่ว่าผู้หญิงจะเก่งกล้าสามารถแค่ไหน ก็ยังมีส่วนหนึ่งในเบื้องลึกที่ต้องการให้ผู้ชายปฏิบัติกับเธอในแบบผู้หญิงยุคเก่า ซึ่งนั่นอาจหมายความว่าบางครั้งต้องยอมให้ผู้หญิงนั่งเบาะหลังในรถถ้าเธอต้องการ หรือเอ่ยปากชมชุดสวยเซ็กซี่ที่เธอซื้อมา ฟังดูขัดแย้งกันชอบกล แต่ผู้หญิงเป็นเพศที่ซับซ้อนและขัดแย้งในตัวเองอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าผู้ชายพยายามทำความเข้าใจสักนิด ก็ไม่ใช่เรื่องยากนัก.

ที่มา : msn.co.th




 

Create Date : 12 มกราคม 2553    
Last Update : 19 สิงหาคม 2553 13:24:48 น.
Counter : 278 Pageviews.  

8 วิธีจัดการเงินทองของสองเรา

แล้วจะทำอย่างไรให้เงินไม่มาเป็นปัญหาในชีวิตคู่ เอาเป็นว่าตอนนี้หันไปคว้าเครื่องคิดเลข แล้วมาจัดการเงินทองของเรา ดังนี้

คนยุคก่อน พอแต่งงานกันปั๊บบัญชีทุกอย่างก็เอามารวมกันกลายเป็นบัญชีร่วม สมัยนี้ต่างคนต่างมีบัญชีส่วนตัวแล้วเปิดบัญชีร่วมเพื่อแชร์ค่าใช้จ่ายและเก็บเงินสำหรับเป้าหมายในอนาคต ซึ่งจัดเป็นการผสมผสานกันอย่างดีระหว่างความเป็นตัวของตัวเองกับการทำงานร่วมกัน แถมยังรองรับสไตล์การใช้จ่ายที่แตกต่างกันอีกด้วย (ถ้าตกลงกันได้ว่าจะเอาเงินเข้าบัญชีร่วมเท่าไร ส่วนที่เหลือซึ่งเป็นเงินส่วนตัวจะเอาไปใช้ยังไงก็ไม่มีปัญหา)

จัดทำงบประมาณ
ข้อนี้สำคัญมาก เพราะเป็นวิธีที่ทำให้เรารู้ว่าต้องใช้จ่ายอะไรบ้าง และเงินจะเหลือเท่าไร ขอแนะนำอย่างแข็งขันให้จัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายอย่างละเอียดชัดเจน ให้มองเห้นภาพว่ารายได้ต่อเดือนเข้ามาเท่าไร และสิ่งที่ต้องใช้จ่ายมีอะไรบ้าง การบันทึกลงรายละเอียดแบบนี้จะทำให้ไม่หลงลืมรายจ่ายอย่างเช่น การพักผ่อนตากอากาศ ของขวัญ ค่าสมาชิกฟิตเนส และค่ารักษาพยาบาล (นี่ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายเล็กๆน้อยๆที่คนมักผลาญเงินไปเยอะโดยไม่รู้ตัว) ถ้ารู้สึกว่าใช้เงินฟุ่มเฟือย ให้พิจารณาดูว่าค่าใช้จ่ายบางอย่างอาจเปลี่ยนแปลงไม่ได้ (เช่น ค่าไฟฟ้า) แต่บางอย่างสามารถลดได้ (ค่าโทรศัพท์มือถือ, ค่านวดหน้า) ลองตกลงกันว่าจะลดรายจ่ายอะไรลงบ้าง

วางเป้าหมาย
หากไม่มีเป้าหมาย ก็แค่เอาเงินใส่บัญชีร่วมไปวันๆเป็นค่าน้ำค่าไฟไม่มีอะไรตื่นเต้น แต่ถ้ามีไอเดียที่จะออมเงินร่วมกันเพื่ออะไรสักอย่าง รับรองว่ายอดเงินในบัญชีจะพุ่งพรวดเร็วขึ้นเป็นสองเท่า นี่ละคือวิธีเก็บเงินที่ได้ผลอีกหนึ่งวิธี

วางแผนออมเงิน
พอตกลงกันได้ว่าจะช่วยกันแชร์รายจ่ายประจำเดือน เราก็จะรู้ว่าจะเหลือเงินเอาไว้ออมเท่าไร

ตัดสินใจว่ามีกี่บัญชีและแบบไหน
ส่วนใหญ่จะเปิดบัญชีร่วมหลายบัญชี บัญชีแรกสำหรับค่าใช้จ่ายประจำเดือน (ค่าไฟฟ้า, ค่าน้ำประปา) บัญชีที่สองมักเป็นเงินออมสำหรับเป้าหมายในอนาคต หากมีอะไรที่ต้องผ่อนก็มักจะเป็นบัญชีที่สาม ควรตัดสินใจว่าจะเป็นบัญชีประเภทไหนและต้องทำบัตรเอทีเอ็มหรือเปล่า อย่าลืมดูค่าธรรมเนียมของธนาคารด้วยค่ะ

ดูสัดส่วนของรายได้
หากทั้งสองคนมีรายได้พอๆกัน ก็แค่หารครึ่งเป็นอันเรียบร้อย แต่ถ้าคนหนึ่งเงินเดือนหลักหมื่น และอีกคนเงินเดือนหลักแสนละก็ ควรหาสัดส่วนที่เหมาะสมเพื่อความยุติธรรม

ตรวจเช็คความเป็นไปได้
ตรวจสอบงบประมาณและแผนการเงินเพื่อให้แน่ใจว่าสามารถทำให้เป็นจริงได้ จำนวนเงินที่ตกลงกันนั้นยุติธรรมและสามารถทำได้ไหม ทั้งสองฝ่ายสะดวกใจกับบัญชีร่วมหรือเปล่า

ทบทวนความปลอดภัยของรายได้
หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเกิดเจ็บไข้ได้ป่วยหรือตกงานปุบปับขึ้นมา คนที่เหลือสามารถเจือจุนรายจ่ายได้หรือไม่ เดี๋ยวนี้รัฐมีเงินประกันสังคมให้คนที่ตกงานและอยู่ในระหว่างหางานด้วย ลองเช็คดูว่ามีเงื่อนไขกฎเกณฑ์อะไรบ้าง

ลงมือปฏิบัติตามแผนที่วางไว้
พอวางแผนตกลงกันได้ ก็ลงมือเปิดบัญชีร่วมได้เลยค่ะ ถ้าเป็นไปได้ลองจัดการให้มีการโอนเงินจำนวนที่กำหนดเอาไว้จากบัญชีส่วนตัวเข้าบัญชีร่วมเพื่อกันลืม แล้วก็นั่งเอนหลังเฉลิมฉลองให้แก่กันสำหรับก้าวแรกของอิสรภาพทางการเงิน

ที่มา : lifestyle.th.msn.com




 

Create Date : 16 ตุลาคม 2552    
Last Update : 19 สิงหาคม 2553 13:26:06 น.
Counter : 331 Pageviews.  

ทำอย่างไร ไม่ให้รักหมดอายุ

ถ้าความรักมีฉลากบอกวันหมดอายุก็คงดี...สัญญาณบ่งบอกว่ารักคุณหมดอายุ
1. เวลาเจอกัน เขาหรือคุณดูไม่มีความสุข ไม่ค่อยยิ้มหรือร่าเริงเหมือนเก่า
อ้างว่างานเยอะ ทั้งที่แต่ก่อนเห็นว่างจนต้องถามว่าไม่มีอะไรทำหรือ
โทรฯ ไปไม่ค่อยรับสาย หรือปิดเครื่อง

2. เวลาอยู่ด้วยกันมักมีโทรศัพท์สายแปลกๆ เรียกเข้ามาแต่เขาไม่รับ หรือเดินไปรับที่อื่น

3. มีเบอร์โทรศัพท์ขึ้นชื่อเพื่อนคนเดิมซ้ำๆ ถี่ผิดปกติ (เป็นหนึ่งในอุบายของผู้ชายซึ่งส่วนใหญ่จะไม่เซฟชื่อผู้หญิง (อีกคน) แต่จะเซฟเป็นชื่อเพื่อนแทน)

4. ไปไหน ทำอะไรก็อ้างชื่อเพื่อนคนเดิมตลอดเวลา หรืออ้างชื่อเพื่อนที่เราไม่สามารถค้นหาได้ อย่างเช่น เพื่อนสมัยประถม

5. กระสับกระส่ายเวลาอยู่ต่อหน้าเพื่อน เพราะกลัวว่าเพื่อนจะหลุดพูดความลับของตัวเอง

6. หาเรื่องทะเลาะ ทำอะไรก็ดูผิดไปหมด ทั้งที่ทุกอย่างเราก็ทำเหมือนเดิมนี่นา

7. ทำอะไรก็ไม่หวานชื่นเหมือนเดิม อย่างเช่น เมื่อก่อนจะตามใจเรา อยากไปไหนพาไปหมด แต่ตอนนี้สถานที่เหล่านั้นกลายเป็นสถานที่น่าเบื่อ....อ มาก....ก

สังเกตพฤติกรรมเหล่านี้ไว้ให้ดี แต่ถ้ามีโอกาสกันไว้ก่อนจะดีกว่ามานั่งแก้ เพราะถ้ารักหมดอายุจริงๆ ทางที่จะให้กลับมาสดใสเหมือนเดิมนั้นยากยิ่งกว่าการค้นหารักครั้งใหม่เสียอีก มาเร่งเติมสารกันบูดให้รักเรากันจะเหมาะกว่า

ความสม่ำเสมอช่วยได้ เคยดูแลเขาอย่างไร วันนี้ก็ไม่ต้องทำมากไปกว่าเก่า เอาแค่ที่เคยทำนั่นแหละ แค่มีเซอร์ไพรส์ดูแลเอาใจเขาเป็นพิเศษปีละครั้งสองครั้งก็พอ ไม่ต้องมากเดี๋ยวเคยตัว

เอาใจเขามาใส่ใจเรา อย่าคิดว่า ก็ฉันเป็นอย่างนี้ ใครจะทำไม เก็บอารมณ์เอาแต่ใจใส่กล่องล็อกกุญแจไว้เลย หันมาให้ความสำคัญกับคำว่า ถ้าเขาทำแบบนี้ฉันจะชอบไหม ถ้าไม่ แล้วฉันจะทำกับเขาแบบนั้นไปทำไม จะอยู่กันยืดกว่า

ความในอย่านำออกความนอกอย่านำเข้า คำโบราณนี้พูดไปอาจดูเชย แต่ใช้ได้ดีกับชีวิตคู่ในยุคไม่เหลือเงินให้ออมแบบนี้ ใส่ใจแต่เรื่องของเรา เอาเวลามาคิดเรื่องหาเงินเพิ่มดีกว่ามานั่งวิเคราะห์เรื่องชาวบ้าน หรือมัวแต่แก้ปัญหาส่วนตัวด้วยการหอบเรื่องไม่น่าเล่าของเราไปปรึกษาคนอื่นให้ขายหน้า

หมั่นพูดจาหวานหู ไม่ต้องถึงขั้นเธอจ๊ะ เธอจ๋า เอาแค่ไม่มึงวาพาโวย ไม่พูดจาเสียดสี

ไม่จิกกัดกันก็น่ารักแล้ว คิดก่อนพูด บางอย่างพูดแล้วไม่เกิดผลดี เก็บเอาไว้ก่อนก็ได้ แต่ถ้าบางอย่างต้องพูดเพราะจำเป็น เช่น เขาอินกับปัญหาเศรษฐกิจมากจนต้องแก้เครียดด้วยการไปสังสรรค์กับเพื่อนแทบทุกคืน ก็ควรพูดบ้างแต่ควรพูดในทำนองเป็นห่วงไม่ใช่ตำหนิ

ความรักเป็นเรื่องของความรู้สึก ไม่มีฉลากบอกวันหมดอายุที่ชัดเจนแต่ถ้าเราถนอมความรักที่มีให้กันไว้อย่างดี ก็ไม่ทางมีหมดอายุได้ง่ายๆ เราเองนั่นแหละที่จะหมดอายุ (เสียชีวิต) ไปก่อน จำไว้ว่า รักแท้จะคงอยู่ตลอดไป

ที่มาข้อมูล : นิตยสาร Women Plus




 

Create Date : 21 กรกฎาคม 2552    
Last Update : 19 สิงหาคม 2553 13:27:24 น.
Counter : 312 Pageviews.  

10 นิสัยแย่ๆที่ทำให้รักกันน้อยลง

ม่ว่าจะเป็นสำนวนไทยที่ว่า ‘ข้าวใหม่ปลามัน’ หรือ ‘ยามรักน้ำต้มผักยังว่าหวาน’ ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่หลายคนเถียงไม่ได้ เพราะเป็นธรรมดาที่คนเราตอนรักกันใหม่ๆ อะไรๆ ก็ดีไปเสียหมด แต่เมื่ออยู่กันไปนานๆ ความเป็นตัวของตัวเอง กับความเคยชิน ก็เลยทำอะไรบางอย่าง ซึ่งอีกฝ่ายหนึ่งอาจจะรับไม่ได้ จนถึงขั้นต้องบอกเลิกรากันไป

ดังนั้น ลองมาดู10 นิสัยแย่ๆที่จะทำให้ชีวิตรักถูกบั่นทอนไป ซึ่งอาจเป็นสาเหตุทำให้คนรัก ต้องเลิกรามากที่สุด

1. เห็นแก่ตัว
เห็นแก่ตัวหรือการเอาแต่ใจตัวเองนั้น แม้จะเป็นเรื่องธรรมดามากที่ทุกคนต้องเอาแต่ใจตัวเองกันอยู่แล้ว แต่ว่าใครจะเอาใจตัวเองมาก หรือน้อยเท่านั้นเอง บางคนคิดว่าเป็นคนเอาแต่ใจตัวเองน้อย แต่ความจริงแล้วมาก ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่เลย ทำให้อีกฝ่ายเอือมระอาก็เป็นได้

2. แสดงความป็นเจ้าของ
การที่คนเรารักกันนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่หากคุณไปแสดงความเป็นเจ้าของจนเกินไป ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เขาคนนั้นอาจเกิดความรำคาญและรู้สึกอิสระที่เคยมีมันถูกจำกัดมากขึ้น

ซึ่งในที่นี่ไม่ได้หมายความว่า คุณต้องรักกันอย่างหลบๆซ่อน แต่การที่คุณแสดงตัวให้ใครต่อใครได้รู้ว่าคุณกับเขาเป็นแฟนกัน ในลักษณะที่เป็นเงาตามตัวกันเลย เช่น ไปไหนไปด้วย ตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋ โดยไม่ให้เขามีเวลาส่วนตัวแม้แต่นิดเดียว ก็อาจเป็นปัญหาได้เหมือนกัน

3. พิษรัก แรงหึง
คนเราอยู่ด้วยกัน แต่มีให้เกียติและไมไว้ใจซึ่งกันและกัน ก็คงจะอยู่ยาก ซึ่งเรื่องการหึงหวงนี้ คงจะห้ามไม่ให้หึงไม่ได้ แต่ทั้งสองฝ่ายควรมีลิมิตกันบ้าง ไม่ใช่ว่าเพื่อนคุยด้วยก็ยังหน้ามืดตามัว หึงขนาดนั้น คงจะไม่ไหว บางคนเข้าขั้นโทรเช็คตลอดเวลา อันนี้น่าเป็นห่วงมาก

4. ท้าเลิก
ท่องให้ขึ้นใจ จะมะเลาะกันหนักแค่ไหนอย่าท้าทายไปหย่าหรือเลิกกันเด็ดขาด ถ้าคิดแค่เพียงให้เขามาง้อเท่านั้น วิธีนี้จะใช้ได้ผลในช่วงแรกเท่านั้น แต่หลังๆ ละก็ หากพูดบ่อยเข้า เขาตอบสนองพาไปอำเภอ หรือเลิกกันจริงๆ น้ำตาเช็ดหัวเข่าในตอนจบ

5. นอกใจ
ช่างเป็นพฤติกรรมลนิสัยที่ใช้ไม่ได้จริงๆ เพราะหากใครทำแบบนี้ถือได้ว่าคุณไม่ได้ให้เกียรติคนที่คุณรักเลย ซึ่งทุกคนก็ย่อมหยิ่งในศักดิ์ศรีของตัวเอง บางครั้งอาจทำ เพื่อให้อีกฝ่ายหึงเล่นๆ เป็นการคอนเฟิร์มว่าคุณเองก็มีค่าสำหรับพวกเขา แต่ควรระวังให้ดี เพราะมองอีกมุม คือคุณไม่แคร์ความรู้สึกของเขาเลย และถ้าเป็นอย่างนั้น ก็ไม่รู้จะอยู่ด้วยกันไปทำไม

6. หูเบาเชื่อเพื่อน
บ่อยครั้งที่มีคำถามว่า เพื่อนกับแฟน เลือกอะไร หรือไม่ก็เอาข้อดีของเพื่อนและแฟนมาเปรียบเทียบกัน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วมันจะเปรียบเทียบกันได้อย่างใรในเมื่อเพื่อนกับแฟนมีสถานะที่ต่างกันและแทนกันไม่ได้เสียเลย
แต่ในบางครั้งเพื่อนก็ไม่อยากให้คุณมีแฟน เพราะเวลาที่จะได้เฮฮากับเพื่อนก็จะลดลงเพราะแฟนก้าวเข้ามาในชีวิต

หากเพื่อนเข้าใจในเรื่องนี้ก็คงจะดี แต่ทว่าเพื่อนที่คบหาไม่เปิดใจเอาเสียเลย เขาจะคิดว่าคุณไปตัวติดกับแฟนแทน หรืออาจจะด้วยความหวังดีมากเกินไป ก็เลยคิดแทนคุณไปหมด ว่าแฟนคุณดีพอสำหรับคุณหรือเปล่า จนเป็นประเด็นให้ต้องทะเลาะกันก็มี

7. โกรธแล้วไม่เคลียร์
ป็นสาเหตุที่ทำให้คู่รักเลิกรากันมากที่สุดเลยก็ว่าได้ อาการแบบนี้จะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า หรือบางทีเรื่องที่โกรธอาจมาจากความเข้าใจผิด แล้วไม่พูดกัน ก็ไม่สามารถปรับความเข้าใจกันได้ซึ่งความผิด ความไม่เข้าใจ และอารมณ์ที่ขุ่นมัว เมื่อมันเก็บไว้นานๆก็อาจทำให้คนสองคนเบื่อหน่าย ทำอะไรก็ผิดไปเสียหมด

8. นัด...อย่าผิดนัด
การเลื่อนนัด ประเภท เลื่อนแล้วเลื่อนอีก หรือว่ามาสายแบบ นัดเช้ามาบ่าย นัดบ่ายมาเย็น อาการแบบนี้ บางคนเขารอบ่อยๆ รอไปรอมา เลิกรอตลอดไปเลยก็มีนะ เพราะแค่การรับผิดชอบตัวเอง ให้ตรงต่อเวลายังไม่สามารถทำได้ แล้วจะรับผิดชอบหรือทำให้อีกฝ่ายเชื่อมั่นได้อย่างไร

9. พูดข่มเหง
อาจจะเพียงแค่อำกันเล่น แต่บางคนอำกันแรงเกินไป หรือเรื่องที่ไม่ควรจะพูดเช่นเรื่องหยาบคาย เรื่องที่กระทบต่อความรู้สึก ที่อาจจะเกิดการทะเลาะกันได้ ซึ่งเป็นสาเหตุเล็กๆ ที่จะนำไปสู่ความบานปลายได้

10. โกหก
แม้ว่าเรื่องบางเรื่อง ไม่พูดความจริงอาจจะดีกว่า แต่บางคนโกหกจนเป็นนิสัย หาความจริงไม่ได้ ซึ่งเรื่องอย่างนี้ ใครถูกหลอกบ่อยๆก็คงไม่สุขใจแน่นอน แล้วจะอยู่ด้วยความระแวงต่อไปได้อย่างไร

ทั้งนี้คนที่จะถือไม้เท้ายอดทองกระบองยออดเพชรนั้น นอกเหนือจะหลีกเลี่ยงนิสัยเหล่านี้แล้ว อีกประการสำคัญที่ควรยึดไว้ในการครองเรือนนั้นคือ การรู้จักให้อภัยซึ่งกันและกันนั่นเอง

ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ เรียบเรียงข้อมูลจาก มูลนิธิเครือข่ายครอบครัว




 

Create Date : 19 พฤษภาคม 2552    
Last Update : 19 สิงหาคม 2553 13:28:24 น.
Counter : 264 Pageviews.  

1  2  

Never be Afraid to Dream
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]









หมายเหตุ :
1. ขอขอบคุณเจ้าของโค้ด รูป และของแต่งบล็อกที่รวมกันเป็นบล็อกนี้ทุกท่านและขออภัยที่ไม่สามารถเอ่ยชื่อได้ เนื่องจาก จขบ.เซฟมาเยอะจนไม่สามารถจำได้ว่าเอามาจากบล็อกของท่านใดบ้าง

2. ขอขอบคุณไว้ล่วงหน้า ณ ที่นี้ สำหรับทุกท่านที่แวะมาเยี่ยม มาแสดงความเห็นค่ะ และขออภัยหากไม่ได้กลับไปเยี่ยม
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Never be Afraid to Dream's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.