ดั้นด้นค้นหาคุณธรรม

ความเป็นมาของคำว่าสาธุ






28 ตุลาคม 2564 เข้าหน้าหนาวแล้ว Covid - 19 ยังไม่คลี่คลายเลยน้ำก็ท่วมอีก เฮ้อ ! เคราะห์ซ้ำกรรมซัดจริง ๆ ยอดผู้เสียชีวิตแม้จะมีแนวโน้มว่าลดลงแต่ก็ประมาทไม่ได้มาอ่านเรื่องราวน่ารู้และสาระธรรมดีกว่าสำหรับวันนี้ลองมาอ่านความเป็นมาเรื่องของคำว่า สาธุ

หมายเหตุ...ลมหนาวโชยมาอย่างแผ่วเบาแล้ว

ความเป็นมาของคำว่า สาธุ นั้นมีประวัติความเป็นมา ดังมีเรื่องย่อว่าชายคนหนึ่ง

อยู่ในเมืองสาวัตถี แคว้นโกศล ได้ฟังพระแสดงธรรมเทศนาแล้วเห็นโทษในการครองเรือน มีความปรารถนาจะขอบวช เพื่อแสวงหาความสงบในสมณธรรม จึงลาจากภรรยาไปบวช ได้ตั้งใจพากเพียรในสมณธรรมตามที่ปรารถนาไว้ตลอดมา ต่อมาพระเจ้าปเสนทิโกศล ได้ทรงพบหญิงผู้เป็นภรรยาของชายคนนั้น และเมื่อทรงได้ทราบเหตุความเป็นมาทั้งหมด จึงเกิดสมเพชในนางผู้เป็นภรรยา รับสั่งให้นำหญิงนั้นมาเลียงไว้ในพระราชวัง ตั้งเป็นท้าวนางกำนัล อยู่มาวันหนึ่ง

ราชบุรุษนำดอกนิลุบลบัวเขียวมาถวายพระเจ้าปเสนทิโกศล กำมือหนึ่ง พระองค์จึงประทานแก่ท้าวนางคนละดอก ฝ่ายสตรีที่เป็นภรรยาของชายที่ไปบวชนั้น เมื่อไปรับพระราชทานก็ยิ้มแสดงความยินดีดุจนางอื่น ๆ แต่พอดมกลิ่นนิลุบลแล้ว นางกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่จึงร้องไห้พระเจ้าปเสนทิโกศลสงสัยพระทัย จึงตรัสถามว่า เหตุใดนางจึงยิ้ม แล้วร้องไห้ นางจึงกราบทูลว่า ที่นางยิ้มเพราะดีใจที่ทรงพระกรุณาพระราชทานอดกบัวให้ แต่พอดมดอกบัวแล้วหอมเหมือนกลิ่นปากสามีที่ไปบวช นางคิดถึงความหลัง จึงร้องไห้ พระเจ้าปเสนทิโกศล ต้องการพิสูจน์วาจาของนาง จึงโปรดให้ประดับวังด้วยของหอมทั้งปวง เว้นแต่

บัวนิลุบล แล้วอาราธนาสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า และเหล่าภิกษุสงฆ์ ให้มาฉันภัตตราหารในพระราชฐาน แล้วมีพระราชดำรัสถามหญิงนั้นว่า พระมหาเถระองค์ไหนที่นางอ้างว่าเป็นสามี หญิงนั้นก็ชี้ไปที่พระมหาเถระ เมื่อเสร็จภัตตกิจแล้วพระเจ้าปเสนทิโกศล อาราธนาให้พระพุทธเจ้าและภิกษุองค์อื่น ๆ กลับวัดไปก่อน เว้นพระมหาเถระ ขอให้อยู่เพื่อกล่าวอนุโมทนา เมื่อสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จกับ ไปแล้วพระมหาเถระองค์จึงกล่าวอนุโมทนาด้วยน้ำเสียงอันไพเราะ และมีกลิ่นหอมฟุ้งออกจากปากพระเถระรูปนั้นอย่างน่าอัศจรรย์ กลบเสียซึ่งกลิ่นการบูร และพิมเสน ผสมกฤษณา หอมยิ่งกว่าดอกบัวนิลุบล ปรากฏการณ์นี้ปรากฏแก่ชนทั้งทั้งหลายในพระราชวัง ส่วนองค์มหากษัตริย์ เมื่อเห็นจริงดัง

หญิงนั้นกราบทูลก็ทรงโสมนัสน้อมนมัสการ ฝ่ายพระมหาเถระเสร็จสิ้นการอนุโมทนาแล้ว ก็กลับไปสู่วิหาร ครั้นพอ รุ่งเช้า พระเจ้าปเสนทิโกศล จึงเสด็จไปสู่พระวหาร ถวายนมัสการพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วกราบทูลถามว่า เหตุใดปากของพระมหา เถระจึงหอมนักหนา ท่านได้สร้างกุศลใดมาสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงตรัส บุพพกรรมของภิกษุนั้นว่า เพราะบุพชาติปางก่อน ภิกษุรูปนี้ได้ฟังพระสัทธรรมไพเราะจับใจ เต็มตื้นด้วยปีติยินดี จึงออกวาจาว่า สาธุ เท่านั้น อานิสงส์แห่งการฟังพระสัทธรรมให้ผล จึงได้มีกลิ่นปากหอมดังนี้

ถ่ายภาพประกอบเนื้อหาโดย สุชู

มัชฌิมประภาสปุญสถาน


ขอบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำนี้จงเป็นปัจจัยเกื้อหนุนสรรพชีวิตทั้งหลายให้ได้บำเพ็ญอนุตรวิถี กลับจิตแปรใจ ได้คืนจิตเดิม มีความสงบเย็นใจกาย ปราศจากเสียซึ่งสรรพกำทุกข์ ปลอดพ้นจากภัยเวร สงครามข้าวยาก ด้วยเดชะบุญนี้ จงช่วยค้ำชูบิดา - มารดา ครูบาอาจารย์ - ผู้มีพระคุณ ญาติสนิท - มิตรรัก ศัตรูหมู่มาร สรรพเจ้ากรรมนายเวร เทวาทุกชั้นฟ้า อารักษ์ทั่วชั้นดิน เหล่าภูติ นาคา - นาคี เหล่าวิญญา - หมู่เปรต - อสูรกายเหล่าสัตว์ใด ๆ จงเป็นผู้ได้รับอานิสงค์เดชะแห่งผลบุญนี้ท่วนทั่วทุกคนเทอญ







Create Date : 28 ตุลาคม 2564
Last Update : 28 ตุลาคม 2564 16:57:10 น. 0 comments
Counter : 549 Pageviews.  

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณ**mp5**


ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

suchu
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เงียบ ๆ และชอบสันโดษ ไม่พูดมาก ไม่พูดเพ้อเจ้อ ไม่ชอบคุย



https://leemupai.tumblr.com/post/167978216820/in-bangkok-1900


IMG0813 L

[Add suchu's blog to your web]