หลังจากทำบุญที่ วัดบ้านหนองไหล จ.ร้อยเอ็ด เรียบร้อย

//www.bloggang.com/mainblog.php?id=imaginer&month=05-10-2009&group=14&gblog=26

พวกเราก็เดินทางไป จ.มหาสารคาม ซึ่งไม่ไกลกันมาก เป้าหมายที่ไปคือพระธาตุนาดูน ประมาณเกือบเที่ยงก็ถึง

ไม่น่าเชื่อว่าจะได้แวะมาไหว้ เพราะเมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 กย. พึ่งได้ดูในรายการ ศึก 12 ราศี ช่อง 3
ช่วงท้ายหมอลักษณ์ ฟันธง ได้แนะนำในรายการว่า "ครั้งแรกที่มามหามงคล ก็มีความรู้สึกปลาบปลื้ม เป็นพลัง เจริญรุ่งเรือง เจริญก้าวหน้า

ถ้าใครได้มีโอกาสมาภาคอีสาน อยากจะเจริญก้าวหน้า มีความสุขทุกทิวาราตรีกาล ควรมาพระธาตุนาดูน กลับไปความโศกาอาดรูจะหมดไป จะมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง ทำการค้าอันใดก็จะประสบความสำเร็จ ฟันธง"

เคยเห็นแต่ในรายการทีวีหลายรายการแนะนำเที่ยว มีโอกาสได้มาดูด้วยตาตัวเองสักที
เมื่อกลับมาบ้านก็ค้นประวัติอ่าน ทั้งปาฎิหารย์ที่อ่านจากหนังสือที่ซื้อมา
โอโห..ไม่ธรรมดา


บริเวณที่จอดรถเต็มไปด้วยสินค้าให้ซื้อหา ของที่ระลึกพื้นบ้าน
โดยเฉพาะหมวก ผ้าพันคอ ราคาไม่แพง ร่ม สำหรับใช้บังแดดเพราะจะต้องเดินตากแดดระยะหนึ่ง







องค์พระธาตุนาดูนสีขาวเด่นเป็นสง่าในระยะไกล








ประวัติพระธาตุนาดูน

เริ่มแรกชาวบ้านรวมทั้งผู้คนทั่วสารทิศ ขุดหาพระพิมพ์ในที่นาของนายทองดี ปะวะภูตา ได้หลายสิบกระสอบ พระพิมพ์บางองค์ยังมีจารึกเป็นภาษา ขอมโบราณและมอญโบราณ

เจ้าหน้าที่หน่วยศิลปากรที่ 7 ขอนแก่น ได้เข้ามาทำการขุดแต่งโบราณสถานตรงที่ขุดพบพระพิมพ์เพื่อรักษาสภาพสถูปองค์เดิมไว้แต่กระทำไม่สำเร็จเพราะฝูงชนจำนวนมหาศาล ได้เข้ามาแย่งชิงค้นหาพระพิมพ์ ต้องยุติการขุดแต่งและปล่อยให้ประชาชนขุดค้นหาต่อไป

จนกระทั่งวันที่ 8 มิถุนายน 2522 นายบุญจันทร์ เกศแสนศรี ได้ขุด(จากการฝัน)ค้นพบสถูปพระบรมสารีริกธาตุ และได้นำสถูปดังกล่าวมามอบให้กับอำเภอนาดูนเป็นโบราณวัตถุที่มีอายุมากว่า 1,300 ปี

เมื่อเจ้าหน้าที่หน่วยศิลปากรที่ 7 ขอนแก่น ได้ติดตามวัตถุในส่วนที่เกี่ยวข้องกัน คือสถูปสัมฤทธิ์ 3 ชั้น ซึ่งมีความสูงรวมจากฐานถึงยอด 24.4 เซนติเมตร ก็สามารถนำมารวมกัน ปรากฏว่า ต่อเข้ากันได้รูปทรง เหมาะสมกันดีมาก มีการพิสูจน์อีกครั้งว่าสถูปนี้ใช้สำหรับบรรจุสิ่งใด

ผลการตรวจพิสูจน์รายละเอียดวัตถุโบราณชิ้นนี้แล้ว ลงความเห็นว่าเป็นสถูปที่ใช้บรรจุพระสารีริกธาตุ มีสัณฐานดังเกล็ดแก้วประดิษฐ์สถานในผอบ 3 ชั้น ชั้นในเป็นทองคำ ชั้นกลาวงเป็นเงิน ชั้นนอกเป็นสำริด ภายในสถูปมีพระบรมสารีริกธาตุประดิษฐานอยู่องค์หนึ่ง มีลักษณะเป็นสีขาวขุ่น ขนาดเท่าปลายเม็ดข้าวสารหัก หล่อเลี้ยงไว้ด้วย น้ำมันจันทน์ เมื่อเปิดออกจะได้กลิ่นหอมอบอวล ซึ่งเป็นที่อัศจรรย์ใจแก่ผู้ที่ได้พบเห็นยิ่งนัก

อุบัติการณ์ของพระบรมสารีริกธาตุครั้งนี้นับเป็นนิมิตหมายอันดี แก่ชาวจังหวัดมหาสารคามอย่างยิ่ง สมควรสร้างพระสถูปเจดีย์ประดิษฐาน ไว้ให้ถาวรมั่นคงและต่อมาในปี พ.ศ.2525 – 2529 จึงมีการสร้างพระสถูปเจดีย์จำลอง

เจดีย์พระธาตุนาดูน มีลักษณะประยุกต์จากสถูปจำลองที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ แบบทวารวดีออกแบบและดำเนินการสร้างโดยกรมศิลปากร


อำเภอนาดูน คือ นครจำปาศรี
ภายในตัวเมือง นครจำปาศรี ได้มีการขุดพบโบราณวัตถุโดยกรมศิลปากรที่ 7 จังหวัดขอนแก่น ในปี พ.ศ. 2522
ยุคทวารวดี ซึ่งมีความเจริญรุ่งเรืองมาก่อนยุคขอมจะเรืองอำนาจเสียอีก

วัฒนธรรม “ทวาราวดี” ที่มีรากฐานมาจากพุทธศาสนาจาก อินเดีย ได้ส่งอิทธิพลเข้ามาสู่ภาคอีสานโดยได้เข้ามาทาง ลุ่มแม่น้ำมูล และ แม่น้ำชี ในพื้นที่ภาคอีสานตอนล่างอย่างแพร่หลาย จังหวัดมหาสารคามได้พบร่อง รอยหลักฐานของ วัฒนธรรมทวาราวดี สมัยประวัติศาสตร์ระยะแรกเริ่มกระจายอยู่ตาม บริเวณชุมชนสังคมเกษตรกรรมดั้งเดิมหลายแห่งด้วยกัน เช่น อำเภอกันทรวิชัย และ อำเภอนาดูน

อาณาจักร จำปาศรี นครโบราณของบริเวณนี้ซึ่งอยู่ในสมัยทวารวดี อายุประมาณพุทธศตวรรษที่ 13-16 ประกอบด้วย วัด สวนรุกขชาติ สวนสมุนไพร ศาลาพัก แหล่งน้ำ และถนน กำหนดพื้นที่ก่อสร้าง ณ โคกดงเค็ง มีปริมณฑล 902 ไร่เศษ

ที่มาของข้อมูล

//www.rd.go.th/mahasarakham/59.0.html

//www.udon108.com/board/index.php?topic=2050.0




สวนบริเวณใกล้พระธาตุ





ก่อนอื่นต้องทำบุญ ซื้อดอกไม้ ธูป เทียน
อาจเพิ่มทำบุญวันเกิดด้วยก็ได้





ทำบุญไฮเทค ตักบาตรปัจจวคีทั้ง 5
หุ่นยนต์พระหมุน ๆ เปิดฝาบาตรรับตังค์อัตโนมัติ





เมื่อเดินพ้นส่วนของการศาลาทำบุญ ทั้งสั่นเซียมซี บูชาพระเครื่อง





ก็เดินเวียนรอบพระธาตุ 3 รอบ
พระธาตุแดดจ้ามาก เมื่อมาถึงก็รู้สึกอิ่มเอมใจถึงแม้จะแดดแรงก็ตาม





แดดจัด แต่ก็ไม่ร้อน
คงเพราะรอบบริเวณเต็มไปด้วยป่าต้นไม้ใหญ่





เมื่อวน 3 รอบเสร็จ
ก็เตรียมกราบไหว้ปักธูปเทียน
ทิศนี้ไม่มีคนเพราะแดด





ทิศนี้คนเพียบเพราะร่ม








หลังจากนั้นใครจะไปเดินเที่ยวรอบบริเวณ
จะตีฆ้องที่คนเอามาแก้บน





ไม่รู้ใครเป็นคนเริ่มใช้ฆ้องระฆังมาแก้บนพระธาตุ เวลาบนสิ่งที่ประสงค์แล้วได้สมปราถนา





บริเวณใกล้ ๆ มีที่ให้พักผ่อนหลายแห่ง
มีสวนล้อมรอบไปหมด






สวนร่มรื่นน่านั่งคอย





มุมนั่งในร่ม เสียดายพวกเราได้แค่ขับรถวนดูป่าที่เนื้อที่เป็นร้อย ๆ ไร่
ไม่ได้เดินแวะบ้านที่เขาสร้างเป็นบ้านไทยสมัยก่อน ก็คล้าย ๆ บ้านชาวบ้านตามชนบท






ช่วงเทศกาลงานเฉลิมฉลองคนจะเยอะมากจนแทบไม่มีที่เดิน
มีเพลงที่แต่งเนื้อหาเกี่ยวกับงานบุญพระธาตุนาดูน

น้ำตาหยาดข้างพระธาตุนาดูน
จินตหรา พูนลาภ




จ.มหาสารคามพวกเราไม่ได้เที่ยวแค่นี้แต่ได้ไปอีก 3 แห่ง
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=imaginer&month=10-2009&date=08&group=4&gblog=114