.....แล้วก็ถึงคิวพวกเราขึ้นบ้างแล้ว หลายๆที่ก็คงคล้ายกัน อย่างจีนก็มีหอไข่มุก แต่ที่เราขึ้นนี้มีพิเศษเล็กน้อย ตรงมันเป็นวันคริสตมาส ด้านบนก็จะประดับไฟสวยงานเชียว
นี่แหละกระเช้าที่เราขึ้น
ถึงข้างบนแล้ว
นี่เราต้องขึ้นไปอีกนะเนี่ย
ทักทายลุงซานต้าซะหน่อย
กวางลุงซานต้าแอบมาอยู่ที่นี่เอง
วิวบนหอคอย
คู่รักแห่งปี
ภาพเหงาๆ
ต้องมีให้ครบทุกคน เดี๋ยวจะมีคนไม่ยอม
ด้านบนหนาวมากแต่เราก็หนาวไม่พอ เลยสั่งไอติมมาทานซะ
.....ลงมาจาก Seoul Tower เราก็ไปเมียงดงกันต่อ หลังจากนี้จะเป็นตอนที่ไดอารี่ผมขาด เขียนอะไรไปอาจจะไม่ครบไม่ถูกบ้างแต่ก็จะพยายามเค้นจากความทรงจำอันน้อยนิดล่ะนะ
.....มาถึงเราก็มาเจอกับสิ่งที่เราตามหามานาน นั่นแหละผู้หญิงไง ก่อนมาเราได้ยินแต่ข่าวที่เคยฟังมาตามหนังสือมาเจอเองก็วันนี้แหละ ผู้หญิงคนนี้ถือป้ายคำว่า Free Hug (กอดฟรี) ทีแรกพวกเราก็ไม่กล้า น้องเค้าก็ยิ้มๆประมาณแบบวันนี้ไม่มีลูกค้าเลย(พวกเรากลัวกอดแล้วน้องจะมาคิดตังค์ทีหลัง เหมือนกับพวกที่ชอบแจกสติกเกอร์ตามสะพานลอย แต่แล้วหน่วยกล้า(ด้าน)ตายของเราก็ลุยไปคนแรก เดินเข้าไปพร้อมกับอ้าแขนโจมตี เอ้ย ต้อนรับไออุ่นเต็มที่ กอดน้องเค้าไปเต็มๆ หลังจากนั้นพวกเราที่เหลือก็ตาม ในที่สุดคำว่า Free Hug (กอดฟรี) ได้ถูกเปลี่ยนเป็น (กอดฟัดฟรี)ไปซะแล้ว ในตอนนี้เรายังไม่รู้ความหมายของสิ่งที่น้องทำ
น้องแสนดีผู้โชคร้ายหลังจากวันนี้เค้าอาจไม่มาทำแบบนี้อีกแล้วก็ได้
.....เมียงดงเป็นสถานที่ช๊อปปิ้งที่ดีที่สุดแล้ว น่าเดินมากของขายเยอะไปหมดใครๆมาก็คงไม่พลาดกันที่นี่นะ ร้านค้าเสื้อผ้า แฟชัน ของแบรด์เนมเต็มไปหมด เดินกันนานก็ยังไม่ทั่วใครที่ชอบช๊อปปิ้งนี่คงเดินกันทั้งวันแน่นอน
ไม่รอช้าเราไปลุยเมียงดงกันต่อเลย
แต่จุดประสงค์เราจะมากินกันซะมากกว่า ดูร้านนี้สิยืนรอกันจากชั้นสองจนออกมาหน้าร้าน เพื่อนบอกเป็นร้านดัง
ถึงคิวพวกเราก็เช่นเดิมสั่งกันแบบลืมตาย แบบกลัวชาติหน้าไม่ได้กิน
เอ้า คนละจานสองจาน
รูปนี้เพื่อนเซ้งขอเป็นพิเศษ
ยังมาต่อร้านของหวานอีกไอครีมไร้ไขมัน แต่กินไปมันมาก
ขนมแป้งทอด รูปต่างๆ (กินอีกแล้ว)
กลับรถไฟ เจอน้องน่ารักคนนึงมาเล่นด้วย
ทางเดินกลับบ้านผ่านเอเวอร์แลนด์ เลยได้ความเงียบของสวนสนุกตอนกลางคืนมา
ตามดูพระราชวัง