ในสมัยรัชกาลที่ ๔ ราวปี พ.ศ. ๒๓๙๙ มีเรือสินค้าจากต่างชาติเข้ามาทอดสมอที่กรุงเทพ จำนวนมากถึง ๑๐๓ ลำ เรือของไทยเองมีเพียง ๓๗ ลำ พวกต่างชาติเข้ามาซื้อสินค้าแต่ละครั้งเป็นจำนวนเงินที่สูงมาก ลำละห้าพัน หนึ่งหมื่น หรือสองหมื่นก็มี ไม่มีเงินบาทไทยเพียงพอที่จะใช้จ่ายกันขนาดนั้น พ่อค้าในกรุงเทพก็ไม่อยากรับเงินเหรียญต่างประเทศ
เรือสเปน ๒๔๑๐ บริษัทที่เป็นตัวแทนการค้าพวกอังกฤษ ฝรั่งเศส อเมริกัน ที่อยู่ในกรุงเทพ ต้องเอาเงินเหรียญเงินต่างประเทศไปวานให้ช่างที่คลังมหาสมบัติหลอมใหม่เป็นเงินตราของไทยหรือเงินพดด้วง พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าทรงพระกรุณากับพ่อค้าเหล่านั้น คิดค่าใช้จ่ายตามที่เป็นจริง โดยไม่คิดกำไรจากการบริการนี้เลย เงินที่ฝรั่งเอามาให้ช่วยทำใหม่นี้มีถึง ๒๖๘,๘๒๘ เหรียญ ก็ยังไม่พอ ยังค้างอยู่ในมือพ่อค้าอีกหลายหมื่นเหรียญ ช่างหลวงมีน้อย ทำได้เพียงวันละ 30 ชั่งเศษ หรือประมาณ ๑,๔๐๐ เหรียญเศษ (คิดจากอัตราแลกเปลี่ยน ๕ เหรียญนกเท่ากับ ๓ บาท)
เงินพดด้วงหรือเงินบาทขณะนั้นกงศุลอังกฤษ (Mr. Char Bell) ทำหนังสือทูลเกล้าว่า ถ้าการซื้อขายมากกว่าสิบชั่งขึ้นไปให้ใช้เงินเหรียญนอกแทน ถ้าต่ำกว่าให้ใช้เงินบาท
อัตราแลกเปลี่ยนสมัยนั้น ในตลาดทั่วไปคิดเหรียญละหกสลึงเจ็ดสตางค์ หรือ ๑.๕๗ บาท หรือเงินร้อยเหรียญแลกเงินไทยได้สองชั่งตำลึงสามบาทสองสลึง หรือ ๑๖๓.๕๐ บาท ถ้าแลกที่ท้องพระคลังเงินเหรียญร้องเหรียญแลกเงินไทยได้สองชั่งตำลึงสามบาท หรือ ๑๖๓ บาท กงศุลอังกฤษเสนอว่าขอใช้อัตราเงินร้อยเหรียญแลกเงินไทยได้สองชั่งตำลึงกึ่ง หรือ ๑๖๒.๐๐ บาท
จึงทรงมีพระราชดำริว่า เงินเข้ามามากมีคุณกับประเทศ ราษฎรก็มั่งคั่งร่ำรวยขึ้น อีกทั้งบ้านอื่นเมืองอื่น ที่ฝรั่งค้าขายด้วย หรือเมืองในภาคใต้ของเราก็ใช้เงินเหรียญต่างประเทศกันมานานแล้ว จึงสนับสนุนให้ราษฎรใช้เงินเหรียญของฝรั่งจับจ่ายใสสอยแทนเงินบาทได้โดยไม่มีความผิดแต่อย่างใด แล้วจึงให้พระคลังมหาสมบัติไปใคร่ครวญไตร่ตรอง เจ้าพนักงานพระคลังฯซึ่งมีความเห็นพร้องกับกงสุลอังกฤษในการที่จะทำให้การแลกเปลี่ยนมีอัตราเดียว จึงประกาศให้ราษฎรใช้เงินเหรียญได้ทั่วไป หรือส่งเงินเหรียญแทนเงินบาทต่อนายภาษีอากรก็ได้ การรับเงินเหรียญเป็นรายได้เข้าคลังนั้น ทางการพบว่าเงินเหรียญอาจมีน้ำหนักไม่เท่ากัน จึงจะขอจะหลอมและชั่งออกมาเป็นมาตราเงินไทยแทนโดยหักค่าเชื่อเพลิงเล็กน้อย
แม้จะมีประกาศเป็นทางการแล้ว แต่ผู้คนประชาชนทั่วไปที่ทำมาค้าขายก็ยังไม่สนิทใจที่รับเงินเหรียญต่างประเทศไว้ในครอบครอง ต้องการแต่เงินบาท แม้เวลาจะผ่านไปอีกหลายปี ความเชื่อมั่นต่อเงินเหรียญต่างชาติก็ไม่ดีขึ้น ทางการจึงต้องประกาศให้ใช้เงินเหรียญ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๐๐ และ พ.ศ. ๒๔๐๗
ประกาศดังกล่าวกำหนดอัตราแลกเปลี่ยน
๓ เหรียญนก เป็นเงินไทย ๕ บาท
เงินรูปีของอินเดีย ๗ รูปี เป็นเงินไทย ๕ บาท
เงินเหรียญวิลันดาขนาดใหญ่ ๑๓ เหรียญ เป็นเงินไทย ๕ ตำลึง หรือ ๒๐ บาทเงินเหรียญจากเมืองนอก มีเนื้อเงินค่อนข้างมาตรฐานเป็นที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้คนยอมรับยิ่งขึ้น ทางการจึงได้ประทับตราลงบนเหรียญเหล่านั้น (ตราจักร-มงกุฏ) เหรียญที่ตีตรานี้ ส่วนมากเป็นเหรียญแม็กซิโก หรือเหรียญนกที่ผลิตในปี ค.ศ. ๑๘๔๕-๑๘๕๗
ปี พ.ศ. ๒๔๔๕ สมัยรัชกาลที่ ๕ ราคาโลหะเงินตกต่ำมาก จึงมีพระราชบัญญัติ ประกาศยกเลิกกฎหมายเกี่ยวกับเงินตราในบางมาตรา ทำให้เหรียญต่างประเทศชนิดต่างๆ หมดความสัมพันธ์กับเงินตราไทยนับแต่นั้นมา ถ้าจะนับเวลาที่เหรียญต่างประเทศใช้ในไทยเป็นเวลาเกือบครึ่งศตวรรษ ยาวนานไม่ใช่น้อย เป็นยุคที่รายได้จากเงินตราต่างประเทศโบยบินมาสู่สยามประเทศของเราจนตั้งรับไม่ทัน
บัดนี้ เงินเหรียญเหล่านั้นยังกระจัดกระจายให้เห็นอยู่บ้างในร้านรับซื้อเครื่องเงินเพื่อรอการหลอมทำเครื่องประดับ ของใช้อื่นๆ หรือบรรดานักสะสม เหรียญส่วนหนึ่งจมในก้นแม่น้ำสายหลักที่ไหลออกสู่อ่าวไทย ซึ่งเคยเป็นเส้นทางเดินเรือมาก่อน หวังว่าความกว้างใหญ่ของพื้นที่ใต้น้ำยังคงรับฝากเหรียญเหล่านี้ไว้ให้ลูกหลายได้ศึกษาต่อไป หากไม่เจอกับนักประดาน้ำชาวบ้านที่งมขึ้นมาขายเพื่อประทังชีวิตซะก่อน
ที่จริงเหรียญโบราณเหล่านี้ขายในอินเตอร์เน็ตมากมาย จะหาซื้อเมื่อไรก็ได้ เหรียญที่ได้จากอินเตอร์เน็ตจะไม่มีที่มาที่ไปของเหรียญ เป็นของสะสมของเก่าทั่วไป แต่จะมีความหมายอะไรเล่า ถ้าเหรียญเหล่านั้นไม่ได้พบในเมืองไทย ซึ่งมีประวัติยาวนานนับร้อยปี และมีความเกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์ของชาติเรา
ตราประทับรูปมงกุฎและจักรบนเหรียญนก
ตราประทับรูปมงกุฎและจักรบนเหรียญเปรูเหรียญเงินต่างประทศ หรือเหรียญเงินนก ที่มีการประทับตรานั้น ที่เหลือมาถึงเดี๋ยวนี้มีจำนวนน้อย จึงเป็นที่นิยมในการสะสมทั้งไทยและเทศ อันที่สวยๆราคาเกินครึ่งแสน แต่ตราประทับนั้นต้องเกิดขึ้นในยุคนั้น หรือร้อยกว่าปีมาแล้ว หากมีการปลอมแปลงตราประทับขึ้นมาในภายหลัง คงสับสนไม่น้อย ใครคิดจะเก็บของแท้คงต้องตาถึงจริงๆ
แม่หมูมาเยี่ยมชมและส่งกำลังใจนะคะ
1 โหวตค่ะ
...Merry X'mas นะคะ
โดย: jamaica 25 ธันวาคม 2554 8:02:01 น.
โดย: Lika ka 25 ธันวาคม 2554 9:40:56 น.
ยังไง ๆ ก็ Merry Christmas ชวนคุณอิมกลับไปโลกจินตนาการกับเด็ก ๆ ค่ะ เป็นวัยที่คิดถึงแต่ความสนุกสนาน
โดย: วันสดใส 25 ธันวาคม 2554 9:50:47 น.
โดย: tuk-tuk@korat 25 ธันวาคม 2554 15:51:21 น.
โดย: ลุงแว่น 25 ธันวาคม 2554 20:34:00 น.
Merry Christmas
and a
Happy New Year
新年明けましておめでとうございます。
。คุณอิม Insignia_Museum 。
โดย: YUCCA 26 ธันวาคม 2554 2:09:45 น.
ทำให้หลับตานึกภาพของกรุงสยาม ในยุค ร.4 ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ยุคนั้น เมืองสยามของเรา คงเหมือนสาวงามเนื้อหอมในสายตาของคนต่างชาติ
ต่างเข้ามารุมตอมรุมจีบ เพื่อทำมาค้าขายด้วย
เนื่องจากมีทรัพยากรธรรมชาติอันเป็นสินค้าสำคัญมากมาย
การค้าขายจึงรุ่งเรืองขึ้นถึงขีดสุด ๆ
ถึงขนาดเงินตราที่ใช้แลกเปลี่ยนการค้ากันขาดแคลน
จนต้องใช้เงินตราต่างประเทศแทน
เรื่องนี้ทำให้นึกถึงพ่อค้าคหบดีที่มักจะเริ่มต้นร่ำรวยด้วยความเพียร และประหยัดเก็บหอมรอมริบในรุ่นพ่อ พอตกมารุ่นลูก
ลูกหาได้เรียนรู้ความลำบากของคนรุ่นพ่อรุ่นแม่ไม่ กลับใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย ใช้ชีวิตอย่างเสเพล ใช้เงินมือเติบ
แต่อาศัยที่ยังมีบุญเก่า สมบัติเก่า ก็ยังไม่ถึงกับลำบากอะไรนัก
ครั้นต่อมาถึงรุ่นหลาน สมบัติเก่าร่อยหรอ ไม่รู้จักช่องทางหามาทดแทน
ก็เลยต้องตกต่ำ กลายเป็นยุคถดถอย....
ถ้าลองเอามาเปรียบเทียบก็คงพอได้
สมัย ร. 3 - ร. 4 ทำมาค้าขายอย่างหนัก ได้เงินมาก็ไม่ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย เก็บงำไว้จนเต็มท้องพระคลัง
ครั้นมา ร. 5 เริ่มใช้เงินเป็น สร้างนั่นสร้างโน่น ซื้อนี่ซื้อนั่น
เงินในพระคลังก็เริ่มร่อยหรอ แต่ไม่ค่อยมีการเติมใส่สักเท่าใด
ครั้นมาร.6 และต่อเนื่อง ร.7 จึงมาถึงยุคพระคลังว่างกลวง
สุดท้ายต้อง "ดุลย์" ข้าราชการออก (ปลดออก)
ก็เลยกลายเป็นชนวนสำคัญหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475
..........................
นับว่าเหรียญกษาปณ์หนึ่งเหรียญ สามารถนำพาให้เกิดความคิดคำนึงย้อนหลังไปได้ไกลเหลือเกิน
นี่คือประโยชน์ของการ "สะสม" ที่ต้องคู่กับ "ศึกษา"
หากสะสมโดยไม่ศึกษา ประโยชน์คงไม่เกิดแก่ผู้สะสมเท่าที่ควร
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆ ครับ.
โดย: ลุงแว่น 26 ธันวาคม 2554 5:59:10 น.
โดย: วันสดใส 26 ธันวาคม 2554 6:59:07 น.
สวัสดี...สำหรับ วันแรกของการทำงานในสัปดาห์สุดท้ายของปีนี้...
มีความสุขกับการทำงาน แล้วเตรียมพร้อมกับวันหยุด
ช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่จะมีความสุขกับครอบครัวด้วยนะค่ะ..^^
โดย: Lika ka 26 ธันวาคม 2554 8:09:07 น.
โดย: popang (popang ) 26 ธันวาคม 2554 8:51:13 น.
โดย: แม่น้องกะบูน 26 ธันวาคม 2554 9:26:58 น.
.
..
...
นับถอยหลัง
...
..
.
..................
ปีใหม่มา ให้นับน้อย ถอยอีกหนึ่ง
ก่อนชีวาตม์ ขาดผึง ลงร่วงผลอย
เร่งทำดี เติมชีวิต ก่อนปลิดลอย
คิดให้บ่อย ทำให้หนัก ค่อยพักยาว.
โดย: ลุงแว่น 26 ธันวาคม 2554 10:12:21 น.
โดย: tuk-tuk@korat 26 ธันวาคม 2554 20:26:09 น.
....................
...................สำหรับปีใหม่ที่จะมาถึงนี้
อุ้มขอให้คุณและครอบครัวมีสุขภาพที่แข็งแรง
และสมหวังในสิ่งที่หวังตลอดปี 2012 จ๊ะ
โดย: อุ้มสี 27 ธันวาคม 2554 6:06:05 น.
โดย: วันสดใส 27 ธันวาคม 2554 8:08:36 น.
ผมไม่ได้แวะมาเยี่ยมคุณ IM ซะนาน จริงๆ คือไม่ได้เข้าบล๊อกแกงเลยละครับ
มาสวัสดีปีใหม่ล่วงหน้า ขอให้สุขภาพแข็งแรงและมีความสุขมากๆ นะครับ
โดย: dj booboo 27 ธันวาคม 2554 21:36:39 น.
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Insignia_Museum Diarist ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
----------------
มาเก็บเกี่ยวความรู้จากคุณimค่ะ
โดย: เกศสุริยง 27 ธันวาคม 2554 23:09:58 น.
คงจะมี"กูรู" ดูเหรียญ เหมือนเซียนพระมังคะ
งานนี้น่าจะมีพื้นทางทางโบราญคดีด้วย อิ อิ
โดย: เริงฤดีนะ 27 ธันวาคม 2554 23:30:47 น.
แวะมาสวัสดีปีใหม่ครับขอให้ชีวิตประสบแต่สิ่งดี ๆ ตลอดปีเลยคร้าบบบ
โดย: peeradol33189 28 ธันวาคม 2554 15:15:34 น.
[ของตกแต่งโดนๆคลิกเลย]
--------------------------------
ช่วงนียุ่งมากๆเลยค่ะ ตั้งแต่หกโมงเช้าถึงสามทุ่มอยู่แต่หน้าเตาเฝ้าระวังคุ๊กกี้ ออร์เดอร์ยาวเลยค่ะ วันที่๓๐รับจัดขบวนกีฬาสีโรงเรียนประจำจังหวัดไว้๒ขบวน วันที่๓๑ มีงานแสดงส่งท้ายปีเก่า วันที่๒ มกรามีงานที่อ.ทับคล้อ พิจิตร เตรียมตัวแข่งนาฏศิลป์ไทยที่กาญจนบุรีวันที่๑๒มกราคม งงไปหมดแล้ว มือระวิงหัวหมุนไปหมด แต่ยังดีที่มีลูกศิษย์คอยช่วยดูแลให้ ยกเว้นที่ร้านกาแฟ ต้องลุยเอง ค่ะ วันนี้ง่วงมากๆแต่ก็พยายามแวะมาเยี่ยมค่ะ หวังว่าคงสบายดีนะคะคุณim
โดย: เกศสุริยง 28 ธันวาคม 2554 23:45:46 น.
ขอให้มีสุขภาพแข็งแรง ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน และมีครอบครอบครัวที่อบอุ่นนะครับ รวยๆๆๆ ครับผม
โดย: ปลายแป้นพิมพ์ 29 ธันวาคม 2554 20:38:03 น.
คุณ IM
ขอให้มีความสุขมากๆในปีใหม่นี้ค่ะ
โดย: ซองขาวเบอร์ 9 29 ธันวาคม 2554 22:19:08 น.
สวัสดีปีใหม่2555ค่ะ..
ขอให้มีความสุขมากๆในทุกๆวัน..
ขอให้มีสุขภาพแข็งแรงและสมบูรณ์..
และมีรักที่สมหวังตลอดไปนะค่ะ
พรุ่งนี้อ้อมแอ้มได้มีโอกาสใส่บาตรร่วมกับสมเด็จพระเทพฯ
และท่านทรงมีพระราชโอวาสแด่บุคคลากรทุกปี
เป็นพรที่ยิ่งใหญ่ส่งท้ายปีเก่า-รับปีใหม่ค่ะ
โดย: คนผ่านทางมาเจอ 29 ธันวาคม 2554 22:55:29 น.
โดย: ลุงแว่น 30 ธันวาคม 2554 6:30:55 น.
โดย: Lika ka 30 ธันวาคม 2554 8:48:42 น.
มาสวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าค่ะ
ขอคุณพระศรีรัตนตรัยอำนวยพรให้คุณอาอิม
และครอบครัวมีแต่ความสุข สมปราถนาในพรใดๆ
ที่ต้องการนะคะ
โดย: hellojaae (hellojaae ) 30 ธันวาคม 2554 18:01:14 น.
โดย: chuanchombonsai IP: 171.4.243.63 2 มกราคม 2555 3:39:50 น.