|
คิดได้ไงเนี่ยนักศึกษาสมัยนี้
ช่วงนี้ผมมาอยู่บ้านที่นนท์ กลับมาเยี่ยมพ่อแม่และอยู่ไหว้เช็งเม้ง จึงได้โอกาสนัดพบกับเพื่อนที่จะทำงานเว็บด้วยกัน ก็ไปนั่งคุยกันที่นวมินทร์ซิตี้อเวนิว เป็นสถานที่แปลกใหม่ทีเดียวสำหรับคนที่จากกรุงเทพฯ ไปนานอย่างผม ที่ภูเก็ตก็เริ่มมีอะไรคล้าย ๆ แบบนี้เหมือนกัน แต่ไม่ใหญ่โตขนาดนี้
เรื่องที่จะเล่านี้มาจากเพื่อนผมที่เป็นเว็บดีไซน์เนอร์ ผมฟังแล้วคิดว่ามันน่าสนใจ ก็เลยเก็บมาเล่าต่อที่นี่ครับ
เราคุยกันถึงเรื่องงานว่าถ้าในอนาคตเราต้องมีพนักงานเราจะทำยังไง เพื่อนผมก็เลยเล่าประสบการณ์การรับสมัครพนักงานทำกราฟฟิคดีไซน์ครั้งหนึ่ง ให้ฟัง ผู้สมัครเป็นนักศึกษาชั้นปีที่สามของมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง มาพร้อมกับผลงานที่เรียกว่า พอร์ทโฟลิโอ จำนวนหนึ่ง ซึ่งเพื่อนผมดูแล้วก็ไม่ได้รู้สึกประทับใจอะไร
แต่ตอนนั้นเพื่อนผมกำลังต้องการคน ทีแรกเขาก็คิดว่าอาจจะรับเข้ามาก่อนแล้วค่อย ๆ ฝึกให้ทำงานให้ดีขึ้น จึงมองข้ามเรื่องนี้ไป แล้วไปคุยกันเรื่องเงินเดือน
"สองหมื่นบาท" น้องตอบคำถามเรื่องเงินเดือนที่ต้องการ
เพื่อนผมคิดในใจว่านี่เรียกขนาดนี้เลยหรือ แพงโว้ย แต่ก็ทำใจสัมภาษณ์ต่อไปก่อน ยังไม่ต้องตัดสินใจก็ได้
"แล้วยังมีความต้องการอะไรอีกหรือเปล่า?" เพื่อนผมถาม
"ผมขอไม่ต้องเข้าออฟฟิศทุกวันได้มั้ยครับ แบบว่าบางครั้งผมขอนั่งทำงานอยู่ข้างนอก ตามร้านกาแฟอะไรอย่างเนี้ย" น้องตอบ
"อ้าว ทำไมล่ะ ถ้าผมจ้างคุณผมก็คาดหวังว่าคุณจะทำงานเต็มเวลานะ" เพื่อนผมเริ่มรู้สึกว่ามันมากไปแล้ว
"อ๋อ ก็ไม่ใช่อย่างนั้น คือผมหมายถึงในบางช่วงที่ออฟฟิศไม่มีงานน่ะครับ" น้องตอบเลี่ยง ๆ ไป
"คุณไม่ต้องห่วงหรอก ถ้าผมจ้างคุณ ผมไม่ปล่อยให้คุณอยู่ว่าง ๆ หรอก ผมจัดงานให้คุณได้ตลอดนั่นแหละ" เพื่อนผมชักของขึ้นแล้ว
แต่ก็ยังอยากฟังต่อว่าน้องคนนี้จะมีอะไรจะเรียกร้องอีก
"ผมขอส่วนแบ่ง 20% ของงานทุกชิ้นที่ทำด้วยครับ" เป็นความต้องการข้อต่อมาที่น้องเขาบอกเพื่อนผม
เล่ามาถึงตรงนี้เพื่อนผมก็ถามว่าผมฟังแล้วรู้สึกยังไง
"เฮ้ย นี่มันยังเรียนไม่จบเลยนะ กล้าขอขนาดนั้นเลยเหรอ" ผมสะท้อนความรู้สึกให้เพื่อนฟัง
แต่เพื่อนผมก็เล่าต่อว่า ในตอนสัมภาษณ์แฟนเพื่อนผมก็นั่งฟังอยู่ด้วย คงจะพยายามมองในแง่ดี ก็เลยถามน้องเขาไปว่า
"อันนี้หมายความว่าน้องเป็นคนหางานมาให้ออฟฟิศใช่มั้ย?"
"ไม่ใช่ครับ เป็นงานของออฟฟิศที่ผมทำเท่านั้นครับ" น้องเขาตอบชัดเจน
กลายเป็นประเด็นน่าสนใจสำหรับคนสัมภาษณ์เลย ไม่ใช่สนใจอยากได้น้องคนนี้มาทำงานหรอก แต่สนใจว่ามันคิดได้ยังไง สุดท้ายเพื่อนผมเลยถามต่ออีกข้อนึง เกี่ยวกับเงื่อนไขขอส่วนแบ่ง 20%
"ถ้ามีส่วนแบ่งอย่างนี้ก็เยอะเหมือนกันนะ งั้นสมมติว่ามีส่วนแบ่งได้ แล้วเงินเดือนพอจะลดได้มั้ย?" เพื่อนผมถามเป็นเชิงขอต่อรอง
"ไม่ได้ครับ เงินเดือนต้องสองหมื่นเท่าเดิม"
จบการสัมภาษณ์ครับ
ผมคุยกับเพื่อนต่อว่ามันมีแบบนี้เยอะมั้ยนะสมัยนี้ สงสัยจริง ๆ ว่าเขาไปได้ความคิดแบบนี้มาจากไหน อะไรทำให้เขาคิดว่าเขาควรจะได้เงื่อนไขต่าง ๆ เหล่านี้ในการสมัครงานครั้งแรกทั้ง ๆ ที่ยังเรียนไม่จบ ผลงานก็ไม่โดดเด่น มหาวิทยาลัยที่เรียนก็ไม่ใช่เกรดเอ
เพื่อนผมซึ่งทำงานมาสิบกว่าปี ตอนนี้เป็นเจ้าของกิจการเล็ก ๆ ของตัวเอง ตบท้ายให้ผมฟังว่า ต่อให้ตัวเขาเองในตอนนี้ ถ้าต้องออกไปหางานทำ ยังไม่มีทางคิดได้ขนาดนี้เลยครับ
Create Date : 07 เมษายน 2554 |
Last Update : 7 เมษายน 2554 10:49:41 น. |
|
6 comments
|
Counter : 520 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ซ่อนรอยยิ้ม วันที่: 7 เมษายน 2554 เวลา:11:57:04 น. |
|
|
|
โดย: ติม (itims ) วันที่: 7 เมษายน 2554 เวลา:14:20:35 น. |
|
|
|
โดย: toeyao วันที่: 7 เมษายน 2554 เวลา:15:18:41 น. |
|
|
|
โดย: 9A วันที่: 7 เมษายน 2554 เวลา:15:54:07 น. |
|
|
|
โดย: NSA (tewtor ) วันที่: 13 เมษายน 2554 เวลา:2:33:14 น. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
ภูเก็ต Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
พิเชษฐ์ บุญย์วิรุฬห์ (ชุน) เกิดปี พ.ศ. 2515 ที่จังหวัดสงขลา เรียนหนังสือ เติบโต และเริ่มทำงานที่กรุงเทพฯ เคยไปทำงานที่ประเทศจีนห้าปี กลับมาทำงานประจำได้ไม่นานก็ลาออก แต่งงาน ย้ายมาอยู่ที่ภูเก็ต ทดลองทำโน่นทำนี่อีกหลายอย่าง จนได้มาเรียนรู้เรื่องการทำเว็บ จึงได้ก่อตั้งบล็อกชื่อ Chinese Web info ขึ้น เป็นจุดเริ่มต้นของการทำเรื่องใหม่ที่ยังไม่รู้ว่าจะพาผมไปลงเอยที่ไหน
|
|
|
|
|
|
|
|