(เป็นการออกเสียงตามภาษาจีนแต้จิ๋วที่ชาวไทยเชื้อสายจีนในไทยแปลไว้ทั้งสองบท แต่ในความเป็นจริงแล้ว ท่านสามารถอธิษฐานเป็นภาษาไทยหรือภาษาอะไรก็ได้ เพราะว่าการสื่อความหมายจะใช้แรงอธิษฐาน ที่เกิดจากความตั้งใจอันแน่วแน่ของผู้กราบไหว้ในขณะสวดบริกรรมนั่นเองที่สำคัญที่สุด)บทสรรเสริญพระคุณนะโมกวงซิอิม ผ่อสักนำโมไต๋ชื้อ ไต๋ปุย กิวโคว่ กิวหลั่ง กวงไต๋เล่งก้ำ กวงสี่อิมผู่สัก (กราบ)นำโมไต๋ชื้อ ไต๋ปุย กิวโคว่ กิวหลั่ง กวงไต๋เล่งก้ำ กวงสี่อิมผู่สัก (กราบ)นำโมไต๋ชื้อ ไต๋ปุย กิวโคว่ กิวหลั่ง กวงไต๋เล่งก้ำ กวงสี่อิมผู่สัก (กราบ)นำโมฮูก นำโมหวบ นำโมเจ็ง นำโมกิวโคว่ กิวหลั่ง กวงสี่อิมผู่สัก ทั่งจี้โตโอม เกียล้อฮวดโต เกียล้อฮวดโต เกียล้อฮวดโต ล้อเกียฮวดโต ล้อเกียฮวดโตซาผ่อออ เทียงล้อซิ้ง ตี่ล้อซิ้ง นั้งลี่หลั่ง หลั่งลี่ซิ้ง เจ็กเฉียก ใจเอียง ห่วยอุ่ยติ๊งนำโมม่อออป่อเยี๊ยปอล้อบิ๊ก (กราบ)บทมหากรุณาธารณีสูตรโชยชิ่ว โชยงั่ง บ่อไหง๋ ไต่ปุยซิมทอลอ นีจิ่ว (๓ จบ)ปึงซือออนีทอ ยูไล้ (๓ จบ)นำมอ ฮอลาตัน นอตอลา เหย่ เยนำมอ ออลีเย ผ่อลูกิดตีซอปอลาเยผู่ทีสัตตอพอเย หม่อฮอสัตตอพอเยหม่อ ฮอเกียลูนี เกียเยงัน สัตพันลาฮัวอีซูตัน นอตันเซนำมอ สิดกิด ลีตออีหม่งออลีเยผ่อลูกิด ตีสิด ฮูลาเลงถ่อพอนำมอ นอลา กินซีซีลี หม่อฮอพันตอซาเมสะพอ ออทอ เตาซีพงออซีเย็น สะพอ สะตอ นอมอ พอสะตอนอมอ พอเค มอฮัว เตอเตาตันจิต ทองัน ออพอ ลูซีลูเกียตี เกียลอตี อีซีลีหม่อฮอ ผู่ทีสัตตอ สัตพอ สัตพอมอลา มอลา มอซี มอซี ลีทอยินกีลูกีลูกิดมง ตูลู ตูลู ฟาเซเยตีหม่อ ฮอฮัว เซเยตี ทอลา ทอลาตีลีนี สิด ฮูลาเย เจลา เจลา มอมอ ฮัวมอลา หมกตีลีอีซี อีซี สิดนอ สิดนอ ออลาซัน ฮูลาเซลีฮัวซอ ฮัวซัน ฮูลา เซเยฮูลู ฮูลู มอลา ฮูลู ฮูลู ซีลี ซอลา ซอลาสิดลี สิดลี ซูลู ซูลู ผู่ถี่เย ผู่ถี่เย ผู่ถ่อเย ผู่ถ่อเยมีตีลีเย นอลา กินซี ตีลีสิด นีนอผ่อเย มอนอ ซอผ่อฮอ สิดถ่อเย ซอผ่อฮอหม่อฮอ สิดถ่อเย ซอผ่อฮอ สิดทอยีอีสิดพันลาเย ซอผ่อฮอ นอลากินซี ซอผ่อฮอมอลานอลา ซอผ่อฮอ สิดลาเซง ออหมกเคเยซอผ่อฮอ ซอผ่อหม่อฮอ ออสิดถ่อเย ซอผ่อฮอเจกิดลา ออสิดถ่อเย ซอผ่อฮอ ปอทอมอกิดสิดถ่อเยซอผ่อฮอ นอลากินซี พันเคลาเย ซอผ่อฮอมอพอลี เซงกิดลาเย ซอผ่อฮอนำมอห่อลาตัน นอตอลาเยเยนำมอออลีเย ผ่อลูกิตตี ชอพันลาเย ซอผ่อฮองันสิดตินตู มันตอลา ปัดถ่อเย ซอผ่อฮอ(เจ้าแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์ (อวโลกิเตศวร) ผู้ทรงแบ่งภาคได้หลายภาค เพื่อมาโปรดสรรพสัตว์ทั้งหลาย และทรงเอื้ออารีย์แก่มวลมนุษย์ที่ได้กราบไหว้บูชาให้ประสบผลสำเร็จอันพึงปรารถนาได้อย่างน่ามหัศจรรย์ ท่านสามารถช่วยปัดเป่าความทุกข์ภัยพยันตรายให้ท่านที่เดือดร้อน ท่านสามารถสวดคาถาบูชาเจ้าแม่กวนอิมให้ครบ ๑๐๘ จบทุกวันโดยตั้งจิตอธิษฐานให้แน่วแน่ ก็จะได้ผลสำเร็จอันพึงปรารถนาทุกประการ)อ้างอิง:dhammathai.org
“พระมหาโพธิสัตว์กวนอิม” หรือ “เจ้าแม่กวนอิม” ที่ชาวไทยและชาวจีนนับถือบูชากราบไหว้กันนั้น เชื่อกันว่าพระองค์ทรงเปี่ยมด้วยพระเมตตา เป็นผู้ที่ปัดเป่าทุกข์โศกให้ชาวโลกรอดพ้นจากความทุกข์เข็ญท่านเกิด ณ แผ่นดินเฮงลิ้ม อาณาจักรจีน ในรัชสมัยของพระเจ้าเมี่ยวจึง กษัตริย์ผู้ปกครองบ้านเมืองโดยปราศจากทศพิธราชธรรม โหดร้ายทารุณต่อราษฎร ไม่เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา วันหนึ่ง พระองค์ทรงตรัสหารือกับฮองเฮาแปะเง้สี มเหสีเอก ในเรื่องที่อยากได้พระราชโอรสไว้สืบราชสกุล ฮองเฮาจึงทูลว่าน่าจะไปบวงสรวงขอพระโอรสต่อเจ้าเขาแห่งฮั้วซัวไซงัก เทพศักดิ์สิทธิ์ทางทิศตะวันตก เมี่ยวจึงฮ่องเต้จึงให้ทหารแต่งเครื่องสังเวยออกไปเซ่นไหว้ที่ศาลเจ้าไซงักเมื่อเจ้าเขาไซงักรับเครื่องเซ่นไหว้แล้ว ได้พิจารณาว่าเมี่ยวจึงฮ่องเต้เป็นกษัตริย์ผู้โหดร้ายชอบฆ่าฟันและทำสงครามยิ่งนัก ไม่ควรประทานโอรสให้สืบตระกูล แต่การมาทำบุญควรได้รับผลแห่งความดีบ้าง จึงประทานพระธิดา ๓ องค์ไปประสูติในพระครรภ์ฮองเฮา คือพระธิดาเมี่ยวเช็ง พระธิดาเมี่ยวอิมและพระธิดาเมี่ยวเสียง ชีวิตของพระธิดาเมี่ยวเสียงนั้นต่างจากพระบิดาโดยสิ้นเชิงโดยเป็นผู้มีจิตเมตตาแก่ทุกคน เชลยศึกที่ถูกทรมานก็ได้รับความช่วยเหลือ ยิ่งพระบิดาโหดร้ายทารุณมากเท่าไร พระธิดาเมี่ยวเสียงก็ยิ่งเมตตากรุณาให้ความช่วยเหลือมากขึ้นเท่านั้นเพราะทรงตั้งปณิธานว่าต้องการช่วยทุกชีวิตให้พ้นทุกข์และพบกับความสุขเมื่อถึงวัยที่ควรมีคู่ครอง พระธิดาเมี่ยวเสียงกราบทูลพระบิดาว่าของออกบวชเป็นภิกษุณีจนกว่าจะสำเร็จมมรรคผลเป็นพระโพธิสัตว์ จึงได้ไปบวชที่วัดนกขาวโดยต้องทำงานหนักแต่เพียงพระองค์เดียวเท่านั้น แต่เมตตาบารมีจากจิตของพระธิดานั้นยิ่งใหญ่นัก เทพยดาทั้งหลายต่างแอบมาช่วยทำงานหนักทั้งหมด ทำให้พระธิดามีเวลาบำเพ็ญภาวนามากขึ้น พระบิดาได้ทรงกลั่นแกล้งพระธิดาด้วยประการต่าง ๆ แต่ต้องพ่ายแพ้ต่อเมตตาบารมีอันกว้างไกลจากจิตใจที่อ่อนโยนแต่เข้มแข็งของพระธิดาเก้าปีต่อมา พระภิกษุณีเมี่ยวเสียงได้บรรลุมรรคผลสำเร็จเป็นพระโพธิสัตว์ มีธรรมฉายาว่า “กวงซีอิมผ่อสัก” หมายถึง ผู้เพียรฟังเสียงแห่งโลกตามความจริง เพื่อช่วยเหลือโปรดสัตว์ดังเสียงที่ร้องขอความช่วยเหลือนั้น ในช่วงเวลาที่พระโพธิสัตว์กวนอิมได้มีขึ้นบนโลกนี้ ฮ่องเต้ เมี่ยวจึงกำลังประชวรหนักและกำลังได้รับผลแห่งเคราะห์กรรม พระธิดาได้สละดวงตาและแขนเพื่อใช้เป็นยารักษาพระบิดา ทำให้ฮ่องเต้หายจากประชวรและเกิดความสำนึกผิดในสิ่งที่ได้ทำลงไป ฮ่องเต้และพระราชวงศ์จึงพร้อมใจกันสละสมบัติและออกบวชเพื่อบำเพ็ญธรรมในชีวิตบั้นปลาย ด้วยบารมีแห่งความกตัญญูกตเวทีของพระโพธิสัตว์ ทำให้ท่านมีตาเพิ่มขึ้นที่หน้าผากอีกดวงหนึ่งและมีพระกรเพิ่มขึ้นอีกสิบพระกร ประทับนั่งบนฐานดอกบัว ลอยขึ้นสู่อากาศ ประชาชนพากันกราบไหว้ กษัตริย์ทั้งหลายทรงเลื่อมใสในพระพุทธสาสนาตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา.อ้างอิงประวัติ:www.ff-resort.com
นะโมกวงซิอิม ผ่อสัก
นำโมไต๋ชื้อ ไต๋ปุย กิวโคว่ กิวหลั่ง กวงไต๋เล่งก้ำ กวงสี่อิมผู่สัก (กราบ)
นำโมไต๋ชื้อ ไต๋ปุย กิวโคว่ กิวหลั่ง กวงไต๋เล่งก้ำ กวงสี่อิมผู่สัก (กราบ)
นำโมไต๋ชื้อ ไต๋ปุย กิวโคว่ กิวหลั่ง กวงไต๋เล่งก้ำ กวงสี่อิมผู่สัก (กราบ)
นำโมฮูก นำโมหวบ นำโมเจ็ง นำโมกิวโคว่ กิวหลั่ง กวงสี่อิมผู่สัก ทั่งจี้โต
โอม เกียล้อฮวดโต เกียล้อฮวดโต เกียล้อฮวดโต ล้อเกียฮวดโต ล้อเกียฮวดโต
ซาผ่อออ เทียงล้อซิ้ง ตี่ล้อซิ้ง นั้งลี่หลั่ง หลั่งลี่ซิ้ง เจ็กเฉียก ใจเอียง ห่วยอุ่ยติ๊ง
นำโมม่อออป่อเยี๊ยปอล้อบิ๊ก (กราบ)