• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• My Home
• รักษาสิวด้วยตนเองด้วยยาตามท้องตลาด

การรักษาสิวอุดตันแบบง่ายๆ (อยากแชร์เทคนิคที่ใช้อยู่) ปัจจุบันฝนไม่ได้เป็นสิวเหมือนเมื่อก่อนแล้วและไม่ได้ใช้ Buffering มาได้ 2 เดือน (เคยหยิบมาแต้มๆ บ้างแต่หลังๆ ไม่มีสิวก็เลยไม่ใช้อีกเลย) ที่สิวหายเท่าที่สังเกตไม่ได้เกิดจาก Buffering ของ Mario Badescu เป็นหลัก แต่เกิดจากการใช้ Benzac อย่างต่อเนื่อง (ราคา 100-120 บาท ซื้อตามร้านขายยา) ตัวนี้ฝนใช้ เช้า-เย็น ทาทิ้งไว้ 15-30 นาทีแล้วแต่สภาพผิวหน้ามันหรือแห้ง เรื่องการระคายเคืองทำให้หน้าลอกแห้งขุยของ Benzac มีน้อยกว่า เปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ 2 ตัวในการรักษาสิวอุดตัน ข้อดีของ Buffering ใช้แล้วเห็นผลระยะสั้น ภายใน 1 สัปดาห์ (หรือ 4-5 วัน) สิวอุดตันจะละลายค่อยๆ หายไป ข้อเสียของ Buffering ที่รวบรวมจากลูกค้าหลายคน ใครที่แพ้ยีสต์ใช้แล้วสิวจะเห่อหนัก ใครที่แพ้ BHA ก็ไม่ควรใช้ ใครที่หน้าแห้งก็ไม่ควรใช้ หน้าจะลอกแห้งขุยหนักมาก แสบร้อน กลิ่นเหม็น --------------------------------------------------------------------- ข้อดีของ Benzac ราคาถูก หาซื้อง่ายตามร้านขายยาทั่วไป ใช้แล้วไม่ดันสิวให้ขึ้นสุก จะเน้นละลายสิวอุดตันมากกว่า ถ้าใช้ต่อเนื่องเห็นผลระยะยาว ให้ใช้เสมือน Must Have ของเราไปเลยอย่าได้ขาดมีวินัยใช้ทุกวันเช้า-เย็น ข้อเสียของ Benzac ต้องใช้ระยะเวลานานประมาณ 3-4 สัปดาห์จะรู้สึกว่าผิวหน้าดีขึ้น ถ้าผิวลอกควรลดระยะเวลาในการทาหรือปริมาณลง ผู้ที่จะมีอาการนี้ส่วนใหญ่คือคนที่ผิวแห้งมากๆ การลดระยะเวลาให้สั้นหรือเปอร์เซ็นต์ของยาให้น้อยลงก็ช่วยให้อาการดีขึ้น ยังสามารถใช้ยาตัวนี้รักษาสิวอุดตันได้อยู่ --------------------------------------------------------------------- หวังว่าคงเป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆ และลูกค้าทั่วไปที่สนใจสินค้า ฝนเป็นคนขายแต่ก็อยากจะแนะนำเทคนิคดีๆ ให้กับลูกค้าด้วย บางทีสินค้าก็ไม่ได้มีแต่ประโยชน์อย่างเดียว ปัจจัยของผู้บริโภคก็ไม่ได้มีเท่ากันทุกคน ดังนั้นจึงอยากนำเสนอทางเลือกที่ดีและเห็นผลเหมือนกัน "แม้ Benzac จะเห็นผลช้าหน่อย แต่หากใช้อย่างต่อเนื่องตัวนี้รักษาสิวอุดตันได้เด็ดขาดมากกว่าแน่นอน" ทุกวันนี้ฝนไม่มีสิวอุดตันและมีสิวอักเสบมากเหมือนก่อนเพราะหมั่นทา Benzac ไม่ขาด วิธีนี้ง่ายๆ ประหยัดใครๆ ก็ทำได้ ถ้าเห็นเป็นประโยชน์อยากแชร์ก็ไม่ว่ากัน เพราะ Benzac ซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปใครมีปัญหาสิวอุดตันก็ลองดูค่ะ   Create Date : 30 พฤษภาคม 2555     Last Update : 30 พฤษภาคม 2555 16:48:21 น. Counter : 13729 Pageviews.   1 comment Share Tweet

รักษาสิว (เว่อร์ชั่นคุณแม่) ภาค 2 ตอนจบ วันนี้จะมานำเสนอตอนจบของการรักษาสิวแบบฉบับคนท้องแต่ต้องรักษาสิว มาเริ่มกันเลยดีกว่านะจ๊ะ ในการอัพครั้งที่แล้ว ใบหน้าเยินมากมาย แสบร้อนตลอดเวลาเมื่อโดนแดด โดนแสงไฟ วิธีที่ลดการอักเสบ การแสบร้อนของผิวหน้าที่ฝนปฏิบัติอยู่มีดังนี้ การบำรุงและบรรเทาอาการอักเสบของสิวที่อักเสบ 1. น้ำเกลือล้างแผล (ในภาพที่ 7 ) หลายคนคงคุ้นตากับน้ำเกลือล้างแผลขวดนี้ เวลาเป็นสิวอักเสบมากๆ ในช่วงที่แพ้ท้องจัดๆ ฝนจะนำน้ำเกลือเทลงบนสำลี (แบบสี่เหลี่ยมๆ ที่เราใช้เช็ด คสอ.) เน้นให้แผ่นสำลีชุ่มๆ ไม่ต้องแฉะมาก แปะให้ทั่วหน้า เสมือนการมาส์กด้วยน้ำเกลือ หรือถ้าใครมีแผ่นมาส์กสำเร็จรูปอยู่สามารถนำมาชุบน้ำเกลือและโปะได้เช่นกัน ผลที่ได้ >> อาการสิวอักเสบจะดีขึ้น ไม่ถึงกับหาย แต่ไม่ทำให้ใบหน้าอักเสบและแสบจากแผลที่กำลังเห่อ ช่วยได้ดีมาก การันตี (อย่าเร่งเวลานะคะ ตัวนี้ต้องดูกันเรื่อยๆ) แต่แผลจะสมานดีขึ้น และผิวจะเนียนนิดหน่อย ผลของน้ำเกลือถ้าเราเป็นสิวฮอร์โมนมันจะช่วยแค่ประทังให้อาการสิวดีขึ้นนะจ๊ะ ในช่วงเวลาหลายเดือนที่ฝนสังเกตอาการเห็นชัดมากๆ ว่ามันก็แค่ช่วยให้ผิวหน้าไม่อักเสบมากกว่าเก่าเท่านั้นเอง แต่ถ้าไม่ใช่เรื่องสิวฮอร์โมน (ถ้าคุณไม่ท้อง) ก็จะช่วยให้เห็นผลเร็วกว่า คือ สิวก็จะแห้งและสมานจนยุบในเวลาต่อมา วิธีเลี่ยงสารเคมีในช่วงตั้งครรภ์ (ระยะแรก) 1-3 เดือน หมอจะบอกว่าเด็กในช่วงเวลาตั้งท้องดังกล่าวอยู่ในช่วงสร้างอวัยวะ คุณแม่อดทนในการใช้ยาสิวได้จะดีมาก หากเป็นสิวจะสามารถใช้ได้แค่ CM ทั่วไป ซึ่งฝนก็อดทนจนผ่านมาได้ แต่พอมาช่วงเดือนที่ 4 ก็เริ่มอดทนไม่ไหวและ (มันไม่ยุบเอาเลย น้ำเกลือก็ช่วยได้แค่บรรเทาอาการให้ทรง) จึงได้ปรึกษาคุณหมอสูติฯ ที่เป็นแพทย์ประจำตัวซึ่งฝนฝากครรภ์ (พญาไท 3) หมอก็แนะนำว่าช่วงนี้พอเริ่มใช้ได้แต่ให้อยู่ในการดูแลแพทย์จึงเลือกไปยังคลินิคเดิมที่เคยไปหาและบอกหมอว่ามาปรึกษาเรื่องดูแลผิวพรรณขณะตั้งครรภ์ ฝนไม่ได้บอกว่ามารักษาสิวนะจ๊ะ เพราะรู้ว่ายังไงก็ไม่หาย แค่ขอให้บรรเทาและผิวหน้าไม่แห้งก็พอค่ะ คุณหมอสิว (ที่คลินิค) วิเคราะห์อาการว่าสภาพผิวหน้าฝนแห้งมาก ถึงมากที่สุด เพราะว่าฝนเองก็ทาบำรุงอะไรไม่ได้ 3 เดือน แค่ได้กลิ่นก็จะอ้วก CM ก็แพ้กลิ่นฉุนของมันมาก สำหรับกลิ่นหอมๆ ก็ไม่ถูกจมูก รู้สึกเหม็นอีกเช่นกัน หมอสิวจึงรักษาตามอาการคนท้องคือ ให้ยาสำหรับคนตั้งครรภ์ใช้ได้ไม่เป็นอันตรายต่อเด็ก และก็แนะนำมาส์กที่ช่วยให้ใบหน้ามีความชุ่มชื้นขึ้น แต่ไม่ให้ทำตัวที่มีส่วน AHA ทุกชนิด และเมื่อผ่านไป 1 เดือนกว่าๆ ผลที่ได้รับก็ดีขึ้น คือ ผิวหน้าไม่แห้ง สิวก็ลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด หมายเลข 1 ไว้ทาละลายสิวอุดตัน ซึ่งคุณหมอบอกว่าตัว BP แบบเปอร์เซ็นต์อ่อนสุดก็ใช้ได้ แต่ตัวนี้อ่อนกว่าซึ่งก็ปลอดภัยกว่า หมายเลข 2 เป็นตัวทาเฉพาะหัวสิว ทาแล้วผิวบริเวณสิวจะเหนียวๆ สิวก็หายนะคะ แต่นานหน่อยใช้เวลาประมาณ 1 อาทิตย์ถึงจะเห็นผล ถ้ามีหัวหนองอยู่ ควรบีบออกให้หมดแล้วค่อยแต้มตัวนี้ตาม ถ้าสิวที่อุดตันช่วยไม่ได้เท่าสิวที่กำลังอักเสบ Tip : ฝนถามจากคุณหมอมา คุณหมอจะให้คนท้องเลี่ยงยาสิวที่มีส่วนผสม - AHA BHA - กรด A พวกเรติน A - Salicylic Acid - Sodium Sulfate คือ ถ้าพลาดใช้ ก็ควรให้มีแต่น้อย และระหว่างตั้งครรภ์ไม่ควรทำทรีทเมนต์ AHA ขณะท้องไม่ควรทำ Laser ทุกชนิด ดังนั้นขั้นตอนที่ช่วยให้หายสิวได้ ก็จะมีแค่การทำความสะอาดกับการบำรุงแค่นั้น มาดูวิธีการทำความสะอาดที่ฝนได้เลือกใช้ขณะตั้งท้องกันดีกว่า กรณีแต่งหน้า หมายเลข 1 Cleansing Express แบบ Gel เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย แต่ว่าฝนก็จะใช้เพื่อล้างกันแดดที่ใช้ระหว่างวัน หรือถ้าแต่งหน้าก็จะใช้ทำความสะอาดเป็นตัวแรกก่อนจะตามด้วย cleansing oil หมายเลข 2 ถ้ามีการแต่งหน้าก็จะใช้ fasio cleansing oil ซึ่งก็ช่วยได้มาก ด้วยการนวดวนๆ บนใบหน้า สิวที่อุดตันก็หลุด (เป็นบางเม็ด) ประมาณ 1 นาทีแล้วไปล้างน้ำสะอาดออก สำหรับผิวฝนสามารถใช้ cleansing oil ได้ บางคนบอกเป็นสิวและไม่สามารถใช้ได้ ดังนั้นโปรดใช้วิจารณญาณในการรับชมนะจะ หมายเลข 3 Physiogel ฝนจะใช้หลังจากใช้ Fasio ไปแล้วโดยเช็ดหน้าให้แห้งและใช้ Physiogel แต้ม 5 จุดบนหน้าแล้วนวดวนๆ เบาๆ และใช้สำลีเช็ดออกจากนั้นก็ล้างหน้าด้วยน้ำสะอาด หมายเลข 4 Bioderma เมื่อล้างหน้าเสร็จก็ใช้ตัวนี้เช็ดเพื่อตรวจสอบสิ่งตกค้างอีกทีเพื่อความชัวร์ หมายเลข 5 – 6 เป็นเจลล้างหน้าที่ใช้ขณะเป็นสิว หมายเลข 7 ใช้น้ำเกลือล้างแผลแทนโทนเนอร์ในวันสิวอักเสบ หรือใช้เทใส่สำลีทำเป็นมาส์กเพื่อบำรุงผิวที่เป็นสิวอักเสบ หมายเลข 8 น้ำแร่ evian ใช้เพิ่มพลังให้ผิวหน้าสดชื่นหลังทำความสะอาดทุกครั้งขั้นตอนเสร็จแล้วฝนจะฉีดแล้วก็ใช้พัด พัดให้แห้ง หรือปล่อยให้แห้ง หน้าจะสดชื่นมากมาย กรณีไม่แต่งหน้า จะใช้เพียงแค่ หมายเลข 3 Physiogel กับ หมายเลข 5 หรือ 6 และใช้ Bioderma ตาม และจบด้วยการฉีดน้ำแร่ evian เพิ่มเติม เพิ่งไปสอยตัว Cleansing Oil ของ Bobbi Brown มา ให้ผลในด้านการล้างหน้าเมื่อแต่งหน้าได้อย่างหมดจด สิวไม่ขึ้นด้วยอ่ะ เวิร์คโพดๆๆ ดีมากๆ เลย ดีจนตอนนี้ลืม Fasio ติดผนังไปเลยค่ะ เพราะ Bobbi จะไม่ทำให้ผิวแห้ง และมีโจโจ้บาบำรุงไปในตัว วิธีใช้ ปั้มน้ำมันจำนวนพอเหมาะในมือ . นวดเบาๆ บนใบหน้าที่แห้ง ช่วยกระตุ้นน้ำมันเพื่อล้างสิ่งสกปรก คราบเครื่องสำอางต่างๆ จากนั้นถูอีกรอบพร้อมน้ำเล็กน้อย แล้วค่อยล้างด้วยน้ำสะอาดอีกที หรือใช้สเปรย์น้ำแร่ฉีดให้ชุ่มฉ่ำให้เปียกแล้วก็ใช้ทิชชู่ซับก็เกลี้ยงนะคะ สำหรับการบำรุงผิว หมายเลข 1 ใช้ทำเป็นมาส์กบำรุงผิวลดการอักเสบ หมายเลข 2 ฉีดบำรุงผิวให้สดชื่น หมายเลข 3-4 เลือกใช้ SKII 2 ตัวนี้เพื่อให้ผิวกระจ่างใส ลดรอยดำที่เกิดจากรอยสิวได้ดี หมายเลข 5 ตัวช่วยเรื่องรอยดำจากสิวของคลินิคที่ฝนไปขอคำปรึกษา หมายเลข 6 กันแดดที่ใช้ซึ่งเป็นของคลินิคเหมือนกัน ตัวนี้เราสามารถใช้สมูธอีแทนได้นะจ๊ะ หมายเลข 7 สมูธอีที่ใช้สลับกับของหมอ หมายเลข 8 ตัวบำรุงสำหรับผิวที่แห้งมาก ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น หมายเลข 9 Vit C ที่ช่วยให้ผิวที่มีรอยดำดีขึ้น ซึ่งคุณอาจใช้ยี่ห้ออื่นๆ ซึ่งเป็น Vit C ได้เหมือนกัน สำหรับ Vit C ได้ปรึกษาคุณหมอแล้วบอกว่าใช้ได้ในช่วงท้อง 5 เดือนก็ปลอดภัยแล้วจึงเริ่มใช้ค่ะ หมายเลข 10 ใช้แป้งเด็กพวกนิวบอร์นลดการระคายเคืองได้ดี ไม่ทำให้สิวขึ้นเหมือนแป้งที่มีน้ำหอม ภาพในช่วงตั้งท้องแรกๆ 7 สัปดาห์ก็เริ่มจะไม่ไหวแล้ว ช่วงนั้นแพ้ท้องหนักมากด้วย หน้าไหม้มากๆ เพราะทาสกินแคร์ใดๆ ไม่ได้ แม้แต่กันแดดก็ใช้ไม่ได้ ตอนนั้นอยู่ต่างจังหวัดด้วย โอ้ว..ทรมาน ต่อมาเป็นภาพช่วงตั้งท้อง 5 เดือน ช่วงนี้ย้ายอยู่ กทม.ได้ประมาณเกือบ 2 เดือนแล้ว ไม่ได้ออกนอกบ้านวันๆ อยู่ในห้องแอร์ เริ่มใช้สกินแคร์ได้และก็ผิวดีขึ้นตามลำดับ ช่วงนี้เป็นช่วงที่ไปขอรับคำปรึกษากับหมอเรื่องสิวแล้ว และก็แต่งหน้าได้ปกติ ภาพต่อมาเป็นประมวลภาพที่แต่งหน้าได้เหมือนเดิม มีสิวนูนๆ ขึ้นมาบ้างก็กลบๆ ไป แต่วิธีการบำรุงผิวก็ยังเหมือนเดิม พอย้ายจากต่างจังหวัดมาอยู่ กทม.ทำให้ต้องเปลี่ยนรองพื้นไป 1 เฉด เพราะขาวขึ้น ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ โว้ววว.... อะเมซิ่ง !! เมื่อก่อนใช้ Bobbi สี Natural ตอนนี้เปลี่ยนมาใช้ Warm Beige แว้วว ฝนเป็นคนหนึ่งที่เชื่อแล้วว่า... ได้ลูกชายแล้วตอนตั้งท้องแม่จะสิวกระหน่ำ... ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของถุงน้ำในท้องด้วย ถ้ามีการผ่าตัดตอนคลอดอย่างไรจะอัพเดทให้ฟังนะจ๊ะ ขอเป็นกำลังใจให้คนเป็นสิวขณะท้องจงอย่านอยด์เลย ช่วงเวลานี้ฝนผ่านมาอย่างทรมานมาก เพราะไม่สามารถใช้อะไรได้เลย ก็ยังดีที่ได้แฟนให้กำลังใจดีๆ อยู่เคียงข้างเสมอมา จบการรายงานรีวิวผลแต่เพียงเท่านี้ หากมีโอกาสท้อง 2 อย่างน้อยก็รู้วิธีรับมือกับมันแล้ว แต่เลือกได้ยังไม่อยากมี ฮ่าๆ เข็ดๆๆๆๆๆๆ รีวิวเพื่อเป็นแนวทางในการเลือกรักษานะจ๊ะ เผื่อช่วยคนที่มีอาการเป็นเหมือนกันได้บ้าง   Create Date : 05 กรกฎาคม 2553     Last Update : 5 กรกฎาคม 2553 23:46:03 น. Counter : 16738 Pageviews.   11 comment Share Tweet

การกลับมาของสิวโหดที่สุดในชีวิต (เว่อร์ชั่นคุณแม่) ภาค 1 สวัสดีจ้าชาวจีบัน หายไปนาน งืมๆ ก็ตั้งแต่กุมภาฯ สำหรับรีวิวต่างๆ และสำหรับเรื่องสิวก็หายไปเกือบ 2 ปีเห็นจะได้ที่ชีวิตไม่ค่อยมีปัญหากับสิวอีก จนมาวันนี้เปิดแฟ้มคดีสิวโหดกันอีกแล้ว อยากจะบ้าตาย (บ่นมันทุกวัน จิตตก) ช่วงแรกทำใจไม่ได้ (เลยยยยย....) ร้องไห้จะเป็นจะตาย เพราะมันทรมาน เจ็บและปวด ไม่เว่อร์เลยค่า เป็นหมดทั้งใบหน้า เมื่อก่อนย้อนไปปี 51 ยอมรับว่าผิวหน้าแย่ แต่มันก็หายไปแล้วมีขึ้นเม็ด สองเม็ดมันก็ยังไม่ปวดใจมาก แต่การกลับมาเป็นสิวครั้งนี้ฝนตั้งท้องน้องเสืออยู่ หมอสูติฯ สั่งว่าอายุครรภ์ 1-3 เดือนไม่ควรใช้ยาสิวใดๆ เรติน A หรือพวก AHA ต่างๆ การจะใช้สกินฯ มีผลต่อเด็กให้ระวังอย่างมาก เอาแล้วไง... หันซ้าย หันขวาก็ยาสิวประจำตัวที่แสนฉมังอยากจะใช้แบบมือสั่น แต่ก็.....อดทน ( T__T ) สาเหตุที่สิวขึ้น ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้ว่าตัวเองมีถุงน้ำในรังไข่ จนตั้งท้องและคุณหมอซาวด์ 4 มิติ พบว่าในช่วง 5 สัปดาห์มีเหมือนถุงน้ำแสดงอาการแต่เล็กมาก มาช่วงเดือนที่ 2 ถุงน้ำโตตามเด็ก 3.5 เซนติเมตร และมาในช่วงเดือนที่ 3 ถุงน้ำโต 3.5 เซนติเมตรเท่าเดิม หมอบอกว่าเหมือนอาการคงที่ให้ดูช่วงเดือนที่ 4 อีกครั้ง ข้อมูลภาวะถุงน้ำในรังไข่ ทำให้ร่างกายมีการผลิตฮอร์โมนเพศชายเพิ่มมากขึ้น ผลก็คือทำให้ขนดก หน้ามันและสิวขึ้นเยอะกว่าเดิม (แค่เดิมทีก็แย่อยู่แล้วพอท้องแล้วถุงน้ำใหญ่นี่แบบจะคลั่ง ทำใจไม่ได้) นี่คือใบหน้าช่วงท้อง 5 อาทิตย์ (ยังน้อยหนักเมื่อเทียบกับช่วงท้อง 2 เดือน) ช่วงนี้ยังหน้าขาว เพราะใช้ครีมกันแดดได้ ผิวไม่เบิร์นแดด ดู๊ ดู ขึ้นรอบคิ้ว -*- และนี่คือท้อง 7 อาทิตย์ จะเริ่มเข้าช่วงสิวที่เป็นอย่างสาหัสแล้ว หน้าจะมันมากคิดดูว่านอนตอนกลางคืน ตื่นมาปากมันเหมือนทากลอสเพราะความเยิ้มมันจากใบหน้าไหลได้ขนาดนั้น ช่วง 7 อาทิตย์นี้เป็นอาการที่ไม่สู้ดีแล้วเนื่องจากว่าทากันแดดไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้เลย ล้างหน้ายังเจ็บแสบ (และจะคันมากในช่วงกลางคืน) ทาสกินแคร์ไม่ได้ สิวเริ่มขึ้นที่หู ไรผม กลางหัว เรียกได้ว่ามันเยอะเกินไป แต่ใครเห็นสภาพตัวเป็นจะบอกว่าสงสารทำไมเป็นเยอะจัง... เออ !! นั่นดิทำเป็นเยอะ แล้วทำไมคนท้องคนอื่นๆ ที่เดินผ่านเรา 100 คนถึงไม่มี เก็บความน้อยอก น้อยใจอยู่นาน ไม่ออกนอกบ้าน เหมือนจะจิตๆ เลยทีเดียว คือ ช่วงเวลาก่อนจากนี้ใบหน้าฝนเป็นแบบนี้ (ขออนุญาตนำภาพมาจากกิจกรรม BC นะจ๊ะ) แล้วจากนั้นก็แย่ลงแบบฉุดไม่อยู่ ++ เอาหล่ะ เลิกโอดครวญ นั่งเครียดไปไม่มีอะไรดี ก็คิดบวกดีกว่า มาๆ เราจะเริ่มรักษาสิวกัน ++ ติดตามชมในภาคต่อไปเร็วๆ นี้ (ปล.ตอนนี้ไม่มีอาการเครียดสิวแล้ว เพราะทำใจได้แล้ว ไว้อ่านภาคต่อไปแล้วกันนะจ๊ะ หนุกหนาน)   Create Date : 30 เมษายน 2553     Last Update : 30 เมษายน 2553 12:36:11 น. Counter : 3256 Pageviews.   1 comment Share Tweet

เล่าประสบการณ์ตกขาวผิดปกติจากการกินยารักษาสิว ----- > ภัยเงียบที่เราไม่รู้ว่ามันทรมานมาก ฝนเคยรักษาสิวมานานกับคลินิค ลองหลากหลายสถานบริการ ซึ่งแต่ละที่มักจะยัดยากินให้คนไข้เสมอ หายไม่หาย หมอก็สั่งยา แต่ยามันก็ช่วยให้สิวหายเร็วขึ้น บางทีไม่เคยบอกว่าเป็นยาอะไร มีผลอะไร บอกแต่ว่าให้กินไปควบคู่กับยาทา คนไข้หลายคนก็ไม่ถาม กินไปเรื่อย จนวันหนึ่งเกิดผลตามมายังไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร ฝนเคยกินยาสิวหนักมากในช่วงหนึ่ง ช่วงที่ไม่ศึกษาและไม่สนใจว่ายาตัวนั้นมันช่วยอะไร มาวันหนึ่งก็รู้สึกคันบริเวณจุ๋มจิ๋มมาก ก็ยังอดทนคิดว่าไม่มีอะไร จนไม่นานก็รู้สึกว่าตกขาวผิดปกติ มันเป็นสีขุ่นแรกๆ และเป็นสีเขียวแบบน้ำมูกเด็ก มีกลิ่นนิดหน่อย ฉี่ก็แสบขัด กระเพาะปัสสาวะอักเสบง่ายมากกกก ช่วงนั้นเป็นมันเดือนละครั้งกว่าจะหายก็หลายอาทิตย์ แสบคันอย่างผิดปกติ มารู้ภายหลังว่าเราก็ติดเชื้อแคนดิดาด้วย “เชื้อแคนดิดา แอลบิคันส์” หรือจะเรียกกันสั้นๆว่า “แคนดิดา” คือเชื้อยีสต์ ซึ่งเป็นเชื้อราชนิดหนึ่ง ชอบเกิดและชอบอาศัยอยู่ในช่องคลอดคุณผู้หญิง และสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ถ้าเริ่มมีเชื้อเข้าไปในร่างกาย ก็จะชอบเข้าไปอาศัยในช่องท้องโดยเฉพาะส่วนที่เป็นลำไส้ อาการรุนแรงมากๆ ที่ฝนประสบมากับตัวเอง คือ ใส่กางเกงในไม่ได้เลย เพราะมันจะไหลเปียกโชก ประหนึ่งเหมือนเมนส์มา แต่เป็นสีขาว ไหลเป็นน้ำโจ๊กกก ต้องใส่ผ้าอนามัย หรือไม่งั้นก็ต้องนอนอย่างเดียว จะได้ไม่ไหลเปรอะเปื้น แสบคันบ่อยมาก ถุย !! ชีวิตได้อยู่พักหนึ่ง บร๊ะเจ้า !! นี่ละน๊า.. ผลของการรักษาสิวแบบไม่ลืมหูลืมตา โห.. ทรมาน อายก็อาย กว่าจะหายก็นาน การรักษาหมออาจให้ยาเหน็บไม่ก็ยากินแล้วแต่อาการคนไข้นะคะ ฝนได้ยากินเป็นคีโทโคนาโซนค่ะ ให้กินควบคู่กับยาสิวทุกครั้ง ตอนนี้ถ้าได้ไปหาหมอสิว.. ฝนจะบอกว่ามีโรคประจำตัว คือ เชื้อราในช่องคลอด หมอจะได้ทราบไว้ เพราะว่ายาปฏิชีวนะที่หมอสั่งมันมีผลข้างเคียง นับว่าเป็นประโยชน์แก่ตัวเองนะจ๊ะ อย่าปล่อยให้อาการลุมลามเลย เพื่อนๆ ผู้หญิงทั้งหลายควรบอกหมอให้คำนึงถึงเรื่องนี้เสมอนะ วันนี้ฝนได้แนบความรู้มาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันนะคะ ขอบคุณข้อมูลเสริมจาก รศ.นพ. ธีระพงศ์ เจริญวิทย์ ตกขาว มีชื่อเรียกหลายชื่อ เช่น ระดูขาว ประจำเดือนขาว หรือมุตกิต หมายถึงอะไรก็ตามที่ถูกขับออกทางช่องคลอดซึ่งไม่ใช่เลือด ไม่จำเป็นต้องมีสีขาวเท่านั้น อาจเป็นสีเหลือง สีเหลืองปนเขียว หรือสีน้ำตาลก็ได้ ลักษณะการตกขาวแบ่งได้เป็น 2 ลักษณะ คือ 1 ตกขาวปกติ 2 ตกขาวผิดปกติ ตกขาวปกติ พบในภาวะที่ปกติ ธรรมชาติเป็นส่วนผสมของสิ่งที่ขับออกจากต่อมต่างๆ ของระบบอวัยวะสืบพันธุ์ เช่น อวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกช่องคลอด ปากมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูก รวมทั้งหลอดมดลูก การตกขาวตามปกติจะเพิ่มมากขึ้นในสภาวะดังต่อไปนี้ เช่น ช่วงเวลาใกล้การตกไข่ประมาณวันที่ 13-14 ของรอบเดือน ก่อนมีระดู 2-3 วัน เป็นช่วงที่มีเลือดมาหล่อเลี้ยงเพิ่มมากขึ้น ระหว่างการตั้งครรภ์จะมีการหลุดร่วงของเซลล์บุผนังช่องคลอดแลน้ำเมือก จากต่อมบริเวณปากมดลูกเพิ่มมากขึ้นและขณะร่วมเพศ การกระตุ้นหรือเล้าโลมทางเพศจะมีการสร้างน้ำเมือกขาวใส ไม่มีกลิ่นออกมา นอกจากนี้ในทารกแรกเกิดเพศหญิงอาจพบการตกขาวภายหลังคลอด ซึ่งเป็นผลจากได้รับฮอร์โมนเอสโตรเจนจากแม่ ตกขาวผิดปกติ จะมีปริมาณตกขาวมากขึ้นมีสีและกลิ่นผิดปกติ ก่อให้เกิดความรำคาญ อาจมีอาการคัน ปวดแสบร้อนบริเวณปากช่องคลอด หรือบริเวณใกล้เคียง ถ่ายปัสสาวะแสบขัด และมีอาการเจ็บขณะร่วมเพศ สาเหตุตกขาวผิดปกติ ได้แก่ การติดเชื้อจากพยาธิในช่องคลอด (Trichomonas vaginalis) เชื้อรา เชื้อหนองใน เชื้อแบคทีเรียต่างๆ ที่มักพบในเด็ก และเชื้อไวรัส ทำให้เกิดการอักเสบบริเวณช่องคลอด และอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก รวมทั้งในสตรีที่หมดระดูแล้วเยื่อบุช่องคลอดบางลง มีความต้านทานต่อการติดเชื้อน้อย รศ.นพ.ธีระพงศ์ กล่าวว่า ยาปฏิชีวนะนี่แหละตัวดี เพราะบางคนเป็นหวัดเรื้อรัง หรือเป็นสิว ต้องกินยารักษาอย่างต่อเนื่อง ตัวยาจะไปทำลายเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราในช่องคลอดที่อาศัยอยู่อย่างสมดุล ทำให้มีโอกาสเป็นเชื้อราและมีปัญหาตกขาวเกิดขึ้น ยกตัวอย่างมีคุณแม่คนหนึ่งพาลูกสาวมาหาหมอเพราะตกขาวมาก ทั้งที่ลูกไม่ได้ไปยุ่งกับใคร พอซักประวัติจึงรู้ว่ากินยารักษาสิวมานานแล้ว วิธีการสังเกตตกขาวมีดังนี้ ถ้ามีลักษณะเป็นเมือกใส ไม่มีกลิ่น ให้นึกถึงว่ามีไข่ตกหรือมีอารมณ์เครียด แต่ถ้ามีลักษณะเหนียวใสถึงขาวขุ่น มีกลิ่นคาวเหมือนปลาเน่า ให้นึกถึงการติดเชื้อแบคทีเรีย ถ้ามีสีเขียวปนเหลือง เป็นฟองมีกลิ่นเหม็นผิดปกติ มีอาการคันร่วมด้วย ให้นึกถึงพยาธิในช่องคลอด ถ้ามีสีขาวเกาะเป็นก้อนคล้ายแป้งเปียก มีกลิ่นเหม็นอับให้นึกถึงการติดเชื้อราของช่องคลอด ซึ่งมักจะมีอาการคันร่วมด้วยเป็นๆ หายๆ ในกรณีของเชื้อรานั้นสาเหตุส่วนหนึ่งอาจมาจากสามีเป็นเชื้อราแต่ไม่ได้รักษาเพราะไม่มีอาการ มีเพียงภรรยาที่มารักษาแต่ไม่หายเสียทีสุดท้ายก็ต้องนำสามีมาตรวจรักษาด้วย ส่วนการรักษาตกขาวผิดปกติจะรักษาตามสาเหตุ เช่น เป็นพยาธิในช่องคลอด ต้องนำคู่นอนมารักษาด้วยและให้ยาในขนาดเท่ากัน ถ้าเป็นเชื้อราให้ยาสอดช่องคลอดหรือยารับประทานโดยควรรักษาคู่นอนด้วย มิฉะนั้นผู้ป่วยจะกลับเป็นซ้ำอยู่บ่อยๆ ภาวะต่างๆ เช่น การตั้งครรภ์ เบาหวาน ภูมิคุ้มกันต่ำ การเจ็บป่วยเรื้อรัง การใช้ยาปฏิชีวนะ การให้ยาสเตียรอยด์ หรือยาเม็ดคุมกำเนิด เป็นเวลานานๆ คนอ้วนมากๆ มีส่วนช่วยให้เกิดเชื้อราระดูขาวได้ ในการป้องกันการติดเชื้อในช่องคลอดนั้น นพ.ธีระพงศ์ แนะนำว่า การทำความสะอาดทวารหนักนั้น ผู้หญิงทุกคนควรเช็ดจากหน้าไปหลัง เนื่องจากผู้หญิงมีช่องคลอดและทวารหนักอยู่ใกล้กัน จึงมีโอกาสที่จะติดเชื้อสูง เวลาที่เข้าห้องน้ำสาธารณะ ถ้าไม่จำเป็นไม่ควรใช้น้ำฉีดทำความสะอาดหลังปัสสาวะเสร็จ แค่ใช้กระดาษทิชชูซับก็พอแล้ว กลับมาบ้านค่อยล้างออก แต่ด้วยความเคยชินปัสสาวะเสร็จต้องล้าง เพราะคิดว่าสกปรกซึ่งไม่เป็นความจริง ปัสสาวะแค่ทำให้เกิดกลิ่นเท่านั้น การใช้หัวฉีดทำความสะอาด คนที่ใช้ก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่ามีการตกขาวหรือมีเชื้อโรคอะไร ถ้าจำเป็นต้องใช้ควรฉีดน้ำทิ้งก่อน และการใช้น้ำฉีดทำความสะอาดทำให้เกิดความอับชื้นมีโอกาสเป็นเชื้อราสูง ควรหลีกเลี่ยงการสวนล้างช่องคลอดโดยเด็ดขาด เพราะมีคนไข้บางคนทำความสะอาดแบบหมดจดจริงๆ ล้วงเข้าไปทำความสะอาด หรือใช้น้ำยาเข้าไปทำความสะอาดในช่องคลอด ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิด เพราะช่องคลอดมีความสมดุลในตัวอยู่แล้ว ทำความสะอาดแค่ภายนอกใช้น้ำอย่างเดียวก็เพียงพอแล้ว เหมือนกับการล้างหน้า ถ้ารู้สึกว่าหน้าเหนียวเหนอะหนะก็ล้างหน้า อาจเป็นวันละ 2 ครั้งก็พอแล้ว ส่วนใหญ่ที่แนะนำ คือ ทำความสะอาดตอนอาบน้ำ โดยใช้น้ำธรรมดาไม่จำเป็นต้องใช้น้ำยาอะไร นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการให้ผ้าอนามัยแบบสอดเพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองติดเชื้อ แต่บางคนติดใส่ผ้าอนามัยแบบสอด มีไม่มีก็ใส่เอาไว้ก่อน ซึ่งความจำเป็นที่ต้องใส่ทุกวันหมอว่าไม่มี รศ. นพ.ธีระพงศ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า เมื่อใดก็ตามที่ตกขาวมีสีเปลี่ยน กลิ่นผิดปกติ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย ไม่ควรไปซื้อยามากิน หรือมาเหน็บเอง เพราะอาจไม่ตรงตามอาการที่เป็น การรักษาก็ไม่ได้ผล และไม่ควรปล่อยปละละเลยเพราะอาจทำให้เชื้อโรคลุกลามเกิดการอักเสบ เป็นฝีที่ปีกมดลูกต้องผ่าตัดจนถึงขั้นต้องตัดมดลูก หรือปีกมดลูกทิ้งไป อย่ากินยาสิวเยอะ จนลืมนึกถึงผสเสียที่จะเกิดกับระบบภายในร่างกายของเรานะคะ ด้วยความปรารถนาดี จากคนเคยเป็น fonkan Link แนะนำ : ตกขาวภัยเงียบของผู้หญิง **พร้อมภาพ**   Create Date : 03 มิถุนายน 2552     Last Update : 3 มิถุนายน 2552 10:33:56 น. Counter : 1969 Pageviews.   19 comment Share Tweet

Up Date สิว เมื่อใช้ Bye Bye Blemish เปรียบเทียบกับ Mario ศึกชิงความเป็นเทพกำจัดสิว ได้แก่.... ฝนเป็นสิวครั้งนี้ค่อนข้างน่าตกใจ สันนิษฐานได้ว่า.. มียาแปลกปลอมที่ได้ใช้ เพียงแค่ตัวเดียวนั่นคือ Isotrexin gel แรกๆ ก็ดีใน 1-2 วัน ในใบกำกับยาบอกว่ายาตัวนี้ลดการสร้าง sebum ซึ่งส่งผลยับยั้งต่อการเกิด comedone และลดการอักเสบ มีผลในการรักษาสิวชนิดอักเสบทั้งรุนแรงน้อยถึงปานกลาง และห้ามใช้ร่วมกับ BP เพราะยาทั้งสองชนิดจะทำลายฤทธิ์กันเอง ถ้าจำเป็นต้องใช้ควรใช้คนละเวลา หรือนี่เป็นเพราะว่าฝนอาจล้างเจ้า BP ไม่เกลี้ยงเลยทำให้เกิดปฏิกิริยาบางอย่างภายหลัง ต้องบอกก่อน.. ว่าฝนจะใช้คนละเวลากัน และแยกใช้กันชัดเจนไม่ซ้ำซ้อน อ่านใบกำกับยาเคลียร์อยู่นะ และไม่แน่ผิวเราอาจไม่ถูกกับส่วนผสม (ซึ่งใบกำกับยาบอกว่าเรามีสิทธิ์แพ้ส่วนผสมในหลอดนั้น) คือ isotretinoin – erythromycin จะกล่าวว่ายาตัวนี้ผิด? .. ไม่ผิดนะ ฝนอาจไม่ถูกกับยาตัวนี้เองนั่นแหละ แต่ถึงไปหาหมอ ให้หมอจัดให้ หมอก็ไม่รู้ว่าเราแพ้ คงต้องลองผิดลองถูกเช่นกัน หรืออาจต้องรักษานาน จริงๆ ใครเป็นสิวก็ไม่อยากทน.. ดังนั้นฝนจึงพยายามหาทางลัดในการรักษาด้วยยาเทพนะจ๊ะ วิธีการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ฝนพิจารณาดูเรื่องส่วนตัวที่เป็นบ่อเกิดของสิว ก็ไม่เห็นจะมีอะไรน่าจะให้เราเป็นสิวง่ายขนาดนี้ ฝนไม่แต่งหน้าแล้ว ไม่มีการรองพื้นใดๆ เวลาอยู่บ้านหรือไปไหน (ที่ไม่สำคัญ) ถ้าอยู่บ้านจะไม่ใช้ซับมัน ไม่มีการแกะเกาผิว กินแต่อาหารที่ทำให้ร่างกายเย็น (ตามที่คุณเก๋ OHla แนะนำ) ออกกำลังกาย (ไดร์ฟกอล์ฟบ่อย) ขับถ่ายก็ให้อยู่ภายใน 48 ชั่วโมง นมเปรี้ยวก็กิน นอน 4 ทุ่มเกือบทุกวัน และตื่น 6 โมงเช้า ปรับเวลาใหม่ เหล้าไม่กินแล้ว เบียร์ด้วย ไม่อยู่ในสถานที่มีควัน ฝุ่นผง .... มีเรื่องเดียวที่คิดว่ามันน่าจะเป็นสาเหตุสำคัญ คือ “ฮอร์โมน” ฝนได้เลิกกินยาคุมสิว (ยัสมิน) มาได้หลายเดือน ที่ผ่านมาสิวก็ผลุบโผล่ แต่ไม่เคยรุนแรงและเยอะแยะขนาดนี้ นี่มันทั้งหน้าเลย หน้าผาก แก้ม ดั้ง จมูก คาง การดูผิวหน้าจึงมีขั้นตอนรักษาดังนี้ 1 เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ของราชเทวีมาใช้ แต่ไม่เข้าไปตรวจเพราะรู้ว่ามันจะมี Step ยังไง 2 เลือกกินยา Doxy ใน 2 อาทิตย์อย่างต่อเนื่อง เช้าเม็ด – เย็นเม็ด 3 เลือกใช้ผลิตภัณฑ์เสริม คือ มาริโอ้ เปรียบเทียบกับ Bye Bye Blemish เย็น (วันแรก 31 May 09) --- > เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดังนี้ 1 ล้างหน้าด้วย TW ของราชเทวี (เจลใสไร้กลิ่น ไร้ฟอง) 2 ทา BP ทิ้งไว้ 10 นาที 3 ล้างหน้าด้วยน้ำสะอาด 4 ทาใบหน้าซีกขวาด้วยมาริโอ้ ทาใบหน้าซีกซ้ายด้วย Bye Bye Blemish ( หมายเหตุ : จะไม่ทา CM เพราะว่า Drying Lotion มันก็แรงอยู่แล้ว ทาไปตีกันเปล่าๆ ) เช้า (วันที่สอง 1 June 09) --- > เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดังนี้ 1 ล้างหน้าด้วย TW ของราชเทวี (เจลใสไร้กลิ่น ไร้ฟอง) 2 ทา BP ทิ้งไว้ 10 นาที 3 ล้างหน้าด้วยน้ำสะอาด 4 ทา CM เฉพาะสิว 5 ทา LAX-1 สามารถทาทับสิวได้ หมอเคยบอกว่ามันไม่เคยทำให้แพ้ และฝนไม่เคยแพ้ยาตัวนี้ 6 ทากันแดดของสมูธอี 7 ทาแป้งนิวบอร์น (ปกติฝนไม่ชอบให้หน้าเหนียว นิวบอร์นลดการระคายเคืองด้วย) ผิวหน้าวันนี้หลังจากได้รับการเปรียบเทียบยา 2 ตัวมีดังนี้ วันแรก (เมื่อวาน) วันที่สอง (วันนี้) ผลจากภาพและจากความรู้สึก มาริโอ้รักษาสิวอักเสบได้ดีกว่า สิวมันยุบจนเห็นความต่าง คุณดูจากภาพได้เลย แทบไม่ต้องอธิบายอะไร ส่วนฝั่งที่เป็น Bye Bye ยังช้าเกินไปสำหรับเรา แถมยังขึ้นเพิ่มอีกด้วยในบริเวณเดียวกัน (เซ็งกันไป) ถ้าลูบบนใบหน้าฝั่งมาริโอ้จะเป็นแค่ไตแข็งไม่เจ็บ แต่ฝั่ง Bye Bye เหมือนสิวเมื่อวานมันอยู่ยังไงก็ยังงั้น สรุปให้มาริโอ้แบบหมดใจ 10 คะแนนอีกแล้วครับท่าน มาริโอ้ ลักษณะยาตกตะกอนเร็วไม่รอนาน ไม่เกิน 15 นาทีก็จะเห็นว่าสามารถใช้ได้แล้ว เนื้อยาติดก้านสำลีง่าย เหมาะกับการนำมาแปะหัวสิว เนื้อยาไม่กรังขอบขวด (แก้ว) ส่วนผสม Isopropyl Alcohol Deionized Water Calamine Camphor Colloidal Sulfur Salicylic Acid Glycerin Zinc Oxide Titanium dioxide Talc Bye Bye Blemish ลักษณะยาตกตะกอนช้ามากกก 2-3 ชั่วโมงแล้วมันก็ยังหยุ่ยๆ ไม่นิ่งสนิท พอเอาก้านสำลีแหย่ไป ยาไม่ติดก้านสำลีเท่าไรนัก เพราะมันมีปริมาณน้ำผสมจนเนื้อยาชมพูดูเจือจางเกินไป ทำให้ต้องเอาก้านสำลีงัดเนื้อยาภายใต้ขวด ไม่เวิร์คอย่างแรง ใช้ยาก ---> หมายถึงต้องรอตกตะกอน ต้องงัดเนื้อยา ยาไม่ติดก้านสำลี จึงไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่กลิ่นคล้ายมาริโอ้เลยค่ะ เนื้อยากรังขอบขวด (แก้ว) ส่วนผสม Isopropyl Alcohol Water Camphor Salicylic Acid Aluminum Magnesium Silicate Zinc Oxide Iron Oxide ผลการเปรียบเทียบ มาริโอ้ทาแล้วเนื้อยาเป็นสีชมพู เมื่อแห้งจะสีชมพูจืด ส่วน Bye ทาแล้วเป็นสีชมพู เมื่อแห้งจะเป็นสีชมพูปูน (ชมพูแดง) มาริโอ้ทาแล้วยุบ หายไม่มีสิวขึ้นอีกในบริเวณนั้น ส่วน Bye แต้มแล้วยุบเป็นบางที่ ซึ่งบางที่ก็ไม่ยุบ มาริโอ้เย็นกว่า ทาแล้วเย็นวาบ ส่วน Bye เย็นน้อยกว่า มาริโอ้ ทาแล้วล้างออกยากกว่า ส่วน Bye ทาแล้วล้างออกง่ายกว่านิดนึง ในกรณีที่ล้างมาริโอ้ กับ Bye Bye ไม่ออก คุณสามารถใช้ทิชชู่เปียกของจอห์นสันตัวนี้ได้ เพราะไม่ระคายเคือง ไม่มีน้ำหอม ทดลองมาหลายครั้งแล้วตั้งแต่ก่อนเป็นสิว มันเยี่ยมมาก สกินแคร์ของราชเทวีคลินิคดีจริงๆ สำหรับฝนนะ แต่สำหรับคนอื่นๆ ไม่รู้ ถ้าใครคิดว่าหมอเลี้ยง ฝนไม่ได้เอาตัวไปให้เค้าเลี้ยงอีกต่อไป นี่คือการกลับไปใช้สกินแคร์อีกสักครั้งเพื่อให้สบายใจ เพราะก่อนหน้านี้อยากกลับไปใช้ เนื่องจากไม่ได้แต่งหน้าแล้ว จึงอยากใช้ของเบาๆ ในการดูแลตัวเอง ยังคอนเฟิร์มอีกครั้งว่า LAX-1 ราชเทวี เทพมากๆ มีสิวก็ไม่ระคายเคือง ใช้ได้โลด โปรดติดตามภารกิจพิชิตสิวของฝนต่อไปในวันพรุ่งนี้ ขอบคุณที่ติดตามชม และขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกกำลังใจ จะสู้ๆ นะคะ ส่วนใครที่กำลังท้อคุณก็ดูการรักษาฝนได้ เหนื่อยแค่ไหน หนักแค่ไหนก็ต้องสู้ต่อไป ถึงจะเป็นสิว แต่ได้แฟนดีก็มีกำลังใจนะ จริงไหมจ๊ะคุณเกียง.... ว่าแต่ตอนฉันไปรับมาริโอ้... ในรอยยิ้มของเธอนั้นหมายความว่าไงยะ.. ใช่ซิ๊.. เธอมันหน้าใสแล้วนิ ชิ๊ อิจฉาๆๆๆๆ หมายเหตุ : ชุด Mario ด้านล่าง ฝนจะเทสต์เมื่อสิวหาย ขอให้ผิวหน้าเป็นปกติก่อนนะจ๊ะ และถ้าดีอย่างไรจะแจ้งให้ทราบ   Create Date : 01 มิถุนายน 2552     Last Update : 1 มิถุนายน 2552 10:43:35 น. Counter : 6944 Pageviews.   25 comment Share Tweet

• Webmaster - BlogGang

• BlogGang.com