ปฏิบัติธรรมที่วัดถ่ำดอยโตนของครูหยีและสมาชิก
ธรรมะสวัสดีค่ะสมาชิกทุกท่าน ครูหยีพร้อมน้องจินได้กลับมาจากการปฏิบัติธรรม 7 วันที่วัดถ่ำดอยโตนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาแล้วค่ะ ก็เหมือนเคยนำบุญมาฝากทุก ๆ ท่าน ส่วนบุญส่วนกุศลที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัตธรรมในครั้งนี้ขอมอบให้สมาชิกบ้านหยีโยคะทุกคน และสรรพสัตว์ทั้งหมดไม่มีสิ้นสุดไม่มีประมาณด้วยเทอญ นอกจากนี้ ส่วนหนึ่งของค่าสมาชิกที่จ่ายให้กับบ้านหยีโยคะ และเงินออมจากกระปุกน้องเณรที่พวกเราสมาชิกได้ช่วยกันออมวันละเล็กวันละน้อย ซึ่งครั้งนี้ครอบครัวของน้องนกและน้องเจี๊ยบได้ร่วมทำบุญด้วยนั้น ได้ทำบุญเป็นปัจจัยสำหรับผู้ปฏิบัติธรรมในรุ่นต่อ ๆ ไปแล้วค่ะ นอกจากนี้ครูหยีขอขอบพระคุณพี่เพื่อน ซึ่งเป็นสมาชิกคนหนึ่งของบ้านหยีโยคะ ได้ขับรถไปส่งครูหยีถึงศูนย์ปฏิบัติธรรมพร้อมทั้งทำบุญอาหารสดอาหารแห้งและถวายเทียนพรรษาให้กับทางวัดด้วย เอาพวกเรา สาธุ สาธุ สาธุ ดัง ๆ เลยค่ะ การทำบุญ แท้จริงแล้วคือฝึกใจของเราให้มีการให้อย่างไม่หวังผล ฝึกการละ และเพื่อกำจัดความเห็นแก่ตัว ความเห็นแก่ได้ออกไปจากใจนั้นเอง บุญเกิดเมื่อมีการคิดที่จะให้แล้วค่ะ (ลองสังเกตุใจที่คิดจะให้ซึ่งจะเบาและจิตที่คิดจะเอาจะหนัก) เมื่อทำทานครั้งใด ท่านให้หมั่นอธิษฐานว่า ขอจิตเราจงสละความยืดมั่นถือมั่นผิด ๆ ได้โดยไม่เสียดาย เช่นเดียวกับที่ไม่เสียดายข้าวของซึ่งทำทานไปนั้น........ บุญไม่ได้มีเพียงการให้ทรัพย์เป็นทานเหมือนดังที่เรา ๆ ท่าน ๆ เคยเข้าใจกันนะคะ ก็ยังมีการรักษาศีล เจริญภาวนา การฟังธรรม การให้อภัย การให้กำลังใจ การสละเวลาเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น คิดดีพูดดี ทำดี หรือรวมถึงการให้ธรรมะเป็นทานด้วยซึ่งถือเป็นการให้อันสูงสุด ซึ่งสิ่งที่พวกเรารวมกันทำในครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นปัจจัยส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ธรรมะสำหรับผู้สนใจและฝ่ายใจในธรรมด้วย สาธุ สำหรับสถานปฏิบัติธรรมที่ไปในครั้งนี้ วัดถ่ำดอยโตน สวยงาม สงบ เหมาะสำหรับการปฏิบัติธรรมเป็นที่สุด และที่สำคัญพระอาจารย์เจ้าอาวาสสอนเก่งจริง ๆ ค่ะ ท่านมีเทคนิด วิธีการที่ทำให้ผู้ปฏิบัติธรรมเข้าใจในหลักธรรมะอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ และนำมาปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดเลย ขอแนะนำเลยค่ะ ทางศูนย์มีทั้งคอร์ท 3 วันและ 7 วัน ผู้สนใจในธรรมและใฝ่หาความรู้ทางธรรม สามารถเข้าไปดูรายละเอียดของศูนย์ปฏิบัติธรรมได้ที่ //vimuttidhamma.org/th/about-wat-tam-doi-tohn มีสมาชิกบางท่านได้เคยถามว่า ทำไมต้องปฏิบัติธรรมด้วย ในเมื่อทุกวันนี้ก็เป็นคนดี ทำงานสุจริต ทำบุญตามโอกาส ช่วยเหลือคนอื่นเมื่อมีโอกาส ชีวิตก็เป็นสุขดีอยู่แล้ว คิดว่าหลาย ๆ ท่านก็คงคิดคล้าย ๆ กัน ครูหยีเองครั้งหนึ่งก็คิดอย่างนี้เหมือนกันค่ะ แต่หลังจากที่เข้าปฏิบัติธรรมหลาย ๆ ครั้ง เริ่มมีปัญญาขึ้นมานิดหนึ่งว่า เรานี่ช่างประมาทเหลือเกิน เพราะโลกนี้มีแรงดึงดูดยวนยั่วให้กระโจนลงที่ต่ำ เราถึงเห็นใบหน้าระทมทุกข์มากกว่าใบหน้าระรื่นสุข คนจนมากกว่าคนรวย คนผิวพรรณหยาบมากกว่าตนผิวพรรณดี คนขี้โรคมากกว่าคนแข็งแรง ยังทั้งสื่อต่าง ๆ ที่ออกมาทำให้สภาพแวดล้อมทั้งมวลพากันตะล่อมหลอกว่าภพหรือภาพที่ตามกระแส ตามกีเลสนั้นเป็นภพปกติของคนทั่วไป สังคมทั่วไปที่ควรจะเป็น เราถึงได้คิดว่าเราเป็นปกติเรามีชีวิตที่ควรแล้ว แล้วต่างคนต่างวิ่งตามกีเลส เพื่อมาเติมเต็มจิตของเราที่เรียกร้องอยู่ตลอดเวลาและเหมือนจะไม่มีวันที่จะพอและเต็ม เรากำลังวิ่งหาอะไรกันอยู่ค่ะ ความสุขหรือ ลองสังเกตุตนเองซิค่ะ ของบางสิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยให้ความสุขกับเรา แต่วันนี้เรากลับไม่สนใจมันอีกแล้ว เพราะเรามีสิ่งใหม่ที่ดีกว่า แล้วชีวิตของคนเราจะเป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ หรือ?? น่าสนใจนะคะ เราจะปลอยให้ชีวิตของเราเป็นอย่างนี้หรือจะเปลี่ยนดีค่ะ พระพทุธเจ้าท่านได้ชีแนวทางการปฏิบัติที่ให้พ้นจากทุกข์ได้ค่ะ แต่พวกเราทั้งหลายต้องมาปฏิบัติด้วยตนเองค่ะ ท่านได้ชี้ให้เห็นถึงเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ และทางแห่งการพ้นทุกข์ นั้นคือการกลับเข้ามาศึกษาจิตใจของเรา เรากลับมาเป็นนายจิตของเรา สร้างกรรมใหม่ที่เป็นบุญเป็นกุศลขึ้นมา เป็นอิสระจากกีเลส เป็นไทกับตัว ชีวิตท่านจะเปลี่ยนไปจริง ๆ ค่ะ (ขอท้าพิสูจน์เลยค่ะ) ขอเป็นกำลังใจและอนุโมทนาบุญมาทุกท่านที่ได้เลือกเส้นทางธรรมและมีดวงตาเห็นธรรมด้วยเทอญ อย่างที่ครูหยีเคยพูดไว้ว่าชาวเชียงใหม่ช่างมีบุญเหลือเกินที่มีสถานที่ปฏิบัติธรรมอยู่อย่างมากมาย และที่วัดถ่ำดอยโตนก็เป็นอีกแห่งหนึ่งที่ขอนำเสมอ และนำภาพสวย ๆ มาเสนอ เพื่อให้ผู้สนใจปฏิบัติธรรมมีกำลังใจที่จะเริ่มค่ะ ซึ่งภาพโดยส่วนใหญ่จะเป็นฝึมือของน้อง ๆ ธรรมะบริกรที่มีจิตอาสาเข้าไปช่วยดูแลพวกเรา ขอกราบขอบพระคุณและอนุโทนาบุญด้วยค่ะ เริ่มจากหน้าศูนย์เลยค่ะ ศูนย์อยู่ตำบลแม่วาง อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ (ขับรถจากตัวเมืองประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงค่ะ)
หลังผ่านประตูทางเข้า จะเจอกับน้ำตกและสระน้ำ ร่มรื่นมากเลยค่ะ
อาคารสิริมหามายา เป็นอาคารบ้านดิน (ผนังดิน) เป็นบ้านพักสำหรับผู้ปฏิบัติธรรมหญิ่ง จำนวน 24 ห้อง พื้นที่/ห้อง ขนาด ๘ ตร.เมตร
ห้องพักจะเป็นห้องพักเดี่ยว มีเตียงพร้อมเครื่องนอน รองเท้าแตะ โต๊ะอ่านหนังสือ ร่ม และไฟฉาย (ดูรายละเอียดของห้องพัก//vimuttidhamma.org/th/all-about-facilities-lodging-amenities"
ศาลาปฏิบัติค่ะ *************************************************** หลังจากชมภาพสวย ๆ ของสถานที่แล้ว สำหรับผู้ที่เริ่มสนใจที่เข้าปฏิบัติธรรม ตารางปฏิบัติโดยปกติจะเป็นลักษณะ ระฆังปลุก ตี 4 และเริ่มปฏิบัติร่วมกันที่ศาลาแห่งนี้ ตี 4.30 น. อาหารเช้า 6.00 น. หลังจากนั้น ช่วยกันทำความสะอาดตามที่ได้รับมอบหมาย แล้วเริ่มปฏิบัติ 7.30 - 11.00 น. อาหารกลางวัน 11.00 - 12.00 น. เริ่มปฏิบัติอีกที่ 12.30 จนถึง 17.00 น. พักดื่มน้ำปานะ ปฏิบัติพร้อมกันอีกที่ 18.30 น. จนถึง 21.00 น. (การปฏิบัติก็จะเป็นการเดินจงกรมและนั่งสมาธิสลับกันไปค่ะ) **อาหารเป็นแบบมังสวิรัติ บางมื้อเห็นมีไข่ด้วยค่ะ ขอบอกว่าอาหารอร่อยมาก ** น้ำปานะ จะมี กาแฟ โกโก้ บางวันจะมีน้ำฟักทอง น้ำข้าวโพด ****************************************************** นอกจากปฏิบัติร่วมกันในศาลาแล้ว ในวันท้าย ๆ จะมีชั่วโมงอิสระที่ผู้ปฏิบัติสามารถเลือกไปปฏิบัติส่วนต่าง ๆ ของศูนย์ได้ค่ะ ยกเว้นห้องพัก
น้องริชชี่ และคุณแม่ นั่งสมาธิและเดินจงกรมที่ใต้ต้นโพธิ์
อีกภาพหนึ่งใต้ต้นโพธิ์
สุขจริงหนอ สงบจริงหนอ
นั่งสมาธิที่ถ่ำ
กำลังเดินไปห้องอาหารค่ะ ในใจก็ท่องแต่ว่าหิวหนอ หิวหนอ เมื่อไหร่จะถึงหนอ
ทางเดินไปถ่ำ
หลังอาหารเช้า ทุกคนจะมีหน้าที่ค่ะ ตั้งแต่ ทำความสะอาดห้องอาหาร ล้างห้องน้ำ ทำความสะอาดศาลาปฏิบัติ จตถึงกวาดลานวัด
บรรยากาศวันสุดท้ายของการปฏิบัติธรรม ดูมีความสุขและผ่อนคลาย ผู้ปฏิบัติธรรมรุ่นนี้มีเกือบ 50 ท่าน ก็เป็นการวมกันทุกรุ่นเลยค่ะ มีตั้งแต่นักเรียน นักธุรกิจ ข้าราชการ หมอ นักเขียน และครูโยคะ อายุตั้งแต่ 20 - 75 ปีเลยค่ะ ได้คุยกับป้า ๆ หลายท่าน ทุกท่านพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยค่ะว่ารู้อย่างนี้มาตั้งแต่สาว ๆ แล้ว ทำไมหนอถึงได้ปล่อยให้ชีวิตล่วงเลยมาถึงปูนนี้แล้วถึงมา สุขแท้มีจริงหนอ ********************************* ขอเพิ่มเติมอีกนิดสำหรับผู้ที่เริ่มสนใจเข้ามาอีกนิดหนึ่งแล้ว ว่า ผู้ปฏิบัติต้องถือศีล 8 ค่ะ (คือนอกจากศีล 5 ที่รู้ ๆ กันอยู่แล้ว เพิ่มมาอีก 3 ข้อค่ะ คือ ไม่ทานอาหารหลังเที่ยงวัน ไม่นอนที่นอนสูง รวมถึงไม่ตกแต่งด้วยเครื่องหอมและฟังและดูการละเล่นเพื่อความบันเทิง) * ปิดวาจา คือเราจะไม่พูดกันเองระหว่างผู้ปฏิบัติ ตลอดเวลาการปฏิบัติในทุกสถานที่ ยกเว้นพูดกับพระอาจารย์หรือธรรมบริกรเท่านี้น เผื่อสนใจเช็ครายละเอียดตารางการปฏิบัติที่ //vimuttidhamma.org/th/current-retreat-schedule
ถ่ายภาพกับพระอาจารย์และผู้ปฏิบัติทั้งหมด
ครูหยีเองค่ะ ถ่ายรูปก่อนกลับ อาจจะได้กลับมาอีกเร็ว ๆ นี้
กับน้องจินค่ะ สมาชิกคนสวยของบ้านหยีโยคะ ซึ่งได้มาปฏิบัติที่นี้ถึง 4 ครั้งแล้วค่ะ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดี ๆ ที่ให้มา และยังพามาส่งบ้านด้วยค่ะ ขออนุโมทนาบุญด้วยจ๊ะ สาธุ สาธุ สาธุ *****************************************************
Create Date : 05 สิงหาคม 2555 |
Last Update : 15 กุมภาพันธ์ 2557 11:55:03 น. |
|
2 comments
|
Counter : 8025 Pageviews. |
|
|
เมื่อ วันที่ 18พฤษภาคม 2557 ช่วงเช้าหลังออกจากปฏิบัติ 10วัน ตามแนวทาง ของพระพุทธเจ้า ตามคำสอนของ อาจารย์เอส เอ็น โก เอ็นก้า สีมันตะ จ.ลำพูน แล้ว น้องพยาบาล สองท่านเมตตา นำไปชมถำ้ดอยโตน เป็นครั้งแรก เยี่ยมมากจริงๆ สถานที่เงียบสงบ เหมาะแก่การ
ปฏิัติอย่างแท้จริง สะอาด ร่มรื่น มีห้องปฏิบัต สะอาด แขมีนักท่องเที่ยว แวะเวียนไปเป็นระยะๆ ไม่ขาดสาย อยู่ที่นี่ จนถึงเที่ยง ได้รับประทานอาหารอร่อ่ย มังสวิรัต ธรรมชาติล้วนๆ
อากาสดี อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ขุนเขา เงียบสงบจริงๆ
ขออนุโมทนา พระอาจารย์เจ้าอาวาสวัดถ้ำดอยโตน ผู้เผยแผ่ธรรม ของพระพุทธองค์ ได้ให้ผู้คน ได้ประพฤติ ปฏิบัติ ชำระกิเลส เข้าไปผ่าตัดจิตใจเบื้องลึก ขุดรากถอนโคน กรรมดำออกจากจิต ใต้สำนึก อันเป็นแหล่ง ที่สะสมไว้ มานับชาติไม่ถ้วน
ขออนุโมทนา
ธัญภา สุวรรณลิขิต
จากจังหวัดลำปาง