Bloggang.com : ปลาทอง9 : Miso Ramen, Genghis Khan, Soup Curry.... Sapporo

Miso Ramen, Genghis Khan, Soup Curry.... Sapporo

ถ้าพูดถึงแหล่งอาหารอันอุดมสมบูรณ์ของญี่ปุ่น จะเป็นที่ไหนไม่ได้นอกจากเกาะฮอกไกโด เพราะที่นี่ถูกขนานนามว่าเป็น Kingdom Of Food ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์จากนมเนย ช๊อกโกแลตแสนอร่อย ซูชิชั้นเลิศ หรือปูยักษ์ ล้วนมีต้นกำเนิดหรือแหล่งผลิตอยู่บนเกาะนี้ทั้งสิ้น แต่ยังมีอาหารอีกหลายชนิดที่มีจุดเริ่มต้น หรือเป็นที่นิยมจากเกาะฮอกไกโด เอนทรี่นี้จะขอพาไปชิมซักสองสามอย่าง ซึ่งร้านทั้งหมดอยู่ในซัปโปโรนะคะ

Image Hosted by ImageShack.us

เริ่มจาก Miso ramen ที่ถือกำเนิดจากซัปโปโรเมื่อประมาณห้าสิบกว่าปีก่อน ที่ร้าน Aji no Sanpei โดยที่ลูกค้าคนนึงเอ่ยปากว่าอยากให้ทำราเมนใส่ในมิโสะซุป แทนที่จะเป็นซุปในแบบเดิมๆ(shio ramen, shoyu ramen, tonkotsu ramen) นั่นจึงเป็นที่มาของมิโสะราเมนที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้

มาถึงถิ่นเค้าแล้ว ต้องตามหาร้านแรกที่เริ่มทำมิโสะราเมนให้ได้ ฉันได้พิกัดคร่าวๆมาว่า ร้านนี้อยู่ชั้นสี่ ของห้าง Daimarufujii ซึ่งอยู่แถวๆ Odori ถ้าหากมาทางเมโทรให้ใช้ Exit 12 แต่โรงแรมเราอยู่แถวนั้นก็เลยเดินตามหาเอา วันแรกมาไม่ทัน มาถึงทุ่มนึงตึกนี้ปิดแล้วค่ะ

กลับมาใหม่อีกหลายวันถัดมา ตึกนี้เป็นตึกที่ขายอุปกรณ์เครื่องเขียนนะคะ กดลิฟท์ขึ้นมาที่ชั้น 4 เลยค่ะ ออกลิฟท์แล้วเลี้ยวซ้าย จะเห็นมุมเล็กๆที่เล็กมาก หน้าร้านเป็นแบบนี้ค่ะ นี่แหละ "Aji no Sanpei" ร้าน Miso ramen ร้านแรกของญี่ปุ่น

Image Hosted by ImageShack.us

เรามาถึงสิบเอ็ดโมงกว่า(ร้านเปิดสิบเอ็ดโมง) แต่ที่นั่งเต็มหมดแล้ว ทั้งร้านมีที่นั่งไม่เกิดสิบห้าที่ เป็นร้านเล็กๆมีที่นั่งยาวหน้าเคาท์เตอร์เท่านั้น และมีเก้าอี้นั่งรออยู่ด้านหลังคนนั่งกิน แต่รอไม่นานค่ะ ซักสิบนาทีก็ได้ทานแล้ว ร้านเล็กนิดเดียวแต่นับพนักงานได้ถึงห้าหกคน แสดงว่าลูกค้าเยอะตลอด

คุณลุงที่อยู่ซ้ายมือของภาพ คือคุณลุงเจ้าของร้าน น่าจะเป็นรุ่นที่สองที่สืบทอดการทำมิโสะราเมน

Image Hosted by ImageShack.us

ได้นั่งใกล้ชิดจนแทบจะเห็นวิธีการทำกันเลย ได้ยินเสียงผัดผักผัดหมูซู่ซ่าชวนหิวดีจริงๆ(มิโสะราเมนใช้วิธีผัดผักและหมูสับค่ะ อันนี้ได้ยินกับหูเห็นกับตาเลย จากตอนแรกคิดว่าผักใช้ลวกเอาซะอีก)

Image Hosted by ImageShack.us

เห็นคนที่นั่งข้างๆ ขนาบซ้ายขวาเราสั่ง shumai มาทานด้วย งั้นสั่งมั่ง.... อร่อยๆๆๆๆ

Image Hosted by ImageShack.us

เราสั่งมิโสะราเมนไปคนละถ้วย ความเห็นส่วนตัวน้ำซุปเลี่ยนไปหน่อยค่ะ จนต้องตักพริกผัดน้ำมันที่วางอยู่ตรงหน้าโปะเข้าไปเยอะๆ แต่ก็ไม่แย่นะคะ เพราะคุณสามีอิชั้นฟาดเรียบแทบจะยกถ้วยราเมนซดน้ำกันเลย แต่ฉันไม่ชอบอะไรเลี่ยนๆ คะแนนเลยไม่พุ่งเท่าไหร่

Image Hosted by ImageShack.us

ฉันกลับไปชอบร้าน Aji No Tokeidai มากกว่า (ชื่อเกือบเหมือนกันเลยทีเดียว) เลี่ยนอยู่เหมือนกัน แต่ด้วยน้ำซุปที่เข้มข้นกว่า(ร้านข้างบนรสจะนวลๆผู้ดีๆ)ถูกปากคนชัดเจนอย่างฉัน เลยให้คะแนนร้านนี้สูงกว่านิดค่ะ

แต่ร้านต้นตำรับเค้าก็ต้องมีดีอยู่แน่นอนค่ะ ไม่งั้นคนไม่เต็มตั้งแต่เปิดร้านหรอก เพราะที่ซัปโปโรมีร้านราเมนเป็นร้อยเป็นพัน ถ้ามีคนยอมนั่งรอแทนที่จะไปร้านอื่นแสดงว่าเค้าก็มีของอยู่.... มาถึงที่แล้วไม่ลองก็ไม่รู้นะคะ.... รายละเอียดของร้านค่ะ ajino-sanpei.com

================================================================

มาถึงร้านที่สองกันบ้าง ร้านนี้เป็นร้านที่ฉันจะตัดทิ้งตั้งแต่แรกแล้ว ที่รู้ว่าเนื้อเจงกีสข่านอันโด่งดังของฮอกไกโดคือเนื้อแกะ อิชั้นก็ขอบายเลย เพราะแค่ lamb หรือเนื้อลูกแกะอิชั้นก็อุดจมูกแล้ว แต่เจงกีสข่านของที่นี่คือเนื้อ mutton หรือแกะที่โตเต็มที่ คุณเอ๋ยมันจะเหม็นขนาดไหน

แต่เนื่องจากคนที่ไปด้วยชื่นชอบอาหารปิ้งย่างมากๆ และไม่รังเกียจเนื้อแกะด้วย ฮีอุตส่าห์หาวันพักร้อนพาฉันไปชมซากุระจนได้ ก็ถือว่ามื้อนี้ให้รางวัลฮีก็แล้วกัน ส่วนตัวเองจะสั่งอย่างอื่นมากินแทน.... แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นว่าฉันชอบร้านนี้มากๆ

Image Hosted by ImageShack.us

ร้านที่ว่าคือร้าน Daruma ร้านนี้เราถามข้อมูลจากโรงแรมว่าแถวนี้มีร้านไหนอร่อยบ้าง เค้าแนะนำร้านนี้มาค่ะ เดินจากโรงแรมแป๊ปเดียวก็ถึง

พอเดินมาถึงหน้าร้าน เอ๊ะ.... เหมือนคุ้นๆว่าในพันทิปหลายๆคนก็แนะนำที่นี่ พอกลับโรงแรมไปเช็คดูก็ใช่จริงๆด้วย ร้านนี้อยู่แถว Susukino แต่อธิบายทางไม่ถูก ดูจากเวปเค้าแทนละกันนะคะ best.miru-kuru.com/daruma

เป็นร้านเล็กๆมีสิบกว่าที่นั่ง เราไปถึงประมาณทุ่มนึงมีคิวสามสี่คนแล้วค่ะ

Image Hosted by ImageShack.us

ร้านนี้จะไม่มีการออกมาเรียกนะคะพอมีที่นั่งว่าง จะมีหน้าต่างเล็กๆให้ส่องดูเอง พอเห็นคนออกมาและถึงคิวเราก็เข้าไปได้เลยค่ะ เข้านั่งปุ๊ป เตาพร้อม เนื้อและน้ำจิ้มก็วางเท่ากับจำนวนคน ฉันกำลังจะบอกว่าขอที่เดียว แต่คุณสามีบอกว่าไม่ต้องเดี๋ยวโซโล่เอง ให้ฉันรีบสั่งอย่างอื่นมากิน แต่.... ร้านนี้ขายแต่เนื้อเจงกีสข่านเป็นอาหารหลักค่ะ แล้วก็มีกิมจิ ผักดอง ข้าว

Image Hosted by ImageShack.us

เลยสั่งกิมจิมานั่งกินแบบน่าเวทนา

Image Hosted by ImageShack.us

ได้กลิ่นย่างหอมๆก็ท้องไส้ก็เริ่มปั่นป่วน สามีชิมชิ้นแรกเข้าไปก็หันมาบอกว่าเธอกินได้ ไม่เหม็นเลยซักนิด แล้วก็คีบชิ้นเล็กๆมาใส่จาน บอกว่าลองดู ฉันคีบเข้าปากแบบไม่ค่อยแน่ใจ เนื้อนุ่มๆย่างกันใหม่ๆ ไม่มีกลิ่นเหม็นสาบเลยซักนิด มีแต่ความอร่อยแบบบรรยายไม่ถูก สุดๆเลยค่ะคุณขา

Image Hosted by ImageShack.us

จากที่ว่าแค่จานเดียว สรุปมื้อนั้นจัดไปคนละสองจาน จุกจนแทบนอนไมได้.... แนะนำค่ะร้านนี้ คนที่ไม่ชอบกลิ่นสาบของเนื้อแกะไม่ต้องกลัวเลย ที่นี่ไม่มีกลิ่นเลยจริงๆ แถมเนื้อคุณภาพดีมากๆ ถึงซัปโปโรแล้วก็ลองแวะกันดูนะคะ

================================================================

มาถึงอาหารชนิดสุดท้ายที่อยากแนะนำหากมาเยือนเกาะฮอกไกโด นั่นคือ Soup curry ถือเป็นอาหารท้องถิ่นของที่นี่เลย ฉันหาข้อมูลร้านอร่อยจาก tabelog.com เพื่อหาร้านที่อยู่ใกล้ๆโรงแรม(เวลาเที่ยวเหนื่อยมาทั้งวัน ไม่อยากหามื้อเย็นไกลจากที่พักแล้วค่ะ.... ไม่มีแรงเดิน) ก็เจอร้าน Samurai ที่น่าสนใจคือ เคยเป็น best restaurant 2010 เก็บเข้าลิสต์ทันที

Image Hosted by ImageShack.us

ร้านนี้หายากซับซ้อนหน่อย เดินหลงอยู่ครึ่งชั่วโมง เพราะป้ายหน้าร้านมืดมาก แต่ถ้าติดแผนที่มาด้วยไม่หลงและหาไม่ยากหรอกค่ะ แต่เราอวดดีเองไม่ถือแผนที่มาด้วย เพราะคิดว่าจำได้

ร้านจะอยู่บนชั้นสอง ต้องขึ้นบันไดเล็กๆที่ตกแต่งไว้อย่างอาร์ต ร้านน่ารักมากๆเป็นร้านไม่ใหญ่ ข้าวของที่ตกแต่ง รวมถึงโต๊ะเก้าอี้ เป็นแอนทิคหรือของมือสอง เรียกว่าเป็นร้านที่ผ่านเข้ามา และกลับออกไปด้วยความประทับใจ เสียดายที่เก็บรูปภายในร้านมาไม่ได้ เพราะมีแขกเต็มทุกโต๊ะ

มีเมนูให้เราเลือกสั่งทั้งบนโต๊ะ และบนฝาผนัง อ่านไม่ออกไม่เป็นไร พนักงานพูดภาษาอังกฤษได้นิดหน่อยค่ะ(ทั้งสามร้าน พนักงานพูดภาษาอังกฤษพอสื่อสารกันได้ค่ะ)

Image Hosted by ImageShack.us

ฉันสั่งชุดพิเศษที่มีแกง ข้าว และไก่ทอด.... แค่สองอย่างนี้ก็อร่อยแล้ว ร้านนี้เลือกสรรวัตถุดิบจากบนเกาะฮอกไกโดทั้งสิ้น

Image Hosted by ImageShack.us

น่าทานมากๆ ผักสีสันตัดกันฉุบฉับ มีน่องไก่น่องโตๆ ที่เคี่ยวจนน้ำแกงเข้าเนื้อ..... น้ำแกงและระดับความเผ็ดให้เลือก จำไม่ได้ว่าน้ำแกงมีอะไรบ้าง แต่ฉันเลือกแบบใส่กะทิ และระดับความเผ็ด 9 จากระดับความเผ็ดที่มีถึง 20 (เตือนไว้เลยสำหรับคนทานเผ็ดประเภทสมตำพริกเม็ดเดียวอย่างฉัน อย่าได้ทำเยี่ยงนี้เด็ดขาด เพราะห้าคำแรกยังอร่อยพอทนได้ แต่หลังจากนั้นความเผ็ดกลายเป็นความขมทันที เพราะเผ็ดชนิดดาวดิ้นน้ำตาไหลพรากคาโต๊ะกันเลยทีเดียว)

และถ้าเผ็ดระดับ 5 ขึ้นไป ก็ต้องจ่ายเงินเพิ่มด้วยนะคะ จะมีราคาบอกไว้เลย ว่าเผ็ดระดับนี้ต้องจ่ายเพิ่มอีกเท่าไหร่ เสียน้ำตาแล้วยังต้องเสียเงินเพิ่มอีกด้วยนะคุณ

Image Hosted by ImageShack.us

ข้าวก็มีให้เลือกหลายขนาดค่ะ ตั้งแต่ SS ไปจนถึง 3L ราคาก็แตกต่างไปตามขนาด

Image Hosted by ImageShack.us

ส่วนคุณสามีสั่งชุดธรรมดา ระดับความเผ็ดแค่ 5 กำลังอร่อยเลยค่ะเผ็ดระดับกลางแบบนี้ น้ำแกงเข้มข้นอร่อยมาก ผักก็สดมากๆ และที่ร้านนี้จะไม่ปรุงรสด้วยผงนั่นนี่ แต่จะใช้วิธีการเคี่ยวน้ำซุปด้วยผักและเนื้อสัตว์แทน

เป็นอีกร้านที่ยังติดใจในความเผ็ดไม่หาย 555 ไม่ใช่ค่ะ อร่อยจริงๆ ถึงคะแนนใน tabelog.com จะไม่สูงนัก แต่สำหรับฉันผ่านค่ะ

ร้านนี้มีสี่สาขา ส่วนร้านที่เราไปคือสาขา Susukino รายละเอียดของร้าน samurai-curry.com

อาหารทั้งสามชนิดที่พาไปชิม ไม่จำเป็นต้องเป็นร้านที่ฉันไปมานะคะ ลองหาข้อมูลอัพเดทกันดู ว่าตอนนี้ร้านไหนมาแรงน่าลอง แต่ประเภทของอาหารเป็นสิ่งที่ไม่น่าพลาด เพราะเป็นเหมือนอาหารท้องถิ่น เมื่อไปถึงถิ่นเค้าแล้วก็น่าจะลองดูค่ะ

((ขอปิดคอมเม้นท์ชั่วคราวค่ะ))

Create Date : 18 กันยายน 2555

Last Update : 18 กันยายน 2555 23:11:47 น.

0 comments

Counter : 10749 Pageviews.