Group Blog
 
All Blogs
 
องค์กรที่พนักงานคิดแต่ว่าจะลาออกเมื่อไหร่ดี

"เธอจะออกแล้วเหรอ รอชั้นก่อนสิ" พิมมาลาอ้อนเพื่อนที่เพิ่งยื่นใบลาออก

"ชั้นก็สงสารเธอนะ แต่ชั้นอยู่นี่ไม่มีความสุขเลย สุขภาพกายทรุดโทรม สุขภาพจิตก็แย่ลงเืรื่อย ๆ " ดาวประดับแสดงความเห็นใจเพื่อน แต่ดูเหมือนจะสงสารตัวเองมากกว่า

"เธอก็อดทนเอาหน่อยนะ เดี๋ยวเรื่องนี้มันก็ผ่านไปแล้ว อยู่ด้วยกันก่อนเถอะนะ" พิมมาลาแสดงอาการอาวรณ์เพื่อนสุด ๆ

"ถึงเรื่องนี้จะผ่านไปไ้ด้ แต่ก็คงจะมีเรื่องอื่น ๆ ตามมาอีกเหมือนเดิม วงจรเดิม ๆ ไม่จบไม่สิ้น ชั้นทนไม่ไหวหรอก แล้วเธอล่ะ เธอก็รอให้ลูกเรียนจบก็จะออกเหมือนกันไม่ใช่เรอะ จะมารั้งชั้นไว้ทำไม" ดาวประดับย้อนกลับเอาให้มั่ง

"... ก็จริง" พิมมาลาเคยบอกเพื่อนไว้อย่างนั้น และคิดว่าเมื่อลูกเรียนจบก็คงจะออกจริง ๆ แค่นี้ที่บ้านก็บ่นกันจะแย่อยู่แล้ว

"นี่พวกเธอ ไม่สงสารคุณผู้จัดการบ้างเหรอ ถ้าพวกเธอออกกัน เขาคงจะลำบากน่าดู" พี่สมศรีสอดแทรกขึ้นมา ทำตัวเป็นผู้ใหญ่ที่ชี้ให้มองความรู้สึกคนอื่นด้วย

"พี่สมศรีคะ พี่จำไม่ได้เหรอคะ คราวก่อนที่ผู้จัดการทะเลาะกับบอสใหญ่น่ะ ผู้จัดการเองนั่นแหละที่ยื่นใบลาออกโดยไม่บอกพวกเราซักคำ ไม่ไหวหรอกค่ะอย่างนี้ อยู่ไปก็มีแต่จะรันทดกันไปเรื่อย ๆ หรือพี่ว่าไม่จริง" ดาวประดับยังจำความรู้สึกตอนที่ผู้จัดการพยายามตัดช่องน้อยแต่พอตัวลาออกโดยไม่บอกเพื่อนเลยซักคำ แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอด ต้องกลับมาอยู่อย่างอดทนต่อไป

"อือ ความจริงพี่ก็อยากออกเหมือนก๊าน แต่พี่มันเป็นผู้ใหญ่แล้ว ไม่เหมือนเด็ก ๆ อย่างพวกเธอ ถ้าพี่ปุบปับออกไปเฉย ๆ แล้วต่อไปจะเข้าหน้าบอสได้ยังไง พี่ก็ว่าจะรออีกซักสองสามปีค่อยออก" พี่สมศรีเองนั้นถูกบอสใหญ่บี้จนสะบักสะบอมมาหลายครั้ง หลัง ๆ แกก็เปรย ๆ หลายครั้งแล้วว่าอยากออก แต่สำหรับแกมันไม่ง่ายเลยที่จะเอ่ยปากเรื่องนี้กับบอส

---

ผมฟังบทสนทนาทำนองนี้ด้วยความเศร้าแกมสมเพช ในความรู้สึกผม องค์กรนี้เหมือนตายไปแล้ว เหลือแต่ซากที่ยังเดินอยู่ คุณดูเอาเถิด พนักงานพูดกันแต่เรื่องว่าใครจะออกเมื่อไหร่

และที่น่าเศร้ายิ่งกว่าสำหรับเจ้าของกิจการคือ เขาเหมือนไม่ได้รับรู้อะไรเหล่านี้เลยแม้แต่น้อย เพราะไม่มีใครคิดที่จะพูดความจริงให้เขาฟังเลยซักคน ทุกคนต่างอยู่ด้วยความอดทน ความกลัว และการเอาตัวรอดไปวัน ๆ



Create Date : 16 สิงหาคม 2554
Last Update : 16 สิงหาคม 2554 23:01:17 น. 2 comments
Counter : 441 Pageviews.

 
สวัสดีครับ ผมเพิ่งได้ติดตามบล็อค แล้วเห็นว่าคุณได้ยกกรณีตัวอย่างเพื่อให้ผู้อ่านได้คิดและปรับปรุงประสิทธิภาพขององค์กร (พูดเว่อไปไหม -_-')

ผมจึงอยากจะเล่าประสบการณ์ทำนองนี้ให้ฟังด้วยคน

ผมเคยทำงานอยู่ในองค์กรข้ามชาติแห่งหนึ่ง แต่ว่าการบริหารข้างในเช่น การเลื่อนตำแหน่ง การขึ้นเงินเดือน โดยปกติจะพิจารณาจากผลงาน ความสามารถ และประสบการณ์การทำงาน ซึ่งโดยรวมแล้วมันก็น่าจะถูกต้อง เหมาะสม (แน่นอนว่าผมใช้คำว่า "โดยปกติ")

แต่ว่ามันการมีการขึ้นเงินเดือน เลื่อนตำแหน่งในวาระพิเศษตามแต่ผู้บริหารอยากจะทำ เช่น อยากจะโปรโมตคุณ A ซึ่งมีความสนิทสนมกับผู้บริหารขึ้นเป็นผู้จัดการ หรืออยากขึ้นเงินเดือนคุณ B เพราะมีความเสน่หา เอ็นดู
ซึ่งแน่นอนครับว่า การทำแบบนี้ทำให้พนักงานคนอื่น เสียขวัญและกำลังใจในการทำงาน

นี่จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่พนักงานเริ่มคิดจะลาออก
แล้วมันยังไม่จบ เมื่อคุณ A ได้มาเป็นผู้จัดการแล้ว แต่ความสามารถ ผลงาน ประสบการณ์ ยังไม่เป็นที่ยอมรับของผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา ปัญหาอีกร้อยแปดก็จะตามมา นับว่าเป็นฝันร้ายของพนักงานองค์กร


โดย: james IP: 192.165.213.18 วันที่: 17 สิงหาคม 2554 เวลา:15:11:00 น.  

 
ขอบคุณคุณ james ที่มาเล่าประสบการณ์ให้ฟังนะครับ เรื่องทำนองนี้มีให้เห็นทั่วไป และผมคิดว่ามันคือสาเหตุของความล้มเหลวขององค์กร อาจจะไม่ล้มวันนี้ แต่ถ้าไม่ปรับปรุงก็ต้องล้มเข้าซักวันหนึ่ง ยิ่งถ้ามีคู่แข่งที่เข้มแข็งกว่ามาท้าชิงด้วยแล้วล่ะก็ ยิ่งมองเห็นความอ่อนแอได้ชัดเจนครับ

ผมไม่มีปัญหาอะไรกับบรรดาเจ้าของกิจการหรือผู้นำองค์กรที่หน้ามืดตามัวบ่อนทำลายองค์กรของตัวเองหรอก แต่ผมเห็นใจบุคลากรจำนวนมากที่ต้องจำใจจำยอมอดทนอยู่กับความเหลวแหลก ขายแรงกายแรงงานให้เจ้านายที่ไม่น่านับถือ ใครที่ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ผมมักจะยุให้ลาออกไปหางานใหม่เรื่อยแหละ

อยากให้คนเก่งคนดีทำงานให้นายที่ดี ๆ เท่านั้นครับ


โดย: PoojeeChunn วันที่: 17 สิงหาคม 2554 เวลา:22:31:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

PoojeeChunn
Location :
ภูเก็ต Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




พิเชษฐ์ บุญย์วิรุฬห์ (ชุน) เกิดปี พ.ศ. 2515 ที่จังหวัดสงขลา เรียนหนังสือ เติบโต และเริ่มทำงานที่กรุงเทพฯ เคยไปทำงานที่ประเทศจีนห้าปี กลับมาทำงานประจำได้ไม่นานก็ลาออก แต่งงาน ย้ายมาอยู่ที่ภูเก็ต ทดลองทำโน่นทำนี่อีกหลายอย่าง จนได้มาเรียนรู้เรื่องการทำเว็บ จึงได้ก่อตั้งบล็อกชื่อ Chinese Web info ขึ้น เป็นจุดเริ่มต้นของการทำเรื่องใหม่ที่ยังไม่รู้ว่าจะพาผมไปลงเอยที่ไหน
Friends' blogs
[Add PoojeeChunn's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.