As Nature Intended
การไปกระบี่หนนี้ ผมได้ไปพักมาสองที่ ที่แรกคือ ปกาสัย ที่เลือกที่นี่เพราะว่าติดกับอ่าวนาง เดินทางไปเที่ยวตามหมู่เกาะต่างๆได้สะดวก เดินออกมาจากที่พักไม่เกินสิบนาทีก็ถึงหาดอ่าวนางแล้ว อีกที่นึงก็คือ โรงแรมมาริไทม์ปาร์ค แอนด์ สปา หรือที่รู้จักในชื่อเดิมคือ กระบี่มาริไทม์ครับมาดูภาพของ ปกาสัยกันก่อนล่ะกัน ข้อมูลผมเองก็มีไม่มากเท่าไหร่ ภาพแรกนี่คือสระว่ายน้ำ อยู่ตรงดาดฟ้าของอาคารที่เป็นที่เป็นจุดต้อนรับแขกครับอีกมุมนึง จะเห็นตึกซึ่งตอนที่ผมไปพักนั้นเขากำลังปรับปรุงอยู่ แต่ให้ผมเดา ก็คิดว่าน่าจะเป็นตึกที่ให้แขกทำสปาครับ ที่พักที่ปกาสัย จะเป็นแบบวิลลา ภายในห้องจัดได้สวยงามมากครับ เตียงก็ใหญ่โต ห้องน้ำก็ทำได้น่ารัก เพราะกั้นส่วนห้องน้ำด้วยประตูเลื่อนขนาดใหญ่ (แต่ล๊อคไม่ได้อ่ะ ถ้าเป็นคู่รักมาพัก คงโรแมนติคน่าดู) อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครันครับที่พักที่นี่สร้างเป็นวิลลาแบบเล่นระดับตามไหล่เขานะครับ ถ้ามีผู้สูงอายุ ที่ขาไม่ค่อยแข็งแรง ควรแจ้งให้ทางโรงแรมทราบ จะได้เลือกที่พักที่อยู่ในชั้นที่ไม่สูงมากให้เรานะครับอาหารเช้าที่นี่ก็ดึครับ มีให้เลือกหลายอย่าง ที่ทานอาหารอยู่ใกล้ๆสระบัวขนาดใหญ่ สวยงามดีครับ ที่พักอีกที่นึงที่ผมไปมา นั่นคือ โรงแรมมาริไทม์ ปาร์ค แอนด์ สปา เป็นโรงแรมห้าดาวขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในตัวเมืองกระบี่ จุดเด่นของที่นี่คือ ตัวโรงแรมตั้งอยู่ตรงเขาขนาบน้ำ ที่เป็นสัญลักษณ์ของตัวเมืองกระบี่พอดีครับ วิวทิวทัศน์ของที่นี่ จึงสวยงามเอามากๆ อีกจุดนึงที่ผมชอบมากๆ คือ สวนขนาดใหญ่ของที่นี่ ร่มรึ่นมากๆเลยครับภาพนี้จากจุดชมวิวหอเจ้าฟ้าครับอีกมุมนึง เมื่อมองจากเขาขนาบน้ำ จะเห็นตัวโรงแรมทั้งสามส่วนได้อย่างชัดเจนภาพจากห้องพักที่ผมไปพักมา แต่เคยมีคนหลังไมค์มาบอกว่าห้องที่เขาเคยไปพักไม่ใช่แบบนี้ คือเก่ากว่านี้อ่ะครับ มุมมองเมื่อมองจากระเบียงห้องพัก "สวยมากๆครับ"สระว่ายน้ำของที่นี่ เป็นแบบสองชั้น ขนาดใหญ่ สำหรับสาวๆที่ชื่นชอบการทำสปา ที่นี่ก็มี อดอร่า สปา ให้ทำนะครับ ที่ทำสปาก็อยู่ตรงศาลาไทยที่อยู่ตรงสระบัวขนาดใหญ่ สถานที่สวยงามมากครับ...สวนขนาดใหญ่ ที่จัดไว้ได้อย่างสวยงาม ก็เป็นอีกจุดเด่นนึงของมาริไทม์ ที่ผมชอบมากๆห้องทานอาหารที่นี่ก็สวยครับ มองลงไปเห็นสวนพอดี อาหารเช้าก็มีให้เลือกหลากหลาย รวมทั้งปาท๋องโก๋กับน้ำเต้าหู้ ที่อร่อยมากๆ (เมนูโปรดของผมตอนอยู่ที่กระบี่เลย)
Over the turquoise water
>เคย เอารูปที่ไปเที่ยวกระบี่ไปโพสในBP และมีคนเคยถามข้อมูลกับผมอยู่ก็หลายหน เลยคิดว่าถ้าทำเป็นBlog น่าจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆบ้าง แต่นี่เป็นการทำครั้งแรก อาจจะมีอะไรตกหล่นไปบ้าง ก็ต้องขออภัยไว้ด้วยนะครับเอาเป็นว่าเริ่มกันเลยล่ะกัน...วิธีเดินทางที่ผมคิดว่าสะดวกที่สุดในการเดินทางมาท่องเที่ยวที่กระบี่คือทางเครื่องบินครับ ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงเท่านั้นเอง ไม่เหนื่อยมาก และระยะเวลาที่ใช้ในการท่องเที่ยวกระบี่ ส่วนตัวคิดว่า สักห้าวันกำลังดีส่วนใหญ่แล้วเมื่อมาถึงกระบี่ ก็ไม่พ้นที่จะไปท่องเที่ยวตามเกาะต่างๆ จุดเริ่มต้นของการท่องเที่ยวกระบี่ก็หนีไม่พ้นที่จุดนี้ครับ "อ่าวนาง"รีสอร์ทหลายๆแห่งของกระบี่ ก็ตั้งอยู่ที่อ่าวนางนี้ ร้านอาหาร บริการนำเที่ยว ร้านค้าต่างๆ ก็ตั้งอยู่ที่อ่าวนางแห่งนี้เช่นกัน ถ้าไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน ก็ให้มาที่อ่าวนางนี่ก่อนเลยครับ รอบๆอ่าวนางจะมีมอไซด์รับจ้างให้บริการอยู่ครับ ค่าบริการถ้ารอบอ่าวนางก็ตกราวๆยี่สิบบาท...นอกจากนี้ อ่าวนาง ยังเป็นจุดที่ชมพระอาทิตย์ตก ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของกระบี่อีกด้วยมักจะมีคนโพสถามผมว่า เมื่อเดินทางมาถึงกระบี่ใหม่ๆ ควรจะไปเที่ยวไหน ผมก็มักจะตอบไปว่า หลังจากเช็คอินแล้ว ก็ให้เดินเที่ยว หาอาหารทานที่อ่าวนางนั่นแหล่ะครับ คือสิ่งที่ดีที่สุด เป็นการประเดิมการเที่ยวกระบี่ที่ไม่เหนื่อยเกินไปด้วยในวันแรก เพราะจะได้พักผ่อนหลังจากเดินทาง ได้ทานอาหารทะเลอร่อยๆ แถมด้วยวิวอาทิตย์อัศดงที่สวยงาม แล้วยังจะต้องการอะไรอีกล่ะ...ร้านอาหารแถวๆอ่าวนางที่ผมพอจะจำได้ก็มี วังทรายซีฟู้ด กับร้านครัวชวนชิม ที่หาดนพรัตน์ ส่วนตัวผมชอบที่ร้านครัวชวนชิมครับ อาหารทะเลที่นี่อร่อยมากหลังจากที่วันแรกได้พักเหนื่อยจากการเดินทางแล้ว วันถัดมา ก็เตรียมลุยกันได้ สำหรับคนที่มีเวลาเที่ยวในกระบี่น้อย ผมก็แนะนำให้ไปทัวร์สี่เกาะเป็นหลักครับ เพราะใช้เวลาไม่นาน และคุ้มค่า สี่เกาะที่ว่านี่คือ เกาะปอดะ เกาะไก่ เกาะทับ เกาะหม้อ...วิวแรกนี่คือเกาะปอดะครับ ตอนที่ผมนั่งเรือจากฝั่งอ่าวนางมา จำได้ว่าไม่น่าจะถึง 20 นาทีนะ วิวทิวทัศน์สวยงาม เป็นที่ถูกอกถูกใจของสาวๆชาวต่างชาติที่มาเยี่ยมเยียนหาดทรายที่เกาะปอดะ สวยน่าลงเล่นน้ำมากครับเกาะไก่ หรือเกาะด้ามขวาน เป็นอีกเกาะหนึ่งที่ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดกระบี่ครับ มองจากรูปก็คงพอจะเดากันออกนะครับ ว่าทำไมถึงเรียกกันอย่างนี้มองมุมนี้ ดูเหมือนไดโนเสาร์มากว่านะ...หลังจากนั้นก็มาชมสันทรายที่เชื่อมระหว่าง เกาะทับ กับ เกาะหม้อ หรือที่รู้จักกันดีในนาม ทะเลแหวก...ตอนที่ผมไปนั้นเป็นช่วงก่อนเกิดสึนามิประมาณเดือนครึ่ง ตอนนี้ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับว่า ทะเลแหวกนั้นยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์เหมือนเดิมแค่ไหนวันถัดมา ผมก็เช่าเรือหัวโทง ไปชมอ่าวมาหยา ที่พีพีเล ค่าเช่าเรือตอนนั้น ( ตุลา 2546 ) ประมาณสามพันบาท มากระบี่ทั้งที นอกจากอ่าวมาหยาแล้ว ก็ต้องแวะจุดชมวิวบนเกาะพีพีดอนด้วย แต่ตอนไปถ่ายภาพฟ้าดันปิด เลยออกมาไม่ดีเท่าไหร่ ทางขึ้นนี่ก็เรียกเหงื่อได้พอดูเลยล่ะครับอีกภาพนึงบนเกาะพีพีดอน อ่าวโละดาลัม ตอนนั้นผมว่าเกาะพีพีดอนไม่น่าเที่ยวเลยแหล่ะ เพราะดูแล้วรกๆยังไงไม่รู้ อยากให้หลังสึนามิผ่านไปแล้ว หวังว่าพีพีดอนจะจัดระเบียบสิ่งก่อสร้างให้สวยงามมากขึ้นครับสุดท้ายของวัน ก็มาแวะที่อ่าวไผ่ ที่นี่น้ำใสดีครับ มองลงไปเห็นปลาเลย ขอบคุณน้องสาวคนสวยที่มาเป็นแบบให้นะครับจริงๆแล้วสถานที่ท่องเที่ยวที่กระบี่ยังมีอีกหลายที่ที่ผมไม่ได้ไปมา เป็นเพราะเวลาจำกัดครับ ที่เด่นๆก็มี เกาะลันตา หมู่เกาะรอก (อันนี้ผมอยากไปมากๆ) สุสานหอย วัดเขาถ้าเสือ พายคายัคหมู่เกาะห้อง สระมรกต ผมไปกระบี่ตอนนั้นราวๆสี่วัน แต่สองวันหลังดันไปติดฝน เลยไม่ได้ออกไปไหนขอปิดBlog นี้ด้วยภาพของน้องสาวที่เป็นเจ้าภาพทำให้ผมได้มีโอกาสไปทัวร์กระบี่ในครั้งนี้ด้วยล่ะกันครับ ถ้าสนใจในเรื่องที่พักที่ผมไปพักมาก็แวะตามไปชมใน Blog อีกอันนะครับ "As Nature Intended"