bloggang.com mainmenu search

สวนนงนุช เป็นที่เที่ยวที่อยู่สุดพัทยาใต้ เคยไปครั้งหนึ่งเมื่อ 8 ปีที่แล้ว ตอนนั้นยังไม่ค่อยมีอะไรครับ จำได้แค่สวนสัตว์ สวนฝรั่งเศส ตึกมด และที่เก็บรถเก่า


เร็วๆนี้ ได้เห็นสวนนงนุชที่อัพเกรดตัวเองขึ้นไปเรื่อยๆ ได้เห็นบนเฟซพี่วรรณว่าเขามีสวนไดโนเสาร์ มีรูปปั้นไดโนเสาร์เยอะมาก ที่โดดเด่นคือซอโรโพไซดอนคู่ ไซส์เท่าของจริง เป็นรูปปั้นไดโนเสาร์ใหญ่ที่สุดเท่าที่ไทยเคยมีมาด้วย ว่าแล้วก็จัดไปสักยกนึงครับ! ด้านหน้าที่จอดรถเป็นศูนย์ประชุมนานาชาตินงนุชพัทยา ให้บริการจัดประชุมแบ่งเป็น 3 ฮอลล์ ห้องใหญ่สุดรองรับคนได้ 1300-2600 คน แล้วแต่จัดโต๊ะ

ปีนี้มีเทศกาลส่งเสริมท่องเที่ยวชลบุรี ชาวชลบุรีเที่ยวฟรี ส่วนคนที่อื่นก็จ่ายตามราคานี้เลยครับ ผมดูแค่สวนแหละ จ่าย 200.- เที่ยวได้ทุกโซนในสวน ถ้าจะดูการแสดงอื่นๆก็จ่ายเพิ่มตามแพ็คเกจเลยจ้า



แผนที่จากเว็บไซต์ของสวนนงนุช https://www.nongnoochtropicalgarden.com/th/home/

ถึงจะชื่อสวนนงนุชพัทยา แต่ตั้งอยู่ที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี นะครับ เดินทางมาก็ใช้เส้นไปพัทยาปกตินี่แหละ แล้วขับลงมาพัทยาใต้ ล่างสุดเลยสวนน้ำรามายณะมาอีกจ้า ที่นี่ตั้งชื่อตามชื่อเจ้าของคือคุณนงนุช ตันสัจจา ทำธุรกิจจัดสวนจนร่ำรวย ส่งของมาช่วยงานพิธีต่างๆบ่อยครั้งเหมือนกันครับ ที่จำได้หลังสุดก็ส่งต้นไม้กับรถเก่ามาร่วมในพระราชพิธีในหลวง ร.9 และบริจาคปาล์มให้อุทยานราชภักดิ์ สวนนี้เปิดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2523 ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวทีเปิดมานานแล้วเหมือนกัน เปิดบนพื้นที่ 1,500 ไร่ที่คุณนงนุชและคุณพิสิฐ (สามี) ซื้อไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2497 (ราคาตอนนั้นคงไม่เท่าไหร่ ตอนนี้จะซื้อที่เป็นพันไร่แถวพัทยาหมดสิทธิ์ครับ) นอกจากสวนสวยที่มีต้นไม้ดอกไม้ บ่อปลา รูปปั้นประดับสวยงามแล้ว ยังมีห้องอาหาร ห้องสัมมนา ห้องพัก ฯลฯ มาจัดสัมมนาหน่วยงานเล็กๆได้นะครับ ที่พักรับแขกได้ไม่มากเท่าไหร่

ปัจจุบันสวนนงนุชมีพื้นที่ขยายเพิ่มเป็น 1,700 ไร่ รวบรวมพันธุ์ไม้กว่า 18,000 ชนิด มีผู้เยี่ยมชมวันละ 5,000 คน เป็นสุดยอดสวนแห่งนึงของโลกเลยก็ว่าได้

ครั้งหลังนี้ผมไปเมื่อต้น พ.ค. ร้อนตับแล่บ! เดินกลางแจ้งได้แป๊บเดียว HP หมดหลอด ดีที่เขามีห้องแอร์ให้เป็นระยะๆ แต่ถ้ามาช่วงนี้คงเย็นสบายขึ้นเยอะ แต่ฟ้าก็ไม่สวยเท่านี้อะนะ ส่งกล้องไปซ่อมอยู่ ทริปนี้เลยใช้กล้องตัวเก่า SONY RX100 รุ่นแรกเลยครับ ก็พอไปวัดไปวา

เดินเข้ามาจะเจอสวนกระบองเพชร ห้องแสดงรถหรู และช้างก่อน จากนั้นมีรถให้ขึ้น (ไป-กลับคนละ 80 บาท) รถจะไปส่งที่สวนไดโนเสาร์ แล้วจะนั่งรถกลับมาหรือเดินกลับมาแล้วชมวิวระหว่างทางก็ได้ อันที่จริงไปซื้อตั๋วขึ้นรถรอบขากลับ 40 บาทก็พอครับ ไม่งั้นไม่ได้เดินดูอย่างอื่นนะ

สวนกระบองเพชร (Cactus Garden) จะมีช่วงทางเข้า และอีกสวนอยู่ในสวนไดโนเสาร์ครับ มีกระบองเพชรและไม้อวบน้ำกว่า 300 สายพันธุ์ ตั้งแต่ต้นใหญ่ยักษ์ยันจิ๋วกระจิ๊ดริด ผมนี้รีบสะกิดชวนพี่จินมาดูเลย


ห้องจัดแสดงรถหรู ครับ กท. เลขประมูลทั้งนั้น ทุนอย่างเยอะอะ มีสามห้องตั้งแยกกันไป


เพนียดช้าง ซื้อกล้วยให้ช้างได้หวีละ 50 จ้า ห้ามเอาของข้างนอกให้มันกินนะ เดี๋ยวคนเอาของแปลกๆให้ หรือมีเชื้อโรคข้างนอกเข้ามาสัตว์จะป่วย ในภาพคุณหลานตัวจิ๋วให้อาหารพี่ช้าง ตอนนี้หลานเพิ่งสองขวบ พอโตขึ้นเดี๋ยวก็ตัวเท่ากัน <<ไม่เท่าเฟ้ย!


ซื้อตั๋วขึ้นรถครับ คนขับบรรยายระหว่างทางไปเรื่อยๆ มีรูปประติมากรรมสัตว์หลากหลายชนิดเรียงราย เจ้าฟลามิงโก้สีชมพูที่เคยเห็นวันนี้สีส้มละ ใช้เวลา 15 นาทีก็มาถึง หุบเขาไดโนเสาร์ ไฮไลต์ของสวนนงนุชในยุคนี้ที่เพิ่งสร้างในปี 2560 นี้เอง แต่ปีก่อนทำเพิ่มขึ้นมาอีกเป็นร้อยตัวจนเป็นโซนที่เด่นที่สุดในสวนนงนุชไปเลยครับ



รูปปั้นไดโนเสาร์เหล่านี้มีขนาดเท่าของจริง ศึกษารูปพรรณและคาดคะเนสีของมันมาเป็นอย่างดี นอกจากความเพลิดเพลินแล้วยังมีจุดประสงค์เป็นที่ศึกษาไดโนเสาร์ด้วย ปั้นสวยด้วยนะครับ ตอนนี้สร้างไปแล้ว 500 กว่าตัว รวม 145 สายพันธุ์ และยังสร้างเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หลายสายพันธุ์ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยด้วย คุณกัมพล ตันสัจจา ลูกชายของคุณนงนุช เป็น ผอ.สวนนงนุชคนปัจจุบัน ตั้งใจจะสร้างไดโนเสาร์ให้ครบทุกสายพันธุ์เท่าที่ค้นพบมา เป็นความฝันสุดยิ่งใหญ่จริงๆ



แดดร้อนเปรี้ยงเลยนะครับ ตรงนี้เป็นสวนกระบองเพชรแห่งที่สองด้วย ให้ฟีลทะเลทรายโดยแท้ ตรงที่รถบัสมาจอดเป็นอาคารขายของมีน้ำให้ดื่ม มีอาหารให้กิน นี่มันโอเอซิสชัดๆ จะเดินด้านล่างก็ได้ หรือจะเดินทางเดินด้านบนก็มีหลังคาให้ แต่จะไม่ได้ถ่ายไดโนเสาร์อย่างใกล้ชิดนะ
 

มาถึงสวนนงนุชก็ต้องกินไอศครีม Thai Taste
อร่อยหวานเย็นชื่นใจ ใส่ผลไม้ให้จุใจได้รสชาติผลไม้แท้
 

เดินบนทางเชื่อมมาสักพักจะมีเทอเรซอีกแห่งนึง เป็นจุดขึ้นรถกลับ
แต่เรายังอยากเที่ยวส่วนอื่นๆอีก เลยเดินต่อครับ
 

สวนฝรั่งเศส นี่แหละเป็นไฮไลต์ทั้งในอดีตและในปัจจุบัน ตอนนี้มันยังเป็นไฮไลต์ก็เพราะรูปปั้นไดโนเสาร์พันธุ์ใหญ่ๆมาอยู่กันแถวนี้อะนะ ทั้งแบรคคิโอเซารัส, ซอโรโพไซดอน, สไปนอเซารัส ฯลฯ และเมื่อไดโนเสาร์บุกเข้าพื้นที่ สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนั้นก็จะถูกครอบครองไปอย่างสมบูรณ์ครับ ไม่มีใครสนใจสวนฝรั่งเศสหรือบ่อปลาช่อนอเมซอนอีกต่อไปแล้ว


และคู่นี้คือไดโนเสาร์พันธุ์ซอโรโพไซดอนครับ ไดโนเสาร์ความยาว 35 เมตร ที่นับว่าใหญ่ที่สุดในโลก (ถึงจะพบซากที่ไม่สมบูรณ์จนประมาณความยาวได้ยากก็เถอะ) ที่นี่เป็นที่แรกที่จำลองเจ้าพันธุ์นี้ขนาดเท่าตัวจริง แต่ก็ยังไม่ทำลายสถิติรูปปั้นไดโนเสาร์ใหญ่ที่สุดในโลกของเจ้า T-Rex ทื่อัลเบอร์ทา แคนาดานะ รายนั้นยาว 46 เมตร ใหญ่กว่าทีเร็กซ์จริงๆไปเยอะ


เดินต่อมาอีก มีเหล่ารูปปั้นแมลง และบอนไซให้ชมนิดหน่อย ก่อนจะมาถึงโรงรถหรูแห่งที่สอง ได้พักตากแอร์กันอีกเฮือก อันนี้ก็ยังคงทะเบียนประมูลล้วนๆครับ รวยจริงจริง! ส่วนห้องแสดงรถหรูที่เคยมาครั้งก่อนอยู่ติดสำนักงานใหญ่ ตอนนี้ไม่ค่อยมีคนดูแล้ว



ตึกมด ก็ยังคงเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ คอนเซปต์ของที่นี่เปรียบพนักงานเหมือนกับพวกมดขยันที่จะช่วยรังสรรค์ให้สวนสวย มดพวกนี้จะถูกทาสีให้สวยสดใสอยู่เสมอ แม้เผชิญแดดฝน


ถัดมาเป็นบ่อปลาช่อนอเมซอน มองไม่เห็นตัวเลยครับ คงต้องมีคนให้อาหาร แต่น้ำลึกก็มองยากอยู่ดี แถมเห็นมันทุกเช้าในบ่อปลาที่ร้านข้าวแกงบ้านสวนอยู่แล้ว เลยไม่มีแรงจูงใจให้อยากดูเท่าไหร่ เลยมาเลยจ้า สวนกระถาง! นี่ก็ครีเอตนำกระถางมาประดับสวนอย่างลงตัว บางกระถางทำเป็นหน้าของคุณกัมพลเจ้าของสวนด้วย


เดินต่อมาอีกหน่อยก็กลับมาที่จุดขึ้นรถละครับ ไม่ต้องขึ้นรถขากลับเลย

เที่ยงนี้จะกินข้าวในสวนนงนุชก็เสียดายโอกาส ไหนๆก็มาถึงพัทยาแล้วเราไปหาข้าวกินริมทะเลกันดีกว่าครับ 117

หนก่อนตอนเชงเม้งไปกิน ปรีชาซีฟู้ด (ทั้งที่สุสานอยู่พนัสนิคมก็ยังถ่อมากินซะพัทยา) เป็นร้านดัง บ่อซีฟู้ดหน้าร้านเรียงสลอนอลังการกว่าร้านไหนๆ มีตัวที่ไม่ค่อยได้เห็นที่ร้านอื่นอย่างกุ้งมังกรเจ็ดสี หอยกระต่าย ฯลฯ แต่ไม่ได้สั่งอะนะ กินเมนูบ้านๆอย่างปูผัดต้นหอม กั้งกระดานคั่่วพริกเกลือนี่แหละ อร่อยมากด้วย ที่สำคัญทำเร็วจี๋เลยครับ 5 นาทีได้สองจานแรก 10 นาทีได้ที่สั่งครบ นี่มันคาแรคเตอร์ของร้านข้าวต้มชัดๆ เก้าอี้ไม่แน่นมาก บรรยากาศโปร่งสบายเห็นชายทะเล ต้องถูกแนะนำครับร้านนี้


เพียงแต่รอบที่มาสวนนงนุชไม่ได้กินปรีชาอะนะ ที่จอดรถมันเต็ม (แป่ว!) ไม่รู้มันต่างจากสัปดาห์ที่ตูมาเชงเม้งยังไงเนี่ย หนนี้ทุกร้านคนแน่นม้ากกกก... ที่บ้านเลยมา ลุงไสวซีฟู้ด ซึ่งเคยมากินสมัยพ่อพามาตอนเด็กๆ และผมก็ลืมไปแล้วเรียบร้อย ตอนนี้มีสองสาขา เรากินกันสาขาแรกนี่ละครับ คนก็แน่นนนน เช่นกัน แต่ยังพอหาที่จอดได้ โต๊ะหากันเอาเองนะครับ ไม่มีคนรับแขก อาหารรสชาติเฉยๆมาก หรือเราสั่งผิดเมนูฟะ? กุ้งคั่วพริกเกลือไม่กรอบก็จบกัน ปูผัดผงกะหรี่หน้าตาเหมือนอ้วกหมาจนไม่เอารูปมาลง แต่รสชาติดี ทอดมันกุ้งสลัดอร่อยครับ ห่อหมกทะเลมะพร้าวอ่อนแห้งไปนิ๊ดดด...นึง ยำไข่แมงดาใช้ได้อยู่ กับข้าวได้ไวเหมือนกัน แต่เมนูที่สั่งเพิ่มกลับไปกินที่บ้านได้ช้า เจ๊ากันไป


แวะผ่านหาดจอมเทียน เมื่อวันก่อนเพิ่งมีข่าวแอบทิ้งน้ำเสียจนหาดดำปิ๊ดปี๋ ผมไปหลังมีข่าววันเดียว สภาพพอรับได้ละครับ แต่ยังส่งกลิ่นเฉ่าๆ

 

ปิดทริปกลับบ้าน กินซีฟู้ดที่สั่งกลับบ้านมาจ้า ออส่วนกับหอยตลับผัดโหระพา รสชาติงั้นๆทั้งคู่ ก็มันเป็นอาหารที่ความอร่อยเสื่อมถอยตามระยะเวลากักเก็บอะเนอะ แต่ปูใบ้ที่น้องไปซื้อมาจากคลองโคนโลละ 50 อร่อยดี (ดึงก้ามออกแล้ว แต่ยังมีมันในกระดองให้ขูด)

Create Date :19 มิถุนายน 2562 Last Update :20 มิถุนายน 2562 21:50:51 น. Counter : 7096 Pageviews. Comments :54