ตกแต่งภายใน
ตกแต่งภายในห้องนอนเพื่อสุขภาพวงการแพทย์ในประเทศไทยปัจจุบัน จึงได้ให้ความสนใจกับการจัดแต่งบ้านและห้องนอนมากขึ้น เนื่องจากเป็นส่วนที่เราสัมผัสอยู่เป็นประจำ ซึ่งแพทย์ได้แนะนำว่าห้องนอนควรจะจัดแต่งด้วยเครื่องประดับที่กอปรด้วยสาร ก่อภูมิแพ้ให้น้อยที่สุด และพยายามรักษาจิตใจให้แจ่มใสอยู่เสมอ สารที่ก่อภูมิแพ้ในบ้านเรา ได้แก่ ฝุ่นละอองและ ตัวไรที่ติดมากับฝุ่นในบ้าน ขนสัตว์ และเชื้อเรา ดังนั้น ห้องนอน นอกจากจะแลดูสวยงามสดชื่นตามสไตล์ที่ชอบแล้ว ยังต้องพิถีพิถันในการเลือกสรรวัสดุและเครื่องเรือนสำหรับการตกแต่งอีกด้วย
เตียงนอนและเครื่องนอน
ควรเลือกเตียงนอนแบบไม่มีขาเตียง เพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นเข้าไปขังใต้เตียง และที่นอนก็ควรเลือกวัสดุที่ไม่เป็นฝุ่นฟุ้ง ได้แก่ ที่นอนทำด้วย ฟองน้ำ ยาง หรือที่นอนสปริง โดยมีผ้าหุ้มมิดชิด ส่วนผ้าปูที่นอนควรทำด้วยผ้าฝ้าย เพื่อหลีกเลี่ยงสารที่ก่อเกิดอาการแพ้ทางผิวหนัง และควรเปลี่ยนผ้าปูอย่างน้อยสัปดาห์ ละ 2 ครั้ง ส่วนหมอนนั้น ถ้าทำด้วยใยสังเคราะห์ก็จะเป็นการดีทีเดียว เนื่องจากนำมาซักทำ ความสะอาดได้ ส่วนของผ้าห่มก็เช่นกันควรจะเลือกที่เป็นใยสังเคราะห์
เครื่องประดับห้อง
ควรมีน้อยที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นที่เก็บกักฝุ่นและตัวไร เช่น ตุ๊กตาขนฟู หมอนประดับที่ไม่จำเป็น ส่วนเก็บหนังสือและส่วนแต่งตัว ควรแยกเป็นสัดส่วน เสื้อผ้าเก็บไว้ในตู้ให้เรียบร้อย บริเวณที่แต่งหน้าผัดแป้งใส่น้ำหอม ควรมีฉากปรับเลื่อนกั้นออกจากส่วนนอน หรือจะออกแบบให้เป็นส่วนหนึ่งของห้องน้ำก็ได้
พื้นห้องนอน ควรปูด้วยไวนีลหรือพื้นไม้ ไม่ควรปูพรม
ผ้าม่าน เลือกผ้าที่ฝุ่นสะสมยาก และแบบที่ไม่เป็นจีบซับซ้อน หรือเลือกมู่ลี่ที่ถอดทำความสะอาดได้ง่าย
หน้าต่างและการระบายอากาศ
เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง แม้ว่าเราใช้เครื่องปรับอากาศเพื่อความสบาย แต่ก็ควรเปิดหน้าต่างให้อากาศหมุนเวียน และเปิดม่านออกให้ห้องนอนได้รับแสงแดดพอสมควร เพราะห้องนอนควรมีอากาศที่สดชื่น ปราศจากกลิ่นควันของบุหรี่ หรือควันธูป หรือน้ำหอมต่าง ๆ รวมทั้งกลิ่นอาหาร การติดเครื่องกรองอากาศ ควบคู่กับเครื่องปรับอากาศก็เป็นสิ่งที่ช่วยได้แล้วแต่กรณี
การรักษาห้องนอนให้ปลอดมลพิษ
เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการสร้างเสริมพลานามัย ซึ่งจะต้องควบคู่กับการสร้างเสริมจิตใจที่แจ่มใส หากคุณจะเสริมแต่งผนังให้ดูสนชื่นด้วยภาพเขียนสักภาพละก็ ลงมือจัดการได้ทันทีค่ะ ก่อนจะเกิดโรคเครียดขึ้นมาอีกโรคหนึ่ง..
6 ไอเดียกว้างในบ้านแคบไอเดียที่ 1 ไม่กั้นก็ไม่แคบ
สิ่งสำคัญในการจัดพื้นที่แคบคือพยายามสร้างความต่อเนื่องภายในพื้นที่ไว้ให้ มากที่สุด ไม่ควรกั้นผนังทึบ เพราะจะยิ่งทำให้บ้านดูแคบลงไปอีก หากต้องการแบ่งพื้นที่ใช้งานภายในห้องควรกั้นผนังแบบโปร่ง โดยการทำชั้นวางของ ใช้ฉากหรือม่านที่เลื่อนปิดเปิดได้ เพื่อปรับเปลี่ยนพื้นที่ให้เหมาะสมกับการใช้งาน อีกวิธีหนึ่งคือการแบ่งพื้นที่ด้วยการเปลี่ยนสีหรือพื้นผิวของผนังและพื้น ซึ่งนอกจากจะช่วยแบ่งสัดส่วนของพื้นที่แล้ว ยังสามารถเปลี่ยนอารมณ์และเพิ่มมิติให้กับพื้นที่ได้อีกด้วย
ไอเดียที่ 2 หนึ่งชิ้นหลายหน้าที่
เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แบบอเนกประสงค์แทนการใช้เฟอร์นิเจอร์หลายชิ้นให้เกะกะ พื้นที่ และอีกวิธีหนึ่งคือการจัดวางตำแหน่งเฟอร์นิเจอร์แบบธรรมดาให้ใช้งานได้หลาก หลาย เช่น วางโต๊ะกลางในตำแหน่งที่เป็นได้ทั้งโต๊ะรับประทานอาหาร โต๊ะนั่งเล่น และโต๊ะทำงาน แล้วแต่การใช้งานในแต่ละโอกาสและช่วงเวลา
ไอเดียที่ 3 ปรับเปลี่ยนประหยัดที่
การใช้เฟอร์นิเจอร์ที่สามารถยืด หด พับเก็บ หรือมีล้อเลื่อน จะช่วยประหยัดเนื้อที่ได้มาก เพราะทำให้ปรับเปลี่ยนได้ตามการใช้งานและเคลื่อนที่ไปใช้งานในส่วนต่างๆได้ อย่างสะดวก เมื่อไม่ใช้งานก็นำไปเก็บได้โดยไม่เปลืองเนื้อที่ ถ้าหากเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถเก็บแบบซ้อนชิ้นเล็กในชิ้นใหญ่ หรือถอดประกอบแยกส่วนได้ด้วยจะยิ่งช่วยประหยัดพื้นที่ได้มากขึ้นด้วย
ไอเดียที่ 4 บิลท์อินช่วยคุณได้
แม้ว่าการทำเฟอร์นิเจอร์บิลท์อินจะทำให้เสียพื้นที่ไปบางส่วน แต่ก็เป็นวิธีที่ดีในการจัดการกับพื้นที่ที่มีอยู่จำกัดให้เป็นประโยชน์และ ตรงกับความต้องการของคุณได้ดีกว่าการใช้เฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัว เพราะสามารถออกแบบให้มีขนาดพอดีกับข้าวของเครื่องใช้ และช่วยให้การเก็บของเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้นด้วย
ไอเดียที่ 5 ติดผนังเข้าไว้
หากบ้านของคุณมีพื้นที่ไม่เพียงพอที่จะวางข้าวของที่เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ คุณสามารถเพิ่มพื้นที่ใช้สอยด้วยการใช้ประโยชน์จากที่ว่างทางแนวตั้ง ไม่ว่าจะทำชั้น หรือราว ที่สามารถยกข้าวของของคุณขึ้นจากพื้นไปลอยอยู่เหนือหัว หรือติดอยู่บนผนังให้มากที่สุด แล้วคุณจะพบว่าภายในบ้านยังเหลือพื้นที่ว่างให้ใช้ได้อีกมากมาย ตั้งแต่พื้นไปจนถึงฝ้าเพดาน
ไอเดียที่ 6 เทคนิคลวงตา
ใช้องค์ประกอบพื้นฐานในการออกแบบ เช่น เส้น สี แสง เงา และผิวสัมผัส มาตกแต่งบ้านเพื่อช่วยหลอกตาให้ดูกว้างขึ้น เช่น การใช้เส้นนอนเพื่อยืดให้ห้องดูยาวขึ้น การเปิดช่องแสงเพื่อเชื่อมต่อกับพื้นที่ภายนอก การใช้วัสดุผิวมันวาว เช่น กระจกหรือสเตนเลส สร้างเงาสะท้อนเพิ่มมิติให้กับพื้นที่ การใช้เฟอร์นิเจอร์แบบโปร่งบาง ทำให้ห้องดูโล่ง ไม่ทึบตัน การใช้สีอ่อนๆหรือการจัดแสงไฟให้ห้องดูสว่างขึ้น และวิธีอื่นๆอีกมากมายที่สามารถมาประยุกต์ให้เข้ากับความต้องการใช้สอยและ สไตล์การตกแต่งบ้านของคุณ
ข้อมูลตกแต่งภายใน
Create Date : 13 พฤศจิกายน 2551 |
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2551 12:51:22 น. |
|
2 comments
|
Counter : 358 Pageviews. |
 |
|