Group Blog
 
All Blogs
 

บูติค โฮเต็ล” โตได้ ไม่จำกัดขนาด

บูติค โฮเต็ล” โตได้ ไม่จำกัดขนาด
” บางคนมีตึก มีห้องแถว จากเคยปล่อยรกร้าง หรือให้เช่าทำกิจการอื่น ปัจจุบัน หันมาตกแต่งดัดแปลงเป็นโรงแรม รีสอร์ต ใส่ความทันสมัยด้วยการตกแต่งสไตล์บูติค ซึ่งผมว่าขนาดไม่สำคัญ แม้แต่คนมีทุนในกระเป๋าน้อย แต่มีทำเลเหมาะสม อาจเป็นบ้านพักของตนเอง ซึ่งนักท่องเที่ยวหลายคนนิยมโฮมสเตย์ เพราะเขามองเรื่องความปลอดภัย สะอาด สะดวกสบาย ถ้าทำได้อย่างนี้บางครั้งราคาไม่ใช่ปัจจัยสำคัญ แต่สิ่งสำคัญคือไอเดีย”
เมืองพัทยา ในวันนี้ยังคงคึกคักคลาคล่ำด้วยนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวต่างชาติ ส่งผลให้ธุรกิจมากประเภทผุดขึ้นราวดอกเห็ด โดยเฉพาะกับธุรกิจที่พัก โรงแรม รีสอร์ต ทั้งขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ มีไว้บริการสนองตอบความต้องการของผู้มาเยือน
สิ่งหนึ่งซึ่งแล เห็นคือสถานที่พักขนาดเล็กและขนาดกลาง นับจำนวนไม่ถ้วน เบ่งบานทั่วหัวระแหง ไม่เว้นตามตรอกซอกซอย บ่งบอกให้รู้ถึงความเติบโต แต่หากจะให้ยั่งยืนอยู่ได้ ควรทำเช่นไรนั้น คุณเกษม บุรังกูร ผู้คร่ำหวอดแวดวงธุรกิจโรงแรมกว่า 20 ปี พร้อมบอกเล่า กล่าวคำแนะนำ
ตกแต่งสไตล์ บูติค โฮเต็ล
อิสระสร้างสรรค์ความคิด
ปัจจุบัน คุณเกษม ดำรงตำแหน่ง Deputy General Manager ให้กับ Sandalay RESORT PATTAYA (แซนดาเล รีสอร์ต พัทยา) สถานที่พักขนาด 68 ห้อง ในบรรยากาศสบาย สไตล์บูติค ติดชายทะเล ที่ไม่เฉพาะเป็นเพียงห้องพัก แต่สำหรับผู้ต้องการจัดสัมมนา Sandalay มีความพร้อมไว้บริการ กับขนาดห้องรองรับผู้เข้าร่วมสัมมนาราว 120 คน นอกจากนั้น จัดบริการร้านอาหารเครื่องดื่ม สระว่ายน้ำ อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ไว้พร้อมสรรพ
คุณเกษม เล่าให้ฟังว่า ธุรกิจโรงแรม รีสอร์ต เติบโตด้วยดี โดยถ้านับจากต้นปีจนถึงปัจจุบัน ลูกค้าจับจองห้องพักเต็มต่อเนื่อง และไม่เฉพาะช่วงวันหยุด แต่หมายรวมถึงทุกวัน และแม้คู่แข่งเกิดขึ้นก็ไม่ส่งผลกระทบ เพราะต่างฝ่ายหันหน้าสานสู่คำว่าพันธมิตร “ผมว่ายุคนี้การทำงานต้องจับมือกัน และการเข้าร่วมเป็นสมาชิกของสมาคมธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยว สำคัญมาก ทำให้รู้ความเคลื่อนไหว รู้แนวทางพัฒนา”
คุณเกษมยังกล่าวถึงสไตล์ ตกแต่งโรงแรม ทั้งในเมืองท่องเที่ยวอย่างพัทยา และอีกหลายแห่งทั่วประเทศ สไตล์บูติคที่ให้อิสระกับผู้เป็นเจ้าของและผู้พักอาศัย
“พัทยามี โรงแรมหลายระดับ โดยสองสามปีหลัง เกิดโรงแรม 5 ดาวหลายแห่ง แต่ที่เห็นเป็นจำนวนมากคือ 3 ดาว ด้วยเพราะการลงทุนไม่สูงนัก แต่ผู้ประกอบการจะให้ความสำคัญตกแต่งแบบร่วมสมัยสไตล์บูติค มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อย่าง สระว่ายน้ำ ลานจอดรถ อินเตอร์เน็ต ไว้บริการลูกค้า”
นอกจากนั้น ในส่วนของราคา ปรับให้ลูกค้าระดับกลางรับได้ อย่าง Sandalay ห้องพักต่อคืน 1,000 บาทต้นๆ ไปจนถึง 2,000 กว่าบาท โดยลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ หลักๆ ได้แก่ รัสเซีย ซึ่งเข้าพักต่อเนื่องครั้งละ 2-3 สัปดาห์
“Sandalay ได้ลูกค้าหลายทาง ทั้งผ่าน เอเย่นต์ ไกด์ ดังนั้น สิ่งที่จะบอกคือการทำธุรกิจ ถ้าหวังได้ลูกค้าต่อเนื่อง ช่องทางเข้าถึงสำคัญมาก ควรหลากหลาย ต้องประสานงานกับบริษัททัวร์ และรู้จักเข้าถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพราะปัจจุบันลูกค้าจำนวนมาก นิยมจองห้องพักผ่านเว็บไซต์ อย่าง อโกด้า เอเชียรูม เอเชียเว็บไดเร็คต์ เป็นต้น”

ขนาดพื้นที่ไม่สำคัญ
ปลอดภัย ใส่ใจบริการ
คุณ เกษม ยังให้เหตุผลของการตั้งอัตราค่าห้องพัก ไม่ควรสูงเกินไปนัก เพราะลูกค้าจำนวนไม่น้อย จับจองไว้เสมือนเป็นบ้านของตนเอง ซึ่งเขาไม่ได้ท่องเที่ยวอยู่เมืองพัทยาแห่งเดียว แต่เดินทางข้ามไปยังจังหวัดใกล้เคียง อย่าง กาญจนบุรี กรุงเทพฯ ฉะนั้น ถ้าห้องพักดีราคาถูก ลูกค้าจะพิจารณาเป็นพิเศษ
“อีกเหตุผลหนึ่ง เราต้องการลูกค้าคนไทย ซึ่งส่วนหนึ่งได้แรงสนับสนุนจากภาครัฐ และหน่วยงานการท่องเที่ยว ร่วมรณรงค์ส่งเสริม อย่างกลุ่มสัมมนา ผมมองว่ามีแต่เพิ่มไม่มีลด ฉะนั้น ถ้าใครมีทำเล อาจเป็นบ้าน อาคารของตนเอง อยู่ทางแถบตะวันออก หรือจังหวัดอื่น อย่าง กาญจนบุรี จะเห็นว่าปัจจุบันธุรกิจห้องพักบูมมาก และไม่จำเป็นต้องใช้ทุนสร้างใหม่ แต่ใช้ไอเดียตกแต่ง บริการจัดการด้วยตนเอง สามารถอยู่ได้”
คุณเกษม กล่าวถึงความตื่นตัวของกระแส บูติค โฮเต็ล ว่า นอกจากดึงดูดความต้องการของลูกค้า ยังเพิ่มมูลค่าทางสายตาและจิตใจให้กับผู้เข้าพัก ในขณะตัวผู้ประกอบการไม่จำเป็นต้องใช้เงินทุนก้อนโต ก็สามารถเนรมิตความสวยหรูให้เกิดขึ้นได้ในอาณาจักรเล็กๆ ของตน
” บางคนมีตึก มีห้องแถว จากเคยปล่อยรกร้าง หรือให้เช่าทำกิจการอื่น ปัจจุบัน หันมาตกแต่งดัดแปลงเป็นโรงแรม รีสอร์ต ใส่ความทันสมัยด้วยการตกแต่งสไตล์บูติค ซึ่งผมว่าขนาดไม่สำคัญ แม้แต่คนมีทุนในกระเป๋าน้อย แต่มีทำเลเหมาะสม อาจเป็นบ้านพักของตนเอง ซึ่งนักท่องเที่ยวหลายคนนิยมโฮมสเตย์ เพราะเขามองเรื่องความปลอดภัย สะอาด สะดวกสบาย ถ้าทำได้อย่างนี้บางครั้งราคาไม่ใช่ปัจจัยสำคัญ แต่สิ่งสำคัญคือไอเดีย”




 

Create Date : 20 มีนาคม 2555    
Last Update : 20 มีนาคม 2555 11:45:29 น.
Counter : 1212 Pageviews.  

คอนโดเก่า จากผู้เช่า เป็นผู้จัดการนิติ ตอนที่ ๔

คอนโดเก่า จากผู้เช่า เป็นผู้จัดการนิติ ตอนที่ ๔


เมื่อมีกำหนดการเลือกตั้งใหม่ เราก็ทำที่ใต้ถุนคอนโดนั้นเอง โดยที่ท่านประธานและผู้จัดการได้ทำการออกจดหมายเรียกลุกบ้าน (ก็เจ้าของกรรมสิทธิ์อาคารชุดในคอนโดนั่นแหละ) ต้องมีการส่งแบบจดหมายลงทะเบียน โดยการไปคัดลอกที่อยู่มาจากกรมที่ดิน และให้เจ้าของห้องที่อาศัยอยู่ลงชื่อรับเอกสารเมื่อมีพนักงานนิติฯเป็นคนเอาเอกสารไปส่งและให้เซนต์ชื่อทันที ที่ทำอย่างนี้ก็เพื่อป้องกันคนหัวหมอ บอกว่า ไม่ได้รับเอกสาร แล้วการประชุมจะเป็นโมฆะ ไม่มีผลตามกฏหมายได้

เพื่อป้องกันป้าแต๋วไม่ให้กลับมาเป็นผู้จัดการนิติอีก ทางคณะกรรมการเลยออกกฏ ว่า ผู้จัดการต้องเป็นเจ้าของห้องเท่านั้น และไม่ต้องคดีความ จริงๆแล้วอันนี้กรรมการจะแก้ระเบียบคอนโดตามอำเภอใจไมได้ ต้องแก้ตามมติของที่ประชุมเจ้าของร่วม กรรมการชุดนี้ลาออกทั้งหมด แต่คนที่ไม่อยากให้ป้าแต๋วเข้ามาก็ฟอร์มทีม รวมตัวกัน ขอคะแนนเสียงกัน

ฝ่ายป้าแต๋วก็มิได้นิ่งนอนใจ ปล่อยข่าวผ่านทางเจ้าของห้อง ซึ่งก็คือร้านทำผม สร้างกระแสว่าอีกฝ่ายสูบเงินกองกลางไปจนหมด สมรภูมินี้สู้กันมันหยดเลยทีเดียว
และแล้ววันเลือกตั้งก็มาถึง เรามีนัดกันวันอาทิตย์ใต้ถุนคอนโด นัดกัน 9 โมงเช้าแต่กว่าจะครบองค์ประชุมก็ปาเข้าไป 10 โมงครึ่ง ตามกฏหมายต้องได้ 25% ของจำนวนกรรมสิทธิ์ทั้งหมด คือคิดอัตราส่วนเป็นตารางเมตร เช่น ทั้งหมดมี 100 ตารางเมตร ห้องเล็กห้องใหญ่มาประชุมรวมกันต้องได้ 25 ตารางเมตร ไม่อย่างนั้นสภาล่ม องค์ประชุมไม่ครบ

เมื่อได้องค์ประชุมแล้ว มีทั้งแบบมอบฉันทะมา ซึ่งก็คนหนึ่งจะรับมอบได้ไม่เกิน 3 ห้อง ลงทะเบียนกันเสร็จสรรพ ที่ประชุมต้องทำการเลือกประธานในที่ประชุมโดยลุกบ้านทุกคน ณ ที่ประชุมนั้น ทำการเลือกขึ้นมาเพื่อดำเนินการประชุมตามวาระ ที่ประชุมเลือก คุณหมอน่ารัก ซึ่งเป็นสัตวแพทย์ขี้นเป็นประธานในที่ประชุม

ในวาระแรก ก็ให้ชี้แจงผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ผู้จัดการคนก่อนคือทั่นประธานก็ไม่สามารถชี้แจงได้ แกให้เหตุผลว่า บัญชีทำไม่ด้ เพราะป้าแต๋วผู้จัดการคนก่อนแกเอาเอกสารรายรับรายจ่ายไป ไม่สามารถตั้งงบได้ ลูกบ้านก็มีการโห่ด่ากัน แกก็ตอบโต้ เป็นอย่างนี้ประมาณชั่วโมง นี่แค่วาระแรกก็ปาเข้าไป ๑๑ โมงแล้ว

วาระถัดไป ก็เป็นการเลือกคณะกรรมการ ซึ่งตามกฏหมาย ต้องมีอย่างต่ำ ๓ คน แต่ไม่เกิน ๙ คน ลูกบ้านทั้งสองฝ่ายก็ส่งคนมาลง เพื่อรับการเลือกตั้ง แต่ก็ลงกันไม่ครบ ๙ คนหรอกนะ ได้กรรมการแค่ ๕ คนเอง มีผมเป็นหนึ่งในนั้นด้วย ที่ลงเพราะตอนนั้นไฟแรงคิดว่าเราน่าจะเปลี่ยนสภาพคอนโดเก่าเน่าหนอนแห่งนี้ให้เป็นคอนโดที่น่าอยู่ได้

ถัดมาก็ถึงวาระสำคัญที่ทุกคนรอคอย คือ วาระการเลือกตั้งผู้จัดการ ตื่นเต้นไม่แพ้เลือกประธานาธิบดีเลยแหละ งานนี้ป้าแต๋วจัดคะแนนเสียงจัดตั้งมาเต็ม อีกฝ่ายก็จัดมาเต็มเหมือนกัน โดยเฉพาะนายสุบินซึ่งมีห้องในมือไม่ต่ำกว่า ๑๐ ห้อง

ก่อนจะไปต่อขอเล่าถึงป้าแต๋วซักนิดหน่อย แกเป็นอดีตผู้จัดการนิติบุคคลและพยายามหวนกลับมามีอำนาจอีกครั้งหลังจากโดนปฏิวัติไปคราวที่แล้ว

เดิมทีคอนโดแห่งนี้สร้างเสร็จในปี ๒๕๓๗ โดยมีหุ้นส่วนช่วยกันสร้างช่วยกันขาย ป้าแต๋วและพี่มินนี่ ได้เข้ามาทำงานนิติบุคคล เป็นพนักงาน โดยทั้งคุ่เป็นคู่สะใภ้กัน และสามีของพี่มินนี้ตั้งบริษัทจัดการนิติบุคคล โดยตัวสามีแกเป็นผุ้จัดการนิติบุคคลอาคารชุด ทำกันไป ทำกันมา ปรากฏว่า มีเหตุการณ์ทุจริตเกิดขึ้นทำให้พี่มินนี่และสามีโดนลูกบ้านโหวตออกและระเห็จออกไปก่อนที่เรื่องจะแดงขึ้นมา โดยมีแพะรับบาปคือ น้องเก้งพนักงานธุรการ ซึ่งก่อนหน้าจะเกิดเรื่องขึ้น พี่มินนี่ได้เขี่ยป้าแต๋วกระเด็นออกไปล่วงหน้าแล้ว

เมื่อมีเรื่องเกิดขึ้นลูกบ้านเลยลงชื่อกันเรียกประชุมด่วน พร้อมกับไปเชิญป้าแต๋วกลับมาทำหน้าที่ ผู้จัดการนิติบุคคลอาคารชุด โดยแกก็หนีบลุกน้องคู่บารมีแกเข้ามาด้วย

เมื่อป้าแต้วมาทำงาน แกสามารถสร้างฐานะจากคนนั่งรถเมลล์มาทำงาน ๔ ปีผ่านไป เธอก็มีวีออสป้ายแดง พร้อมบ้านเดี่ยวหนึ่งหลัง ที่เป็นอย่างนี้เพราะว่า

๑ ป้ารับเป็นนายหน้าจัดการเรื่องห้องเช่า เมื่อมีคนมาฝากให้เช่าห้อง
ตอนวิกฤตต้มยำกุ้ง ปี ๒๕๔๐ ซึ่งไม่นานหลังจากคอนโดสร้างเสร็จ มีคนซื้อห้องเพื่อเก็งกำไรมากมายและเมื่อขายต่อไม่ออกก็ปล่อยให้ธนาคารยึด มีนายทุนเข้าไปประมูลมาได้ถูกๆ ห้อง ๓๐ ตารางเมตร ได้ไปในราคา ๒๕๐,๐๐๐ ห้อง ๔๐ ตารางเมตร ราคา ๓๕๐,๐๐๐ แล้วนำมาตกแต่งปล่อยให้เช่า บางรายก็มีกันเป็น ๑๐ ห้องเลยทีเดียว เพราะปล่อยเช่าไม่ยาก เนื่องด้วยอยู่ใกล้ห้างสรรพสินค้า และต้นสายรถตู้เข้าเมือง ไปไหนมาไหนสะดวก

มีการตกลงกันระหว่างป้ากับเจ้าของว่าจะแบ่งค่าเช่าเดือนแรกให้กับป้าเพื่อเป็นค่าจัดการ โดยป้าเป็นคนรวยรวมค่าเช่าไปให้เจ้าของ ซึ่งก็ทำให้เกิดช่องว่างในการทุจริตได้ บางทีหรือหลายๆที ป้าจะกันไม่ให้คนเช่ากับเจ้าของเจอกัน หรือติดต่อกันได้ เมื่อครบเดือน ลูกบ้านก็เอาเงินมาจ่ายไว้ที่นิติบุคคล (สำนักงานนิติบุคคล๗ มันจะมีกรณีที่ลูกบ้านยังไม่ได้ย้ายออก แต่ป้าไปบอกเจ้าของว่า ย้ายไปแล้ว ป้าก็เก็บค่าเช่าต่อไปซักเดือนสองเดือน ชิวๆ หรือกรณีที่ไปแจ้งเจ้าของห้องว่าห้องว่างไม่มีคนเช่า แต่จริงๆแล้วมีคนมาเช่าได้สองเดือนแล้ว เป็นต้น

๒ การซื้อขายห้อง โดยบวกราคาเพิ่ม

ปรกติจะมีคนมาฝากให้ป้าขายห้องเพราะว่าแกเป็นนิติ เช่น ห้อง ๓๐ ตารางเมตร เจ้าของอยากได้ ๕ แสน แต่ไปบอกขาย ๕ แสน ๗ เผื่อต่อ ๕ แสน ๕ ป้าก็ปล่อยเลย ได้กำไรเนาะๆ ๕ หมื่น ปีนึงทำซักสิบห้องก็สบายแล้ว
๓ การซ่อมแซมห้อง หรือ ซ่อมแซมคอนโด
ป้าก็จะหาผู้รับเหมาที่ป้าสามารถกินหัวคิวได้เบาๆ มาทำการซ่อมแซม ซ่อมแล้วซ่อมอีก แก้ไม่หาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหา น้ำรั่ว จากดาดฟ้า และน้ำรั่วจากห้องข้างบนลงล่าง



แทรกเรื่องป้าแต๋วมาเสียยาว กลับมาเข้าเรื่องกันต่อ

วาระเลือกผู้จัดการนิติบุคคลอาคารชุด ป้าแต๋วก็ได้คะแนนเสียงนำโด่ง แต่อนิจจา มันไม่ถึง ๒๕ % ของจำนวนกรรมสิทธิ์รวมทั้งหมด เลยต้องให้คณะกรรมการทั้ง ๕ คนทำการประชุมเพื่อเลือกผู้จัดการรักษาการกึ่งถาวร
ทั้ง ๕ คนมีดังนี้
๑ ผมเองผู้เล่า ๒ นายสุบิน คู่แค้นฝังหุ่นป้าแต๋ว คนนี้มีห้องกว่าสิบห้องในมือ ๓ พี่มินนี่ return (แกแอบมาซื้อห้องไว้เพื่อได้สิทธิ์เข้ามาโหวตและเป็นกรรมการ จุดประสงค์หลักคือตีกัน ป้าแต๋ว) ๔ พี่เกด เจ้าของร้านเสริมสวย และเป็นลุกหนี้ป้าแต๋วด้วยอีกฐานะหนึ่ง

ทุกคนที่เกี่ยวข้องไม่มีใครยอมเป็นผู้จัดการ หวยเลยมาออกที่ผม ตอนนั้น ไม่ได้คิดอะไร คิดว่าอาสาเข้ามาทำงานเพื่อพัฒนาตึก (ดูดีไปไหมเนี่ย)

โปรดติดตามตอนต่อไปครับ




 

Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2555    
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2555 13:16:49 น.
Counter : 1820 Pageviews.  

ธุรกิจห้องเช่าสำหรับสาวฉันทนาและน้องแคดดี้

ธุรกิจห้องเช่าสำหรับสาวฉันทนาและcaddy


“แรงเอาฝากธนาคารไม่ได้ แต่เงินเก็บฝากธนาคารได้” เป็นคำสอนที่ยายเคยสอนแม่ และแม่ก็เอามาสอนผมอีกทีหนึ่ง แต่จะให้ดีเราลงทุนในสินทรัพย์ที่มันทำรายได้และมูลค่าไม่เสื่อมลงเมื่อเทียบกับเงินเฟ้อจะดีไหม อันหลังนี้ผมคิด

เมื่อประมาณ 4 ปีก่อนมีคนมาบอกขายที่ดินติดถนน 200 ตรว ราคาไม่แพง แม่ก็เลยซื้อไว้และแบ่งให้ผมกับน้องชายคนละครึ่ง ถมอีกก็หมดไปแสนกว่า เพราะเป็นที่ดินบ่อและสวนมะม่วงเก่า ตอนแรกก็ยังไม่รู้ว่าจะทำอะไร เลยปล่อยไว้เฉยๆ ปลูกข่า ปลุกตะไคร้ ปลุกกล้วยไปตามเรื่อง

จุดเริ่มทำห้องเช่ามาถึงเมื่อ คิดว่าจะทำยังไงถึงจะหารายได้เพิ่มให้กับครอบครัวได้อย่างไร คิดทำธุรกิจนี้เพราะว่า แม่มีแผงให้เช่าในตลาดสดของกรุงเทพมหานคร และแม่ก็ขายของเองแผงหนึ่ง ให้เช่าแผงหนึ่ง นับว่าเป็นธุรกิจที่ไม่ต้องเหนื่อยมาก และไม่เน่าไม่เสีย เดือนหนึ่งก็พอได้ค่าเช่าอยู่ คิดไปคิดมา ลองทำบ้านเช่าดีกว่า บ้านเช่าที่จะทำก็เป็นแบบห้องแถวชั้นเดียวใน Blog ก่อนหน้านี้นั่นแหละครับ

ธุรกิจห้องเช่าแบบนี้ควรเริ่มต้นที่ไหนดีล่ะ

เริ่มที่ตัวเองก่อนครับ ศึกษาหาความรู้ทั้งทฤษฏี ภาคปฏิบัติ และลงพื้นที่จริง อันดับแรกเรามาดูตัวเองก่อน

๑ ต้องมีแหล่งเงินทุนสนับสนุน แน่นอนอยู่แล้วครับ ถ้าไม่มีเงินก็ทำไม่ได้ เพราะต้องใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูง เราควรมีความพร้อมในเรื่องเงินทุนระดับหนึ่ง ถ้าในกรณีที่เรามีเงินน้อย แต่มีรายได้ประจำอยู่ และมีอสังหาริมทรัพย์ที่พอจะเป็นหลักทรัพย์ได้ ก็เอามาค้ำประกันเงินกู้ เพื่อนำเงินออกมาสร้าง แต่ผมแนะนำว่าน่าจะมีเงินลงทุนส่วนตัว ในอัตราส่วนที่สูงกว่าการกู้เงินจากสถาบันการเงิน เพื่อรักษาสภาพคล่องนะครับ

๒ มีทำเลที่ตั้งดี ขอสามคำ Location Location Location นับว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการทำธุรกิจประเภทนี้ครับ การตัดสินใจเช่าของผู้เช่า จะเลือกตัดสินใจจากทำเลที่ตั้งเป็นหลัก ทำเลที่ดีต้องอยู่ไม่ไกลสถานที่ทำงาน เป็นแหล่งชุมชนที่สามารถซื้อหาเครื่องใช้อุปโภคบริโภคได้ และมีการคมนาคมที่สะดวกสบาย รถรับส่งบริษัทผ่าน หรือมี สองแถว มีวินมอเตอร์ไซต์

๓ ต้องเข้าใจสภาพการแข่งขันในตลาด ธุรกิจนี้แข่งกันรุนแรงเหมือนกันนะครับ แกสร้างได้ ฉันก็สร้างได้ เราต้องมีการปรับกลยุทธให้อยู่รอดได้ในตลาดนี้ครับ

๔ มีอัธยาศัยดีมีใจรักในงานบริการ ห้องเช่า บ้านเช่า อพาร์ทเมนต์จัดเป็นธุรกิจประเภทบริการ ผู้ประกอบการควรเอาใจใส่ครับ ดูแล และอำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้เช่าอย่างทั่วถึง มีกิริยา วาจาสุภาพ ยิ้มแย้มแจ่มใส ใครขี้รำคาญ ไม่ชอบบริการคน ไม่ชอบจุกจิก ธุรกิจนี้อาจไม่เหมาะกับท่านนะครับ

๕ มีความอดทนในการแก้ไขปัญหาต่างๆ การดูแลผู้พักอาศัยให้อยู่ในกฏในระเบียบ เป็นเรื่องที่ทำได้ยากเหมือนกันครับ ความอดทนจึงเป็นคุณสมบัติหนึ่งที่ผู้ประกอบอาชีพนี้พึงมีเป็นอย่างยิ่งครับ เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในแต่ละวันให้ลุล่วงไป เช่น ปัญหาเสียงดัง ด่ากัน ทะเลาะกัน ปัญหา ท่อตัน น้ำรั่ว ส้วมเต็ม เป็นต้น

ลองดูนะครับ ว่าเราเหมาะที่จะทำธุรกิจนี้หรือไม่





 

Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2555    
Last Update : 16 กุมภาพันธ์ 2555 20:07:23 น.
Counter : 3805 Pageviews.  

ลักษณะบ้านที่เหมาะสมกับคนเลัคนาราศีเมถุน

ท่านมีลัคนาสถิตย์อยู่ราศี มิถุน เป็นราศีแห่งธาตุลม คนราศีนี้ควรอยู่ในบ้านที่อยู่ลึกเข้าไปจากถนนใหญ่ ไม่ควรอยู่ติดถนนใหญ่ และควรอยู่ลึกเกินกว่าครึ่งซอย
บ้านที่อยู่อาศัยไม่ควรเป็นบ้านที่สูงใหญ่นัก แต่ควรเปนบ้านที่แข็งแรง โฉลกที่ดีของบ้านคือ ควรปลูกพุ่มไม้ไว้หน้าบ้าน และควรเป็นไม้พุ่มที่ให้ดอกอันทนทาน เช่น เฟ่องฟ้า บานไม่รู้โรย

สิ่งที่ไม่ควรทำสำหรับบ้านนี้คือ ถ้าไม่จำเป็นแล้วผู้อาศัยที่ในบ้านไม่ควรอยู่คนเดียว ควรมีผู้อยู่ด้วยไม่น้อยกว่าสองคนขึ้นไป การอยู่คนเดียวจะทำให้เกิดการอับโชคขึ้นได้




 

Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2555    
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2555 10:26:15 น.
Counter : 902 Pageviews.  

การเลือกชัยภูมิที่อยู่อาศัยให้เหมาะกับลัคนาราศี

การเลือกชัยภูมิที่อยู่อาศัยให้เหมาะกับลัคนาราศี

ก่อนอื่นขอยกคำกล่าวของอาจารย์ เศก ดุสิต ผู้ซึ่งเจ้าของ Blog นับถือว่าเป็นครูทางโหราศาสตร์ ท่านกล่าวไว้ดังนี้

การเรียนรู้ว่าชีวิตของเราจะต้องประสบกับอะไรก่อนที่จะถึงเวลานั้น
นับว่าเป็นความไม่ประมาทอย่างหนึ่ง ผมว่ามันเป็นทสิ่งที่ดี ที่เราจะได้รู้ล่วงหน้าว่าอะไรจะเกิดกับเรา
ถ้าเป็นสิ่งที่ร้าย เราจะได้ระวังตน ไม่ประมาท
อย่างน้อยก็ทำให้หนักเป็นเบาได้ และเมื่อเหตุร้ายเกิดขึ้นจริง
เราก็จะไม่ทุกข์ทนหม่นไหม้มากนัก เพราะเรารู้ตัวอยู่แล้วว่ามันจะเกิดขึ้น

แต่ถ้ามันเป็นสิ่งดี เช่นจะมีโชคลาภ เราก็จะได้เตรียมตัวที่จะรับรองสิ่งที่ดีนั้น หาวิธีที่จะได้มาให้แน่นอนยิ่งขึ้น ไม่ทอดหุ่ยรอคอยโชคแต่เพียงอย่างเดียว เพราะแม้ดวงจะบอกว่ามีโชค แต่เราไม่ทำอะไรเลย โชคก็ไม่รู้จะเข้ามาหาเราได้ทางไหน จริงไหมครับ

ท่านที่เกิดราศีดังต่อไปนี้ ราศี พฤษภ สิงห์ พฤศจิก กุมภ์ เป็นพวกนิ่งสงบ ไม่ชอบวุ่นวาย ไม่ควรอยู่บ้านปากซอย ควรอยู่ลึกเข้าไปไม่เกินครึ่งซอย เหมาะอยู่กับบ้านติดดิน ไม่เหมาะแก่การอยู่คอนโด ชอบอยู่นิ่งๆ ยิ่งราศีสิงห์ ถ้าเลี้ยงสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข และ แมว จะถูกกับโฉลกมากครับ

ท่านที่เกิดราศี เมษ, กรกฏ ตุลย์, และ มังกร เป็นคนลักษณะเคลื่อนไหวเร็วเร็ว ทำอะไรไม่ชักช้ายืดยาด ลักษณะของที่อยู่อาศัยคือต้องเป็นบริเวณที่พลุกพล่านซักหน่อย ไปอยู่ที่เงียบๆ การงาน การเงิน จะไม่เป็นไปตามที่คาดหวังนัก อยู่แถวปากซอยจะดีมาก หรือว่าลึกเข้ามาในซอยไม่เกิดกลางซอย จะถูกโฉลก ไม่ควรอยู่บ้านชั้นเดียว ถ้าอยู่คอนโดชั้นสูงๆ รับลมจะดีมาก

ท่านที่เกิดราศี มิถุน , กันย์ , ธนู, มีน ชีวิตจะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไม่คงที่เหมือนชาวราศีอื่นๆ บ้านที่ถูกโฉลกควรเป็นบ้านที่อยู่สุดซอย เข้าลึกสุด หลีกเร้น จากความวุ่นวายจะหมดกับดวงมากครับ

รับพยากรณ์ดวงชาตา สนใจติดต่อได้ทางข้อความนะครับ หรือทาง อีเมลล์ NYodsantiแอดgmail.com




 

Create Date : 24 มกราคม 2555    
Last Update : 24 มกราคม 2555 13:32:25 น.
Counter : 969 Pageviews.  

1  2  3  4  

ภูมิพัฒน์
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 35 คน [?]




Friends' blogs
[Add ภูมิพัฒน์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.