Bloggang.com : อมยิ้มนิดนิด : จิ่วไจ้โกว Oct 2013 วันที่ 9 ฉงชิ่ง-อู่หลง อุทยานหลุมฟ้าสะพานสวรรค์

จิ่วไจ้โกว Oct 2013 วันที่ 9 ฉงชิ่ง-อู่หลง อุทยานหลุมฟ้าสะพานสวรรค์

2 พฤศจิกายน 2556

วันนี้จะไปเที่ยวอุทยานหลุมฟ้าสะพานสวรรค์ (เทียนเซิงซานเฉียว)
โดยเดินตามรีวิวนี้ไปค่ะ

เที่ยวเมือง อู่หลง (Wulong) ชมอุทยานหลุมฟ้าสะพานสวรรค์ (เทียนเซิงซานเฉียว)
//2g.pantip.com/.../b.../topic/E12701874/E12701874.html

ตื่นแต่เช้าเพื่อจะไปให้ทันรถรอบเช้าสุด แต่พลาดที่ไม่ได้เดินหาทางลงรถใต้ดินไว้ตั้งแต่เมื่อวาน
เพราะทางลงรถใต้ดินที่เราใช้มาที่พักมันอยู่ในห้าง ยังไม่เปิดจนกว่าห้างจะเปิด
รู้ว่ามีทางอื่นที่ลงได้แต่ไปเดินวนหาทางลงอยู่นานมาก กว่าจะเจอ

แล้วก็เดินตามรีวิวไปเลยค่ะ
ถึงสถานีรถบัสไปอู่หลงแล้ว ตามในรูปเป๊ะๆ ไม่ผิดแน่ๆ

เข้าไปซื้อตั๋วไปอู่หลง ได้เป็นรอบ 08.20 น. คนละ 60Y

ยังพอมีเวลาเลยเดินไปกินเกี๊ยวน้ำกับบะหมี่กันก่อนไปขึ้นรถ
สั่งใช้วิธีชี้ๆเอา แต่ดูเหมือนจะไม่เข้าใจกัน ได้แค่เกี๊ยวน้ำมาชามเดียว
แถมรอนานมาก เลยไม่ได้สั่งเพิ่ม เพราะยังไงเราก็เตรียมขนมมาเผื่ออยู่แล้ว

ได้เวลาก็เดินไปขึ้นรถ

(ตามในรีวิวเค้าไปเรียกแท๊กซี่ เราลองถามแล้วโดนฟันเป็นร้อย เลยหาทางไปหาซื้อตั๋วรถตู้ไปจนได้ค่ะ)

พอไปถึงที่อู่หลงประมาณ 11 โมง ก็ให้เดินเข้าไปในสถานีรถเลยนะคะ
เข้าไปที่ช่องขายตั๋ว แล้วบอกเค้าว่าไป เทียนเซิงซานเฉียว ก็ได้
หรือเอารูปอาคารปิรามิด (wulong karst)ให้เค้าดูก็ได้ ค่ารถตู้ คนละ 8 หยวนค่ะ

ใกล้จะถึงจุดลงรถ คนขับจะชี้บอกให้ลงเองค่ะ
ข้างทางกำลังเหลืองสวยเลย

เลยโค้งนี้ไปก็ต้องลงแล้วค่ะ นั่งรถมาประมาณ 30-40 นาที

จุดลงรถแล้วต้องเดินเข้าไปในอาคารค่ะ

ป้ายนี้ช่วยได้ค่ะ เอาไว้ซื้อตั๋วรถตู้ขามา

เราเลือกที่จะมาเที่ยวช่วงท้ายทริป เพราะหลานหาข้อมูลพบว่าหลังวันที่ 1 พ.ย. จะเป็นหน้าโลว์ ราคาค่าเข้าจะปรับลดลงมา

ค่าเข้าก็จะเป็น 95Y ส่วนของหลานได้ส่วนลดเป็น 67.5Y

สภาพอากาศวันที่ไปค่ะ

แล้วก็ลงบันไดไปขึ้นรถบัส

ตั๋วที่ได้มาเป็นตั๋วเข้าชม 3 natural bridge และตั๋วรถบัสเวียนค่ะ

นั่งรถเข้ามาไม่นานค่ะ รถก็มาส่งให้ลงตรงนี้

ทางเดินเข้ามีป้ายบอก เด็กน้อยคนนี้ยืนแอ็คท่าให้แม่เค้าถ่ายรูปเลยแชะมาด้วย น่ารักดี

ทางเข้า (สองคนนั่นเค้ามากับทัวร์ เดินเร็วกว่าเราเลยติดมาในกล้องด้วย)

ทางลงบันไดเล็กน้อย

แล้วก็ไปลงลิฟท์

photo file_zps596b4877.jpg

ออกจากลิฟท์ ก็ต้องเดินลงบันไดต่อไปอีก แต่ไม่ไกล ไม่เหนื่อยอย่างที่คิดค่ะ
ป้ายราคาบอกค่าขึ้นเกี้ยวถ้าเดินไม่ไหว

ภาพนี้ที่ทำให้ดั้นด้นมา

ฉากสำคัญในหนังเรื่อง "ศึกโค่นบันลังก์วังทอง" หรือ Curse of golden flower ของจางอี้โหมว

สะพานที่ 2 เค้าว่าช่องเขาเป็นเหมือนดาบกวนอู

เดินออกมาด้านนอกสะพานที่ 3 แล้วหันกลับไปดูจะเห็นว่าหน้าเหมือนลิง
ดูไปดูมา เหมือน Paul Frank เนอะ

ใกล้ทางออกมีน้ำตก

ที่ทางออกจะมีรถกอล์ฟ รับไปส่งที่ท่ารถบัส แต่ต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก 15 Y
เนื่องจากพวกเราคิดว่าจะไม่ไปเที่ยวน้ำตกอีกที่นึงต่อ เลยเลือกเดินชิวๆกันมาเรื่อยๆ

มาได้ครึ่งทาง เริ่มคิดแล้วว่าจ่ายเงินให้เค้าไปดีกว่า เพราะเป็นทางเดินขึ้นบันได

มองลงไปจะเปลี่ยนใจไปขึ้นรถ 15 Y ก็ไม่ไหวล่ะ

เดินไปถ่ายรูปไป ซักพักก็ถึงท่าขึ้นรถ เพื่อกลับไปด้านหน้าค่ะ
ก็ตามรีวิวที่เค้าบอกมันจะมี 2 ช่อง อีกช่องจะเป็นรถที่พาไปเที่ยวน้ำตกอีกที่นึงค่ะ

รถออกมาใกล้ถึงทางออกแล้ว

เดินออกมาด้านนอก เราเลยแวะถ่ายรูปกันก่อนไปขึ้นรถตู้ที่จอดรออยู่ฝั่งตรงข้าม

ใบแปะก้วยกำลังเหลือง สวยงามที่สุดในทริป

ฟินสุดๆในทริปนี้

ถ่ายรูปเสร็จก็วิ่งไปขึ้นรถตู้ที่คนยังไม่เต็มก็ไม่ออก เราขึ้นรถตู้ประมาณ 4 โมงเย็น
พอเรา 3 คนขึ้นไปรถก็พร้อมจะออก
ไม่รู้คนบนรถจะเคืองเรามั้ย ไปถ่ายรูปอยู่ตั้งนาน

กลับมาที่ท่ารถบัสก็ซื้อตั๋วกลับฉงชิ่ง ได้รอบ 18.00 น. แต่เราเดินไปหารถขึ้นกันเลยค่ะ
รอไม่นานรถก็ออก