|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
10 ไอศกรีมแปลก จากทั่วทุกมุมโลก

ไอศครีมหรือที่หลาย ๆ คนเรียกติดปากง่าย ๆ สั้น ๆ กันว่าไอติม ได้เป็นของหวานของพรีเมี่ยมที่รับประทานได้แบบไม่ต้องเลือกฤดูกาล หน้าร้อนรับประทานแล้วก็ชื่นใจ หน้าหนาวรับประทานก็จะได้ความอร่อยแปลกไปอีกแบบหนึ่งไอศครีมยังจัดได้ว่าเป็นของหวานของโปรดของทุกเพศทุกวัย มีรสชาติแปลก ๆ ใหม่ๆออกมาให้เราได้เลือกชิมหลากหลายรสชาติตลอดเวลา ในบางประเทศที่ประชากรก็มีความชื่นชอบไอศกรีมกันมาก เช่นประเทศสหรัฐอเมริกานั้นประธานาธิบดี Ronald Reagan ถึงกับกำหนดให้ทุกวันอาทิตย์ที่ 3 ของเดือนกรกฎาคมเป็นวัน National ไอศครีม Day กันเลยทีเดียว ส่วนในบ้านเรานั้นไอศครีมเข้ามาในช่วงพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ชาวบ้านมักจะนิยมทำไอศครีมรสกะทิมีลักษณะเป็นน้ำแข็งละเอียดใส ๆ รสหวานไม่มาก เพิ่มกลิ่นหอมจากดอกนมแมว รับประทานกันเองภายในครัวเรือนในยุคต่อ ๆ มาการรับประทานไอศกรีมเริ่มแพร่หลายมากขึ้นจนปัจจุบันไอศครีมก็มีการพัฒนารสชาติเนื้อสัมผัสไปจากเดิมบางร้านก็จะเรียกไอศครีมเฉย ๆ บางร้านก็จะเรียกว่า Sherbet บางร้านก็ซอฟท์เสิร์ฟ และอีกสารพัดจะเรียกกัน ความจริงแล้วก็คือซอฟไอศครีมหรือ Soft Serve คือไอศครีมนมเนื้อเนียนนุ่มที่มีปริมาณไขมันต่ำกว่าไอศกรีมใส่นมทั่วไป และมักละลายเร็ว Sorbet และ Sherbet ทั้งสองนี้เป็นไอศครีมที่มีส่วนผสมจากผลไม้และน้ำตาล แต่งกลิ่นรสด้วยสมุนไพรและเครื่องเทศ และแตกต่างกันตรง Sherbet จะมีการเติมนมและครีมลงไป ส่วน Granita นั้นก็นิยมทำจากผลไม้ น้ำตาล และน้ำเช่นกัน แต่จะไม่มีการตีส่วนผสมและอัดอากาศเข้าไปแบบไอศครีมปกติ เนื้อ Granita จึงเป็นเกล็ด ๆ คล้ายน้ำแข็งใสนั่นเอง และเจลาโต้เป็นไอศครีมแบบอิตาเลียนนั้นจะมีอากาศอยู่เพียง 20% เนื้อเจลาโต้จึงเหนียวหนืด เนื้อแน่นกว่าไอศกรีมทั่วไปครับ วันนี้จะพาคุณไปสัมผัสกับความแปลกของ 10 ไอศครีมซึ่งผสมจากวัตถุดิบที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้วที่มีอยู่จริงจากทั่วทุกมุมโลกกัน 1.ไอศครีมปลาช่อนจังหวัดสิงห์บุรี เริ่มกันที่รสชาติความแปลกในประเทศไทยของเราที่ชาวต่างชาติยังอึ้ง และให้ความสนใจเป็นอย่างมากเป็นอันดับแรกคือ ไอศครีมปลาช่อน จากร้านเกษราเบเกอรี่จังหวัดสิงห์บุรีจังหวัดที่มีความโด่งดังในรสชาติของปลาช่อนแม่ลาน ซึ่งที่นี่เนื้อปลาจะมีรสชาติหวานเนื้อนุ่ม ฟู และแตกต่างจากปลาอื่น ๆ ในประเทศไทย ไอศครีมปลาช่อนเป็นไอศครีมกะทิที่มีส่วนผสมของเนื้อปลาอยู่ 40 เปอร์เซ็นต์ แต่ผู้รับประทานจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่ามีส่วนประกอบของปลาช่อนอยู่ในเรื่องของไอศครีม จากทั้งกลิ่นรสชาติและส่วนประกอบที่เห็น 2.ไอศครีมผลไม้ไทยโรยพริกเกลือหรือราดด้วยน้ำปลาหวาน อันดับที่ 2 ใครเลยจะคิดว่าวันหนึ่งประเทศไทยของเราจะนำเอาผลไม้ที่เราจิ้มรับประทานกับพริกเกลือหรือราดด้วยน้ำปลาหวานมาทำเป็นไอศครีมได้ แถมได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ไอศครีมผลไม้ไทยรสพริกเกลือหรือน้ำปลาหวานนี้ ส่วนมากจะเป็นเนื้อสัมผัส สไตล์ Sorbet หรือ Sherbet บางร้านก็จะโรยพริกเกลือหรือน้ำปลาหวานเป็นแบบท็อปปิ้ง บางร้านก็จะผสมลงไปในเนื้อไอศกรีมเลย เรียกว่าแตกต่างตามความชอบความถนัดของแต่ละร้านแต่สิ่งหนึ่งที่จะสัมผัสได้จากทุกร้าน คือความอร่อยจัดจ้านสไตล์ไทย สวนผลไม้ที่ส่วนมากนิยมนำมาทำไอศกรีมชนิดนี้ก็ไม่ใช่แค่ผลไม้ที่ออกรสเปรี้ยวอย่างมะยมกระท้อน มะม่วง มะขาม เท่านั้น ฝรั่งและสับปะรดก็ยังเป็นที่นิยมนำมาทำไอศกรีมรับประทานเช่นกัน 3.ไอศครีมดักแด้กรุงเทพฯ อันดับที่ 3 ไอศครีมดักแด้ อย่างที่รู้กันดีว่ามันแรงนับว่าเป็น Super Food แห่งโลกอนาคตซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนสำคัญที่คนไทยในบางภูมิภาครู้จักมักคุ้น เป็นเมนูประจำท้องถิ่นแต่มีน้อยคนที่จะได้สัมผัสกับแมลงในรูปแบบอาหารหวานอย่างไอศครีมดักแด้ร้าน insects in the backyard จานนี้ที่นำเนื้อดักแด้มาปั่น ผสมรวมกับเนื้อไอศกรีมกินแล้วรสชาติออกมาขายถั่วถ้าไม่บอกก็คงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำจากดักแด้ล่ะครับ 4.ไอศครีมพริกที่เผ็ดที่สุดในโลกประเทศสก็อตแลนด์ อันดับที่ 4 กับไอศกรีมพริกที่ไม่ใช้พริกที่มีความเผ็ดธรรมดาธรรมดาทั่วไปนะครับ ร้าน Aldwych Cafe ประเทศ Scotland ได้นำพริก carolina reaper ซึ่งจัดว่าเป็นพริกที่เผ็ดมากเป็นอันดับ 1 ของโลกมาทำเป็นไอศกรีม ก่อนที่คุณจะสั่งเมนูนี้สิ่งหนึ่งที่คุณต้องทำคือ การเซ็นยินยอมไม่เอาผิดกับทางร้านหากเกิดอะไรขึ้นกับคุณและจะต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไปครับ 5.ไอศครีมหนูตะเภาประเทศเอกวาดอร์ อันดับที่ 5 ไอศครีมหนูตะเภาจากประเทศเอกวาดอร์จริง ๆ แล้วหนูจะเผาเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารักของทุกคนในหลาย ๆ ประเทศแต่ในบางประเทศแถบอเมริกาใต้ หนูตะเภาจัดเป็นอาหารพื้นถิ่นที่หารับประทานได้ปกติทั่วไป แต่ยังไม่เคยมีใครนำมาทำเป็นอาหารหวาน เจ้าของร้านขายอาหาร Maria del Carmen Pilapana และคิดค้นเมนูไอศกรีมหนูตะเภาขึ้นมาโดยทางร้านจะนำเนื้อของหนูตะเภาไปต้มจนเปื่อยแล้วเอาไปปั่นใส่ลงในส่วนผสมของไอศครีม เวลาขายก็จะโรยด้วยซอสผลไม้และถั่วลิสงบดลงไปเล็กน้อยเพิ่มความเปรี้ยวหวานและกรุบ ๆ กรอบ ๆ 6.ไอศครีมรสข้าวกับกิมจิสหรัฐอเมริกา อันดับที่ 6 เราทุกคนต่างรู้ดีว่ากิมจิเป็นการถนอมอาหารที่อาศัยภูมิปัญญาก้นครัวของชาวเกาหลี แต่ใครจะคิดว่ามือจับเอากิมจินำมาผสมกับข้าวหอมมะลิแล้วนั่นจะสามารถเอามาทำเป็นไอศครีมได้ แต่ก็เป็นไปแล้วเมื่อร้าน Salt & Straw ในประเทศสหรัฐอเมริกาได้จับมือกับร้านอาหารเกาหลีสไตล์ฟิวชั่น ทำการคิดค้นเมนูไอศครีมรสข้าวกับกิมจินี้ขึ้นมา 7.ไอศกรีม The Mask Cone ในประเทศอังกฤษ ไปต่อกับอันดับที่ 7 ไอศครีมมันบดรสชาติรวมรับประทานไปพร้อมพร้อมกับไส้กรอกน้ำเกรวี่ และถั่ว เสริฟทั้งแบบกรวย และใส่ถ้วย ไอศครีมจากประเทศอังกฤษถ้วยนี้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับทุกคนที่ชื่นชอบรสชาติมันฝรั่งแท้ ๆ ครับ 8.ไอศครีมซาซิมิเนื้อม้าประเทศญี่ปุ่น อันดับที่ 8 เมื่อดินแดนแห่งประดิษฐ์อย่างญี่ปุ่นประเทศที่มีการรับประทานเนื้อม้าดิบได้มีการนำเนื้อม้าดิบใส่ลงไปในไอศครีมรสวนิลาทำให้ได้ไอศครีมซาซิมิเนื้อม้า ซึ่งเมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะมีรสชาติหวาน ๆ จากไอศกรีม และรสสัมผัสกรุป ๆ จากเนื้อม้า 9.ไอศครีมตะบองเพชร ประเทศฝรั่งเศส อันดับที่ 9 เป็นเจลาโตสีเขียวสดใสรสชาติออกเปรี้ยว ๆ จากต้นกระบองเพชรและหวานจากส่วนผสมของไอศครีม ใครที่อยากลิ้มลองก็ต้องไปที่ร้าน Fenocchio เมืองนีซประเทศฝรั่งเศสครับ 10.ไอศครีมแมงกะพรุนเรืองแสงประเทศอังกฤษ และอันดับสุดท้าย อันดับที่ 10 เมื่อแบรนด์ไอศกรีมสุดแปลกแหวกแนวสัญชาติอังกฤษขึ้นชื่อในเรื่องไอศกรีมรสชาติแปลก ๆ ได้สกัดเอาโปรตีนจากแมงกะพรุนมาทำเป็นไอศกรีมแมงกะพรุนเรืองแสง ทันทีที่ความร้อนจากลิ้นของเราไปสัมผัสกับเนื้อไอศครีม จะทำให้ค่า pH เปลี่ยนแล้วแสงเรืองก็จะปรากฏขึ้นแต่ไม่ต้องกังวลว่าตัวเราจะเรืองแสงตามหรอกนะครับเพราะโปรตีนนี้จะถูกย่อยสลายก่อนถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดอยู่แล้ว สนนราคาไอศครีมแมงกะพรุนเรืองแสงสุดฮิปนั้นตกที่สกู๊ปละ 140 ยูโรหรือประมาณ 5,000 บาทครับ ผ่านไปกับ 10 อันดับไอศครีมแปลก ๆ จากทั่วทุกมุมโลกก็คงจะเห็นแล้วครับว่าเพียงแค่กล้าคิดกล้าลองกล้าทำโลกก็จะเปลี่ยนไปใครเคยได้ลิ้มลองรสชาติไหนกันมาบ้างหรือไม่รสชาติแปลกใหม่ที่อยากจะบอกเล่าให้เพื่อนๆรู้จักก็ลองเข้ามาแลกเปลี่ยนพูดคุยกันได้นะครับ เรียบเรียงข้อมูลโดย www.โรงงานของพรีเมี่ยม.com
Create Date : 08 พฤษภาคม 2564 |
Last Update : 10 พฤษภาคม 2564 8:46:04 น. |
|
0 comments
|
Counter : 2274 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
|
|