เรื่องลึกลับ EP 10 เส้นทางแปลกๆกับ GPS หลอน
------------------------------------------------------------------
จากเว็บไซด์ Pantip สมาชิกหมายเลข 1787910 https://pantip.com/topic/39065502
เรื่อมงมีอยู่ว่า น้องชายคนเล็กของผมได้สอบติดมหาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดสกลนคร ด้วยที่ว่าบ้านผมอยู่จังหวัดชลบุรี แต่น้องไปเรียนไกลถึงจังหวัดสกลนคร ด้วยความที่ห่างบ้านเลยทำให้ไม่มีคนคอยเตือน น้องผมก็เริ่มเกเร ในระหว่างเรียนน้องผมก็เข้าเรียนบ้างไม่เข้าเรียนบ้าง งานการไม่ส่งบ้าง จนสุดท้ายน้องผมเรียนได้ปีเดียวก็โดนรีไทล์ ด้วยเกรดไม่ถึงตามเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งคราวนี้มันจึงเกิดปัญหาตรงที่ว่า ข้าวของเครื่องใช้ที่ขนไปใช้ตอนเรียน ยังอยู่ที่หอทั้งหมด แม่ผมจึงวางแผนไว้ว่าจะเดินทางช่วงสงกราต์จะแวะหาญาติที่จังหวัดขอนแก่น และไปสกลนครขนของน้องกลับเลยทีเดียว ในวันเดินทางแฟนของผมขอติดรถกลับบ้านที่จังหวัดสระบุรีด้วย ทำให้ผมต้องเลือกใช้เส้นทางหลักจากจังหวัดสระบุรีผ่านเขาใหญ่ ซึ่งเส้นทางนี้คงหนีไม่พ้นเรื่องรถติดที่ติดมหาศาลในช่วงวันหยุดยาวแบบนี้ ทำให้พ่อผมคิดว่าถ้าไปทางนี้แล้วรถติดก็หาเส้นทางอื่นหลบออกไปชัยภูมิแล้วค่อยไปเข้าขอนแก่นดีกว่า ผมกับน้องช่วยกันเปิด GPS ในมือถือเพื่อหาเส้นทางลัดหลบรถติด โดยน้องผมกดหาเส้นทางเท่าไหร่มันก็ให้ไปทางเดิมไม่ว่าจะใช้มือถือ พ่อหรือแม่ ก็คือมันไปได้ทางเดียว คือทางที่รถติดอย่างโหดร้ายทารุณ แต่มันดันมีมือถืออยู่เครื่องนึง ซึ่งก็คือเครื่องผมเองมันไปเจอเส้นทางลัดที่หลบเข้าไปในเขาและมันเป็นเส้นสีฟ้าใน GPS ครอบครัวจึงตกลงเปลี่ยนไปใช้เส้นทางตามที่ GPS ของผมบอก ซึ่งมันก็แปลกอยู่อย่างนึง เส้นสีฟ้าๆที่เป็นถนนให้ผมไปเนี่ยใน GPS มันขึ้นว่าถนนไม่มีชื่อ แต่ผมกฝ้ไม่ได้สนใจอะไรคิดว่าหลบรถติดได้ก็พอเเล้ว ซึ่งเส้นเนี้ย มันต้องยูเทรินรถกลับมาเข้าสระบุรี แล้วมันจะมีซอยเล็กๆให้เลี้ยวขวาเข้าไป ซึ่งปากทางเข้าซอยมีป้ายเขียนไว้ว่า โอโซน ซึ่งตอนแรกที่ขับเข้าไปก็ไม่มีอะไรมีบ้านคนอาศัยอยู่บ้างห่างๆกัน และมีรถวิ่งตามหลังมาอยู่ 2-3 คัน แต่พอขับเข้าไปได้ซักพัก บ้านที่อยู่ข้างทางมันไม่มีให้เห็นอีกเลย ทางทีขับจากถนนดีๆ กลายเป็นถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อ และถนนรถวิ่งสวนได้แค่คัน 2 คันเท่านั้น ต้นไม้รอบๆก็ดูอึมครึมโค้งเป็นอุโมงค์คลุมถนนไปตลอดทาง รถที่ตามหลังมาก็ไม่มี ช่วงนั้นน่าจะประมาณบ่าย 4 โมง แต่บรรยากาศรอบๆเหมือนประมาณ 5-6 โมงเย็น และที่พีคที่สุดคือระหว่างทาง ได้เจอศาล ศาลนึง ศาลนี้จะแปลกกว่าศาลอื่นๆที่ผมเคยเห็น ซึ่งศาลนี้เป็นเนินหินก้อนใหญ่ๆก้อนนึงและคงจะมีชาวบ้านแถวนั้นเอาพวกเครื่องเซ่น ชุดนางรำมาถวาย วางอยู่เต็มเนินหินนั้นไปหมด แต่ผมก็ไม่ได้มองเก็บรายละเอียดอะไรมากมายเพราะกลัวว่าถ้ามองนานๆเก็บรายละเอียดทั้งหมดจะไปเจอใครนั่งอยู๋บนเนินหินรึเปล่า ซึ่งมันดูเเล้วโคดหลอน ผมจึงมองผ่านๆ ซึ่งด้วยความที่ผมปากไว เมื่อรถขับเลยศาลไปซักแปป ผมเลยพูดเล่นกับพ่อว่ามาตอนนี้ยังหลอนขนาดนี้ กลางคืนจะไม่ผ่านทางนี้เด็ดขาด แล้วอีกประมาณ ครึ่งชั่วโมงผมก็ออกมาจากทางหลอนนี้ไปโผล่ชัยภูมิ กว่าจะเข้าถึงขอนแก่นก็เกือบ 3 ทุ่ม คืนนั้นจึงนอนค้างบ้านญาติที่ขอนแก่น แล้ววันรุ่งขึ้นผมก็ออกเดินทางแต่เช้าเพื่อไปสกลนครและคิดว่าจะเดินทางกลับวันนี้เลยเพราะคิดว่าคนที่ไปเที่ยวคงยังไม่กลับกันรถจะยังไม่ติด ซึ่งระหว่างทางจากขอนแก่นไปสกลนครก็ไม่มีอะไร จนถึงขากลับ ขับกลับมาถึงโคราชเตรียมขึ้นเขาปัก แต่จนแล้วจนรอดมันดันมีคนคิดแบบเดียวกับครอบครัวผมคือกลับวันนี้เลย รถเลยติดทางขึ้นเขาปักแต่ก็ไม่ได้มากมายอะไร ด้วยความที่ผมรีบอยากกลับถึงบ้านไวๆ ซึ่งตอนนั้นก็ประมาณ 5 โมงกว่าๆแล้วด้วย ผมเลยเปิดหาเส้นทางใน GPS เล่นๆ มันดันไปเจอเส้นทางนึงขึ้นสีฟ้ายาวๆๆ ไปเลยจ้าาา ผมจึงบอกพ่อ สรุปพ่อผมเปลี่ยนเส้นทางไปทางเดียวกับที่ GPS ผมบอก ทุกคนคงคิดใช่มั้ยว่าตอนขาไปเจออะไรแบบนั้นแล้วยังจะเชื่อ GPS ถนนเส้นสีฟ้าๆยาวๆนี่อีกหรอ แต่ก็อย่างที่คิดแหละครับผมเชื่อและไม่ได้คิดถึงเรื่องที่เจอเมื่อวาน เพราะเมื่อวานขาไปผมไปอีกทางนึงและไปโผล่ไปชัยภูมิ แต่ขา กลับผมมาถึงเขาปักแล้วแต่รถมันติดผมเลยแยกออกไปอีกทางตามที่ GPS บอกเลยคิดว่ามันไม่มีทางที่จะใช่ทางเมื่อวานแน่ๆ ซึ่งมันก็จริงครับระหว่างทางมันไม่เหมือนกับที่ผมผ่านเมื่อวานเลย มีบ้านคน มีตลาด มีรถชาวบ้านแถวนั้นวิ่งกันเยอะแยะ แต่ความดีใจของผมก็หายไปเมื่อขับตามไอเส้นสีฟ้าๆใน GPS ได้ประมาณครึ่งชั่ว รอบรถมีแต่ความมืดไม่มีไฟข้างทาง รถที่ขับตามหลังมาก็หายไป ข้างทางก็มีแต่ป่า ถนนก็มีเริ่มมีแต่หลุมแต่บ่อ หมอกก็เริ่มลงหนา ซึ่งหนาขนาดที่ว่ามองทางข้างหน้าเห็นได้ประมาณ เมตร 2 เมตร ตอนนั้นเวลาก็น่าจะประมาณทุ่มนึงแล้ว ทุกคนในรถเริ่มเงียบบรรยากาศรอบๆเริ่มวังเวง ขับอยู่บนถนนคันเดียว เปลี่ยวๆ ซึ่งจะขับเร็วๆให้พ้นทางนี้ก็ไม่ได้เนื่องจากถนน มันเป็นหลุม และเหมือนจะขับขึ้นลงเขาตลอดทาง ซึ่งผมบอกตรงๆในใจผมไม่ได้คิดถึงเรื่องถนนที่เจอเมื่อวานเลย เพราะปากทางที่ผมเข้ามาวันนี้ไม่เหมือนกับปากทางออกที่ผมออกเมื่อวานเลย ซึ่งบรรยากาศรอบๆก็เป็นแบบนี้ไปตลอด จนผ่านค่ายทหารเก่าๆ (ผมจำชื่อไม่ได้แล้วว่ามันเขียนว่าอะไรแต่มันเกี่ยวกับทหาร) ซึ่งมองเข้าไปแล้วมันมืดไม่มีไฟเหมือนค่ายทหาร..ร้างง รอบๆแถวนั้นไม่มีบ้านคน....ไม่รถขับสวน.....ไม่รถขับตาม มืดมากกกก......จนขับผ่านค่ายทหารที่ผมว่ามาได้ประมาณซัก 5 นาที พ่อที่เป็นคนขับกับแม่ผมที่นั่งหน้า เห็นผู้ชายวันรุ่นมีผ้าโพกปิดหน้าไว้คนนึงมายืนๆโบกๆอยู่หน้ารถ แต่ก็ไม่เข้าใจว่ามาโบกอะไร ทำไม พ่อผมก็ไม่ได้สนใจขับผ่านไป แล้วอีกอย่างนึงก็กลัวเป็นโจรด้วย เมื่อขับผ่านวัยรุ่นคนนั้มาได้ไม่นาน ก็ขับผ่านแนวกำแพงขาวๆ ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดน่าจะเป็นกำแพงวัด ซึ่งระหว่างที่ขับตามแนวกำแพงวัดอยู่นั้น ผมได้ยินเสียงอะไรซักอย่างๆคล้ายๆกับเสียงระทัดที่ยิงขึ้นรัวๆๆๆๆๆๆ ผมจึงมองหาที่มาของเสียง จนไปสะดุดตากับแสงสีส้มๆวับๆ ที่เห็นอยู่กระจกหน้ารถห่างไปประมาณ 50 เมตร ซึ่งตอนแรกผมกับแม่เข้าใจว่าเป็นวัยรุ่นตีกัน ผมจึงเริ่มเพ่งและรถก็ขับเข้าไปไกล้เรื่อยๆจนผมเห็นชัดขึ้น จนรู้ว่าไอแสงสีส้มๆที่ผมเห็นไกลๆมันคือแสงจากปลายกระบอกปืนที่มีคนยืนยิงอยู่บนท้ายรถกระบะ 2-3 คน และมีคนยืนอยู่บนพื้นถนนอีกประมาณนึงแต่รวมๆมีกี่คนผมไม่ได้สังเกตุ ตอนนั้นผมและทุกคนบนรถตกใจมากไม่รู้จะเอาไงว่าจะขับไปต่อดีหรือถอย ถ้าถอยก็ผ่านไอทางเปลี่ยวๆที่ขับมาเป็นชั่วโมง แต่ถ้าขับไปข้างหน้าโดนกระสุนตายแน่ จนสุดท้ายมี หนึ่งในคนกลุ่มนั้นโบกรถประมาณว่าให้ขับไปเลย พ่อผมจึงตัดสินใจให้ทุกคนก้มหัวลงต่ำและขับผ่าดงกระสุนที่เค้ายิงกันอยู่นั้นไป โดยเมื่อขับผ่านดงกระสุน ตรงนี้ไปไม่นานก็เจอทางออก ซึ่งมันโคดแปลกทางออกมันเป็นทางเดียวกับทางที่ผมเข้ามาเมื่อวาน ซึ่งผมจำได้เพราะว่ามันมีป้ายที่เขียนว่า โอโซน ป้ายเดียวกับเมื่อวานอยู่ตรงปากซอย เรื่องก็มีประมาณนี้แหละครับ
**** แต่มันหลายเรื่องที่ผมสงสัย ที่อยากให้ทุกคนช่วยผมคิดหน่อย****
1.ขาไปสกลนครที่ผมหลบรถติดไปตามทางที่ GPS บอก ได้ผ่านทางที่จะไปเขาใหญ่และไปโผล่ชัยภูมิ แต่ขากลับผมกลับมาทางเขาปักหลบรถติดและมาโผล่ป้ายโอโซนที่ผมเข้าไปเมื่อวาน มันเป็นไปได้ยังไง ผมลืมบอกไปที่รู้ว่าเป็นทางเดียวกันกับเมื่อวานเพราะน้องชายกับพ่อผมเห็นศาลที่เป็นเนินหินศาลเดิมระหว่างด้วย
2.ตรงที่มีคนยิงปืนซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าใช้ทหารรึเปล่า โดยบริเวณที่ทหารยิงเข้าไปมันเป็นกำแพงวัดซึ่งจะยิงเข้าไปทำไม และถ้าเป็นทหารหรือคนจริงๆยิงๆระหว่างที่ผมขับผ่าดงกระสุน ทำไมไม่มีกระสุนซักลูกเดียวโดนรถเลย
3.มีใครเคยไปเส้นทางเดียวกับผมบ้าง เจอเหตุการณ์แปลกๆแบบผมรึเปล่า
**สุดท้ายต้องขอโทษด้วยครับที่ผมอธิบายทางได้ไม่ละเอียดเนื่องจากมันผ่านมา 2 ปีเเล้วเลยจำรายละเอียดทั้งหมดไม่ได้ และหากอ่านไม่เข้าใจหรืองง ก็ต้องขออภัยด้วยครับนี่เป็นตั้งกระทู้ที่เล่นเรื่องราวเรื่องแรกของผม อาจจะอ่านแล้ว งงๆ บ้าง ***
-------------------------------------------------------------------------
social media for contact
Facebook Phiphat rakseng
instragram Phiphat Rakseng
twitter Phiphat Rakseng
youtube Phiphat clip
Tiktok Phiphat Rakseng
Line id phiphatloolipop23451
Discord phiphat rakseng
instragram Phiphat Money
--------------------------------------------------------------------------
อาจเป็นรูปภาพของ กลางแจ้ง และ ข้อความ
 



Create Date : 03 ธันวาคม 2565
Last Update : 3 ธันวาคม 2565 11:18:27 น.
Counter : 449 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 6567373
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



https://phiphathnrakseng.wixsite.com/phiphatmemeuniverse
All Blog