4 พย 67 ; 27 ตค 67 ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค
ได้ข่าวขบวนเสด็จทางชลมารค 27 ตุลาคม 2567 รีบจองโรงแรมริมแม่น้ำเพื่อว่าจะได้ร่วมในบรรยากาศ สมัยเรียนอยู่ศิริราช เคยมีการซ้อมขบวนเสด็จและขบวนเรือ คุณแม่อายุมากแล้ว ขบวนพยุหยาตราทางชลมารคไม่ได้มีบ่อยๆ แม้คุณแม่จะบอกว่าเคยชมหลายครั้ง แต่ก็ยังอยากให้คุณแม่ได้ไปชม ต้องวางแผนผู้สูงอายุจะไปยังไงและนั่งรอคอยได้นานเท่าไหร่ จึงจำเป็นต้องจองห้องพักเพื่อใช้เวลานั่งชมไม่นานมาก
เป็นอีกวันที่ต้องรีดพลังงานมาใช้อย่างมากมาย เพราะไม่รู้ว่าอีกนานเท่าไหร่จะมีโอกาสได้ชมอีกครั้ง และวันนั้นจะยังไปชมไหวรึเปล่า ทีมเราออกจากบ้านตั้งแต่เที่ยง จอง Grab รถตู้ไว้ล่วงหน้าเพราะโรงแรมนี้ไม่มีที่จอดรถ สัญญาณไม่ค่อยดีละ รถคันนั้นทั้งเก่ามีกลิ่นไม่น่าหายใจ และวิ่งช้ายิ่งกว่าเต่า ยังโชคดีที่รถไม่ติดแต่าค่อยๆกระดึ๊บๆไป
เข้าห้องพักพอได้เห็น เรือกำลังลากจูงเข้าไปตั้งขบวน ที่ท่าวาสุกรี ยังไม่ทันหายเหนื่อยหายร้อนจากการเดินทาง
14 น. พนักงาน รร. เคาะประตูให้ลงไปอยู่ข้างล่าง ขอปิดม่านนอนงีบรอในห้องพอให้หายเหนื่อยสักครู่ก็ไม่ได้ ขบวนเรือยังไม่ตั้งขบวนกันเลย ไม่ได้ๆๆๆ ให้ไปนั่งรออุดอู้อยู่ในพื้นที่หน้าพนักงานต้อนรับห้องคับแคบสัก 4 X 3 เมตร ปราศจากเครื่องปรับอากาศ จะขอเคลื่อนย้ายไปในห้องอาหารที่มีความเย็นบ้างก็ไม่ได้ๆๆๆ จะขอเคลื่อนย้ายไปสูดอากาศที่ลานระเบียงริมน้ำก็ไม่ได้ๆๆๆ...ตรงนี้ต้องบอกว่า พนักงานทุกนางทำหน้าที่ได้ประทับใจเข้มงวดและโหดสุดๆ
ในโลกนี้ก็ยังมีคนใจดีมีความยืดหยุ่น น้องพนักงานหนุ่มหน้าตาน่ารักท่านหนึ่ง ที่รับผิดชอบดูแลจัดที่นั่งชม อนุญาตให้ทีมเราออกมานั่งสูดอากาศบริสุทธิ์ที่บริเวณนี้ได้ก่อนเวลา ทั้งที่บอกน้องไปแล้วว่าไม่มีใครอนุญาตให้มานั่งรอข้างนอกนี้ได้ น้องบอก "นั่งได้เลยครับ ผมรับผิดชอบบริเวณนี้เอง ผมอนุญาต " ถ้าไม่ได้ความกรุณาของหนุ่มน้อยนี้ ทีมเราคงต้องกลับบ้านแล้วเพราะไม่สามารถนั่งรอในที่อุดอู้ขนาดนั้นได้เป็นเวลานานๆแน่ แต่ก็ไม่เคยเสียใจถ้าเราพยายามทำทุกอย่างเต็มความสามารถแล้วแค่ไหนก็แค่นั้น รับได้และเข้าใจทุกคนทำตามหน้าที่ของเขา
ทีมเราเลยเป็นทีมแรกที่มานั่งรอที่บริเวณริมน้ำ ได้นั่งชมบรรยากาศทั้งสองฝั่งแม่น้ำ
เก้าอี้ด้านหน้า คือ เก้าอี้ที่ทางโรงแรม ขายให้ผู้เข้าชมพร้อมรับประทานอาหารในห้องอาหาร ทำให้ไม่มีที่นั่งว่างในร้านอาหารเล็กๆที่มีห้องปรับอากาศนั้น มีการซักซ้อมสำหรับผู้เฝ้าชมรับเสด็จ ห้ามเซลฟี่ ห้ามลุกขึ้นยืน ทุกคนร่วมมือด้วยดี
การรอคอยของเราก็ไม่ซีเรียส ถ้าคุณแม่บอกไม่ไหว พวกเราก็กลับ แต่คุณแม่ดูตื่นเต้นไปด้วยไม่ยอมกลับบ้านก่อน แม้ว่าคุณแม่จะเคยชมมาหลายครั้งเพราะบ้านเราอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยามาก่อน แต่คงเป็นการระลึกความทรงจำเช่นเดียวกันกับเรา
พวกเราเฝ้าชมขบวนเรือและชมพระบารมี พระบารมีและบุญญาธิการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้น ประจักษ์ชัดแก่ทุกคน เมื่อพระองค์เสด็จประทับเรือพระที่นั่ง แสงแดดที่ร้อนจัด กลับหุบลงอากาศเย็นสบายลมพัดตลอดพระราชพิธี พลอยให้ไพร่ฟ้าที่รอคอยรับเสด็จร่มเย็นไปทั่วหน้า เหมือนเมื่อครั้งเสด็จพระราชพิธีบรมราชาภิเษกที่มีพระอาทิตย์ทรงกลดอยู่ตลอด
ขบวนเรืองดงามทั้งเรือและการแต่งกายของทุกคนบนเรือ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์เคลื่อนผ่านมาอยู่กลางขบวน มองเห็นระยะไกลกลางแม่น้ำ เสียงเห่เรือดังพอประมาณ ไม่เหมือนในอดีต ที่ยังจำได้ เสียงผู้เห่เรือและเสียงกรับ จะดังมากดังลั่นแม่น้ำท่ามกลางความเงียบสงบ พร้อมกับเสียงฝีพายที่ช่วยกันขานรับ ฮา ไฮ สมัยนั้นใครที่อยู่บรรยากาศตรงนั้นต้องขนลุก สมัยนี้ลดความดังของเสียง และไม่มีการปิดการจราจรบนสะพานพระปิ่นเกล้า
นับเป็นวันดีๆอีกวัน ได้ซึมซับบรรยากาศถิ่นเก่า ได้อนุโมทนาบุญกุศลจากพระราชพิธีถวายผ้าพระกฐินเช่นเดียวกับเทพเทวดาทั่วท้องฟ้าที่มาร่วมอนุโมทนาจนบรรยากาศร่มเย็นครึ้มไปทั่ว เจ้าหน้าที่จิตอาสาทุกฝ่ายร่วมใจทำงานกันอย่างดี การจราจรคล่องตัวมาก
Create Date : 04 พฤศจิกายน 2567 |
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2567 19:35:03 น. |
|
28 comments
|
Counter : 347 Pageviews. |
|
|
อาจารย์เต๊ะ ไปบ่อย เพราะต้องไปหาหมอประจำ
แต่วันนี้ได้เครื่องมือทำสวนมาใหม่ กำลังเห่อ ตัดหญ้า ตัดต้นไม้ซะหมดแรง 555
เดี๋ยวพรุ่งนี้มาใหม่นะครับ