Hallstatt หมู่บ้านแสนสวย ประเทศออสเตรีย****ยุโรปรำพึง
หมู่บ้านแสนสวย Hallstatt ประเทศออสเตรีย****ยุโรปรำพึง ไม่ได้เขียน blog มานานมาก ขอกลับมาด้วยเรื่อง หมู่บ้านแสนสวย ฮัลล์สตัล ( Hallstatt ) ประเทศออสเตรีย นะครับ หมู่บ้านที่เป็นเมืองเล็กที่น่าฮันนีมูนอีกแห่ง เป็นที่ ที่ความสงบมาพบกับความโกลาหลของนักท่องเที่ยวทั่วโลก เมืองแห่งนี้สวยงามระดับโลก หน้าติดน้ำหลังติดเขา โอบล้อมด้วยภูมิทัศน์ที่งดงามไม่แพ้สวิสเซอร์แลนด์ บ้านเรือนสไตล์อัลไพน์ที่ปลูกในระดับลดหลั่นตามหน้าผา เป็นความสวยงามดั่งเดิมแบบ ที่ Unesco รับรองให้เป็น World Heritage Site เมื่อปี 1997 ผมเดินทางโดยรถไฟ OBB Austria มาจาก Salzburg โดยจองตั๋วออนไลน์ ที่ผมระบุเที่ยวเดินทาง แต่ในตั๋วกลับไม่ระบุ ไม่เหมือนพวก รถไฟ DB ของเยอรมัน จึงสอบถามOBB (การรถไฟAustria)ได้ความว่า เพื่อให้ผู้โดยสารเกิดความยืดหยุ่นในการเดินทางจะไปก่อนไปหลังตามสะดวก ผมจึงเลื่อนออกเดินทางเร็วขึ้น จาก Salzburg 9.12 น. ด้วยขบวน IC861 และมาลงต่ออีกขบวนที่สถานี Attnang-Puchheim ขบวนที่ REX3412 มันจะวิ่งไปในทิศย้อนกลับที่ IC861 วิ่งมา โดยปกติขบวน REX3412 จะจอดรอที่ชานชลาข้างๆกันเลยที่ IC861 จอด แนะนำที่นั่งบน REX3412 ให้นั่งด้านซ้ายของตัวรถในทิศที่รถวิ่งไป เพราะทิวทัศน์ด้านนี่ สวยปานสวิสจริงๆ ทะเลสาป ภูเขา หิมะ บ้านเรือนสไตล์อัลไพน์ คุ้มค่าเวลาที่ไม่นั่งหลับ แต่ใช่ด้านขวาจะด้อยอะไรมากนัก ในตอนท้ายที่จะถึง Hallstatt ก็จะเป็นคิวของด้านขวาเป็นพระเอก และสุดท้าย สถานี Hallstatt จะอยู่ด้านขวามือครับ 11.24น. รถไฟถึงสถานี Hallstatt ขนกระเป๋าลงไปที่ท่าเรือหลังสถานี เรือมาจอดรอรับแล้วตามตารางที่ล้อกับเวลารถไฟเข้าออก ลงเรือข้ามฟากคนละ 2.40 ยูโร จาก Hallstatt Banhof ไปยัง Hallststt Markt ท่าเรือประจำเมือง ( ตารางเดินเรื่อง ดูได้จาก //www.hallstattschifffahrt.at) หลังจากฝากของเสร็จที่โรงแรม ก็เดินไปขึ้นรถรางขึ้นเหมืองเกลือ เพื่อชมภาพมุมสูงของ Hallstatt ค่าขึ้นตกคนละ 13 ยูโร หากเข้าเหมืองเกลือด้วย ต้องจ่ายอีกราคา ไม่เกิน 4 นาทีก็ถึงยอดเขาที่ระดับ 838 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เดินมาต่อลิฟท์อีกนิดหน่อย จุดชมวิวสวยๆก็จะปรากฏ... ใครยังไม่ทานเที่ยง หากเตรียมอาหารขึ้นมาด้านบน ก็นับว่าเป็นจุดทานอาหารที่สวยงามเหลือเกิน เราใช้เวลาบนนี้สัก 1 ชั่วโมงจึงจุใจกับวิวที่ตราตรึง ขาลงก็ลงทางเดิม สบายๆ หลังจากลงมาสู่ภาคพื้นแล้ว ก็เดินไปตามถนนเลียบทะเลสาป(Seestrasse) เข้าไปเที่ยวในเขตเมือง ระหว่างทาง ลองเดินขึ้นไปบนไหล่เขาดู มีทางเล็กๆขึ้นไป วิวแปลกตากว่าที่เคยเห็น วันนี้ที่จัตุรัสกลาง Marktplatz มีจัดการมอบเหรียญวิ่งมาราธอน เดินถัดไปหน่อยก็เป็นโบสถ์ที่ท่าเรือที่เราขึ้น เป็นโบสถ์ศาสนาคริสต์อีแวนเจลิค (ซึ่งเป็นสายหนึ่งในนิกายโปรแตสแตนท์) เรียกเต็มๆว่า Evangelical Parish Church เป็นโบสถ์ประจำเขตHallstatt ของโปรแตสแตนท์ ผมถือว่า หอนาฬิกาของโบสถ์นี้ เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของที่นี่ไปแล้ว เดินตามถนนขึ้นเขาลาดชันไปเรื่อยๆ บนเขาด้านซ้ายจะเป็น โบสถ์ของแคทอลิค Catholic Parish Church เป็นโบสถ์ที่นักท่องเที่ยวกล่าวถึง เพราะที่นี่มี Charnel House ที่เป็นที่เก็บกระดูกและหัวกระโหลกของชาวเมืองไว้ ตรงนี้ต้องจ่ายค่าเข้าชม คนละ 2 ยูโร กระโหลกของญาติพี่น้องจะเก็บไว้ใกล้ๆกัน สาเหตุที่เก็บแบบนี้เนื่องจากพื้นที่ฝังมีจำกัด ดังนั้นเมื่อฝังครบ 10-15ปี ก็จะเก็บกระดูกมาไว้ โดยจะมีการสลักสัญลักษณ์ ชื่อ วันเสียชีวิต และรูปภาพที่สื่อถึงเรื่องราวต่างๆ เช่น รูปดอกกุหลาบคือความรัก รูปใบไม้คือความกล้าหาญ ปัจจุบันใน Charnel House มีกระโหลกประมาณ 1200 กระโหลก ในบริเวณโบสถ์จะมีหลุมฝังศพหน้า Charnel House นับเป็นหลุมฝังศพที่มีสีสัน ดูไม่น่ากลัว แถมวิวตรงหน้ามองลงไปที่ทะเลสาปก็แสนสวย ลองมาชมดูครับ วิวจากโบสถ์มองลงมา เดินลงจากโบสถ์ลงมาถนนสายหลักเดิม แล้วเดินต่อไป จนถึงจุดชมวิวระดับโลก ที่ใครๆรู้จัก Hallstatt ผ่านรูปพวกนี้ บริเวณตั้งจุดถ่ายภาพ หลังการเก็บภาพอันประทับใจของ Hallstatt แล้ว ก็ได้เวลาเหนื่อย ต้องหาปลาเทราท์ย่างเกลือกินกับเบียร์เย็นๆกันหน่อย วันนี้เราจบที่อาหารเย็นอร่อยๆที่ใครมาที่นี่ต้องลิ้มลองกันตามใจตามชอบ ครับ Spring เดือนพฤษาคมกว่าจะมืดก็ปาไปสามทุ่ม เราจึงรอถ่ายทอดความงามของหมู่บ้านแห่งนี้ ด้วยแสงทไวไลท์มาฝากครับ เริ่มจากเริ่มมืดจนแสงหมด.. Hallstatt ในมุมที่งดงามที่สุด คงไม่มี หากแต่ในยามที่เมืองไร้โกลาหลด้วยเหล่านักท่องเที่ยว เมืองกลับมาเป็น หมู่บ้านที่เงียบสงบ ผมเชื่อว่า เราจะเห็นอะไรที่สวยกว่าเดิม และขอยืนยัน เวลาที่ Hallstall สวยงามคือ ยามเย็นย่ำ กับตอนเช้าตรู่ ซึ่งต้องไม่มีฝนตกนะครับ จึงแนะนำว่า การนอนค้างที่นี่ จะมีโอกาสเจอตัวจริงของ Hallstatt มากที่สุด จึงเข้าใจหลายๆคนที่เฉยกับที่นี่ โดยเฉพาะมากับกรุ๊ปทัวร์ เพราะจุดจอดรถทัวร์เป็นจุดถ่ายรูปย้อนแสง ไม่ใช่จุดที่โฆษณาไว้ จุดนี้ต้องเดินไปอีกเป็นกิโล ดังนั้นใครไม่ได้ไปจุดนี้ คงงั้นๆกับสถานที่ ไม่นับรวมแสงที่แข็งในยามสาย เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดหวัง เห็นว่าควรเสียเวลาค้างที่นี่ แล้วจะรุ้สึกว่า ได้ไม่มีเสียเวลา ลองมานั่งจิบกาแฟยามเช้า ดื่มเบียร์ยามเย็น ริมทะเลสาป มองวิถีชีวิตคนท้องถิ่น ทอดเวลากับธรรมชาติ นั่งแบบไม่เร่งรีบ แล้วจะรู้สึกฟินในชีวิตมากขึ้น ตรงนั่นแหละ Hallstatt ของจริง ที่สวย กำลังจะ Unveil
Create Date : 19 พฤษภาคม 2557
Last Update : 16 มกราคม 2558 16:36:01 น.
7 comments
Counter : 13083 Pageviews.
โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 19 พฤษภาคม 2557 เวลา:18:55:32 น.
โดย: ดาวริมทะเล วันที่: 24 พฤษภาคม 2557 เวลา:18:10:45 น.
โดย: haiku วันที่: 24 พฤษภาคม 2557 เวลา:23:47:01 น.
โดย: BernHeize IP: 212.47.252.101 วันที่: 24 พฤษภาคม 2562 เวลา:10:39:20 น.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [? ]
การได้อยู่กับคนที่เรารัก ก็ดีพอแล้ว แต่การได้เดินทางท่องเที่ยวไปด้วยกัน มันสุดยอดมากกับชีวิตคู่ ของคนธรรมดาคนหนึ่ง คนที่เชื่อมั่นในการให้ การแชร์สิ่งดีๆให้แก่กันและกัน เพื่อสังคมดีๆ ที่น่าอยู่ต่อไป
1 2 3
4 5 6 7 8 9 10
11 12 13 14 15 16 17
18 19 20 21 22 23 24
25 26 27 28 29 30 31
รูปสวยทุกๆรูปเลยนะค่ะ
แต่ผู้คนหายไปไหนกันหมดค่ะ..
ดูเป็นเมืองเงียบๆสงบดีนะค่ะ
วาว..จบข.โชคดีจัง ได้เที่ยวเมืองสวยๆแบบนี้
มีความสุขมากๆนะค่ะ