มุมดีดี มีอยู่มากมาย อยู่ที่เราจะมองเห็นมันหรือไม่..เท่านั้น
Group Blog
 
 
เมษายน 2549
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
14 เมษายน 2549
 
All Blogs
 
3. เที่ยวฮาวาย.. ภาคแรก






บล็อกนี้เป็นอันที่ต่อเนื่องมาจากบล็อคแรก เรื่อง เมื่อรู้ตัวว่าได้ไปฮาวาย ผมตั้งใจจะเล่าประสบการณ์ที่ไปฮาวายมาตอนต้นเมษา 49 ว่าไปเจออะไรมาบ้าง.. คงจะทำเป็นเหมือน diary ว่าแต่ละวันไปเจออะไรมา

คงค่อยๆเขียนไปนะครับ.. ผมทำเป็น section ของแต่ละวันไว้ก่อน แล้วค่อยๆมาเพิ่มรายละเอียดเข้าไปทีหลัง ถ้าอ่านแล้วยังไม่มีอะไรมาก ก็รออีกสักพักแล้วแวะกลับมาอีกทีนะครับ จะมีเนื้อเรื่องกับรูปที่ถ่ายไว้ ใส่เข้ามาเรื่อยๆ




วันแรก - จันทร์ 3 เมษา - วันเดินทาง


วันนี้ตื่นตั้งแต่ตีห้าครึ่ง.. เพราะนัดเจอกันที่ดอนเมือง 6:30 เพื่อเช็คอินเพราะเครื่องออก 7:20 ไปก่อนซะชั่วโมงน่าจะทัน ตื่นมาอาบน้ำแต่งตัว ขนกระเป๋าเดินทาง พร้อมเป้หนึ่งใบ ให้น้องขับรถไปส่งดอนเมือง ไปถึงก็หกครึ่งพอดี เพื่อนๆมายืนรออยู่ละ บางส่วนก็ไปต่อแถวเช็คอิน (แถวยาวมาก) ตั๋วเครื่องบินเดี๋ยวนี้เป็น e-ticket ไม่ต้องมีกระดาษ แค่เดินไปยื่น passport ให้เค้าคีย์ชื่อเข้าไป ก็ได้ Boarding pass มา



เช็คอินเสร็จเรียบร้อย ก็ซื้อคูปอง 500 บาทค่าภาษีเดินทาง แล้วก็ผ่านตม.เข้าไปเช็ค passport ประทับตราแป๊บนึง ก็เข้าไปด้านใน Gate ไปแลกเงินดอลลาร์ที่เคาร์เตอร์แบงค์ข้างใน 17,000 บาทได้มา 430 เหรียญพอดี น่าจะพอสำหรับการซื้ออาหารหนึ่งอาทิตย์ เพราะช็อปปิ้งกะค่าโรงแรมคงรูดการ์ดเอา

บินไปด้วยไชน่าแอร์ไลน์ จากกรุงเทพฯก็ไปเปลี่ยนเครื่องที่ไทเปก่อนใช้เวลาบินประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าๆก็ถึงไทเป ใช้เวลาอยู่ที่สนามบินประมาณชั่วโมงนึง เปลี่ยนไปขึ้นเครื่องที่จอดอีก Terminal นึง แล้วก็บินต่อไปโตเกียว ซึ่งใช้เวลาบินอีกประมาณ 4 ชม.มาถึงโตเกียว เข้าใจว่ามารับคนญี่ปุ่นที่จะไปฮาวาย (คนญี่ปุ่นไปฮาวายเยอะมาก น่ารักๆด้วย อิอิ) ก็ต้องลงจากเครื่องไปเดินอยู่ที่ Gate อีกประมาณชั่วโมงนึง จากนั้นถึงจะบินตรงไปฮอนโนลูลู คราวนี้บินยาวประมาณ 7 ชม.กว่ารวมแล้วใช้เวลาบินจริงๆประมาณ 14 ชั่วโมง ถ้ารวมเวลาเปลี่ยนเครื่องกับ stop ด้วยก็ประมาณ 17 ชม.



ขาไปเนี่ยก็จะประทับใจกับแอร์ฯของไชนาแอร์ไลน์ เพราะเธอจะสามารถปีนเก้าอี้ เพื่อไปหยิบของบนช่องเก็บของเหนือที่นั่งได้อย่างคล่องแคล่ว คือไม่เคยเห็นแอร์ฯสายการบินอื่นปีนเก้าอี้ผู้โดยสารอะครับ อาจจะเพราะแอร์ฯสายการบินอื่นตัวสูงก็ได้ แอร์ฯไชน่าเธอก็จะเหยียบตรงข้างๆเบาะเก้าอี้ที่นั่งที่จะมีเหล็กยื่นออกมา แล้วก็ปีนหยิบโน่น จัดนี่ เห็นตอนแรกก็งงเหมือนกัน เพราะกลัวของจะตกมาใส่หัวคนนั่ง



วันที่สอง - จันทร์ 3 เมษา - วันแรกที่เหยียบฮาวาย


แผนที่เกาะ O'ahu

เช้าวันที่ 3 เมษา ก็มาถึงสนามบินฮอนโนลูลูโดยสวัสดิภาพ ก็หลับๆตื่นๆมาตลอดทาง พยายามจะหลับแต่ก็ถูกแอร์ปลุกมากินข้าวเป็นระยะๆ (ฮ่าๆ) ใครเคยขึ้นเครื่องบินไกลๆคงจะเจอเหมือนกันว่าแป๊บๆก็ปลุกมากินอีกละ ฮาวายช้ากว่าบ้านเราอยู่ 17 ชม. ก็เลยทำให้บินจากโน่นเช้าวันที่ 3 แล้วมาถึงนี้ก็ยังเช้าวันที่ 3 (ของฮาวาย) ได้ อ้อ.. อย่างที่เล่าไปในบล็อกที่แล้วว่า ที่ผมมานี่คือเกาะ O'ahu ซึ่งเป็นหนึ่งใน 6 เกาะใหญ่ของฮาวาย เป็นเกาะที่มีเมืองหลวงฮอนโนลูลูอยู่ ผมคงจะอ้างชื่อว่า ฮาวาย ตอนเล่านะครับ ขอให้เข้าใจว่าเป็นที่เกาะ O'ahu นี่ ถ้าดูในแผนที่ข้างบน จะเห็น Honolulu คือจุดที่สนามบินอยู่ล่ะครับ แล้ว Waikiki คือที่ที่เราจะไปพักกันอยู่ถัดลงมาทางใต้ Perl Habor จะอยู่ถัดขั้นไปทางเหนือของ Honolulu

ลงจากเครื่อง ผ่านตม.ของเมกาออกมาได้ ก็ไปขนกระเป๋าออกมาขึ้นรถบัสที่มารับไปโรงแรมเชอราตัน ไวกีกิ ซึ่งอยู่ห่างไปทางใต้ซะ 30 นาทีตั้งอยู่บนหาด Waikiki ไปถึงก็ register กับคนจัดงานว่ามาถึงแล้ว เค้าก็ให้หมายกำหนดการต่างๆมา แล้วก็ไปเช็คอินห้อง แต่ห้องยังไม่ได้ (เหมือนเมืองไทยเปี๊ยบ) ก็เลยฝากกระเป๋าไว้ห้องเพื่อนก่อน.. ล้างหน้าล้างตาแล้วก็เตรียมตัวออกชมเมืองครับ ก่อนออกมาก็เปิดประตูระเบียงไปถ่ายรูปหาดไวกีกิไว้ซะหน่อยก่อน วิวเดียวกะโปสต์การ์ดเลย

หาดไวกีกิ มองจากหน้าต่างโรงแรม

ตอนแรกก็เดินรอบๆโรงแรมก่อน แถวโรงแรมคือหาดไวกีกิ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวของฮาวาย ถ้าจะเทียบก็คล้ายๆกับพัทยาบ้านเรา มีโรงแรมใหญ่ๆเรียงรายตามถนน มีหาดทราย แล้วก็มีร้านขายของใหญ่ๆ แต่ถนนของที่นี่ดูสวยกว่าบ้านเรา เพราะไม่มีสายไฟฟ้าระโยงระยาง และที่สำคัญ แหะๆ สาวๆที่นี่เค้ากล้าใส่บิกีนี่กันอะครับ เดินแล้วตื่นตาตื่นใจดี

เดินพอรู้ทางก็เริ่มชักชวนกันไปที่อื่นก่อน เพราะรอบๆโรงแรมมาเดินทีหลังก็ได้ ก็หาข้อมูลกันพักนึงได้แผนที่กับจุดน่าสนใจ เราก็พบว่าสามารถนั่งรถ Trolley เข้าไปในเมืองที่มีห้างฯใหญ่ๆได้ รถนี้ก็จะคล้ายๆรถเมล์หละครับ แต่จะเป็น Open air ค่ารถก็เท่ากันคือ 2 US$ ถือเป็นการนั่งรถชมเมืองไปในตัว

รถ Trolley Bus

ในฮาวาย Trolley Bus จะเป็นการเดินทางที่สะดวกมากสำหรับนักท่องเที่ยว เพราะจะมีเส้นทางเดินรถที่ครอบคลุมแหล่งท่องเที่ยว และ shopping ทั้งหลาย นักท่องเที่ยวสามารถจะเลือกสายรถได้ว่า จะไปเที่ยวที่ไหนบ้างเช่น บางสายก็เข้าไปในเมืองที่มี Perl Harbor บางสายก็ออกนอกเมืองไปตาม Beach ต่างๆ ค่ารถก็จะมีแบบเที่ยวเดียว หรือแบบเป็นเหมาทั้งวันขึ้นกี่เที่ยวก็ได้ อันนี้ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน

พวกเราก็นั่งรถ Trolley นี่หละย้อนกลับเข้าไปทางเมือง คือตัวสนามบินจะอยู่ใน downtown จุดหมายคือ อะลาโมอะนา (Alamoana Shopping Center) ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากโรงแรม ก็กะจะไปกินข้าวเที่ยงกันที่นั่น แล้วก็เผื่อใครจะเริ่มต้น Shopping ที่นี่ ไปถึงก็แยกย้ายกันไปกินข้าวที่ food court ราคาปกติก็ 7-10 US$ สำหรับข้าว + กับสองอย่างแล้วก็น้ำอัดลม บางคนก็ลองอาหาร Hawaiian ดูครับ บางคนก็อาหารเกาหลี สำหรับผมก็อาหารจีนที่ Panda Express เจ้าประจำ

ห้าง Galleria ที่ไวกีกิ

กินกันอิ่มหนำสำราญ ก็ออกเดินดูห้างฯของที่นี่ ซึ่งจะมีห้างเซียร์ (Sear) แล้วก็เมซี่ (Masys) ก็นัดกันว่าบ่าย 3 ครึ่งกลับมาเจอกัน แล้วค่อยกลับโรงแรมเพราะเย็นนี้มีงานเลี้ยง welcome มีข้าวเย็นให้กินฟรี (เย่) ผมก็เดินไปทั้งสองห้าง แต่ดูแล้วไม่ค่อยน่า shop เท่าไหร่ เพราะคนน้อยมาก โหรงเหรงไม่เหมือนห้างฯบ้านเรา อาจจะเพราะเป็นวันธรรมดาก็ได้ สุดท้ายก็ไม่ได้ซื้ออะไร เดินดูของซะเป็นส่วนใหญ่

รวมพลกันได้ซะเกือบๆสี่โมง ก็นั่งรถ Trolley กลับไปแถวๆโรงแรม เตรียมตัวลงไปงาน Welcome dinner ที่เค้าจัดให้ คนคงประมาณซะ 600 คนสำหรับงานวันนี้เพราะมีทั้งมาจากอาเซียน เกาหลี แล้วก็อินเดีย พวกเราก็ลงไปที่งานซะหกโมง งานจัดเป็นงานกลางแจ้งในสวนกับรอบๆสระว่ายน้ำ มีเต๊นท์ใหญ่คลุมโต๊ะนั่งไว้ แล้วก็มีเวทีข้างสระว่ายน้ำ ก็จัดได้สวยดีครับ อาหารก็โอเค (ของฟรีนี่นา)

การแสดงระบำฮาวายของเด็กๆในงาน welcome dinner

นั่งกินไปได้ซะสองอิ่ม ก็มีเสียงเป่าอะไรซะอย่าง แล้วก็เสียงกลอง ที่แท้เป็นเสียงเป่าหอยสังข์ ซึ่งเป็นการเริ่มต้นของการเต้นระบำฮาวาย จะมีหนุ่มฮาวายในชุดพื้นเมืองวิ่งมาเป๋าเปลือกหอย แล้วก็มีสาวๆเดินถือพวกเครื่องดนตรีพื้นบ้านคล้ายๆน้ำเต้าอันใหญ่ๆใช้เคาะเหมือนกลอง ถัดไปก็เป็นเด็กๆแต่งชุดระบำฮาวายน่ารักมาก เดินมาเป็นแถวนำมาด้วยสาวฮาวาย แล้วก็มาเต้นระบำฮาวายให้ดูบนเวทีทั้งเด็กทั้งสาว แต่ดูคนจะประทับใจเด็กๆมากกว่า โดยรวมก็ถือเป็นการเปิดงานที่ประทับใจครับ ถัดจากนั้นก็เป็นพวกคนใหญ่คนโตมากล่าวเปิดงาน (ข้ามไปเลยดีกว่า) พอจบก็เป็นดนตรีเล่นให้ฟังขณะที่ พวกเราก็เดินถ่ายรูปกันเองมั่ง ถ่ายกะคนรู้จักจากประเทศอื่นมั่ง จบงานก็ประมาณสามทุ่มซึ่งก็แยกย้ายกันไปนอน เพราะง่วงมากๆ เทียบกะเวลาเมืองไทยคือบ่ายสามโมง เวลาของร่างกายมันยังเป็นของเมืองไทยอยู่ เท่ากับผมต้องทนตื่นอยู่ตั้งกะเที่ยงคืนจนบ่ายสาม ตอนนี้ก็เกือบน็อคแล้วหละ พออาบน้ำหัวถึงหมอนก็สลบไปเลย


วันที่สาม - อังคาร 4 เมษา - ประชุม แล้วก็ขับรถเที่ยว



วันนี้ตอนเช้ามี session รวมสำหรับคนที่มาร่วมงานทั้งหมดใน convention hall เพื่อประกาศผลงาน แล้วก็แจกรางวัล ส่วนตอนบ่ายเค้าก็ปล่อยเป็น free time ซึ่งหลังจากคุยกันแล้ว.. ก็ตกลงจะไปขับรถเล่นออกไปเลียบชายหาดทางตะวันตกของ O'ahu ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวสวยๆอยู่

ชายหาดระหว่างทาง


วันที่สี่ - พุธ 5 เมษา - ลงเรือ Cruise - ช็อป Outlet



วันนี้เค้ามีทัวร์ให้เลือกว่าจะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง มีทั้งปีนเขา ขี่ม้า ไปดูปลาโลมา หรือลงเรือ Cruise ซึ่งผมเลือกอันนี้หละ ก็เป็นทัวร์ประมาณครึ่งวัน ครึ่งวันหลังก็จะปล่อย free ตอนเช้าก็ต้องตื่นเช้าอีกละ เพราะรถออก 8:30 ต้องลงไปกินข้าวเช้าก่อน กินข้าวเสร็จเค้าก็ต้อนขึ้นรถบัสเป็นกลุ่มๆ สำหรับกลุ่มที่ไป Cruise ก็มีประมาณ 3 คันรถบัส นั่งรถไปซะ 10 นาทีก็ไปถึงท่าเรือ

ระบำฮาวายบนเรือ

ลงไปในเรือก็มีระบำฮาวาย กับวงดนตรีรออยู่แล้ว เค้าก็เต้นระบำฮาวายต้อนรับคนลงเรือ พอครบแล้วก็เริ่มออกเดินทาง จุดหมายก็คือแล่นไปถึง Diamond Head เพื่อชมวิว จริงๆเค้าจะมีให้ดำน้ำด้วย แต่เนื่องจากเมื่อคืนฝนตก ทางการประกาศไม่ให้เล่นน้ำ เพราะน้ำจะมีแบคทีเรียเยอะ ?? ก็งงกันหละครับ บ้านเราไม่เห็นต้องมีห้ามแบบนี้เลย น้ำคลองก็โดดเล่นกันโครมๆ

ถ่ายบนดาดฟ้าเรือ

ไม่ได้ลงเล่นน้ำก็ชมวิวละกันครับ พอเรือออกจากท่าเค้าก็ให้ขึ้นไปบนดาดฟ้าได้ ผมก็ขึ้นไปถ่ายรูป กะตากแดดให้ดูผิวแดงๆหน่อย เดี๋ยวคนจะไม่เชื่อว่ามาฮาวาย เรือก็แล่นเลียบฝั่งไปเรื่อยๆน่ะครับ จนไปถึง Diamond Head ก็กลับลำแล้วก็จอดให้กินข้าวกัน ระหว่างกินข้าว ก็มีระบำฮาวายเต้นให้ดูเป็นระยะ บางช่วงก็มีเรียกคนดูไปหัดเต้น ซึ่งผมว่าก็เต้นลำบากพอดู ต้องให้ช่วงเอวส่าย แต่ไหล่อยู่นิ่งๆ แถมต้องทำมือไปด้วยเป็นท่าต่างๆ เช่นท่าคลื่น ท่าปลา ท่าพระอาทิตย์ขึ้น ก็พึ่งจะรู้นี่หละว่าระบำฮาวายเค้ามีท่าเฉพาะ..

พอกินกันอิ่ม.. รู้สึกเหมือนไม่ค่อยมีอะไรทำ พวกอินเดียที่ลงไปลำเดียวกันก็คงอยากขึ้นฝั่ง ก็มีการยกมือโหวต Go Back.. Go Back.. สุดท้ายก็ตกลงกลับเข้าฝั่งกันเพราะอยู่ไปก็ไม่มีอะไรแล้ว



ผมแยกวันที่เหลือไปเป็นอีก blog นึงเนื่องจากมีรูปเยอะครับ อาจจะทำให้โหลดนาน เลยแบ่งครึ่งเป็นอีก blog นึงดีกว่า เชิญติดตามได้ที่ link นี้เลยครับ


เที่ยวฮาวาย.. ภาคจบ



Create Date : 14 เมษายน 2549
Last Update : 22 เมษายน 2549 21:18:23 น. 19 comments
Counter : 10423 Pageviews.

 
แง่มมๆๆๆๆๆอยากไปมั่งง่ะ
อยากใส่บิกินี่ ให้คนเขาแตกตื่นมั่งอ่ะ
อะจึ๋ยยยๆๆๆ แค่คิดก็'หยองแล้ว


โดย: เสือจ้ะ วันที่: 15 เมษายน 2549 เวลา:22:29:58 น.  

 
แหม น่าจะบรรยายเยอะกว่านี้อีกนะคะ
สวยจังเลยอะ
trip เตยฝนตกเกือบตลอดเลยยย - -"


โดย: ltoeyl วันที่: 15 เมษายน 2549 เวลา:23:23:19 น.  

 
Oh I forgot to say Happy Songgran Day Ka ^^


โดย: ltoeyl วันที่: 15 เมษายน 2549 เวลา:23:24:34 น.  

 
จะกลับมาบรรยายเพิ่มเรื่อยๆนะครับ.. ขอไปนึกก่อน


โดย: เจ้าของบล็อก (dharma ) วันที่: 16 เมษายน 2549 เวลา:0:10:58 น.  

 
บรรยากาศ ชวน เหงา

น่าดูอ่ะ

ถ้าไป คงคิดถึง

ใครบางคนเป็นแน่แท้

เฮ้อออออออ

แต่ สวยดีนะ

ชอบทะเลอ่ะ

เวลา ไม่สบายใจ จะไปทะเลนะ



โดย: ชิโยจัง IP: 210.246.64.221 วันที่: 16 เมษายน 2549 เวลา:15:32:02 น.  

 
เย็นนี้หม่ำไรดีน๊อ


โดย: สาวหน้าใส วันที่: 16 เมษายน 2549 เวลา:18:09:17 น.  

 
ยังไม่มีโอกาสไปเชียงใหม่ ที่แท้ มีโอกาสไปฮาวาย นี่เอง

ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมเยียนกันที่บล็อกนะคะ

อยากจะมีโอกาสไปฮาวาย สักครั้งในชีวิตเหมือนกันค่ะ


โดย: varissaporn327 วันที่: 18 เมษายน 2549 เวลา:12:24:41 น.  

 
แวะมาอีกแล้วคร้าบบบบพี่

อากาศครึ้มๆๆ

สวัสดีค๊า ไปแระ อิอิ


โดย: สาวหน้าใส วันที่: 20 เมษายน 2549 เวลา:17:30:28 น.  

 
แล้วจะแวะไปเยี่ยมอีกนะครับ ทั้งคุณ varissaporn และสาวหน้าใส.. (ผลุบๆโผล่ๆ)


โดย: เจ้าของ blog IP: 125.25.144.76 วันที่: 20 เมษายน 2549 เวลา:21:40:33 น.  

 
แอบแวะมาเยี่ยมค่ะ เป็นไงบ้างคะคุณพี่ dharma หวังว่าคงสบายดีนะคะ

ได้ไปเที่ยวด้วย อิจฉาจังเลย....

อยากไปมั่งอ่ะ.....


โดย: mini mini วันที่: 21 เมษายน 2549 เวลา:10:21:11 น.  

 
อืม.. เว็บที่เก็บรูปเป็นไรไปไม่รู้

รูปไม่ขึ้นเลยอะ


โดย: เจ้าของ blog (dharma ) วันที่: 21 เมษายน 2549 เวลา:22:10:39 น.  

 
สวัสดีค่ะ ^^ เตยอ่านไปครึ่งนึงแล้วละ มีรูปด้วยดีจังเลยชอบๆ
sears ที่นี่ก็เงียบๆเหมือนกันค่ะ รู้สึกฝรั่งจริงๆแล้วก็ไม่ค่อยนินชยมเดินใหตัวห้างนะคะ อย่าง Mall ที่นี่ส่วนใหญ่เค้าก็จะอยู่ตามร้านข้างนอกน่ะค่ะ แบบ barns&nobel ไม่ก็นั่งคุยอยู่ตาม cafeteria ซะมากกว่า


โดย: ltoeyl วันที่: 21 เมษายน 2549 เวลา:22:56:59 น.  

 
ฮั่นแน่....แอบปิ๊งแอร์สาวๆ คริคริ

ปีนเก้าอี้เลยหรอ ดีนะไม่ตก ไม่งั้นพี่คงโดดเข้าไปรับ


5555


โดย: one (onebeauty ) วันที่: 21 เมษายน 2549 เวลา:23:17:11 น.  

 
จริงอย่างคุณเตยว่าหละครับ.. ฝรั่งเค้าเดินกันตามร้านข้างนอก ดูคึกคักกว่ากันเยอะเลย ผมก็ซื้อของได้จากข้างนอกนี่หละ มีของน่ารักๆขายเต็มเลย แต่แปลกนะ คนขายที่นี่เป็นคนญี่ปุ่น พูดอังกฤษไม่ค่อยคล่อง.. แต่ขายของได้ แสดงว่ากลุ่มเป้าหมายนี่คือคนญี่ปุ่นเลย


โดย: dharma วันที่: 22 เมษายน 2549 เวลา:0:44:24 น.  

 
ไปปปปปปปปปปปปปด้ยวสนุกมาก


โดย: งง IP: 61.91.165.216 วันที่: 21 มีนาคม 2550 เวลา:9:02:11 น.  

 
ค่าเครื่องบินประมาณเท่าไหร่คะ


โดย: Jiap IP: 202.28.35.1 วันที่: 3 ตุลาคม 2550 เวลา:10:23:08 น.  

 
สวัสดีคับ ผมไม่เคยไปเที่ยวที่เกาะฮาวาย แต่มีโปรแกมดูแล้วรู้สึกท่องเที่ยวดี เป็นธรรมชาติ ผมอยากไปเที่ยวที่เกาะฮาวาย
ขอบใจมาก ขอให้พระเจ้าอวยพร


โดย: top IP: 203.151.240.105 วันที่: 16 ตุลาคม 2550 เวลา:22:33:54 น.  

 


โดย: peter125 (steven1064 ) วันที่: 2 มกราคม 2555 เวลา:2:20:46 น.  

 
อยากไปบ้างจัง


โดย: wutna IP: 161.200.14.79 วันที่: 29 กรกฎาคม 2555 เวลา:16:46:04 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

NETA Dad
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]














ไหนๆก็มาแล้ว แวะไป
เซ็นสมุดเยี่ยม
หน่อยนะครับ

วันเกิด blog นี้ : 2 กุมภา 49
















Friends' blogs
[Add NETA Dad's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.