bloggang.com mainmenu search
เชฟโรเลต ปรับแต่งคอร์เวทท์ รุ่นปี 2012 เพิ่มสมรรถนะการขับขี่ให้ทะลุขีดจำกัดในแบบรถแข่ง และให้ความสบายในการใช้ในชีวิตประจำวันมากกว่าเดิม โดยเฉพาะในรุ่น Z06 และรุ่นท็อปไลน์รหัส ZR1 รวมถึงทุกรุ่นย่อยในไลน์คอร์เวทท์ ซึ่งรุ่นพิเศษนี้ ออกโชว์โฉมในงานเนชั่นแนล คอร์เวทท์ มิวเซียม พร้อมกับคอร์เวทท์ รุ่นเซนเทนเนียล เอดิชั่น (Centennial Edition) หรือรุ่นฉลองครบรอบ 100 ปีเชฟโรเลต ที่เมืองโบว์ลิ่ง กรีน รัฐเคนตักกี้ สหรัฐอเมริกา และพร้อมขึ้นสายการผลิตในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้

“เรามุ่งมั่นยกระดับคอร์เวทท์ ให้มีสมรรถนะที่ดียิ่งขึ้น ทั้งบนถนน และในสนามแข่ง” แทดจ์ จูเอชเตอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายสายผลิตภัณฑ์คอร์เวทท์ และหัวหน้าทีมวิศวกรรมกล่าวและว่า

“สมรรถนะของคอร์เวทท์ 2012 จะพุ่งสู่ระดับสูงสุดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ในขณะเดียวกันก็จะเป็นรถที่ขับขี่ได้อย่างเพลิดเพลิน ซึ่งก็ต้องยกความดีให้กับการเปลี่ยนแปลงหลายจุดที่เกิดขึ้นกับรถรุ่นพิเศษ นี้”

สิ่งแรกที่เชฟโรเลต ปรับเปลี่ยนเพื่อเพิ่มสมรรถนะให้คอร์เวทท์ 2012 คือ การใช้ยางมิชลิน ไพล็อต สปอร์ต คัพ ซีโร เพรสเชอร์ ยางที่ออกแบบเพื่อเน้นความสามารถในการแข่งขันโดยเฉพาะ สามารถรองรับ การใช้งานบนถนนแห้ง และร้อนในระดับเดียวกับรถแข่ง เพิ่มการควบคุมขณะเข้าโค้งได้เป็นอย่างดี โดยเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในคอร์เวทท์ รุ่นน้ำหนักเบารหัส Z06 กำลังสูงสุด 505 แรงม้า และรุ่นสูงสุด ZR1 ที่มีพละกำลังมหาศาล 638 แรงม้า

สำหรับยางมิชลิน รุ่นคัพ ซีโร เพรสเชอร์ ในคอร์เวทท์ 2012 นี้ ได้รับการพัฒนาโดยทีมวิศวกรที่คิดค้นยางเกรดพิเศษที่ใช้ในรถแข่งคอร์เวทท์ ในรายการอเมริกัน เลอมังส์ ซีรีส์ แต่ต่างกันที่มิชลิน คัพ แซดพี สามารถใช้บนถนนทั่วไปได้ โดยมีขนาด 285/30 ขอบล้อ 19 นิ้วที่ด้านหน้า และ 335/25 ขอบล้อ 20 นิ้วที่ด้านหลัง คู่กับล้ออลูมิเนียมสีดำ หรือสีเงินบรอนซ์ ที่มีน้ำหนักเบาลงกว่าเดิมราว 2.2 กิโลกรัม แต่แข็งแรงยิ่งขึ้น เมื่อเทียบกับล้อ 20 ก้านแบบเดิมของคอร์เวทท์ รุ่นปี 2011

ด้านนวัตกรรมได้เพิ่มเสถียรภาพการควบคุมรถให้ดียิ่งขึ้น กับเทคโนโลยีควบคุมสมรรถนะการขับขี่ PTM (Performance Traction Management) เอกสิทธิ์เฉพาะของคอร์เวทท์ ซึ่งจะควบคุมแรงบิดเพื่อรีดพละกำลังออกมาสูงสุด เมื่อบวกกับสมรรถนะของยางรุ่นดังกล่าว ทำให้คอร์เวทท์รุ่นนี้จะมีสมรรถนะการขับขี่ที่เยี่ยม

ทีมวิศวกรของเชฟโรเลต คาดว่า คอร์เวทท์ 2012 จะมีกำลังอัตราเร่งสูงสุดเพิ่มขึ้นราว 8 เปอร์เซ็นต์ โดยมีแรงดึงมากถึง 1.1 จี พร้อมกับลดระยะเบรกลงได้อีกด้วย หลังจากผ่านการทดสอบบนสนามแข่งเวอร์จิเนีย อินเตอร์เนชั่นแนล เรซเวย์ ซึ่งคอร์เวทท์ รุ่นพิเศษนี้ สามารถลดเวลาต่อรอบได้ถึง 3 วินาที

ระบบ PTM (ติดตั้งใน Z06 เป็นครั้งแรกในรุ่นปี 2012) จะช่วยจัดเสถียรภาพการควบคุมของรถให้มั่นคงยิ่งขึ้น เพิ่มสมรรถนะในระดับเดียวกับรถแข่ง เมื่อผู้ขับขี่เหยียบคันเร่งจนสุดขณะกำลังทะยานออกจากโค้ง โดยจะทำงานร่วมกับระบบการควบคุมการลื่นไถล (Traction Control) ระบบควบคุมการบังคับเลี้ยว (Active Handling) และระบบปรับช่วงล่างอัตโนมัติ (Selective Ride Control) ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีระบบกันสะเทือนของรถที่ตอบสนองได้เร็วที่สุดในโลกในปัจจุบัน และเป็นนวัตกรรมที่ริเริ่มโดยคอร์เวทท์เมื่อหลายปีก่อน ที่จะช่วยควบคุมอัตราเร่งและตัวรถให้สมดุลกันเป็นอย่างดี

ในส่วนด้านท้ายรถติดตั้งสปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่ เพิ่มแรงกดท้ายตามหลักอากาศพลศาสตร์ สำหรับเบรกคาร์บอนเซรามิกของเบรมโบ จะถูกติดตั้งอยู่ในรุ่น Z07 (อุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น ZR1) ดังเช่นที่ผ่านมา ขณะที่ยางมิชลิน ไพล็อต สปอร์ต 2 เส้นยังคงเป็นอุปกรณ์ติดตั้งมาตรฐานในรุ่น ZR1

ฝากระโปรงหน้าแบบคาร์บอนไฟ เบอร์ จะเป็นอุปกรณ์พิเศษสำหรับคอร์เวทท์ Z06 ปี 2012 ขณะที่คอร์เวทท์ ZR1 รุ่นเกียร์ธรรมดา จะมาพร้อมกับอัตราทดเกียร์ที่ 5 และ 6 ชุดใหม่ เพื่อเพิ่มอัตราความประหยัดเชื้อเพลิงให้ดียิ่งขึ้น

เชฟโรเลต คอร์เวทท์ 2012 ทุกรุ่นจะมาพร้อมกับพวงมาลัย และเบาะที่นั่งดีไซน์ใหม่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นทั้งพนักพิง และบริเวณที่นั่ง เพิ่มความกระชับรองรับการขับขี่ด้วยความเร็วสูง ใน ขณะเดียวกันก็ให้ความสบายขณะขับขี่ในชีวิตประจำวัน โดยมีวัสดุหนังกลับไมโครไฟเบอร์ ที่จะให้ความรู้สึกหรูหราในทุกสัมผัส และรองรับการใช้งานได้อีกระดับ เป็นอุปกรณ์พิเศษให้เลือก

ขณะที่พวงมาลัยของคอร์เวทท์ 2012 จะประทับตราตรงกลางวงตามรุ่นย่อยของคอร์เวทท์แต่ละรุ่น พร้อมกับสวิทช์มัลติฟังก์ชั่น และก้านพวงมาลัยรูปทรงใหม่ ขณะที่บริเวณคอนโซลกลาง และที่พักแขน ตกแต่งด้วยหนังแท้ในทุกรุ่น ทั่วทั้งห้องโดยสารตัดกับสีสันของด้ายที่แตกต่างกัน ทั้งสีแดง น้ำเงิน และเหลืองให้เลือกตามความต้องการ

สำหรับความบันเทิงภายในห้องโดยสารจะติดตั้งระบบเครื่องเสียงของโบส ที่มีลำโพง 9 ตัว (มากกว่ารุ่นปี 2011 ที่มี 7 ตัว) และได้รับการปรับแต่งให้มีคุณภาพเสียงดียิ่งขึ้น พร้อมกับลำโพงทวีตเตอร์ และเสียงเบส เทคโนโลยีล่าสุดของโบส ซึ่งจะทำให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารในคอร์เวทท์เพลิดเพลินตลอดการเดินทาง

นอกจากนี้ เจ้าของคอร์เวทท์สามารถเลือกได้ว่าต้องการคาลิปเปอร์เบรกสีใด เพื่อความแตกต่างตามแต่รสนิยมของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นสีแดง สีเหลือง สีเงิน หรือสีเทา

ปิดท้ายยังมีแพกเกจเทคโนโลยีแบบอินโฟเทนเมนท์ล่าสุด ทั้งวิทยุเนวิเกชั่น ดิสเพลย์บริเวณคอนโซลขนาดใหญ่ ระบบเครื่องเสียงชั้นยอด และระบบเชื่อมต่อไร้สายบลูทูธ ตลอดจนช่องเสียบยูเอสบีไว้เพื่อรอบรับการใช้งานหลากหลายอีกด้วย





Create Date :21 พฤษภาคม 2554 Last Update :21 พฤษภาคม 2554 9:45:23 น. Counter : Pageviews. Comments :0