+ + + Alluring Pak Chong + + +
เนื่องด้วยได้ยินกิตติศัพท์ของไอติม อืมม์!....มิลค์ ที่เขาว่ากันว่าอร่อยนัก อร่อยหนา ทำให้ผมต้องเดินทางไกลจากระยอง มาทานไอติมถึงที่เมืองปากช่องนี่....เพื่อไม่ให้เสียเปล่า เลยแวะดูด้วยว่าที่ปากช่องนี่มีอะไรให้เที่ยวบ้าง...เก็บภาพมาเล่าเป็นเรื่องให้ฟังกันครับ.... แน่นอนว่าการมาเที่ยวช่วงเทศกาลเช่นตอนปีใหม่ การแย่งกิน แย่งพัก แย่งใช้ หลีกไม่พ้นที่ต้องเจอ...ผมก็เช่นกัน อุตส่าห์มาฟาร์มโชคชัยแต่เช้าเพื่อจะซื้อตั๋วเข้าชมในฟาร์ม แต่ก็ไม่วายที่ตั๋วโดนจองจนเต็มหมดแล้ว ยังดีที่มีพี่สาวใจดีขายตั๋วผีให้หน้างาน (แต่ราคาปกตินะ) ก็เลยรอดตัวไป...มีเวลาก่อนเข้าชมราวสองขั่วโมง เลยขับรถเข้าไปชมรีสอร์ทที่เขาว่าหรูสุดบนเขาใหญ่ตอนนี้เสียหน่อย คีรีมายาครับ.... บรรยากาศรีสอร์ทกลางขุนเขาของที่นี่ สุดจะบรรยายจริงๆครับ.... ไม่รู้ว่าจะเขียนพรรณายังไง นอกจากจะได้เข้ามาสัมผัสเอง... ก็ไม่แปลกล่ะครับที่หนังสือ Conde' Nast Traveler จะยกย่องให้เป็น One of the best hip resort of the world ราคาช่วงไฮซีซั่นที่ผมถามมา เขาว่าที่นี่ถูกสุด คืนละ 7000 แพงสุดอยู่ที่ สามหมื่น!!!แต่ว่ากันว่าห้องพักที่นี่ค่าตกแต่งต่อห้องก็ปาเข้าไป4ล้านเข้าไปแล้วนะ....ถ้าผมถูกล๊อตเตอรี่เจ๋งๆสักงวด ว่าจะลองมานอนดูสักคืนมุมรับประทานอาหารริมสระน้ำ.... ที่นี่มีสนามกอล์ฟ18หลุม ที่ออกแบบโดย แจ๊ค นิคลอส ไว้ให้บริการด้วยนะ มองนาฬิกา อ้าว ได้เวลากลับไปที่ฟาร์มโชคชัยแล้วนี่นา ชอบวิวของเมืองคาวบอยนี่จริงๆ ดูแล้วนึกถึงบรรยากาศในหนังเรื่อง Yong Gun ที่ผมชอบมากๆเมื่อตอนเป็นเด็ก โดยเฉพาะ Billy the Kid ที่แสดงโดย เอมิลิโอ เอซเตเวซ เนี่ย ครั้งหนึ่งในชีวิต ที่ได้ขี่ม้า ถึงจะเป็นรอบเล็กๆก็เถอะ 40บาทต่อรอบ อาจจะดูว่าแพง แต่แหม... ใครมันจะมีโอกาสได้ขี่ม้าบ่อยๆเนอะลืมบอกคนถ่ายให้เปิดแฟลชให้ ออกมาดำปี๋เลย ก่อนออกจากฟาร์มโชคชัย แน่นอนว่าต้องไม่ลืมจุดประสงค์หลักที่มาปากช่องนี่ อืมม์!....มิลค์ แพคใส่กล่องโฟมอย่างดี มีน้ำแข็งแห้งใส่กันไอติมละลาย เก็บได้สี่ชั่วโมง.....ตุ๊กตาวัวตัวเล็กๆ ก็น่ารักไม่เบา เหยือกนมรูปวัว ก็เป็นของฝากที่เก๋ไม่หยอกทีเดียวอ้อ... นมสดเพียวๆที่นี่ อร่อยมากด้วยนะ ดื่มไปหลายถ้วยทีเดียว...(ดื่มนมเพื่อสุขภาพกันเถอะ)ถัดจากฟาร์มโชคชัย ผมก็ตระเวณหาของฝากต่อ เลยเลี้ยวเข้าไปที่ไร่องุ่น กราน-มองเต้ ตอนแรกกะว่าจะซื้อไวน์ไปฝาก แต่พิจารณาดูแล้ว คนที่บ้านไม่สันทัดเรื่องจิบไวน์กันเลย เลยได้น้ำองุ่นกลับไปลังนึง กับ แยมอีกสามกระปุก...ร้านอาหารที่กราน-มองเต้เขาสวยดีนะครับ เห็นคนนั่งอยู่แยะเลยไม่ได้ถ่ายรูปเก็บมาฝาก... ได้มุมด้านข้างๆมาแทน ด้านหลังก็มีโต๊ะนั่งแบบติดสระน้ำเหมือนกัน สำหรับคนชอบความสงบ ออกมาจากกราน-มองเต้ ก็แวะเข้าไปที่ PB Valley เนื่องจากเป็นไร่องุ่นเหมือนกัน ผมก็เลยไม่รู้จะซื้ออะไรดี เพราะเห็นขายเหมือนกับที่กราน-มองเต้เลยแต่เห็นวิวทุ่งทานตะวันที่อยู่ใกล้ๆกับภัตตาคารสวยดี เลยเอามาฝากกันครับอีกวันนึง... แม่บ้านที่บ้านไร่บัวแดง แนะนำให้ไปเที่ยวที่ไร่ทองสมบูรณ์ที่อยู่ไม่ไกลกันนัก....ที่นี่ เหมาะมากสำหรับชักชวนคนในครอบครัวมาร่วมทำกิจกรรมเพื่อกระชับความสัมพันธ์ครับเห็นพ่อแม่ จูงลูกจูงหลานมากันเพียบ มองดูแล้วก็ให้รู้สึกน่ารัก อมยิ้มตามไปกับความน่าเอ็นดูของเด็กเล็กๆไม่ได้ ที่ไร่ทองสมบูรณ์ มีกิจกรรมสนุกๆให้ทำแยะครับ (ติดแต่ที่ว่าเครื่องเล่นบางอย่างออกจะแพงไปนิด)ที่เห็นๆก็มี ขี่ม้า ลูจน์คาร์ กระเช้าลอยฟ้า ขี่รถ ATV โกคาร์ท โรยตัว ที่ผมไปเล่นก็ ลูจน์คาร์ จะว่าไปมันก็สนุกดีหรอก แต่ที่เบื่อคือรอคิวนาน...มาก แล้วก็ค่าตั๋วแพงไปหน่อย (150บาท) แต่ได้สนุกแค่ราวๆ4นาทีเท่านั้น (เร็วจัง)พอไถลลูจน์คาร์ลงไปถึงข้างล่าง เขาจะให้ขึ้นกระเช้ากลับขึ้นมาครับ อีกอย่างที่น่าสนคือโรยตัว แต่ไม่ได้ไปเล่นที่นี่เป็นสถานที่เหมาะสำหรับครอบครัวจริงๆครับ ใครอยากพาครอบครัวไปทำกิจกรรมเพื่อกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัว ลองพาไปที่นี่ดูสิครับ... พอจะมีเวลาเหลือตอนสายๆ เลยเข้าไปเยี่ยมชม สักภูเดือนดูเสียหน่อย... จบแล้วครับ จริงๆแล้วมีรูปคากล้องอยู่อีกม้วน แต่ยังถ่ายไม่หมด เลยขอจบมันห้วนๆอย่างนี้ก็แล้วกัน
+ + + มองฟ้าใส บนยอดดอย เห็นเมฆขาว + + +
เมื่อตอนปีใหม่ ไปเที่ยวปากช่อง ได้พักที่นี่มา เห็นว่าเป็นรีสอร์ทสไตล์บ้านไร่ ที่ดูเก๋น่ารักดีครับ เลยเอารูปมาฝากเพื่อนๆใน BP กัน... ที่นี่คือ "บ้านไร่บัวแดง" ครับ หนึ่งใน Unseen Paradise ในเล่มแรก ซึ่งรีสอร์ทที่ปากช่องที่ติดในเล่มแรก มีสองแห่ง ที่แรกคือที่นี่ อีกที่คือสักภูเดือน "ฟ้าใส ยอดดอย เมฆขาว" จากที่เคยอ่านมา จำได้ว่าน่าจะเป็นชื่อลูกชายทั้งสามคนที่ช่วยบุกเบิกทำบ้านไร่บัวแดงขึ้นมา เจ้าของรีสอร์ทจึงนำชื่อทั้งสามคนมาใช้เป็นสโลแกนของบ้านไร่บัวแดงนี้แปลงปลูกอะไรไม่รู้ครับ เห็นอยู่ข้างๆรีสอร์ท เลยถ่ายรูปไว้ ตอนที่ผมไปมาเมื่อตอนปีใหม่ ทางรีสอร์ทเขาจัดกาล่าดินเนอร์นับถอยหลังเข้าปีใหม่ด้วย มีเล่นเกมส์ชิงรางวัลเล็กๆน้อยๆ โดยมีรางวัลเป็นไวน์ 6 ขวด... ในงานผมได้พบกับพี่เตอ ที่เป็นเจ้าของบ้านไร่บัวแดงด้วยพี่เตอเป็นกันเองกับแขกมากๆครับ แกชอบเลี้ยงสุนัข ในงานแกก็พาน้องหมาที่น่ารักทั้งสามมาร่วมงานด้วยนะอ้อ... ที่บ้านไร่บัวแดงนี่เขาอนุญาติให้พาน้องหมามาพักได้ด้วยนะครับ ที่บ้านไร่บัวแดง เป็นรีสอร์ทขนาดเล็กครับ มีห้องพักประมาณ 10 ห้องเท่านั้น มีบ้านต้นไม้สามหลังสำหรับครอบครัวใหญ่ บริเวณที่ทานอาหาร ติดกับสระน้ำขนาดเล็กๆ เมื่อเดินข้ามสะพานไม้ขนาดเล็กที่ตัดผ่านสระน้ำไป ก็จะเห็นอาคารสำหรับจัดเลี้ยงหรือสัมมนา ทางซ้ายจะเป็นสระว่ายน้ำขนาดเล็กครับ สระว่ายน้ำขนาดเล็ก พอจะแก้เบื่อให้กับเด็กๆได้ครับบริเวณทางเดินไปยังบ้านบัวแดงครับ "บ้านบัวแดง" จากการคาดเดาของผม คิดว่าน่าจะเป็นบ้านของพี่เตอ เจ้าของรีสอร์ทครับ ได้แต่ถ่ายรูปอยู่ห่างๆ เพราะกลัวน้องหมาที่พี่เขาเลี้ยงไว้ด้วยอ่ะครับ มุมนั่งเล่นที่เป็นศาลาริมสระน้ำ ใกล้ๆกับอาคารสัมมนา ศาลาเล็กๆ ที่เป็นมุมนั่งปล่อยอารมณ์ ดูหวานเก๋ดีครับ มุมนั่งเล่นอีกที่นึง มองไปจะเห็นไร่ข้าวโพดอยู่ข้างๆ ทางด้านหน้าของอาคารสัมมนา...ใครชอบรีสอร์ทน่ารักๆ สไตล์บ้านไร่แบบนี้ ก็ลองให้ที่นี่เป็นทางเลือกดูนะครับเขาว่าที่ปากช่องนี่ มีอากาศที่บริสุทธิ์ มีโอโซนเป็นอันดับเจ็ดของโลกเชียวนะ