bloggang.com mainmenu search
Wat Phrasrirattana Sasadaram
(Wat Phra Kaeo)


วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า วัดพระแก้ว พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก
โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นพร้อมกับการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อ พ.ศ. 2325 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2327
เป็นวัดที่สร้างขึ้นในเขตพระบรมมหาราชวัง ตามแบบวัดพระศรีสรรเพชญ สมัยอยุธยา วัดนี้อยู่ในเขตพระราชฐานชั้นนอก
ทางทิศตะวันออก มีพระระเบียงล้อมรอบเป็นบริเวณ เป็นวัดคู่กรุงที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา ใช้เป็นที่บวชนาคหลวง
และประชุมข้าทูลละอองพระบาทถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา รัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าให้เป็นที่ประดิษฐาน
พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรหรือพระแก้วมรกต พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของไทย มาประดิษฐาน ณ ที่นี้
วัดพระศรีรัตนศาสดารามนี้ ภายหลังจากการสถาปนาแล้ว ก็ได้รับการปฏิสังขรณ์สืบต่อมาทุกรัชกาล
เพราะเป็นวัดสำคัญ จึงมีการปฏิสังขรณ์ใหญ่ทุก 50 ปี คือในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
และสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลปัจจุบัน เนื่องในโอกาสสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์
ครบ 200 ปี ในปี พ.ศ. 2525 ที่ผ่านมา การบูรณปฏิสังขรณ์ที่ผ่านมามุ่งอนุรักษ์สถาปัตยกรรม
และศิลปกรรมอันเป็นมรดกชิ้นเอกของชาติ ให้คงความงามและรักษาคุณค่าของช่างศิลป์ไทยไว้อย่างดีที่สุด
เพื่อให้วัดพระศรีรัตนศาสดารามนี้อยู่คู่กับกรุงรัตนโกสินทร์ตลอดไป


ตำนานพระแก้วมรกต
สันนิษฐานว่าพระแก้วมรกตนั้นสร้างขึ้นในสมัยเชียงแสน ทำจากหยกสีเขียวเข้ม จำหลักเป็นปางสมาธิ
หน้าตักกว้าง 43 ซม. สูง 55 ซม. พบครั้งแรกในเจดีย์วัดป่าญะ จ.เชียงราย ปีพ.ศ. 1977 เป็นพระปูนลงรักปิดทอง
ต่อมาปูนกะเทาะจนเห็นองค์จริง พระเจ้าสามฝั่งแกน เจ้าเมืองเชียงใหม่ จึงจัดขบวนช้างมาอัญเชิญ
แต่ขบวนช้างไม่ยอมเข้าเมืองเชียงใหม่ เลยนำไปประดิษฐานที่วัดพระแก้วดอนเต้า จ.ลำปาง พ.ศ. 2011
พระเจ้าติโลกราชทรงอัญเชิญไปประดิษฐานที่วัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่ แต่ต่อมา พ.ศ.2094 พระเจ้าไชยเชษฐา
เจ้าเมืองเชียงใหม่ เสด็จไประงับเหตุพิพาทที่หลวงพระบาง จึงอัญเชิญเสด็จไปด้วย เมื่อหลวงพระบางถูกรุกรานจากพม่า
ในปี พ.ศ. 2107 พระเจ้าไชยเชษฐา ได้ย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่เวียงจันทน์ พร้อมกับอัญเชิญพระแก้วมรกตไปจน
พ.ศ. 2321 เมื่อเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกยกทัพไปตีเวียงจันทน์ ได้อัญเชิญลงมาประดิษฐานยังโรงพระแก้ว
ณ พระราชวังเดิม ในกรุงธนบุรี ครั้นเสด็จไปปราบดาภิเษกขึ้นเป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีแล้ว
ได้อัญเชิญมาประดิษฐานยังพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และพระราชทานนามว่า
“พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร” พร้อมกับสร้างเครื่องทรงฤดูร้อนและฤดูฝนถวาย ส่วนเครื่องทรงฤดูหนาว
มาสร้างถวายในรัชกาลที่ 3 และใช้เรื่อยมาจนถึงรัชกาลปัจจุบัน จึงโปรดเกล้าฯ ให้กรมธนารักษ์
จัดสร้างเครื่องทรงขึ้นใหม่ทั้งหมด ส่วนของเดิมให้นำไปเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์วัดพระศรีรัตนศาสดาราม



รูปที่ 1 วัดพระแก้ว
Wat Phrasrirattana Sasadaram (Wat Phra Kaeo)



รูปที่ 2
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) กทม.
Wat Phrasrirattana Sasadaram (Wat Phra Kaeo)



รูปที่ 3
ยักษ์ทวารบาล วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) กทม
Twelve statues of Giants


รูปที่ 4
ยักษ์ทวารบาล วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) กทม
Twelve statues of Giants


รูปที่ 5
พระศรีรัตนเจดีย์ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) กทม.
Phra Si Rattana Chedi


รูปที่ 6
ปราสาทพระเทพบิดร วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) กทม.
The Royal Pantheon


รูปที่ 7
ปราสาทพระเทพบิดร วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) กทม.
The Royal Pantheon


รูปที่ 8
พระสุวรรณเจดีย์ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) กทม
Two gilt chedis


รูปที่ 9
พระสุวรรณเจดีย์ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) กทม
Two gilt chedis


รูปที่ 10
พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) กทม.
The Ubosot containig the Emerald Buddha


รูปที่ 11
หอระฆัง วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) กทม.
Belfry


รูปที่ 12
พระบรมมหาราชวัง วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว)


รูปที่ 13
พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) กทม.
The Chakri Maha Prasat Throne Hall


รูปที่ 14
พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) กทม.
Dusit Maha Prasat Throne Hall


รูปที่ 15


รูปที่ 16


รูปที่ 17


รูปที่ 18


รูปที่ 19


ที่มาบทความ : //www.bkkinside.com/
ภาพ : kitpooh22

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยม และติชม

Create Date :20 มกราคม 2555 Last Update :20 มกราคม 2555 14:51:27 น. Counter : Pageviews. Comments :0