estalar
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ยินดีต้อนรับนะครับ
เกิดความผิดพลาดกับ blog นิดหน่อยแต่ได้สอบถามไปยัง webmaster แล้วแต่ไม่สามารถแก้ได้ ทำให้ความเห็นหลายๆอันเปลี่ยนที่ แล้วบางอันก็หาย ยังไงก็ฝากขอโทษด้วยเด้อ

สำหรับเรื่องการเดินทางในนี้อาจจะไม่ค่อยได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กันการไปเที่ยวเท่าไรเพราะเรามีไกด์ท้องถิ่นและคำบางคำหรือชื่อต่างๆอาจจะไม่ตรงกับที่หลายๆคนรู้มา พวกเราอาจจะจำผิดหรือจำมาไม่ครบบ้างอย่าว่ากันนะครับ ขอเล่าเอาสนุก
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add estalar's blog to your web]
Links
 

 
5.คริตสมาส - ร้านของเพื่อน

.....กว่าจะเดินทั่วแล้วออกมาข้างนอกก็มือแล้ว วันที่ไปเที่ยวใกล้กับเทศกาลคริตสมาสมาก ถึงตอนนี้พวกเรากำลังจะไปดูไฟเทศกาลของบ้านเค้าบ้างว่าเป็นไง



ประสาทตอนพระอาทิตย์ตกดิน




ตึกสวยๆ ในโซล

.....ตรงนี้เป็นแม่น้ำซึ่งประดับประดาไปด้วยไฟสีสันต่าง ๆมากมายทั้งสองฝั่งแม่น้ำคนเยอะมาก ๆ ส่วนมากจะมากันเป็นคู่ พื้นที่ทุกพื้นที่ถูกนำมาใช้ประโยชน์หมด มีแม้กระทั่ง Gallary ภาพอยู่ใต้สะพาน หลังจากเราเดินตรงนี้เสร็จแล้วก็จะไปทานข้าวกัน



ไฟในงานคริตสมาส



เดินทำเท่ห์คนเดียว




มีโชว์ภาพใต้สะพานด้วย



คนเยอะมากๆ




บรรยากาศรอบๆ

.....แล้วเราก็มาถึงถนนนี้เรียกว่า ซองเกซอนเป็นถนนซึ่งมีของกินเยอะมากๆ ทั้งเป็นร้านหรือรถเข็นและก็ข้างทาง ด้านนอกออกไปก็มีร้านให้ช๊อปปิ้งเยอะเหมือนกัน ส่วนร้านที่เราจะมาทานข้าวเป็นร้านที่วัยรุ่นที่นี่เค้าทานกัน ไม่ใช่ร้านหมูกระทะ ที่ทัวร์พาไปซึ่งผมว่าที่ทัวร์พาเราไปถูกปากกว่านะเพราะทำให้นักท่องเที่ยวกิน



ผ่านวัด(มั้ง)ตรงทางเดินที่ไปทานข้าว


.....ร้านที่เราไปเป็นประมาณชาบู ชาบู(เละเป็นโจ๊ก) เหมือนบ้านเราต้มผักต้มหมู มีกิมจิเป็นเครื่องเคียง ต่างตรงที่หลังจากกินเสร็จ
จะเหลือน้ำซุปเค้าจะเอาแป้งข้นๆมาลงไปคนๆ แล้วก็จะได้เป็นโจ๊กออกมา จะอร่อยตรงที่ซุปที่เหลือจากการต้มผัก และ หมูของเรา นี่แหละของดีอยู่ตรงนี้ อ้อ อีกอย่างที่นี่หลายๆร้านเวลาเราจะปิ้งหมู ใส่ผัก หรือ คนโจ๊ก พนักงานเค้าจะมาทำให้(หรือเค้ากลัวว่าเราจะทำไม่เป็นก็ไม่รู้) แต่ร้านนี้เราจุ่มหมูกันเอง



ดูสิหมูจุ่มเหมือนบ้านเรารึเปล่า




เครื่องเคียงมี สลัดเกาหลี กิมจิ ซุปแตงกวา




พร้อมลุย
เรย์<ก๊อปทำไมของเอ็งสุกแล้วฟะ>
ก๊อป<ช่วยไม่ได้ช้าเอง>
เซ้ง<เฮ้ย! งั้นตัองรีบแล้ว>
จินจู<ช้าอดนะวุธ>
วุธ<รอด้วย>



พนักงานมาทำโจ๊กแล้ว(จริงๆมีการขอน้องพนักงานถ่ายรูปแต่เนื่องจากกลัวช่างกล้องสีผิวเลยไม่ให้ถ่าย)
ตอนทำน้องเค้าเกร็งมากเพราะทุกคนจ้องน้องกันหมดไม่เคยเห็นทำโจ๊ก + น่ารัก




โจ๊กได้ที่แล้ว

.....หลังจากเละเป็นโจ๊กกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มาดูสถานที่รอบๆกันบ้าง แถวๆนี้เป็นแหล่งของกินและแหล่งช๊อปปิ้งของวัยรุ่น เรากินขนมเกือบจะทุกร้านที่เจอ



ซอยแรกที่เราเดินกัน




ชายหนุ่มคนนี้เล่นอะไรน่าหวาดเสียว





วาฟเฟิลเกาหลี
ข้างๆจะมีไส้เป็นครีมให้เลือกมีช๊อกโกแลต สตอเบอรี่ อยากจะบอกว่าอร่อยมากพูดแล้วอยากกินอีก




ใครจะรู้คนวัยรุ่นที่นี่บ้าดวงกว่าบ้านเราอีก นี่ร้านดูดวง
วัยรุ่นที่นี่เชื่อในรักแรกพบ และโชคลางเกี่ยวกับเรื่องความรักมากอาจจะมากกว่าบ้านเราซะอีกนะ




ขนมครกเกาหลี
ไม่อร่อยเลยเพราะผมไม่ชอบไส้ประเภทที่เป็นถั่วๆ(ดำ)




เป็นเครื่องสำอางเกาหลีพบได้ทุกสถานีรถไฟทุกห้าง เยอะพอกับเซเว่นบ้านเรา(เว่อร์ไป)



ดาว ดาวเต็มท้องฟ้าเลย




นางแบบของเราไปยืนแอบมองหน้าร้านติ่มซำ

.....เดินกันไม่นานก็กลับบ้านกันด้วยรถไฟฟ้าเพื่อไปที่ร้านอาหารของเพื่อนแล้ว เช่นเดียวกันเรากลับด้วยรถไฟใต้ดินเวลาเดินไปรถไฟใต้ดินที่นี่แปลกมาก คนที่ยืนหรือเดินช้าๆจะยืนชิดขวาหมดฝั่งซ้ายเราให้พวกตีนผีเดินเร็วเดินกันไป แล้วถ้ามีใครไปยืนขวางเลนคนที่นี่เป็นชนปลิวหมดแล้วแรงด้วยแถมไม่มีการขอโทษออกจากปากเพราะทางเดินเร็วเป็นที่รู้กัน ฉะนั้นคนไหนอยากไปเที่ยวกับแฟนไม่ควรเดินจับมือกระหนุงกระหนิง คู่ของท่านอาจปลิวหายไปกับหนุ่มเกาหลีได้



ทางเลื่อนไปรถไฟใต้ดิน
นิรนาม<เดินช้าหลบหน่อย(เปิดไฟไล่)>
จินจู<หลบขวาเร็วพวกเรา(เดี๋ยวชน)>
ก๊อป<แซงซ้ายเลยเพ่>
วุธ<ยัยสิบล้อเอ้ย! จะรีบไปไหนวะ(เดี๋ยวปาดหน้า)>




ร้านของเพื่อนผมครับถ้าได้ไปเกาหลีช่วยอุดหนุนหน่อยนะครับมีหลายสาขาเพื่อนเป็นเจ้าของเฟรนชายด์
.....เป็นร้านแนวๆนั่งกินมีเหล้าแกล้มส่วนมากเป็นพวกคนทำงานหรือมีอายุหน่อยๆ มานั่งกัน ร้านตกแต่งด้วยไม้บรรยากาศดีครับ ขออณุญาติโฆษณานะครับเพราะเป็นร้านที่อุปการะเลี้ยงปากท้องพวกเราตลอด 10 วันที่ผ่านมา



ร้านคนเยอะดีแต่โต๊ะแรกนี่เป็นพวกหน้าหมาเอ้ยหน้าม้า




ออเดริฟ เป็น ซุปสาหร่าย
สาหร่ายที่นี่สดมากขนาดตอนนี้พวกเราอิ่มกันมากแต่ยังซดกันหมด




รู้รึเปล่ามันคืออะไร มันคือไอ้ตัวที่ดิ้นๆในตู้อยู่ที่หน้าร้านหรือปลา(หมึก)ดิบนั่นเอง โธ่! ตะกี้มันยังว่ายอยู่เลย


.....ความสดไม่ต้องพูดถึงครับเพราะมันยังดิ้นในปากอยู่เลย อีกจานที่อร่อยคือหนวดปลาหมึกชุบแป้งทอดไม่รู้ว่าต่างกับบ้านเรายังไงแต่ทุกคนที่ไปให้เป็นเมนูในดวงใจกันหมดผมก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงคงต้องลองไปกินกันเองแล้วครับ แต่ถ่ายรูปมาไม่ทันเหมือนว่าจะหมดก่อนที่เราจะได้คิดได้ถ่ายรูปนะ



อันนี้จำไม่ได้จริงๆคืออะไร
คนที่ไปใครจำได้ก็ให้ข้อมูลมาหน่อยนะ

.....แต่จำได้ว่าไม่อร่อยอ่ะ ส่วนจานขวาจะเป็นปลาหมึกดิบยำแบบของเค้า ถ้าของเราต้องกินกับข้าวเหนียว แต่ของเค้าเอาไปห่อผักกิน(ผักดูในสองรูปที่แล้ว)
ถ้าจำไม่ผิดคนที่นี่เค้าจะเรียกว่าซูชิ(เป็นคนละซูชิกับญี่ปุ่นนะ)รสชาติใช้ได้เลย


.....หลังจากหมดมื้ออาหารก็มากองอยู่ที่ต้นคอ โธ่ก็เล่นกินกันทั้งวันนี่หว่า ก่อนจบวันนี่ขอแถมสิ่งอำนวยความสะดวกที่บ้านเราไม่มี นั่น นั่น.นั่น...คืออออ เสื่อนรก ไปดูรูปกันก่อนกับนายแบบสตันทแมนของเราทีไปทดสอบ



ดูๆก็เป็นเสื่อที่น่านอนสบาย



แต่พอมีไอ้ตัวนี้เข้าไปด้วยแล้วมันก็ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน


.....ทีแรกเราก็นอนกันสบายดีหรอกแต่พอเราหลับพ่อเค้าก็หวังดีมาเปิดสวิตท์ให้กลัวพวกเราหนาว ผ้าห่มก็เป็นแบบกักความร้อนอีก ใต้เสื่อก็มีฮีทเตอร์ฝังใต้พื้นบ้านด้วย ว่ากันตามจริง พวกเราชอบหนาวๆมากกว่า คืนนั้นใครได้นอนเสื่อก็จะฝันเรื่องร้อน ของผมจำได้ว่าได้ไปเดินตากแดดดื่มชาเขียวร้อน(แน่ะ ฝันตามกระแสด้วยนะ) รู้ตัวลุกไปปิดเครื่องทำความร้อน แล้วก็เปิดหน้าต่างแง้มไว้นิดๆ ถ้าพ่อเค้ารู้ก็จะมาปิด พวกเราก็ไปแอบเปิดใหม่ อากาศที่เค้าตั้งไว้อยู่ที่ 30 องศา แต่เรานอนกัน 25 เองเลยเป็นคืนที่ทรมานมากๆ แต่ก็ขำพ่อเค้าที่ไม่ยอมเลยกลัวพวกเราหนาวกัน เค้าไม่ชอบหนาว เราไม่ชอบร้อน แต่เข้าใจกันนะ(แหวะ)

.....แต่คืนนี้ไม่จบง่ายๆหรอกนะ พอนอนไปซักพักนั่นคือนอนยังไม่หลับดีเลย พ่อเค้าเกิดขึ้นอะไรขึ้นมาไม่รู้ ตามประสาคนมาเยือนบ้านให้นอนอย่างเดียวได้ไง(วะ) นั่นแหละเลยเกิดปาร์ตี้เล็กๆ กัน เปิดงานด้วยขาหมูในน้ำโครตแดงมา(สั่งมา),กิมจิ,ชิชิมิ,เหล้า(แล้วแต่ใครจะกิน) มีการแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ เริ่มได้ที่ก็ได้พิธีปิดงานพ่อได้มอบประกาศนีบัตรให้(นามบัตรพ่อแหละ)เอาไว้กันหลง แต่นั่นยังไม่หมดแค่นั้นเพียงท่านตอบรับท่านก็จะได้บัตรเข้าห้องอาบน้ำที่พ่อเป็นสมาชิกแบบ VIP มาในทันใด (พวกเราเรียกว่าออนเซ็นนะเพราะชื่อเกาหลีเรียกยาก) วันนั้นกว่าจะได้นอนก็ตีสาม นอนไปพร้อมกับอาหารที่เต็มท้องเรียกว่าเป็นวันแห่งการกินจริงๆ

ต่อตอนที่ 6 ที่นี่ครับ


Create Date : 18 มิถุนายน 2550
Last Update : 9 กันยายน 2551 18:14:26 น. 0 comments
Counter : 471 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.