bloggang.com mainmenu search
กระเป๋าเดินทางที่มีอยู่เริ่มอ่อนแอแล้ว เกรงว่าการเดินทางในครั้งต่อไปคงจะต้องหาใบใหม่ใช้แน่ๆ ... จนได้ตกลงเลือก Samsonite Pixel Cube, size 26 inches มาไว้ใช้เพิ่ม




[ Source: Youtube, Samsonite Pixel Cube 72cm Antracite ]
[ Link: //www.youtube.com/watch?v=qZJLfbibmwU ]


.


.


.








ก่อนจะตกลงใจเลือก ได้มีข้อมูลสำหรับการเลือกซื้อที่น่าสนใจ และคงได้เป็นข้อคำนึงถึงตลอดไปได้ จึงขอเก็บข้อมูลไว้ในส่วนนี้



ประเด็นพิจารณา
ได้ข้อมูลจากเว็บไซท์ Samsonite [www.Samsonite.com.sg/list.html] เขาให้แนวทางในการเลือกกระเป๋าไว้ได้ดี ดังนี้

1. Bag Type
-- -- Hard Travel
-- -- Soft Travel
-- -- Business
-- -- Backpacks

2. Length of Trip
-- -- Overnight
-- -- 3D2N (3 Days 2 Nights)
-- -- One Wek
-- -- Two Weeks
-- -- One Month
-- -- Extended

3. Trip Type
-- -- Business
-- -- Oversea Holiday
-- -- Adventure

- ชนิดวัสดุของกระเป๋าเดินทาง
-- -- Hard Case (Hard Case กระเป๋าผลิตจากวัสดุ ABS, PC ที่มีความแข็งแรง ทนต่อแรงกระแทก ทำให้สิ่งของไม่เสียรูปทรง และน้ำหนักเบา มีความแข็งแรง ทนต่อแรงกระแทก)
-- -- Soft Case (Soft Case มักจะผลิตจากผ้าโพลีเอสเตอร์ ผสมไนล่อน จะยืดหยุ่นได้เยอะกว่า แต่ก็ต้องระวังของภายในแตก เพราะไม่มีโครงสร้างกันกระแทกเท่าแบบ Hard Case)

- เลือกกระเป๋าให้เหมาะกับ"จำนวนวันเดินทาง"
-- -- เดินทางประมาณ 1-3 วัน ใช้กระเป๋าเดินทางล้อลากขนาด 18-20”
-- -- เดินทางประมาณ 4-6 วัน ใช้กระเป๋าเดินทางล้อลากขนาด 24”
-- -- เดินทางประมาณ 7-10 วัน ใช้กระเป๋าเดินทางล้อลากขนาด 28”

- ลิ้งค์ ยี่ห้อกระเป๋าเดินทางที่น่าสนใจ
-- -- Samsonite [ Link: //shop.samsonite.com/info/Landing_Luggage ]
-- -- American Tourister [ Link: //shop.americantourister.com/ ]
-- -- Caggioni [ Link: //caggioni.com/onlineshopping/hard_case.php?show=2&brand_id=&filter= ]

- หลักเกณฑ์การนำกระเป๋าเดินทางขึ้นเครื่องบิน
-- -- กระเป๋าถือติดตัวขึ้นเครื่อง จะต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม ต่อผู้โดยสาร 1 คน



- สถานที่ซื้อกระเป๋าเดินทางที่น่าสนใจ
//www.KuKonThai.com
- Line: KuKonThai
- may_wasana9@hotmail.com
- 081-455-4186 (Daily 09.00-21.00)

//www.caggioni.com (คาจิโอนี่)
- เลขที่ 920/1 ถ.นครไชยศรี แขวงศรีย่าน เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300
- caggioni.marketing@gmail.com
- 02-243-5433-5, Fax.02-243-3618 (จันทร์-ศุกร์ 9:30-18:00 น.)

ณัฐพงศ์ ธนวุฒิกร
- กรมการส่งเสริมการส่งออกรัชดา
- VS_Trading@hotmail.com
- 081-338-0779, 086-072-3166, 02-477-8122




ข้อคิดเห็นในการเลือกซื้อกระเป๋า
1. ใช้กระเป๋าขนาดไหนดี ? [ Source: //pantip.com/topic/31001290 ]
2. การเลือกซื้อกระเป๋าเดินทางล้อลาก [ Source: //travel.mthai.com/travel_tips/45245.html ]



1. ใช้กระเป๋าขนาดไหนดี ? [Source: //pantip.com/topic/31001290 ]

ฉันขออนุญาตตั้งกระทู้เพราะคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์แก่เพื่อนหลายๆท่านที่มักมีคำถามเวลาเดินทางว่า "ใช้กระเป๋าขนาดไหนดี ?"

กระเป๋าเดินทางแบบลาก มีทั้งสิ้น 3 ขนาดดังนี้
-- -- 50cm x 39cm x 26cm - 2.6 KG - 51 L
-- -- 68cm x 46cm x 28.5cm - 3.6 KG - 89 L
-- -- 78cm x 50cm x 36cm - 4.15KG - 140 L


[Source: //pantip.com/topic/31001290 ]


ซึ่ง 3 ขนาดบน อิฉันเอามาจาก MV+ ของ American Tourister ไม่ได้เป็นหน้าม้าแต่อย่างใดนะคะ แค่ใช้อยู่และคิดว่ามันมีรูปเปรียบเทียบง่ายดี จริงๆแล้ว รุ่นอื่น หรือยี่ห้ออื่น ก็จะมีประมาณนี้เช่นกันค่ะ แต่อาจมีไซส์ที่แตกต่างก็เล็กน้อยมากๆ สำหรับรุ่นนี้ มันจะมีความกว้างมากกว่ารุ่นอื่นๆ เป็นจุดขายของเค้า

Anyway กลับมาที่ขนาด ตามตัวอย่าง 3 ขนาดที่ยกขึ้นมา จะแยกเป็น

Cabin Size: ใบเล็กสุดในรูป เป็นใบที่คุณถือขึ้นเครื่องบินไปกับตัวคุณเองได้ เพราะมันเป็น cabin size นั่นแหละค่ะ หมายถึง เอาสอดไว้บนช่องเก็บสัมภาระเหนือศีรษะผู้โดยสารได้ ส่วนน้ำหนักเค้าก็อนุญาตอยู่ที่ 7-10 กก. (อันนี้บางสายการบินอาจให้ได้แค่ 5) ส่วนเรื่องการแบกของเหลวขึ้นก็เหมือนเดิมนะคะ บรรจุขวดที่ระบุไม่เกิน 100 ml หรือ 100 g เท่านั้น และไม่ควรเกิน 10 ขวด ทุกอย่างแพ็กรวมอยู่ในกระเป๋าซิบที่เปิดออกให้ตรวจดูได้ ย้ำว่า 100 นะคะ ห้ามถามว่า 150 แต่ใช้ไปครึ่งนึงแล้วได้ไหม...เค้าไม่สนค่ะ เกิน 100 หากจับได้ โยนทิ้งหมดค่ะ อิฉันไม่นับพวกที่รอดเครื่องตรวจแล้วมาแลบลิ้นปลิ้นตานะคะ พวกคุณประมาทก็เชิญประมาทกันต่อไปค่ะ

สำหรับการขึ้นเครื่อง หากคุณมี Cabin Size ลากเก๋ๆแล้ว 1 ใบ เค้าก็ยังอนุญาตให้คุณมี
1. กระเป๋าถือสุภาพสตรี หรือ Day Pack (เป้สะพายหลังที่ไม่ใช่เป้เดินทาง) อย่างใดอย่างหนึ่ง และ
2. กระเป๋าโน้ตบุ๊ค หรือ กระเป๋ากล้องถ่ายรูป

2 ข้อนี้ ให้เลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่งค่ะ นั่นหมายถึง หากรวม cabin size แล้ว คุณมีได้เต็มที่ 3 items สำหรับขึ้นเครื่องค่ะ (อิฉันว่า 2 ก็ลำบากและกินที่ชาวบ้านมากแล้ว)

Medium Size หรือใบที่อยู่ตรงกลาง : ใบนี้ อิฉันใช้เที่ยวญี่ปุ่นได้ 10 วันค่ะ หากอยากซื้อของฝากอิฉันมักจะมี shopping bag ที่มันพับแบนๆได้ในตอนแรก และไปบานเอาเมื่อตอนเราต้องการ ซึ่งพอบานแล้ว เราก็เอามันคล้องไว้บนใบกลางได้อีก ทีนี้ก็ไปไหนก็ขนานกันไปเป็นคู่ สบายๆค่ะ เหตุที่ต้องใช้ใบนี้เที่ยวญี่ปุ่นก็เพราะว่า พวกตู้ล็อคเกอร์ที่รับฝากกระเป๋าจะมีบริการช่องใหญ่สุดใส่ได้แค่ไซส์นี้ค่ะ จัมโบ้กว่านี้อดแล้ว ไม่สามารถ เคยเสร่อใช้ใบใหญ่ไปทีนึง กะขนเสื้อผ้าตัวเองกะแม่ไปใบเดียว ปรากฏเศร้าค่ะ ...ยัดตู้ไม่ได้ ต้องเดือดร้อนชาวบ้านผลัดกันนั่งเฝ้ากระเป๋ายักษ์

และใบกลางนี่อิฉันว่ามัน practical มากๆ ค่ะ ยิ่งถ้าคุณเดินทางแบบไปเที่ยวเอง ไม่มีคนแบกให้อย่างการไปกับทัวร์ ใบขนาดนี้จะเหมาะมากๆ คนเดียวนี่เหลือๆ หลังๆมานี่อิฉันกะสามี ก็ใช้แค่ใบนี้ใบเดียว กะใบ cabin size สำหรับการเที่ยว 1-2 วันค่ะ คล่องตัวมากมาย ใบนี้ไปญี่ปุ่นซึ่งมีที่พักคับแคบ ก็ยังสามารถเอาสอดไว้ใต้เตียงได้ไม่เกะกะ แต่ใบนี้เอาขึ้นเครื่องไม่ได้นะคะ ห้ามค่ะ...โหลดใต้ท้องสถานเดียวแน่นอน

Jumbo Size หรือใบยักษ์สุด : ตะก่อนนี้เราจะเห็นใบยักษ์มันจะดูยักษ์กว่านี้นะคะ ปัจจุบันใบยักษ์สุดเหมือนจะทำตัวเล็กลงมา แต่ก็ยังใหญ่เทอะทะ อิฉันจะใช้มันก็ต่อเมื่อไปเที่ยวไกลๆ และมีการขับรถเที่ยวเอง ไม่ต้องแบกขึ้นๆลงๆรถโดยสารสาธารณะค่ะ เช่น ไปอเมริกา 20 วัน ซึ่งพอต้องไปหลายวัน สัมภาเระของเราก็เยอะใช่ไหมคะ ใบยักษ์ถึงต้องออกโรงค่ะ

ทั้งนี้ทั้งนั้น ทั้ง 3 ขนาด มันจะมีแบบล้อเลื่อน 2 ล้อ กับ 4 ล้อ แน่นอนค่ะว่า 4 ล้อแพงกว่า แต่มันก็ดีกว่ามากๆๆๆๆๆๆๆ เลยค่ะ ยิ่งสำหรับคนที่เดินทางเที่ยวเอง ไม่ได้ไปทัวร์ เพราะมันจะทำให้ชีวิตของคุณ (และของเพื่อนร่วมทางของคุณ) ง่ายขึ้นเยอะมากๆเลยค่ะ

ทำไมอิฉันต้องวงเล็บ (เพื่อนร่วมทาง) ด้วยล่ะคะ ? ก็เพราะเราเป็นคนไทยค่ะ เวลาเราไปเที่ยวไหนเป็นกลุ่ม เรามักจะเทคแคร์ดูแลกันใช่ไหมคะ ระหว่างการเดินทางก็เช่นเดียวกันค่ะ เราจะคอยดูแลว่าเพื่อนสะดวกไหม ลากไหวไหม หนักไปไหม คอยถามกันตลอด เพราะต้องยอมรับว่าเพื่อนบางคนของเราลากเป๋าไม่เป็น แบกขึ้นบันไดเองก็ไม่ได้ ดังนั้นพอจะนึกภาพออกใช่ไหมคะว่า หากมีใครคนใดคนหนึ่งในกลุ่มคุณเป็นแบบนั้น แน่นอนว่าคนอื่นๆในทริปจะมีการช่วยถือของแน่นอน ซึ่งหากว่ากระเป๋าคุณอยู่ในสภาพที่พร้อมให้ช่วยได้ง่ายๆ คนรอบข้างก็จะสบายขึ้นค่ะ

กระเป๋าแบบนึงที่อิฉันไม่ชอบมากๆ คือแบบกระเป๋าเดินทางกึ่งหิ้วได้ กึ่งลากได้ ที่พวกบริษัททัวร์เค้าชอบแถมนั่นแหละค่ะ มันดีนะคะ สำหรับการใส่สัมภาระของคุณเดินลงมาจากห้องพักแล้วลากมาเอาใส่รถ แต่มันไม่เหมาะแน่ๆ กับการเป็น cabin size ที่คุณจะต้องใช้ขึ้นรถต่อเรือ ลากไปทั่วเมืองเพื่อหาที่พักที่คุณจองไว้ เพราะว่า...เวลาเราตั้งมันเฉยๆ มันจะยืนบนลำแข้งตัวเองไม่ได้ค่ะ มันจะล้มแผะ ล้มแผะ ก๊วนที่อิฉันไปด้วยล่าสุดนี้ ก็ใช้ใบที่ว่านี้ค่ะ และมีอยู่จังหวะนึงก่อนที่กระเป๋ามันจะล้มแผะ มีคนญี่ปุ่นเค้าเดินผ่านมาพอดีกับตอนที่มันล้ม เค้าหน้าคว่ำเลยค่ะ น่าสงสารมาก พวกเราต้องไปโค้งขอโทษเค้าหลายทีเลย ซึ่งอิฉันเห็นว่ามันล้มแผะๆ มาหลายทีแล้ว ก็เตือนเจ้าของกระเป๋าไปแล้วว่าเดี๋ยวมันจะไปทำให้คนอื่นสะดุดเอานะ ...ก็ยังไม่วายค่ะ

บางคนอาจจะบอกว่า ไม่แคร์ ไป 7 วัน ฉันก็อยากเอาใบจัมโบ้ไป แถม 2 ล้อด้วย ใครจะทำไม ของฉันมันเยอะ พร๊อพเยอะ ของฝากอีกเพียบ

คือจริงๆก็ไม่ได้ว่ากันค่ะ หากคุณรับได้กับปัญหาที่บอกมา และหากคุณเป็นคนที่ช่วยเหลือตัวเองได้ แต่เท่าที่อิฉันเคยเจอ พาคนนั้นคนนี้ไปเที่ยว อุตส่าห์บอกแล้วว่ามีข้อจำกัดงี้ๆๆๆ นะ ก็ยังดันทุรังเอากระเป๋าที่มีปัญหาไป เช่น ใบใหญ่สุด + 2 ล้อที่มันใช้การไม่ค่อยได้ + คันชักสำหรับลากก็พัง ในท้ายที่สุดทำไมรู้ไหมคะ เดือดร้อนคนในกลุ่มที่เค้าต้องช่วยลากช่วยแบกตลอดเส้นทางเลยค่ะ เพราะคุณไม่คล่องตัว แถมคุณยังเยอะ มันน่ารำคาญมากค่ะ

ยิ่งลูกๆหลานๆที่จัดกระเป๋าให้คุณพ่อคุณแม่ หรือคนแก่ที่ต้องเดินทางไปกับคนอื่นด้วยนะคะ อยากจะบอกว่า ลงทุนซื้อกระเป๋าดีๆที่มีคุณภาพให้ท่านเหอะค่ะ เพราะรับรองว่าต้องมีคนมาช่วยท่านหิ้วแน่ๆ และมันจะดีมากๆ หากกระเป๋ามันไม่มีปัญหาค่ะ ไอ้พวกที่มันซิปแตกแล้วแตกอีก ต้องใช้เชือกรัดนี่ขอเลยได้ไหมคะ สงสารท่านด้วยค่ะ

หวังว่ากระทู้นี้คงจะมีประโยชน์สำหรับเพื่อนๆที่ชอบเดินทางนะคะส่งจาก iPad ของฉัน


2. การเลือกซื้อกระเป๋าเดินทางล้อลาก [ Source: //travel.mthai.com/travel_tips/45245.html ]

สำหรับนักเที่ยวมือใหม่ ที่ต้องการเลือก กระเป๋าเดินทาง สักใบ (เน้นที่กระเป๋าเดินทางล้อลากนะคะ) แต่ไม่มีความรู้ในการเลือกสักเท่าไหร่ วันนี้ Travel.mthai มีทริคเล็กๆ น้อยๆ มาแนะนำกันคะ สำหรับวิธีการเลือกซื้อ แน่นอนว่าคุณจะได้ของดีในราคาประหยัด และคุ้มค่าการใช้งานสุดๆ

กระเป๋าเดินทางล้อลาก เลือกซื้อยังไง ลองอ่าน

1. ล้อ
ล้อที่ดีที่สุดควรเป็นล้อยางทั้งลูก ชนิดที่มีตลับลูกปืน ตัวล้อควรฝังอยู่ภายในกระเป๋าเดินทางโดยเฉพาะกระเป๋าเดินทางที่ไว้ใต้ท้องเครื่องบิน เพราะจะป้องกันการเสียของล้อได้ สำหรับกระเป๋าเดินทางที่นำติดตัวขึ้นเครื่องบิน ควรดูขนาดให้ถูกตามกฎเกณฑ์ของสายการบินที่เค้ากำหนดไว้ ปกติมักจะไม่เกิน 20 นิ้ว

แนะนำให้มองหากระเป๋าเดินทางล้อลาก แบบ 4 ล้อ ไว้ก่อน เพราะจะช่วยผ่อนแรงงานเวลาเคลื่อนย้ายได้เยอะเลย (แต่ราคาแบบ 4 ล้อ ก็แน่นอนว่าแพงกว่า 2 ล้อแน่นอนค่ะ)

2. หูหิ้ว
หูหิ้วแบบยืดหด ควรติดตั้งและยึดเกาะกับกระเป๋าได้เป็นอย่างดี ถ้าเป็นแบบพับ ก็ต้องแนบติดกับตัวกระเป๋าเดินทาง เพื่อป้องกันความเสียหายของเสาคันชัก เวลาเราชักเข้าชักออก

3. Denier (หน่วยวัดความแข็งแรงของผ้า)
Denier เป็นหน่วยของการวัดขนาดเส้นใยที่ใช้ในการทอผ้า dinier ยิ่งมากจะทำให้ผ้าหนักยิ่งขึ้น สำหรับวัสดุที่นำมาทอเป็นผ้าก็ให้ความแข็งแรงแตกต่างกันด้วย เช่น โพลีเอสเตอร์ (Polyester) 1800 denier แข็งแรงกว่า Polyester 1200 denier แต่แข็งแรงน้อยกว่า Ballistic nylon 1050 denier โดยทั่วไป ตามสายการบินจะไม่ยอมรับความเสียหายกับกระเป๋าเดินทางที่ทำด้วยผ้า 600-700 denier

* กระเป๋าเดินทาง ทุกยี่ห้อ จะรับประกันก็ต่อเมื่อ มีความเสียหายที่เกิดจากการผลิตเท่านั้น เช่น ซิปผิดปกติ รอยเย็บเบี้ยว หูลากหลุด หรือน็อตหลุด การรับประกันส่วนใหญ่จะเป็นของผู้ผลิต ไม่ใช่เป็นของร้านที่ขาย ดังนั้นไม่ควรไปเชื่อกับการรับประกันของร้านมากนักเวลาเลือกซื้อควรตรวจตรา ดูองค์ประกอบต่างๆ ให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสิ้นใจซื้อเสมอ

4. ...

5. การซื้อ กระเป๋าเดินทาง เป็นการลงทุนไม่ใช่ความสิ้นเปลือง
การคุ้มค่าในการลงทุนซื้อ กระเป๋าเดินทาง ขึ้นอยู่กับอายุของการใช้งานของ กระเป๋าเดินทาง ถ้าคุณจ่ายเงินสองเท่าเพื่อซื้อกระเป๋าเดินทางที่มีอายุใช้งานนานขึ้น 4 ปี ก็ถือว่าคุ้มค่า แต่อย่าลืมค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมด้วยนะจ้ะ

6. ไม่ต้องกังวลว่า กระเป๋าเดินทาง ใบใหญ่กว่าจะหนักมากกว่า
สิ่งของที่คุณจะบรรจุลงในกระเป๋าเดินทางอาจมีน้ำหนักประมาณ 20-30 กก. แต่น้ำหนักกระเป๋าเดินทางที่ใหญ่เล็กต่างกัน 4-6 นิ้ว อาจมีน้ำหนักต่างกันเพียงครึ่งกิโลเท่านั้น และคุณจะรู้ว่า ถ้ากระเป๋าเดินทางไม่พอคุณต้องซื้ออีกใบที่ น้ำหนักอย่างต่ำก็ ประมาณ 3-4 กก. ซึ่งทำให้สิ้นเปลืองเพิ่มขึ้นอีก มองดูแล้วมันไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย

7. กระเป๋าเดินทาง ใหญ่ก็ไม่ใช่ว่าจะดีเสมอไป
คนทั่วไปจะบรรจุสิ่งของลงในกระเป๋าขนาด 26 นิ้วได้พอดี ดังนั้นก็ไม่ควรใช้กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่กว่านี้ โดยเฉพาะถ้าคุณมีปัญหาเรื่องการยกของหนัก เช่น ปวดหลัง หรือปวดแขน

8. อย่าไปยึดติดกับยี่ห้อ
คนทั่วไปจะคุ้นเคยกับชื่อ Samsonite และ American Tourister เพราะเป็นเจ้าแรกๆ ที่ขายมานาน แต่ก็ยังมีหลายยี่ห้อที่คุณภาพก็ใช้ได้ เช่น Travelpro Eminent Echolac Delsey หรือแม้แต่ Blue light, Valentino, Miracle, Dandy ลองเลือกการใช้งานต่างๆ ให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ ดีกว่าที่จะเน้นหนักไปที่ยี่ห้อนะคะ

9. ซื้อ กระเป๋าเดินทาง กับร้านที่มีความรู้ด้านกระเป๋าจริงๆ
เพราะกระเป๋าเดินทางเดี๋ยวนี้ ไม่ใช่มีหน้าที่แค่บรรจุสัมภาระเท่านั้น อย่าไปกลัวที่จะถามคนขาย เกี่ยวกับความทนทาน หน้าที่การทำงานต่างๆ การบริการหลังการขาย

อ่านจบแล้ว เพื่อนๆ ชาว Travel.mthai คงได้เอาเทคนิคไปใช้ ก่อนซื้อกระเป๋าเดินทาง ทุกครั้ง ควรดูองค์ประกอบต่างๆ ให้ดี ก่อนตัดสินใจซื้อ เพราะจะได้เป็นเพื่อนคู่ใจคุณไปนานๆ ไม่ต้องสิ้นเปลืองเงินในการซื้อบ่อยๆ นะคะ

[Source: ที่มาข้อมูล จาก @ Watergate pavilion # ร้านเลิศศิริ ชั้น1#, //caggioni.com, //travel.mthai.com/travel_tips/71314.html, //travel.mthai.com/travel_tips/45245.html]


ขอขอบคุณคำแนะนำดีๆ ที่ได้เขียนไว้ และขอได้เก็บไว้อ้างอิงโดยพลัน ณ ที่นี้ ...
เดี๋ยวรอกระเป๋ามาส่ง ก็เริ่มออกเกินทางได้เลย ...



About Samsonite :

-- Samsonite Quality : //www.youtube.com/watch?v=jpWfn-Bixmg
-- Samsonite TV Commercial : //www.youtube.com/watch?v=02jG1pIfMJ4
-- Samsonite Firelite HD : //www.youtube.com/watch?v=m5167_rOkto


Create Date :27 ธันวาคม 2556 Last Update :28 พฤษภาคม 2557 11:33:38 น. Counter : 33469 Pageviews. Comments :15