A balanced state of mind is YOGA 
 
ปฏิบัติธรรมที่ ศูนย์ปฏิบัติธรรม ตาณัง เลณัง เฉลิมราช 60 ปี เชียงใหม่

ครูหยีนำบุญมาฝากค่ะ ช่วงวันที่ 5-12 ธันวาคม 2554 ที่ผ่านมาครูหยีได้ไปอบรมวิปัสสนากัมมัฏฐานที่ ศูนย์ปฏิบัติธรรม ตาณัง เลณัง มาค่ะ มีคนเคยพูดไว้ว่าเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมที่สวยที่สุดในประเทศไทย ก็ได้เห็นแล้วว่าสวยจริง ๆ (ตามภาพ) และที่สำคัญที่นี่เน้นปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ปฏิบัติกันตั้งแต่ตื่นนอนคือ ตี 4 จนถึง 4 ทุ่ม ก็ตั้งแต่ลืมตาจนถึงหลับตาเลยค่ะ ครูบาอาจารย์หรือที่เรียกว่า วิปัสสนาจารย์ก็ได้นิมนต์มาประจำช่วงที่มีปฏิบัติ 4-5 องค์ เป็นอาจารย์ที่มีประสบการณ์การสอนทางวิปัสสนาทั้งนั้นค่ะ ท่านพระครูปลัดประจาก ศิริวรณโณ หลวงพ่อได้เทศน์สั่งสอนว่า วิปัสสนาแท้จริงแล้วคือการกลับมาศึกษา เอาใจใส่ ดูแลตนเราเอง ซึ่งก็มี กาย- ใจ หรือรูป-นามนี้เอง และปฏิบัติให้รู้ว่าทุกอย่างนั้นมีเกิดขึ้น ตั้งใจและดับไป หรือพูดอีกนัยหนึ่งวิปัสสนาแปลว่า ความรู้แจ้งและเห็นจริงอย่างที่เป็น จนเกิดปัญญา หรือปัญญาญาน ในช่วงปฏิบัติ ผู้ปฏิบัติต้องอยู่กับทุกการเคลื่อนไหวของกาย ใจ และให้กำหนดทุกขั้นตอน กำหนดให้รู้อย่างที่เป็นอย่างที่เห็น ไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงหรืออยากให้เป็นไปตามที่เราต้องการ และระหว่างการปฏิบัติงดพูด งดสบตา ทำทุกอย่างให้ช้าที่สุด ในแต่ละวันต้องเดินจงกรม สลับกับการนั่งสมาธิ และกำหนดิอริยบถย่อยต่าง ๆ เช่นกินข้าว เดินเข้าห้องน้ำ สรุปก็คือรู้ทันจิตและให้อยู่กับปัจบันทุกขณะจิต เนื่องจากที่ศูนย์ไม่ใช่วัดจึงไม่มีการสวดมนต์เช้าเย็น แต่ผู้ปฏิบัติต้องถือศีล 8 และฟังธรรมจากหลวงพ่อช่วงเย็นเป็นเวลา 2 ชั่วโมง และต้องสอบอารมณ์กับวิปัสสนาจารย์ทุกวัน (เหมือนรายงานการปฏิบัติให้อาจารย์ทราบ)

ได้ปฏิบัติมาครบ 7 วัน วันแรก ๆ ก็รู้สึกเบื่อและท้อบ้าง แต่พอวันที่ 3 ก็มีพลังและรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงในตนเอง รู้สึกถึงร่างกายและใจเบาขึ้น เห็นทุกอย่างอย่างที่มันเป็น ความสุข ความทุกข์ เกิดขั้นแล้วก็ดับไป เริ่มเห็นแล้วว่าไม่มีอะไรที่คงทนแล้วไฉนเล่าเราไปยึดติดกับมัน เห็นอย่างที่มันเป็น รู้อย่างที่มันเป็น คิดดี-ใจเราก็สูงขึ้นเบาขึ้น คิดเลว-ใจเราก็ต่ำลงและหนักขึ้น ในเมื่อชีวิตมีทางเลือก แล้วไฉนเล่าเรายังหลงอยู่กับโลกมายาที่แท้จริงแล้วมันไม่มีอะไรเลย

อยากเชิญชวนผู้สนใจใฝ่ใจในธรรมได้มีโอกาสได้ไปปฏิบัติบ้างค่ะ แล้วชีวิตท่านจะเปลี่ยนไป เชียงใหม่มีสถานที่ปฏิบัติธรรมสายวิปัสสนาหลายแห่ง อย่างเช่นที่ ตาณัง เลณัง สถานที่ได้เตรียมไว้อย่างสวยงาม สะดวกสบายทุกอย่าง ห้องพักเดี่ยว ห้องน้ำส่วนตัว อาหารแบบมังฯ พร้อมผลไม้และสลัดทุกมื้อ เรามีหน้าที่อย่างเดียวคือปฏิบัติค่ะ ลองเข้าไปศึกษาเข้ามูลเพิ่มเติมที่ //www.sati99.com/
ปีนี้เต็มหมดแล้วค่ะ สำหรับปีหน้าเริ่มอีกที่ก็เดือนเมษายน 1-16 ค่ะ จองกันตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ เลยค่ะ รับประมาณ 90 คน ปกติจะเต็มตั้งแต่วันแรกที่รับสมัครเลย

ครูหยีได้นำภาพสวย ๆ ของศูนย์มาฝากค่ะ เผื่อเป็นแรงบันดาลใจให้หลาย ๆ คนมีกำลังใจในการไปปฏบัติค่ะ

รายได้ส่วนหนึ่งของบ้านหยีโยคะได้นำไปทำบุญทุกเดือนค่ะ สำหรับเดือนธันวาคมนี้ก็ได้นำไปนำบุญที่ศูนย์ปฏิบัติธรรม ตาณัง เลณังค่ะ จึงได้นำบุญมาฝากและขอทุกคนได้ร่วมอนุโมทนาบุญร่วมกัน

ขอให้เจริญในธรรมและขอให้ความดีทั้งหลายที่ท่านทั้งหลายได้ทำมาได้คุ้มครองท่าน และเป็นปัจจัยที่จะนำท่านได้ฝึกการวิปัสสนาในอนาคตอันใกล้นี้ด้วยเทอญ








































บ้านพักของผู้ปฏิบัติค่ะ พักหลังละ 1 คนค่ะ


บริเวณเดินจงกรม ในบ้านพัก ทุกห้องจะเตรียมร่มไว้ด้วยค่ะ ที่นี่แดดจะแรงมาก


มุมห้องครัวพร้อมตู้เย็นและกาต้มน้ำในบ้านพัก


มุมพักผ่อน ดื่มน้ำปานะในบ้านพัก


ห้องนอนพักเดี่ยว พร้อมห้องน้ำ


ห้องอาหารที่สะอาด และกว้างขวาง


Create Date : 12 ธันวาคม 2554
Last Update : 13 ธันวาคม 2554 16:09:46 น. 3 comments
Counter : 5268 Pageviews.

 
ในเดือนมิถุนายน55นี้มีกิจกรรมอะไรบ้างค่ะ
รับได้ครั้งละกี่คนคะ
ขอบคุณค่ะ


โดย: นำ้ทิพย์ IP: 110.171.27.188 วันที่: 16 มิถุนายน 2555 เวลา:7:54:54 น.  

 
อยากสอบถามว่า ค่าใช้จ่ายอยู่ที่เท่าไหร่ครับ


โดย: bangpoon IP: 110.168.7.154 วันที่: 26 กรกฎาคม 2555 เวลา:9:44:27 น.  

 
=ชอบค่ะ


โดย: ฟ้าสวย จ๊ะจ๋า IP: 118.172.236.226 วันที่: 16 ธันวาคม 2555 เวลา:7:21:12 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 
 

ดอยวาวี
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




ชื่อจริง บุษรา รัตนวาวี ชื่อเล่น ลูกหยี ค่ะ เป็นคนเหนือโดยกำเนิด ศึกษาและทำงานที่เชียงใหม่ จนอายุเกือบ 30 ปี จึงได้ตัดสินใจไปศึกษาปริญญาโทที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งตอนที่เรียนที่ประเทศอังกฤษ ได้มีโอกาสรู้จักโยคะเป็นครั้งแรกและได้ฝึกมาตลอด ถึงแม้ว่าหลังจากสำเร็จการศึกษาและได้งานประจำที่กรุงเทพ แต่ก็ไม่เคยละทิ้งโยคะเลย ได้ศึกษโยคะหลาย ๆ แบบ ได้เข้าฝึกกับผู้ฝึกทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ จนค้นพบว่าโยคะที่เหมาะกับตนเองและคิดว่าจะฝึกไปตลอดชีวิตเลยคือ หะฐะโยคะ ซึ่งถือเป็นโยคะดั้งเดิมจากอินเดีย จึงได้ฝึกเฉพาะหะฐะโยคะตั้งแต่นั้นมา และมีโอกาสที่เข้าฝึกเป็นครูโยคะ ที่สุนีย์โยคะ กรุงเทพ เป็นเวลา 100 ชั่วโมง และได้สอนในโอกาสต่าง ๆ ในวันที่ว่างเว้นจากงานประจำ จนกระทั่งสิ้นปี 2009 จึงตัดสินใจลาออกจากงานประจำ เดินทางไปศึกษาโยคะและอายุรเวทที่อินเดียอย่างจริงจัง เป็นเวลา 3 เดือน (หลักสูตรครูโยคะ 1000 ชั่วโมง) ซึ่งเป็นเวลา 3 เดือนที่ได้ใช้โยคะเป็นวิถีแห่งชีวิต ได้มีโอกาสสอนคนทั้งคนแก่ คนท้อง เด็ก ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง และรู้สึกถึงความสุขที่แท้จริง จึงได้ตัดสินใจที่จะแบ่งปันความรู้ ประสบการณ์ที่ตนเองได้ประสบมาจากการรู้จักโยคะ และได้ใช้โยคะเป็นวิถึชีวิต กับชาวเชียงใหม่ค่ะ

มารู้จัก บ้านหยีโยคะ ด้วยนะคะ
**ปัจจุบันนี้ ปี 2561 บ้านหยีโยคะ ได้เปิดมาครบ 7 ปีแล้วค่ะ
.....................................................................

บ้านหยีโยคะ ถูกสร้างขึ้นในบริเวณที่แวดล้อมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ในเดือนธันวาคม 2553 ด้วยความรักบวกกับความตั้งใจของครูหยีเพื่อโยคะโดยเฉพาะ และเน้นนโยบายของครูหยีเองว่า เพื่อช่วยเหลือคนอื่น โดยใช้ประสบการณ์ ความรู้ของตน พร้อมแบ่งปัน แลกเปลี่ยนความรู้กับสมาชุก ที่สำคัญสุดรายได้ส่วนหนึ่งจากค่าสมาชิกจะใช้เพื่อการกุศล ตลอดเวลา 1 ปีที่ครูหยีได้เปิดสอนมานั้น ได้รับการต้อนรับจากชาวเชียงใหม่หรือแม้แต่คนต่างจังหวัดเป็นอย่างดีมาก ถึงแม้ครูหยีจะเปิดสอนเพียง 3 วันต่ออาทิตย์ก็ตาม รายได้ได้ถูกนำไปสร้างบุญสร้างกุศลอย่างมากมาย ตั้งแต่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่าง ๆ จนถึงร่วมทำบุญซื้อที่ดินถวายวัด ช่วยเหลือเป็นทุนการศึกษา ค่าอาหารต่อเด็กยากจน ตลอดจนเป็นปัจจัยสำหรับอาหารสำหรับผู้ปฏิบัตธรรมตามสถานที่ปฏิบัติธรรมต่าง ๆ แต่สิ่งที่ครูหยีประทับใจที่สุดคือสมาชิกหลายท่านมีสุขภาพทั้งกายและใจดีขึ้นมาก มีสติ หันมาศึกษาธรรมะ ดูแลสุขภาพของตนจากภายใน รักตนเองมีความมั่นใจในตนเอง พร้อมสิ่งดี ๆ อีกมากมาย ถึงแม้ว่าสิ่งที่ครูหยีทำอยู่อาจจะไม่ใช่สิ่งยิ่งใหญ่ แต่ตนเองก็ภูมิใจที่ได้ทำและจะทำไปเรื่อย ๆ เท่าที่เหตุปัจจัยจะนำพาไป ครูหยีขอถือโอกาสนี้กราบขอบคุณสมาชิกทุก ๆ ท่าน ที่ได้ให้การสนับสนุนบ้านหยีโยคะ และให้กำลังใจครูหยีในการทำความดีตลอดมา (ไป) ค่ะ
------------------------------------------------------------
update มกราคม 2556

ผ่านไปอีกปีหนึ่งแล้วค่ะ บ้านหยีโยคะก็เปิดมาแล้วครบ 2 ปี และกำลังก้าวย่างสู่ปีที่ 3 ในปีที่สองที่ผานมาบ้านหยีโยคะได้มีกิจกรรมทำร่วมกับสมาชิกมากขึ้น ไม่ว่าจะไปปฏิบัติธรรมร่วมกัน ร่วมออกโรงทาน หรือไปแสวงบุญไกลถึงอินเดียร่วมกัน ซึ่งกิจกรรมดี ๆ หลายอย่างก็ยังจะทำต่อเนื่องกันไปต่อไปค่ะ และการเปลี่ยนแปลงอีกอย่างก็คือบ้านหยีโยคะได้เน้นกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจนขึ้นคือจะเน้นรับสมาชิกที่เป็นวัยทำงาน ตั้งแต่ 30 ปีขั้นไป และในช่วงเช้าจะเน้นวัยผู้ใหญ่ที่ 40 ปีขึ้นไป เพราะครูหยีเห็นว่าผู้หญิงในแต่ละวัยมีการเปลี่ยนแปลงทั้งร่างกายและจิตใจที่ต่างกัน ควรจะได้รับการดูแลที่ถูกต้อง พร้อมกันนี้ ครูหยีได้เพิ่มและเน้นเรื่องของโภชนาการมากขึ้น แบ่งปันความรู้ในด้านของอายุรเวทมากขึ้น โดยมีจุดมุ่งหมายอย่างชัดเจนเลยค่ะ คือให้สมาชิกของเรานั้นได้มีความสมบูรณ์ทั้งกายและใจ ฝึกเป็นหมอของตนเองค่ะ สังเกตุการเปลี่ยนแปลงในร่างกาย ปรับธาตุด้วยอาหาร ด้วยอารมณ์ ซึ่งได้รับความสนใจนำไปปฏิบัติจากสมาชิก เช่น การรับประทานอาหารเช้าที่เป็นประโยชน์มากขึ้น ลดกินแป้ง ลดน้ำตาล ลดชา ลดกาแฟ ล้างพิษ ดำเนินชีวิตประจำวันอย่างผู้ฉลาด อย่างมีสติเป็นต้น และสมาชิกหลาย ๆ ท่านก็ได้นำความรู้ด้านอื่น ๆ มาแบ่งปันกันในกลุ่มสมาชิกด้วย ซึ่งครูหยีจะเน้นให้สมาชิกให้ดูแลร่างกายและจิตใจไปพร้อม ๆ กันอย่างเป็นองค์รวม ให้รักตนเองและดูแลตนเองให้ดีที่สุด เพื่อที่เราจะได้มัพลัง มีแรงที่จะไปรักและดูแลตนอื่นได้ค่ะ

แน่นอนว่าการที่บ้านหยีโยคะได้อยู่จนครบ 2 ปี และยังก้าวต่อไปพร้อมทั้งกิจกรรมมากมายที่เกิดขึ้นและกำลังจะเกิดขึ้นนั้น ได้รับการสนับสนุนและให้กำลังใจจากสมาชิกทุก ๆ ท่านและร่วมถึงครอบครัวของสมาชิกด้วย ครูหยีขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งมา ณ โอกาสนี้ด้วยค่ะ ขอความดีทั้งหลายที่ท่านทั้งหลายได้ทำและสะสมมาจงคุ้มครองให้ท่านได้พบเจอแต่สิ่งดีงามและพบทางพ้นทุกข์ด้วยเทอญ

สำหรับตัวครูหยีเองก็ยังดำเนินชีวิตตามอุดมการณ์เดิมค่ะ ขอใช้ชีวิตอย่างพอเพียง แบ่งปันให้มากที่สุด มีความสุขกับทุกลมหายใจ ปฏิบัติธรรมเพื่อศึกษาจิตตนให้ละเลิกกิเลสให้มากที่สุดและพัฒนาปัญญาให้เกิดขึ้นได้เห็นทุกข์และมีโอากาสได้ออกจากทุกข์ในเร็ววันค่ะ
--------------------------------------------------------------
update มกราคม 2557

ผ่านไปอีกปีแล้วค่ะ บ้านหยีโยคะได้อยู่ครบ 3 ปีแล้ว และกำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 4 ตลอด 2556 ที่ผ่านมาบ้านหยีโยคะได้มีโอกาสต้อนรับพี่ ๆ น้อง ๆ อา ๆ ป้า ๆ กว่าร้อยท่าน หลาย ๆ ท่านอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เปิดครั้งแรกจนถึงปัจจุบัน ได้เห็นถึงสุขภาพกายและใจที่ดีขึ้น ๆ ของสมาชิก เป็นความรู้สึกปลาบปลื้มปิติจริง ๆ ค่ะ ขอขอบคุณที่รักตัวท่านเอง ขอขอบคุณที่ท่านได้ให้โอกาสกับบ้านหยีโยคะได้สร้างสิ่งดี ๆ ร่วมกันกับท่าน การพบแล้วจากเป็นธรรมดาของโลก แต่การเจอของเราในครั้งนี้ ไม่ธรรมดาค่ะ เพราะเราได้สร้างบุญสร้างกุศลร่วมกันและต่างก็เป็นเนื้อนาบุญของกันและกัน ของบุญรักษาท่านด้วยเทอญ

สำหรับตัวครูหยีเอง เป็นปีที่เดินทางบ่อยถึงบ่อยมาก อย่างที่ครูหยีชอบพูดอยู่เสมอว่าการเดินทางเป็นการเรียนรู้ค่ะ ระหว่างทางเราอาจจะเจอคนมากมาย ได้พบและเรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ และที่สำคัญที่สุดคือเรียนรู้ตนเองค่ะ ตลอดเวลาตั้งแต่เกิดมาพวกเราก็เรียน เรียนกันมาตลอด เราติดตามข่าว รู้เรื่องชาวบ้าน เพื่อนบ้าน แต่คนที่เรารู้จักน้อยที่สุดกลับเป็นตนเราเอง ตลอดเวลาที่ใช้ชีวิตอย่างสงบ โดยเฉพาะช่วงปีที่ผ่านมาได้เรียนรู้ตนเองมากขึ้นอีกนิดหนึ่งแล้วค่ะ มีชิวิตที่เป็นอิสระ เบา สบายมากขึ้น ทรัพสินภายนอกอาจจะไม่เพิ่ม แต่อริยทรัพย์ภายในเริ่มมีบ้างแล้ว ก็เป็นกำลังใจที่จะเดินเส้นทางนี้ต่อไปอีก ครูหยีซาบซึ้งใจอยู่ตลอดเวลาว่าสิ่งดี ๆ ในชีวิตที่เกิดขึ้นกับครูหยีนั้นต้องขอบคุณครอบครัวที่ประกอบด้วยน้องชายทั้งสอง น้องสาว น้องสะใภ้ทั้งสองและหลาน ๆ ที่เป็นกำลังใจและช่วยเหลืออยู่เสมอ สมาชิกบ้านหยีโยคะทุก ๆ ท่าน และกัลยาณมิตรทุกท่าน ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ให้กำลังใจอยู่เสมอมา ขอกราบขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ

----------------------------------------------------------------
update เมษายน 2558

ผ่านไปแล้วอีก 1 ปี บ้านหยีโยคะอยู่อย่างมั่นคงครบ 4 ปี และกำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 5 แล้วค่ะ ตลอดปีที่ผ่านมาบ้านหยีโยคะได้ต้อนรับสมาชิกมากมาย บางท่านอยู่กันหลายเดือน บางท่านก็ฝึกด้วยกันเพียงเดือนเดียว ซึ่งดิฉันเชื่อเสมอค่ะ พวกเราได้มาเจอกันก็ด้วยบุญ -กุศลที่ได้ร่วมสร้างกันมา ทุกคนที่เข้าสู่บ้านหยีโยคะจึงเสมอเหมือนญาติพี่น้องที่ได้กลับมาพบกันอีกครั้ง และพวกเราก็หนี้สัจธรรมไม่พ้นค่ะ ทุกอย่างคือความไม่แน่นอน ทุกอย่างคือการเปลี่ยนแปลง เมื่อมีพบย่อมมีจากเป็นธรรมดาของโลกจริง ๆ นะคะ อย่างไรก็ตาม ก็ขอขอบพระคุณท่านสมาชิกที่ได้แวะเวียนเข้าสู่ครอบครัวบ้านหยีโยคะ ท่านมาเราดีใจ ท่านจากเราคิดถึงนะคะ

ตลอดปีที่ผ่านมา พวกเราก็ยังมุ่งในการสร้างบุญสร้างกุศลมิได้ขาด โดยเฉพาะช่วงหลัง ๆ มีภัยพิบัติเกิดขึ้นอย่างมากมาย ปัจจัยส่วนหนึ่งก็ได้แบ่งปันไปยังผู้ประสบภัยเหล่านั้นด้วยค่ะ ยิ่งอยู่นาน คงทำให้ประจักษ์ว่า ชีวิตนี้เหลือน้อยแล้ว ก็จำต้องเร่งสร้างบุญสร้างกุศล ฝึกจิตให้สูงขึ้น ลด ละ เลิก ในความโลภ ความโกรธ ความหลง ให้ได้มากขึ้น

ขอบุญรักษา
----------------------------------------------------------------
ประวัติโดยย่อ ของครูหยี

ปัจจุบัน
เจ้าของและครูสอนโยคะที่บ้านหยีโยคะเชียงใหม่
ดำเนินชีวิตอย่างพอเพียง สงบ และมีความสุขกับทุกลมหายใจ
* ศึกษาและปฏิบัติธรรม
* ทำความดี
* นักเดินทาง

**สนใจและศึกษาเกี่ยวกับ

* จิต
* ธรรมชาติบำบัด
* อาหารบำบัดโรด
* สมาธิกับการดำเนินชีวิตประจำวัน
* เข้าอบรม และศึกษาโยคะอยู่สม่ำเสมอตั้งในประเทศและ
ต่างประทศ


ประวัติด้านโยคะ

- หลักสูตร Yoga Teacher training course จำนวน 1 ,000 ชั่วโมง ณ Yoga Institute, Mumbai อินเดีย (ปี2010)
- หลักสูตร ครูผู้นำโยคะ โดย โรงเรียนสุนีย์ โยคะ กรุงเทพ จำนวน 100 ชั่วโมง
- ฝึกและสอนโยคะมามากกว่า 10 ปี ทั้งในประเทศอินเดีย และไทย

** สำเร็จหลักสูตรครูสมาธิรุ่นที่ 29 กับสถาบันพลังจิตตานุภาพ วัดธรรมมงคล ปี 2555

ประวัติการศึกษา
- ปริญญาโท ด้านการโรงแรมและการท่องเที่ยว Bournemouth University ณ ประเทศ อังกฤษ (ปี 2000)
- ปริญญาตรี ด้านการบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัย พายัพ เชียงใหม่


ประวัติการทำงาน

- ผู้จัดการแผนกการศึกษาต่อ ณ ประเทศอังกฤษ บริษัท Planit Consultants Bangkok กรุงเทพฯ (ปี2001-2009)
- ผู้จัดการฝ่ายการตลาดโรงพยาบาลราชเวช เชียงใหม่
- หัวหน้าแผนกลูกค้าสัมพันธ์โรงพยาบาลราชเวช อุมลราชธานี
- ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายขาย โรงแรมสุริวงค์เชียงใหม่
- ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายขาย โรงแรมเชียงใหม่พลาซ่า เชียงใหม่
- เจ้าหน้าที่ฝ่ายขาย โรงแรมดิเอ็มเพรส เชียงใหม่

[Add ดอยวาวี's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com