All Blog
|
หุบเขาสายรุ้ง (Rainbow Valley) สวัสดีปีใหม่ทุกคนค่ะ ![]() หลังจากเราเขียนแนะนำหนังสือชุดแอนน์ (Anne of Green Gables) 6 เล่มแล้ว และเห็นเพื่อนๆเริ่มอ่าน เริ่มพูดถึงหนังสือชุดนี้กันมากขึ้น วันนี้เราจึงขอมาเขียนถึง 2 เล่มรุ่นลูก ซึ่งเป็นหนังสือในชุดเดียวกันต่อ (แต่ทางสนพ. Words Wonder Publishing พิมพ์จำหน่ายแยกออกเป็นอีกบ๊อกเซตนึง) ให้ทุกคนได้รู้จักมากขึ้นค่ะ ปล. เพื่อนๆคนไหนที่เพิ่งรู้จักและสนใจวรรณกรรมชุดนี้ สามารถอ่านโพสรีวิว เล่ม 1-6 ได้จาก Blog นี้เลยค่ะ และยังติดตามอ่านเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจาก นักแปลได้ที่เพจ Facebook คุณ วรวดี วงศ์สง่า นะคะ เอาล่ะ !!! ตอนนี้ก็ถึงเวลาพาทุกคนไปร่วมผจญภัยใน "หุบเขาสายรุ้ง" พร้อมๆกันเลยยย -------------------------------------------------------------------------------------------- หุบเขาสายรุ้ง (Rainbow Valley) ![]() ![]() ความคิด ... ชีวิต ... ฝัน ... ครั้งวารวันในวัยเยาว์ เรืองรุ่งดั่งรุ้งพราว ยั่งยืนยาว ... ราวนิรันดร์ ~ บทกวี ประพันธ์โดย ลองเฟลโล ~ หนังสือเล่มที่ 7 ในวรรณกรรมชุดแอนน์ : หนูน้อยแห่งบ้านกรีนเกเบิลส์ (Anne of Green Gables) ในเล่มนี้ตัวละครหลักไม่ใช่แอนน์หรือลูกๆ ของเธอ แต่เป็นลูกๆ ของศิษยาภิบาลที่สูญเสียคุณแม่ ผู้เป็นที่รักไป พวกเด็กๆพยายามอย่างเต็มที่เพื่อไม่สร้างปัญหาให้กับคุณพ่อของพวกเขา และเมื่อ ทำผิดพลาดเด็กๆยังมีวิธีการลงโทษตัวเองกันด้วยนะคะ การกระทำต่างๆนั้นช่างกล้าหาญและ น่ารักเหลือเกินค่ะ ![]() และด้วยทักษะการพรรณนาพร้อมความสามารถในการสังเกตผู้คนที่น่าทึ่งของ คุณ ลูซี ม็อด มอนต์โกเมอรี ผู้เขียนถ่ายทอดตัวละครและความสัมพันธ์ของผู้คนไม่ว่าจะเป็น เจ็ม หนุ่มน้อยชอบผจญภัย , วอลเตอร์ หนุ่มน้อยแสนอ่อนโยน รักบทกวีแต่เข้มแข็ง , ฝาแผดที่นิสัยต่างกันคนละขั้ว อย่างสาวน้อยแนนกับได , เชอร์รีย์และ ริลลา น้องเล็กคนสุดท้อง ของครอบครัวแอนน์ และเด็กๆบ้านเมอริดิธ (ครอบครัวศิษยาภิบาล) ประกอบด้วย เจอร์รี พี่ชายคนโตแสนฉลาด ,เฟธ สาวน้อยสุดสวยและร่าเริง , อูนาผู้อ่อนหวาน โอบอ้อมอารี , คาร์ล น้องเล็กที่ชอบแมลงเป็นชีวิตจิตใจ ไหนจะมีแมรี แวนซ์ ที่ไม่ค่อยจะอ่อนโยนแต่มีจิตใจดี ซึ่งเป็นเด็กกำพร้าที่เด็กๆได้ช่วยเหลือไว้ ออกมาอย่างละเอียดอ่อนและหลากสีสัน อ่านแล้ว เหมือนได้ยินพูดคุย เสียงหัวเราะดังก้องออกมาจากหน้ากระดาษ ![]() เด็กๆบ้านศิษยาภิบาลและแมรี แวนซ์ได้พบกับโชคดีที่ไม่คาดคิด ทำให้เรานึกถึงแอนน์ตัวน้อย จากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ได้มาอยู่กับแมทธิวและมาริลลาที่บ้านกรีนเกเบิลส์ อ่านแล้วทำให้ รู้สึกโล่งใจตามไปด้วยค่ะ ถึงแม้ในเล่มนี้แอนน์ไม่ได้มีบทบาทมากเท่าไหร่ แต่หนังสือเล่มนี้เขียนถึงความซาบซึ้งในมิตรภาพ วัยเยาว์ของบรรดาลูกๆทั้งสองครอบครัว นอกจากเรื่องของเด็กๆแล้ว ยังมีเรื่องราวความรักของ หนุ่มสาววัยกลางคนอีกสองคู่ที่โหยหาความรัก ที่กว่าจะมาลงเอยกันได้ ก็ใช้เวลานานเลยทีเดียว หุบเขาสายรุ้ง สถานที่ซึ่งเด็กชายและเด็กหญิงเหล่านี้ค้นพบสถานที่พิเศษของตนเอง เต็มไปด้วย ความสนุกสนานและความรื่นเริง ความยินดีและความสงบสุข ขณะเดียวกันความหนาวเย็นอัน มืดมนจาง ๆ ที่คืบคลานแผ่ขยายเหนือสายรุ้งงาม และเสียงเป่าปี่จากไพเพอร์ (*) ที่ถูกกล่าวถึง ในตอนท้ายบอกเป็นนัยถึงเหตุการณ์ที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้า ... ![]() ![]() (*) ไพเพอร์ ในหนังสือเล่มนี้ปรากฏในนิทานพื้นบ้านของเยอรมัน เรื่อง นักเป่าปี่แห่งฮาเมลิน หรือ ฮาเมลน์ (The Pied Piper of Hamelin) ที่เล่าโดยสองพี่น้องกริมม์ เรื่องมีอยู่ว่า กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว...ที่เมืองฮาเมลินในภาคกลางของเยอรมัน ปี คศ.1248 ได้ถูก กองทัพหนูเข้าก่อกวนโดยเดือดร้อนไปทุกบ้าน พวกมันแพร่พันธุ์เป็นจำนวนมาก แล้วกัดแทะ เสบียงอาหาร อีกทั้งพวกมันยังเป็นพาหะนำโรคร้ายมาอีกด้วย แม้แต่แมวก็ยังต้องหนีเพราะหนู มีจำนวนมากมายมหาศาล ถึงขนาดจะเข้ามารุมทำร้ายแมวเสียด้วยซ้ำไป บรรดาชาวเมืองรับ ไม่ได้กับเหตุการณ์เหล่านี้ต่างหาทางกันกำจัดพวกหนู โดยพากันออกเงินจนได้ก้อนหนึ่งเพื่อให้ เป็นรางวัลแก่ผู้ที่จะมาปราบหนูเหล่านี้ได้ จากนั้นก็มีคนต่างเมืองเดินทางมาที่นี่และรับอาสากำจัด หนูให้ แต่จนบัดนี้ก็ไม่มีใครอาสามาปราบฝูงหนูเหล่านี้เลย ในยามนี้เองก็มีชายลึกลับผู้หนึ่งพร้อม กับปี่ที่เครื่องดนตรีคู่กายของเขาปรากฏตัว เขาอาสาจะปราบหนูให้ชาวเมืองแห่งนี้ และ ชาวเมือง ก็ให้คำสัญญาว่าจะให้สิ่งตอบแทนใดๆ ก็ได้ตามที่เขาต้องการ เมื่อตกลงกับชาวเมืองเรียบร้อย ชายประหลาดก็หยิบปี่ถุงออกมาและเป่าเพลงที่แปลกประหลาด พร้อมกับออกเดินไป ท่ามกลาง สายตาสงสัยของชาวเมืองนั้นเอง กองทัพหนูทั้งหลายก็ออกมาจากที่ซ่อนจากบ้าน จากโบสถ์ ทุกหนทุกแห่งจนกลายเป็นขบวนแถวยาว เมื่อได้ฟังเพลงจากปี่ของเขาอย่างหลงใหล แล้วคน ประหลาดคนนั้นก็เริ่มเดินตรงออกจากหมู่บ้านพร้อมกับกองทัพหนูที่วิ่งตามหลังเขา จนไปถึงแม่น้ำ เวเซอร์ที่ไหลผ่านหมู่บ้านแห่งนี้ ชาย นักเป่าปี่ก็หยุดยืนอยู่ริมแม่น้ำ ในขณะที่ฝูงหนูพากันกระโจน ลงน้ำไปเรื่อยๆ จนในไม่ช้าก็ไม่มีหนูเหลืออยู่แม้แต่ตัวเดียว และทั้งหมดก็จมน้ำตายในแม่น้ำนั้น เอง ทำให้หมู่บ้านแห่งนี้ปลอดจากการรบกวนของหนูเป็นที่เรียบร้อย หลังจากนั้นชายประหลาดก็ มาทวงรางวัลจากชาวบ้าน แต่ชาวบ้านทั้งหลายเกิดความเสียดายเงินขึ้นมา จึงไม่ยอมจ่ายค่า ตอบแทนให้ พร้อมกล่าวว่า "นายไม่ได้ ทำอะไรเสียหน่อย พวกหนูกระโดดลงน้ำไปเองต่างหาก" และยังขู่จะจับขังนักเป่าปี่อีกด้วยถ้าเขายังมามัวตื๊ออยู่ ชายประหลาดโกรธมากเขากล่าวทิ้งท้ายว่า "พวกคุณต้องรักษาสัญญา ฉันจะเอาสิ่งสำคัญที่สุดของพวกคุณไป "แต่ก็ไม่มีใครสนใจ ยังกลับ หัวเราะเยาะเขาเสียอีก เขาหายตัวไปจากหมู่บ้านแห่งนั้น และในวันที่ 26 มิถุนายน ค.ศ. 1284 ชายประหลาดพร้อมปี่กลับมายังเมืองฮาเมลินอีกครั้ง เขาเริ่มเป่าปี่บทเพลงแปลกประหลาดบท ใหม่บนถนน ซึ่งคราวนี้ผู้ติดตามเสียงปี่ของเขาที่ออกจากบ้านทุกหลัง กลับกลายเป็นเด็ก เด็กๆ ที่มีอายุมากกว่า 4 ปีต่างก็มารวมกันและเดินตามเขาไปจนใน ไม่ช้าเด็กชายหญิงจำนวน กว่า 130 คนต่างก็เต้นรำร้องเพลงตามทำนองของเสียงปี่ออกไปนอกเมือง และจากนั้นเป็นต้นมา ก็ไม่มีใครพบเห็นชายประหลาดและเหล่าเด็กๆ อีกเลย ![]() ![]() … แต่ลางบอกเหตุนี้จะเชื่อมโยงกับอะไรนั้น อยากให้เพื่อนๆติดตามอ่านกันเองในหนังสือนะคะ อย่างไรก็ตามเนื้อหาโดยรวมเป็นเรื่องราวที่ให้ความอิ่มเอมใจและคุ้มค่ากับความตั้งใจที่จะอ่าน ให้จบค่ะ หวังว่าเพื่อนๆจะให้โอกาสลองอ่านแอนน์ให้ครบชุดทั้ง 8 เล่มไปด้วยกันนะคะ ![]() ถ้าเพื่อนๆชอบการแนะนำ หรือ รีวิว หนังสือของเรา เข้ามาพูดคุยและเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ค่ะ ![]() |
สมาชิกหมายเลข 4642774
![]() ![]() ![]() ![]() | |||