Group Blog
All Blog
|
ตอนที่ 14 ฮิลเดสไฮมน์ที่รัก (ตอนจบของ Trip Germany) " เมือง ฮิสเดสไฮม์ ( Hildesheim) " ที่รัก ![]() เเรกเลยที่รู้จักเนื่องจาก พี่ Math.de เนี่ย พี่เขาไปตั้งกระทู้ที่ห้องไกลบ้าน ห้องนักเรียนไทยใน เยอรมันว่าไปเวียนนา ราคาถูก กับ die Bahn (รถไฟของเยอรมัน) ซึ่งตอนนั้นเรียมก็ได้ตัดสินใจเเล้วว่า ประสบการณ์ชีวิตเนี่ยมันหายากมาก เพราะฉะนั้น "เรียนเรื่อง หลัก รักเรื่องรอง ท่องไปให้ทั่วฟ้ากว้างเเล้ว " ก็เลยคุยกับพี่ Math.de เเล้วก็คุยกันมาเป็นเวลา 6 เดือน เเล้วก็ได้เวลาเที่ยวหาประสบการณ์เเล้ว ก็ออกเที่ยวคนเดียวเลยค่ะ เเล้วก็พบว่า พี่ Math.de กับพี่จอยเป็นคู่ที่น่ารักมากค่ะ กอรปกับบรรยากาศของเมืองเเล้วก็เลยทำให้เมืองนี้เป็นเมืองที่อบอุ่น ... เเละน่ารักค่ะ ใครบอกว่า มิตรภาพบนอินเตอร์เนตไม่มีจริง เรียมเถียงขาดใจเลยค่ะ ก็จะเล่าถึงเมืองที่มาเที่ยวนั่ง นอน กินอยู่หลายวัน พร้อมทั้งได้ความประทับใจหลายอย่างๆทั้งความ มีน้ำใจของพี่แมท กับพี่จอยที่น่ารัก " เมือง ฮิสเดสไฮม์ ( Hildesheim) " (พี่จอยบอกว่าเพราะเรา ( เรียมและพี่จอย) เป็นสาวติงต๊องยุคใหม่ค่ะเลยเข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย ) อาหารไทยอร่อยๆและแปลกๆที่ไม่เคยได้มีฝีมือทำกินเองเลยทั้งเมืองที่ดูอบอุ่นและน่ารักค่ะ ![]() ขอสารภาพไม่เคยรู้จักเมืองนี้มาก่อนเลยค่ะ ถ้าไม่ได้รู้จักพี่แมท นี่ สงสัยเมืองนี้และอีกหลายๆเมือง คงไม่ได้ไปเยือนหรอกค่ะ อย่าง กอสลาร์ ฮาเมล์นนี่ก็คงไม่ได้ไปเช่นกัน ถ้าจะบอกว่า พี่แมทเป็นนักเที่ยวตัวยงก็คงไม่ผิดเท่าไรค่ะส่วนเรียมเป็นนักท่องเที่ยวมือสมัครเล่น ที่จริงจัง (จริงจังตามเงินในกระเป๋าค่ะแหะ...แหะ ) ![]() วันสุดท้าย ก็เป็นวันที่ออกเดินเล่น เดินไปโน่นไปนี่ในเมืองฮิสเดสไฮม์ ค่ะเดินช้อบปิ้งบ้าง ได้เสื้อมา ตัวหนึ่งค่ะ กำลังลดราคาถูกสุดๆ (ของที่นี่)คุณภาพโอเค แบบใช้ได้ ![]() แล้วก็ซื้อโปสการ์ดไปฝากพี่ๆน้องๆค่ะจริงๆโปสการ์ดเนี่ยจะซื้อทุกเมือง และจะซื้อเกินมาแบบละหนึ่ง แผ่น แล้วเอาไปฝากเป็นของระลึกอย่างเดียวที่จะซื้อ เพราะเรียมเที่ยวเเบบคนยากถึงเเม้บางที่มี ของที่อยากจะได้ ใจเเทบขาด ก็ต้องตัดใจซื้อเเต่โปสการ์ดอย่างเดียวค่ะ ช่วงเช้าจุดแรกที่เดินไปเที่ยวคือMarktplatz (มาร์คทพลัทซ์) ค่ะ ตรงนี้จะเป็นจุดที่ชาวบ้านชาวเมือง เขาจะนำของมาขายกัน เช่น ผลไม้ เสื้อผ้า ขนม จิปาทะค่ะ ![]() ซึ่งเทียบกับหลายๆเมืองที่เรียมไปเยือนมา รู้สึกว่า Marktplatz ของที่นี่จะสวยที่สุดค่ะ ![]() เพราะบริเวณรอบๆจะล้อมรอบไปด้วยบ้านไม้ที่เรียกว่า Fachwerkhaus (ฟาคแวร์คเฮ้าส์) ค่ะ ตัวบ้านจะทำด้วยไม้แล้วแกะสลักลวดลายและมีสีสันสวยงามค่ะ ![]() รอบๆ Marktplatzนี้ก็รายรอบไปด้วยบ้านเเบบสวยๆงามๆ มาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้างค่ะ Knochenhaueramtshaus ซึ่งได้มีการซ่อมเเซมเเละปรับปรุงมาเรื่อยตั้งเเต่ปี คศ. 1987 ถึง 1989 ซึ่ง เป็นบ้าน Fachwerkhaus ที่สวยที่สุดในโลกค่ะ ชั้นบน เป็นพิพิธภัณฑ์ ค่ะ Knochenhaueramtshaus ![]() ลักษณะหนึ่งของ บ้าน Fachwerkhaus คือมุมของเเต่ละชั้น จะล้ำเลื่อมกัน โดยเชิงบ้านของชั้นบน จะยื่นล้ำเกินกว่าชั้นล่าง หน่อยหนึ่ง อันนี้ พี่เเมทบอกให้ฟังเพื่อประโยชน์หลายๆอย่างด้วยกันเช่น เวลายกเปียโนขึ้น ก็ดึงรอกขึ้นทางด้านหน้าเลยไม่ได้ยกเข้าทางประตูค่ะ ![]() อีกลักษณะหนึ่ง คือไม้ที่นำสร้างจะไม่ได้ประกอบกันด้วยการตอกลิ่มหรือตะปู หากเเต่จะเป็นการนำ มาสลักเเละสอดกันค่ะ ![]() พอตอนบ่ายๆ พี่จอยว่าง ก็เลยมาเดินเล่นด้วย ค่ะเดินไป ก็เจออนุสรณ์เตือนใจค่ะ อนุสรณ์ นี้เรียกว่า Huckup-Denkmal จะเห็นเจ้าหัวขโมยที่หิ้วถุงเเอบเปิ้ล อันนั้นเป็นเเอปปิ้ลที่ขโมย มาเเม้ว่าจะได้เเอปเปิ้ลมาโดยไม่ถูกจับได้ก็ตาม เเต่ก็ยังต้องเเบกความผิดอยู่ดีในรูปรูปปั้นด้านบน จะเปรียบเทียบเหมือนกับความผิดที่ต้องเเบกรับ ![]() อีกรูปหนึ่งค่ะ ![]() เมืองนี้มีกุหลาบพันปีด้วยค่ะ เล่ากัน ว่า "กาลครั้งหนึ่งนานมาเเล้ว มีกุหลาบต้นหนึ่ง ซึ่งอายุนานมาก มากกว่าพันปีได้มีชีวิตเเละ ขยายพันธุ์ออกลูกออกหลานมากมายผ่านทั้งสงครามโลกครั้งที่หนึ่งเเละสองมาเเล้วเเม้กระทั่งใน สงครามโลกครั้งที่สองตัวจะตายไป เเต่รากก็ยังอยู่ ชาวเมืองจึงได้ขุดเอารากของเจ้ากุหลาบพันปีต้นนี้มาเพาะใหม่ซึ่งมันก็ได้ฟื้นขึ้น มาเเละเติมสีสันให้ชีวิตชีวากับชาวบ้านอีกครั้งหนึ่ง " กุหลาบ" สัญลักษณ์ ของความรัก ความ หลงใหล พี่แมทเคยเขียนไว้ในกระทู้ที่เวปสองหาวว่า " ไม่รู้ว่าทำไมผู้หญิงเจอกัน ชอบคุยกัน เรื่องความรักนักหนา" ![]() ก็อยากจะบอกว่าคราวนี้เราก็คุยกันเรื่องความรักเหมือนกันค่ะ ทำไมนะเหรอ มีคนกล่าวไว้ว่า ความรักมีอย่างเดียวแต่มีรูปแบบเป็นล้านๆแบบ อีกอย่าง ความรักออกแบบไม่ได้ค่ะ ของใครก็ของใคร ![]() รูปกุหลาบ มีตามพื้นค่ะตอนที่เรียมไป ยังเป็นปลายหนาวอยู่ กุหลาบยังไม่บานเเต่ป่านนี้ คงสะพรั่งไปทั้งบางเเล้วล่ะค่ะ ![]() เเล้วก็เดินไปเรื่อยๆ ก็จะเจอ ฮิลเดสไฮม์โดมค่ะ (Hildesheimer Dom) ซึ่งต้นต้นกุหลาบพันปีก็จะอยู่ ที่นี่ด้วยค่ะโดมเเห่งนี้ ได้ผ่านกาลเวลาผ่านช่วงเวลาที่โหดร้ายของสงครามโลกครั้งที่สองมาเเล้วถือ ได้ว่าเป็นโดมคู่บ้านคู่เมืองของชาวฮิลเดสไฮม์เลยก็ว่าได้ค่ะ ทางองค์การยูเนสโกก็ได้ยกให้เป็นมรดกโลกเเห่งหนึ่งด้วยค่ะมีการบูรณะเเละซ่อมเเซมหลายครั้ง เช่นกัน ด้านใน ก็เป็นพิพิธภัณฑ์ ![]() เดินมาอีกหน่อยก็จะเป็น St. Michael ซึ่งก็ได้เป็นมรดกโลกเช่นกันเพราะว่า ภาพวาดที่ติดอยู่เพดาน นั้นถือว่าเป็นภาพวาดที่ทรงคุณค่า เเละสามารถรอดผ่านสงครามโลกครั้งที่สองมาได้เช่นกันเล่ากัน ว่า ตอนเกิดสงครามนั้น ชาวเมืองได้รื้อภาพวาดลงมาเก็บซ่อนไว้ก่อนจึงปลอดภัยจากระเบิดได้ พอ สิ้นสุดสงคราม เเละโบสถ์ได้รับการบูรณะเรียบร้อยเเล้ว ภาพวาดเหล่านี้ก็ได้ถูกนำมาประดับอวดโฉมอีกครั้ง St. Michael ![]() ภาพวาด ![]() แล้วเรียมเจ้าขาก็นั่งรถไฟขบวนนี้กลับเมืองที่อาศัยกิน นอน และเรียนหนังสือค่ะ " การเดินทางครั้งนี้ มันไม่ได้จบหรือสิ้นสุดลงหรอก" หากแต่ว่า" มันเป็นการเริ่มต้นของการเดินทางบนเส้นทางใหม่ต่าง หากล่ะ " คิดได้อย่างนี้แล้วจิตใจก็เริ่มคึกคักขึ้นอีกครั้ง เตรียมตัวอดทน อดออมเพื่อการเดินทางครั้ง ใหม่อีกครั้งค่ะ ![]() ********************************************************* ปล. อ้างอิงจากกระทู้เก่าที่เคยเขียนไว้เมื่อยังสาว หุหุ โดยกระทู้สุดท้ายได้รับการโหวตให้เป็น กระทู้เเนะนำอยู่ 2-3 วันมั้ง ตอนนั้นดีใจสุดๆ ถึงตอนนี้เวลาใครหาข้อมูลในอากู๋ กระทู้เราก็ยัง อยู่ให้เป็นข้อมูลสำหรับนักเที่ยวมือใหม่ได้ค่ะ ข้อมูลอาจจะเก่าไปนิดๆ นะคะ //topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/E2956458/E2956458.html และหากค้นหาข้อมูลจาก google โดยใช้ keyword ว่า "เกาะอก...พกกล้อง...ท่องเยอรมัน( เฉียง+เหนือ)" ก็จะเจอกระทู้เก่าที่ฉันเคยเขียนทั้งหมดค่ะ ![]() |
เรียมเจ้าขา
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() " เรียมเจ้าขา หรือ เก๋ค่ะ " เขียน blog จริงจัง ปลายปี 2555 Blog นี้ก็จะรวมสิ่งที่ชอบในชีวิต และเรื่องที่อยากแบ่งปันทั้งเรื่อง ลูกสาวน้องกล้วยหอม,เรื่องเรียน ต่อเยอรมนี,Beauty, Skin care,แฟชั่นสิ่งทอ,ท่องเที่ยว และก็ตะลอนชิม ค่ะ ก็ขีดๆเขียนๆข้อมูลต่างๆเอาไว้ และแชร์เผื่อจะเป็นประโยชน์ กับท่านอื่นๆด้วยนะคะ contact me : http://www.facebook.com/kimmyandmais http://instagram.com/sasimamai ss.suksawang@จีเมล์ดอทคอม อุปกรณ์ที่ใช้ถ่ายรูป * Canon EOS 600D, * Canon EF-S 15-85mm f3.5-5.6 IS USM - Sigma 70mm F/2.8 DG Macro - Canon EF-S 18-55mm 1:3.5-5.6 IS - Canon EF-S 55-250 mm./4-5.6 IS * Ipad 3 * Olympus compact camera.
| ||||